คฤหาสน์ภัทรจุฑาธานันท์...
“ก็ลูกสาวของเธอสิ มาบอกฉันว่าคุยกับเธอเรียบร้อยแล้ว บอกว่าเธอไม่สบายเลยไม่ได้มาคุยกับฉันด้วยตัวเอง แล้วเธอเป็นยังไงบ้างล่ะวรรณา ดีขึ้นแล้วหรือยัง”
“กานดามันโกหกคุณท่านน่ะสิเจ้าคะ ตอนนี้เงินที่คุณท่านให้มันไป มันให้ไอ้ก้องผัวใหม่ของมันหมดเลยเจ้าค่ะ อิฉันเครียดมากไม่รู้จะทำยังไงเจ้าค่ะคุณท่าน จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้กันอีกล่ะทีนี้”
“อืม...ฉันเองก็ไม่รู้หรอก เห็นบอกว่าคุยกับเธอแล้ว นี่ฉันเห็นแก่เธอหรอกนะวรรณา ฉันเลยให้ไป”
“ทั้งหนี้เก่า หนี้ใหม่อิฉันกับหลานคงไม่มีปัญญาใช้หมดแน่เจ้าค่ะคุณท่าน”
วรรณาเจ็บช้ำใจอย่างที่สุด ลูกสาวของเธอ นอกจากจะไม่ช่วยแบ่งเบาภาระของเธอแล้ว ยังสร้างปัญหาให้เธอมากมายไม่จบไม่สิ้นสักที สงสารก็แต่หลานของเธอเท่านั้น ถ้าไม่มีทิชา วรรณาก็คงไม่ทุกข์ใจขนาดนี้
“ฉันเองก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรหรอกนะ เธอเองก็ไม่ต้องเครียดหรอกวรรณา เดี๋ยวจะล้มป่วยเอา ทำยังไงได้ล่ะ ลูกสาวเธอนี่มันก็จริงๆ เลยนะ พูดซะดิบดีว่าจะเอาไปลงทุน จะรีบเอาเงินมาคืน”
“มันจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาคืนเจ้าคะคุณท่าน งานการมันก็ไม่ทำ ให้ไปทำงานที่ไหนมันก็ไปไม่รอด เล่นพนัน ติดผู้ชายอีก”
“แล้วยัยทิชารู้เรื่องนี้ยังล่ะ”
เจิมจันทร์รู้จักเด็กสาวคนนี้ตั้งแต่เล็กจนโต เธอเคยเห็นสามีของกานดาอยู่สองสามครั้ง เป็นคนต่างชาติหน้าตาหล่อเหลาเอาการ ทำให้ลูกสาวของกานดามีหน้าตาออกลูกครึ่งน่ารักน่าชัง พอโตขึ้น เป็นสาวก็ยิ่งสวยน่ารักเข้าไปอีกแบบ เค้าโครงไปทางพ่อไม่มีผิด
“รู้แล้วเจ้าค่ะ ทิชาก็เครียดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กานดามันไม่เคยคิดสงสารลูกบ้างเลย ไม่รู้ว่ามันไปเอานิสัยเห็นแก่ตัวแบบนี้มาจากใคร อิฉันจะทำอย่างไรดีเจ้าคะคุณท่าน ตอนนี้อิฉันเครียดจนนอนไม่ได้เลยเจ้าค่ะ”
“ยัยทิชาอายุเท่าไหร่แล้ว”
ความคิดบางอย่างที่มีอยู่ก่อนแล้วเริ่มทำงานในทันที ตอนนี้เจิมจันทร์แค่รอเวลาให้หลานชายสุดที่รักของเธอกลับมาเท่านั้น แล้วเรื่องที่เธอเคยวาดฝันไว้ ก็จะเป็นจริงในไม่ช้า
“สิบเก้าเจ้าค่ะคุณท่าน”
“ตายจริง...อายุสิบเก้าแล้วหรือเนี่ย...ห่างจากแม่ของเขากี่ปีกันนะวรรณา”
“กานดามีลูกตอนอายุสิบเจ็ดเจ้าค่ะคุณท่าน เรียนหนังสือยังไม่จบด้วยซ้ำ”
“แล้วพ่อของหลานเธอ ติดต่อมาบ้างมั้ยล่ะ”
“ไม่เจ้าค่ะ ใครมันจะไปทนกานดาได้ มันนิสัยไม่ดี ผัวทิ้งมันไปก็สมควรแล้วเจ้าค่ะคุณท่าน”
“อืม...เธอไม่ต้องเครียดหรอกนะวรรณา ฉันมีทางออกเรื่องหนี้สินนี้ให้กับเธอนะ”
“มียังไงหรือเจ้าคะคุณท่าน ถ้าเรื่องทำงาน อิฉันกับหลานก็ทำอยู่แล้วนะเจ้าคะ จะให้ทำงานเพิ่ม ร่างกายของอิฉันคงไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”
“ฉันไม่ได้ให้ทำงานเพิ่ม...เพียงแต่ว่า...เธอก็อย่าพึ่งตกใจล่ะ”
เจิมจันทร์รู้ว่า เรื่องที่เธอจะพูดต่อไปนี้ วรรณาอาจจะโกรธและไม่พอใจเธออย่างแน่นอน วรรณารักหลานสาวคนนี้มาก ซึ่งก็เหมือนกับเธอที่รักและตามใจหลานของตัวเองเช่นกัน
“เรื่องอะไรหรือเจ้าคะคุณท่าน”
“คือว่า...ฉันก็มีเรื่องไม่สบายใจเหมือนกับเธอแหละนะ แต่ว่าเรื่องของฉันมันไม่ได้เกี่ยวเรื่องเงินเหมือนเธอหรอก...ฉันอยากให้หลานชายของฉัน คนใดคนหนึ่งก็ได้ มีทายาทสืบสกุล ซึ่งถ้าเป็นตาเทวา ก็เห็นจะไม่ได้เรื่องหรอก เธอก็คงรู้นะ ว่าตาเทวาเป็นยังไง จะเหลือก็แต่ตาแทนคุณเท่านั้น ที่จะช่วยให้ฉันได้ทายาทเพื่อสืบสกุลภัทรจุฑาธานันท์”
“คุณท่านหมายความว่ายังไงเจ้าคะ”
“ก็หมายความว่า ฉันอยากจะขอหลานของเธอมาอุ้มท้องทายาทของตาแทนเพื่อสืบสกุลของฉันไง”
“อะไรนะเจ้าคะ...ให้ทิชาตั้งท้องงั้นเหรอเจ้าคะ”
“อย่าพึ่งโกรธฉันนะวรรณา เธอใจเย็นๆ ก่อน”
เจิมจันทร์เริ่มเห็นเปลวเพลิงลุกวาวในแววตาของอีกฝ่าย เธอรู้ว่าเป็นใครก็โกรธกันทั้งนั้นที่เจอเรื่องแบบนี้
“ฉันจะยกหนี้สินทั้งหมดให้กับเธอ และยังให้เงินเธอและหลานอีกก้อนหนึ่ง เพื่อแลกกับการที่หลานของเธอตั้งท้องกับตาแทนคุณหลานของฉัน”
“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะคุณท่าน”
วรรณาปฏิเสธทันควัน เธอจะให้หลานของเธอทำแบบนั้นได้ยังกันเล่า ทิชายังต้องมีอนาคตที่สดใสกว่านี้นะ หลานเธอยังเด็กนัก ไม่มีวันที่วรรณาจะให้หลานเธอทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน...
“ฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว ว่าเธอจะต้องไม่ยอมฉันแน่นอน ฉันรู้จักเธอดี แต่ว่าฉันเองก็อยากจะคุยกับหลานของเธอเป็นการส่วนตัวนะ ให้ฉันได้คุยกับหลานเธอก่อนได้มั้ยวรรณา”
“ถึงคุยยังไง อิฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาดเจ้าค่ะคุณท่าน ทิชายังเรียนหนังสืออยู่นะเจ้าคะ”
“ฉันไม่ได้บังคับหลานเธอหรอกนะวรรณา ฉันแค่อยากจะคุยกับหลานของเธอก็เท่านั้นเอง บางทีเธอเองก็ไม่ต้องไปตัดสินใจให้หลานเธอทุกเรื่องหรอก ทิชาอาจจะมีความคิดเป็นของตัวเองก็ได้ ตอนนี้ฉันขอให้เธอใจเย็นก่อน คิดให้ดี หนี้สินก็หมดไปแถมยังได้เงินอีกก้อนให้เธอและหลานไปตั้งตัวได้เลยนะ”
“นี่ใช่มั้ยเจ้าคะ สาเหตุที่คุณท่านปล่อยเงินกู้ให้กานดามันง่ายดายขนาดนี้ หนี้สินเยอะ ก็เข้าทางคุณท่านเลยสิเจ้าคะ”
“อะไรของเธอวรรณา...ฉันก็พยายามบอกให้เธอใจเย็นก่อน ฉันก็ยอมรับนะ ว่าเรื่องที่ฉันทำน่ะ มันดูไม่ดี แต่เธอเข้าใจฉันบ้างสิ ฉันทุกข์ใจไปไม่น้อยกว่าเธอเลยนะที่ต้องทำแบบนี้ ก่อนที่คุณพี่จะเสีย คุณพี่ฝากฝังฉันไว้เรื่องสืบทอดสกุลภัทรจุฑาธานันท์ ฉันเองก็ไม่คิดว่า วันนี้จะมาถึง วันที่ลูกชายมาจากฉันไป และฉันต้องมารับภาระนี้เอง”
“ถึงคุณท่านคุยกับทิชา...หลานของอิฉันก็ไม่มีวันยอมหรอกเจ้าค่ะคุณท่าน ทิชาเป็นเด็กค่อนข้างหัวแข็ง มีความคิดเป็นของตัวเอง ใครก็ชักจูงเด็กคนนี้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”
“เธอก็ลองให้ฉันได้คุยกับทิชาก่อนสิ จะตกลงไม่ตกลง นั่นมันก็แล้วแต่หลานเธอเลย ความจริงหลานเธอเองก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ใช่ผู้เยาว์ซะหน่อย อายุก็รุ่นเดียวกับยัยทอฝันหลานของฉันเหมือนกัน”
“ก็แล้วทำไม คุณท่านไม่ให้คุณหนูทอฝันล่ะเจ้าคะ”
“เธอก็เห็นนี่ ว่ายัยทอฝันทำตัวเป็นทอมบอยขนาดนั้น ฉันคงไม่กล้าที่จะบอกให้หลานฉันไปอุ้มท้องหรอก ไม่รู้ว่าทำไมหลานของฉันถึงได้เป็นแบบนี้ไปหมด เหลืออยู่ก็แค่ตาแทนคุณเท่านั้น”
“แล้วคุณท่านคิดว่า คุณหนูแทนคุณจะยอมหรือเจ้าคะ”
“ขอเพียงหลานของเธอตกลง ตาแทนคุณไม่มีปัญหาหรอก...ฉันมีวิธีที่จะทำให้หลานฉันยอมตกลงแน่นอน”
“งั้น...คุณท่านก็ลองคุยกับทิชาเองเถอะเจ้าค่ะ อิฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาเอาเงินจากไหนมาคืนคุณท่านแล้วเจ้าค่ะ จะหวังพึ่งกานดาตัวสร้างปัญหาก็เห็นจะไม่ได้เรื่องเจ้าค่ะ”
เพราะร่างกายของวรรณานั้นไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เธอเริ่มป่วย ความชราก็เริ่มคืบคลานเข้ามา สังขารของเธอก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว
“งั้นเย็นนี้ให้ทิชาเข้ามาหาฉันหน่อยก็แล้วกัน ฉันจะคุยกับหลานของเธอ ถ้ายัยทิชาไม่ตกลง ฉันเองก็จะไม่บังคับอะไรหรอกนะ ฉันก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น เธอไม่ต้องกังวลหรอกวรรณา ถ้าทิชาไม่ยอม หนี้สินของฉัน เธอกับหลานก็ใช้ฉันไปเรื่อยๆ ฉันไม่เร่งรีบอะไรหรอกนะ”
“เจ้าค่ะคุณท่าน” ความจริงวรรณาเองก็เห็นใจคุณหญิงท่านอยู่เหมือนกัน ความโชคร้ายในเรื่องของสามีและลูกชาย ที่มีอันต้องจากไปก่อนเวลาอันสมควร วรรณาอาศัยอยู่กับคุณหญิงเจิมจันทร์มาหลายสิบปี คุณหญิงเจิมจันทร์ใจดีมีเมตตากับเธอมาก สร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้เธอ ลูกสาว และหลานสาวของเธออยู่ใกล้ๆ กับบ้านของท่าน ตอนนี้ ลูกสาวของเธอสร้างเรื่องหนักใจให้เธอครั้งใหญ่ ทิชาจะต้องมาแบกรับปัญหาที่แม่ตัวเองก่อไว้อีก สงสารหลานของเธอเหลือเกิน และเธอเองก็ช่วยอะไรหลานไม่ได้เลย...
*********************
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ