LOGINตอนที่ 7
ล้ำเส้น
อาหารมื้อเย็นนี้ไม่อร่อยเลย เมื่อต้องนั่งกินโดยไม่มีกวินอยู่ด้วย ก้ามปูจึงกินไปแค่เพียงไม่กี่คำก่อนจะขอตัวพ่อและแม่สามีกลับขึ้นห้อง
หญิงสาวคิดว่าเธอคงต้องหาอะไรทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองว่างจนคิดฟุ้งซ่านแบบนี้ แต่จะไปทำงานพ่อสามีก็ไม่ยอม ก้ามปูจึงคิดจะขายเสื้อผ้าออนไลน์ สร้างรายได้และจะได้ไม่เหงา
เสียงรถของกวินขับเข้ามาในบ้าน ก้ามปูรีบขึ้นไปบนเตียงนอนและแกล้งหลับทันที เพื่อไม่ให้เขารู้ว่าเธอนั่งรอนอนรอเขาอยู่
เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ก็ยังไม่มีวี่แววของกวินว่าจะเปิดประตูห้องเข้ามา หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินลงไปดู และพบว่าสามีของเธอยังนั่งกดโทรศัพท์อยู่
“เอ้า! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
ก้ามปูแกล้งเหมือนเธอเดินลงไปข้างล่างและบังเอิญเจอสามีอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“เพิ่งมาถึงเอง นึกว่าหลับไปแล้วเสียอีก แล้วลงมาทำไมดึกแล้ว”
กวินรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าทันที ก่อนจะเดินมาโอบเอวภรรยา
“ว่าจะลงมามาหาอะไรเย็นๆกินค่ะ รู้สึกหิวขึ้นมา”
“อ้วนนะ กินตอนดึก”
“พี่กวินไม่ชอบผู้หยิงอ้วนเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก้ามปูว่าพี่ต้องหาภรรยาใหม่แล้วแหละ หรือว่ามีสำรองไว้แล้ว”
ถึงแม้น้ำเสียงและสีหน้าของหญิงสาวจะดูเหมือนแค่เพียงพูดเล่น แต่สีหน้าคนฟังถอดสีทันที
“พูดไปเรื่อย ทำเหมือนพี่เป็นคนเจ้าชู้ไปได้”
กวินทำท่าน้อยใจกลบเกลื่อน หญิงสาวเห็นแล้วยิ่งรู้สึกอยากจะกระฉากคอเสื้อและถามตรง ๆแต่ก็ได้แต่คิดเพราะเธอต้องทำให้ได้อย่างที่เพื่อนแนะนำ
“เดี๋ยวก้ามปูหาอะไรกินแล้วตามขึ้นไป พี่กวินขึ้นไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ภรรยา ก่อนเดินขึ้นไปบนห้อง ก้ามปูเองก็ทำท่าเหมือนจะเดินเข้าไปในห้องครัว แต่จริงๆแล้วเธอแอบเดินตามสามีขึ้นไป รอจนกว่าได้ยินกวินเปิดประตูห้องน้ำ เธอถึงเข้าไปในห้องและพยายามมองหาโทรศัพท์
โชคเข้าข้างหญิงสาว ทันทีที่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็มีไลน์ที่เธอจำได้ดีว่าผู้หญิงในรูปคือขวัญวิภา พนักงานที่เธอเจอที่บริษัท
‘ขวัญนอนก่อนนะคะ ขอบคุณกวินมากสำหรับอาหารมื้อค่ำ และขอบคุณที่ช่วยพาลูกไปหาหมอ นอนหลับฝันดีนะคะ’
หญิงสาวไม่ได้กดอ่านแต่เธอเห็ทุกคำเพราะมันเด้งขึ้นมาต่อหน้าเธอ ก้ามปูรู้ว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตอนนี้ได้ เธอจึงตัดสินใจลงไปนั่งข้างล่างเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ปกติเสียก่อน
ก้ามปูนั่งคิดถึงข้อความที่เธอเพิ่งได้อ่านซ้ำไปซ้ำมา ที่แท้เขาก็ไปกินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นมาและทิ้งให้เธอต้องกินข้าวโดยไม่มีเขา และลูกที่ขวัญวิภาพิมพ์มาหมายถึงลูกใครหรือคือลูกของกวิน ก้ามปูรู้สึกอยากกรี๊ดให้ลั่นบ้านแต่มันจะทำให้สามีของเธอรู้ตัวว่าเธอมีข้อมูลและเขาจะต้องไม่ยอมรับแน่ๆ
ก้ามปูเคยจำได้ว่าพ่อของเธอเคยสอนว่าเวลาโมโหหรือโกรธใคร ให้หายใจช้าๆหลับตาลง ห้ามพูดเวลาที่โกรธเพราะเราจะไม่มีสติและคำพูดของเรามันเอากลับคืนไม่ได้ หญิงสาวจึงนั่งหลับตาหลังพิงโซฟาและพยายามหายใจช้าๆ และมันก็ช่วยได้จริงๆ เมื่อรู้สึกดีขึ้นเธอจึงกลับขึ้นไปบนห้องนอน
“ลงไปนานจัง แล้วกินอะไรมา อิ่มหรือเปล่า”
กวินยังอยู่ในชุดนุ่งเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว กำลังยืนเป่าผมอยู่
“ไม่ได้กินค่ะ คิดขึ้นได้ว่ากลัวอ้วน เลยลงไปนั่งเล่นเฉยๆ”
“ประชดพี่ใช่ไหมนี่ พี่ก็พูดเล่น ไปถ้าอย่างนั้นลงไปหาอะไรกินกัน”
“พี่กวินยังไม่ได้กินอะไรมาเหรอคะ ก้ามปูคิดว่าพี่น่าจะอิ่มมาจากข้างนอกแล้ว”
หญิงสาวอยากจะตบปากตัวเองจัง ที่เผลอตัวพูดออกไป ทั้งที่อุส่าตั้งสติมาแล้วเชียว
“เปลี่ยนใจแล้วไม่กินข้างล่างดีกว่ากินเมียจอมขี้งอนบนเตียงดีกว่า”
ยังไม่ทันจะได้ปิดไฟ ก้ามปูก็ถูกร่างหนาที่ดึงผ้าขนหนูที่ปกปิดร่างกายอยู่แค่เพียงชิ้นเดียวออกจากตัว เวลาปิดไฟเธอก็อายจะแย่แล้วนี่เขาทำทั้งที่ไปยังเปิดสว่างอยู่ทุกดวง หญิงสาวจึงได้แต่หลับตาไม่ยอมลืมจนพายุสวาทแห่งการง้อภรรยาจบลง
“หายงอนพี่หรือยังครับภรรยาสุดน่ารักของพี่”
กวินจูบลงบนหน้าผากโหนกนูนของหญิงสาวที่ตอนนี้กล้าลืมตาแล้ว เพราะมีผ้าห่มปกปิดร่างเปลือยเปล่าของเธอไว้
“ก้ามปูไม่ได้งอน พี่กวินอย่าคิดมากสิคะ คนเราเป็นสามีภรรยากันก็ต้องเชื่อใจ ไว้ใจและให้เกียรติกัน แต่ถ้าวันใดเรารู้ตัวว่าเราไม่สามารถทำได้ เราก็ควรจะเลิกกันไม่ใช่โกหกกัน ใช่ไหมคะพี่กวิน”
ชายหนุ่มถึงกับพูดอะไรไม่ออก เขามองหน้าภรรยาอย่างไม่ละสายตา เหมือนกำลังคิดว่าเขาควรจะพูดอย่างไรดี
“พี่ไม่รู้นะว่าก้ามปูกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ขอให้คิดถึงคำพูดที่พี่เคยขอไว้ ภรรยาของพี่จงหนักแน่น”
“ค่ะก้ามปูไม่เคยลืม และตอนนี้ก็กำลังหนักแน่นอยู่ พี่กวินสบายใจได้”
การรักใครสักคนมันไม่ได้มีแค่ความสุขอย่างเดียว ตอนนี้ก้ามปูรู้แล้วว่าที่เธอเคยได้ยินตนอื่นพูดกันว่าที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์มันเป็นแบบนี้นี่เอง
คืนนี้กวินนอนกอดภรรยาเหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมา แต่ทั้งสองคนต่างรู้ว่ายังไม่มีใครที่ข่มตาลง แต่ต่างคนต่างก็ได้แต่มีเหตุผลที่ต่างกันอยู่ในใจ
“พี่กวินยังไม่หลับใช่ไหมคะ” ก้ามปูนึกขึ้นมทาได้ว่าเธอมีเรื่องจะบอกเขา
“ยัง มีอะไรหรือ”
“พรุ่งนี้ก้ามปูจะไปหาซื้อของมาขายออนไลน์ ไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ มันเบื่อ มันเหงา”
“พรุ่งนี้พี่มีประชุม ไว้วันหลังได้ไหม”
“ก้ามปูแค่บอกให้พี่รู้ ไม่ได้หมายความว่าให้พี่พาไป นอนเถอะค่ะ เรื่องที่จะบอกมีแค่นี้แหละ”
หญิงสาวนอนสวดมนต์ตามที่ชลธีพ่อของเธอสอนไว้เวลานอนไม่หลับ และวันนี้เธอก็คิดเรื่องของกวินมาทั้งวันแล้ว หญิงสาวเบื่อที่จะต้องมาคิดซ้ำไปซ้ำมา จึงพยายามตัดมันออกจากใจ จนในที่สุดเธอก็หลับได้อย่างสลายใจ ต่างจากคนที่นอนอยู่ข้างๆ ที่กำลังสับสนว่าภรรยาของเขาเป็นอะไรหรือรู้อะไรมากันแน่ แต่ตัวเองก็มีสิ่งที่ปิดบังอยู่จริงๆจึงไม่กล้าที่จะถามหญิงสาวตรง ๆ ให้รู้เรื่องกันไป
ตอนที่2งานวิวาห์ของคุณหนู งานแต่งานถูกจัดขึ้นหลังจากที่หนูนายอมตกลงไม่ถึงเดือน เพราะทางภูษิตยินยอมพร้อมใจตั้งแต่แรก เพราะแอบชอบหนูนามาตั้งนาน โดยที่ตัวหญิงสาวไม่เคยรู้เลย กนกวรรณไม่คิดว่าข่าวการแต่งงานของลูกสาวเธอจะโด่งดังไปทั่วภาคเหนือ บรรดาเชื้อเจ้าเก่า พ่อเลี้ยงจากจังหวัดต่าง นักการเมืองท้องถิ่นต่างก็ถูกพ่อเลี้ยงเชิญมาร่วมงาน กนกวรรณอดคิดไม่ได้ ว่านี่คือการประกาศตัวว่าพ่อเลี้ยงชนินทร์กำลังมีใบเบิกทางในวงราชการ “ตื่นเต้นเหรอ” เจ้าบ่าวที่สาวๆทั้งจังหวัดต่างหมายปอง ถามเจ้าสาวเพราะสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของหนูนาเมื่อเขาจับมือเธออยู่กลางเวที “พี่ภูคะ หนูนาตาลายไปหมดเลย” ปกติก็ไม่ใช
ตอนที่5มาทีหลังแต่ถูกต้อง “ได้กี่หน้าแล้ว พี่เห็นเราทำงานเลยยังไม่อยากขึ้นมากวน” ภูษิตคิดแบบที่พูดด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง เขายังไม่กล้าเจอหน้าภรรยาเพราะรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไปแอบคุยโทรศัพท์กับคนรักเก่า “ได้นิดหน่อยค่ะ ยังไม่ค่อยมีสมาธิ” พูดจบหนูนาก็ลุกจากโต๊ะทำงานลงมานอนบนเตียง พร้องกับทำท่ากระดิกนิ้วให้อีกฝ่ายตามมานอนข้าง ๆ เธอ ถึงแม้จะรู้สึกงง ๆ แต่ก็ภูษิตก็ยอมทำตาม เพราะใจจริงก็อยากนอนกอดภรรยาให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอยู่แล้ว “หนูนาแค่เรียกมานอนเฉยๆ แต่มาถึงมานอนกอดได้อย่างไรกันคะ” ยิ่งคนตัวเล็กในอ้อม
ตอนที่1คุณหนูจะแต่งงาน “ป้าศรีฉันล่ะเหนื่อยกับการสอนหนูนาจัง ยังเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ แล้วเมื่อไหร่จะโตกับเขาเสียที” กนกวรรณระอากับกนิษฐาลูกสาวคนเล็กของเธอเหลือเกินที่วันๆเอาแต่นั่งเขียนนิยายและวิ่งเล่นเหมือนเด็กๆทั้งที่อายุก็ยี่สิบสามแล้ว “คุณหนูเธอก็ยังไม่โตนะคะ ป้ามองดูกี่ทีก็ยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ ตัวเล็กๆ ที่ชอบวิ่งตามคุณท่านไปทำงานตลอด” ป้าศรีเป็นคนเก่าแก่ของบ้าน ตั้งแต่สมัยมารดาของกนกวรรณอีกทีและยังเป็นคนเลี้ยงหนูนามาตั้งแต่เกิดอีกด้วย“ก็เข้าข้างกันแบบนี้ ถึงได้ไม่ยอมฟังฉันเลย” กนกวรรณไม่เคยเถียงสองคนนี้ชนะ เพราะป้าศรีกับหนูนาจะอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอด “คุณท่านคะแล้วเรื่องที่พ่อเลี้ยงชนินทร์อยากจะให้ลูกชายของ
ตอนที่3เพื่อนหญิงคนสนิท วันนี้ภูชิตตั้งใจจะพาหนูนากลับบ้านไปหาแม่ของเธอ เพื่อค่อยๆให้เธอหายคิดถึง เพราะชายหนุ่มเข้าใจดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอ่อนไหว “แม่ฝากขนมไปให้กนกวรรณด้วยนะ เมื่อเช้าแม่ไปตลาดมาเจอขนมโบราณหลายอย่าง” ภาวิณีมารดาของภูชิตเธอเป็นแม่บ้านตัวจริง ที่ชีวิตมีแต่งานบ้านดูแลลูกและสามี ส่วนเรื่องนอกบ้านต่าง ๆพ่อเลี้ยงชนินทร์ไม่เคยให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย “ขอบคุณนะคะ” ลูกสะใภ้ยกมือไว้อย่างนอบน้อม “คุณแม่ครับน้องล่ะ” ภูชิตถามหาสมิตา เพราะตั้งแต่ตื่นเช้ามายังไม่เห็นน้องสาวเลย “น้องกลับไปมหาวิทยา
ตอนที่6คนที่ถูกต้อง “ภู ในที่สุดคุณก็มาเยี่ยมเมย์” หญิงสาวหน้าตาสวยในชุดคนป่วย รีบลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งเมื่อเห็นอดีตคนรักมาเยี่ยม “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะหนูเมย์” ยังไม่ทันที่ภูษิตจะได้ตอบอะไร ภาวิณีก็ทำหน้าที่แม่สามีที่ดี ส่งเสียงตามมา “สวัสดีค่ะคุณแม่ เมย์คิดว่าภูมาคนเดียว” คนป่วยชักสีหน้าไม่พอใจ “เข้ามาเลยหนูนา” ภาวิณีหันไปข้างหลังและกวักมือเรียกลูกสะใภ้ที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ “มากันหมดเลยทั้งแม่และเมียตาภู ตอนงานแต่งงานหนูเมย์ไม
ตอนที่4เมื่อคนเก่าอยากมีบทบาท “ขนของอะไรเยอะเลย” ภาวิณีรีบเดินออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถ “หนังสือนิยายของหนูนาเองค่ะ” ลูกสะใภ้ส่งยิ้มหวานให้แม่สามี เพราะเธอคิดว่า ภาวิณีคงรู้สึกขำที่เธอขนนิยายมาเสียหลายลัง “เป็นนักเขียนก็ต้องชอบอ่านก่อนใช่ไหม ไว้วันหลังแม่จะขออ่านผลงานของหนูนาบ้างนะลูก” บ้านของครอบครัวพ่อเลี้ยงชนินทร์ วันทั้งวันแทบจะดูเงียบเหงา หนูนาแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงกลางวันคงมีแค่ภาวิณีกับแม่บ้านเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน&nb







