บ้านหลังเล็ก...ภายในบริเวณคฤหาสน์ภัทรจุฑาธานันท์
“กลับมาแล้วเหรอ...ทิชา”
“ค่ะยาย...นี่ยายออกมาข้างนอกทำไม อากาศเย็นมากนะคะ แล้วนี่แม่ไปไหนคะยาย”
ทิชามองไปรอบๆ ภายในบ้าน อาหารที่ถูกเตรียมไว้บนโต๊ะนี้คงเป็นฝีมือของยายแน่นอน แม่ของเธอไม่มีวันที่จะทำแบบนี้ได้หรอก
“แม่เราพึ่งออกไปก่อนหน้าเรา ไม่เจอกันหรือไง”
เหตุการณ์ที่ก่อนหน้าหลานของวรรณาจะมา ถ้าเลือกได้ เธอเองก็ไม่อยากจะบอกให้หลานของเธอรับรู้เลย เธอกับลูกสาวพึ่งทะเลาะกัน เรื่องเดิมๆ แต่ที่มันเพิ่มเติมก็คือหนี้สิน วรรณาจะทำอย่างไรดี...
“ยายทำกับข้าวอีกหรือคะ ทิชาบอกยายแล้วไงว่าไม่ต้องทำทิชากินจากข้างนอกได้ค่ะยาย”
“ยายรู้ว่าเราไม่ได้กินมาจากข้างนอกมาหรอก ยายทำง่ายๆ ไม่ได้ยากเย็นอะไร หนูกินสิลูก”
“หน้าของยายซีดมากเลยค่ะ ยายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ อาการเวียนหัวเบาลงหรือยังคะ”
ทิชาวางมือลงบนหน้าผากของผู้เป็นยายด้วยความห่วงใย ยายอายุ 58 ปีแล้วทำงานมาตลอดทั้งชีวิต เลี้ยงเธอและแม่มา ยายควรได้พักผ่อนแล้ว
“เปล่าจ้ะ ยายไม่ได้เป็นอะไร”
“ยาย...ยายบอกทิชามาเถอะค่ะ ว่าวันนี้มีเรื่องอะไร สีหน้ายายไม่ค่อยดีเลย”
ทิชาสังเกตสีหน้าและแววตาของผู้เป็นยายก็พอจะคาดเดาได้ว่ายายต้องมีเรื่องไม่สบายใจอย่างแน่นอน
“นั่งก่อนสิ...ยายต้องเล่าให้หนูฟังอยู่แล้ว”
เรื่องใหญ่ขนาดนี้วรรณาคงแบกรับไว้ไม่ไหวแน่นอน เงินมากมายมหาศาลขนาดนั้น
“ค่ะยาย”
“ทิชาไม่กินข้าวก่อนหรือลูก กินก่อนสิ”
เพราะสิ่งที่วรรณาจะเล่าให้หลานสาวของเธอฟังจากนี้ อาจจะทำให้หลานของเธอกลืนอะไรไม่ลง...เลยก็เป็นได้
“ทิชายังไม่หิวหรอกค่ะ ยายมีเรื่องอะไรเล่ามาเถอะค่ะ”
“อืม...ยายก็ไม่อยากให้หนูทุกข์เรื่องของแม่เราหรอกนะ”
“แม่ไปสร้างเรื่องอะไรมาอีกหรือคะยาย”
“แม่เราไปยืมเงินคุณท่าน”
“อะไรนะคะ!! ยืมเงินหรือคะยาย?”
“จ้ะ...เมื่อวานแม่เราไปยืมเงินคุณท่าน ยายพึ่งทะเลาะกันกับแม่ของเราไปเมื่อกี้ คิดแล้วน่าโมโหจริงๆ เมื่อไหร่กานดามันจะเลิกสร้างปัญหาสักที เงินตั้งเยอะแยะมันจะมีปัญญาหามาใช้คืนเขาได้ยังไง ไหนจะหนี้เก่าอีกเกือบห้าแสน”
“เท่าไหร่คะยาย...แม่เอาเงินคุณท่านมาอีกเท่าไหร่คะ”
“หนึ่งล้าน...”
“ห๊า! หนึ่งล้าน!”
ใจของทิชาหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม แม่เอาเงินไปทำอะไร แล้วทำไมคุณท่านถึงให้เงินแม่มาแบบง่ายๆ อย่างนี้
“ใช่จ้ะ ยายเครียดมากเลยรู้มั้ยทิชา ยายบอกให้มันรีบเอาเงินมาคืนคุณท่าน แต่มันกลับบอกว่ามันยังเบิกจากบัญชีออกมาไม่ได้ ยายก็ไม่เข้าใจว่ายังไงกันแน่ ยายจะทำยังไงดีล่ะทิชา”
“แม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ! ตอนนี้แม่ไปไหนคะยาย ทิชาจะไปตามเอาเงินมาคืนคุณท่านค่ะ ตอนนี้เงินนั่นอาจจะยังถูกใช้ไม่หมดหรอกค่ะ”
“ยายก็ไม่รู้ว่าแม่เราไปไหน ทิชาลองโทรหาก่อนสิลูก”
“ได้ค่ะ” ทิชารีบกดสมาร์ทโฟนติดต่อผู้เป็นแม่ทันที เรื่องนี้แม่ทำเกินไปจริงๆ
“ว่าไง”
“ตอนนี้แม่อยู่ไหนคะ”
“เอ่อ...ฉันกำลังจะกลับเข้าบ้าน”
“เข้าบ้าน! เข้าบ้านใครคะ”
ทิชามึนงงกับสิ่งที่แม่ของเธอบอก น้ำเสียงของแม่ดูเบาลง คล้ายกับว่ากำลังมีเรื่องกังวลใจอะไรอยู่
“ก็บ้านเรานี่แหละ แต่แกช่วยห้ามยายของแกหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะเข้าไปอธิบายเรื่องทั้งหมด”
ที่กานดายอมกลับเข้าบ้านไม่ใช่เพราะเธอต้องการไปรับโทษทัณฑ์จากแม่และลูกสาวของเธอหรอกนะ ‘ตอนนี้...เธอกำลังสงสัยว่าตัวเองจะโดนแฟนหนุ่มคนใหม่ของเธอ*เทแล้ว’
“งั้น...แม่มาเลยค่ะ”
“โอเค...อีกห้านาทีเจอกัน”
“ค่ะ”
ทิชารู้สึกว่าแม่ของเธอมาแปลกมาก ปกติถ้าก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้แม่จะยังไม่กลับเข้าบ้านมาแบบง่ายๆ หรอก เป็นเพราะอะไรกันนะ
“กานดามันว่าไง”
“แม่บอกว่ากำลังจะกลับบ้านค่ะ”
“อะไรนะ! กลับบ้าน? จะเป็นไปได้ยังไง แม่เราจะยอมกลับมาง่ายๆ แบบนี้เหรอทิชา”
“ใช่ค่ะยาย ทิชาก็งงอยู่เหมือนกัน แต่พอแม่มา ยายใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ยังไงเราก็ต้องพยายามพูดกับแม่ให้ยอมเอาเงินมาคืนก่อน จะได้มาแค่ไหนก็ต้องเอาคืนค่ะ”
“งั้น...ทิชาก็ลองพูดกับแม่เขาเลยลูก”
10 นาทีต่อมา...
“ไอ้ก้อง...มันปิดมือถือไปแล้ว...เอ่อ...แล้วเรื่องเงิน...แม่ก็โอนให้มันไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
กานดารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะโดนหลอก ตั้งแต่เธอโอนเงินให้กับแฟนหนุ่มไป ท่าทีและคำพูดของแฟนของเธอนั้นกลับเปลี่ยนไป มาวันนี้ กานดากำลังคิดที่จะเก็บข้าวของหนีตามแฟนของเธอไป แต่ว่า แฟนของเธอนั้นกลับปิดมือถือไปแล้วไร้การติดต่อกลับใดๆ
“แม่!!!”
“กานดา!!!”
“นี่แกเป็นบ้าไปแล้วเหรอกานดา ทำไมแกถึงทำแบบนี้ โอนเงินตั้งหนึ่งล้านไปให้มันได้ยังไง!”
วรรณาโกรธลูกสาวสุดขีด ตอนแรกที่ลูกสาวบอกว่าจะไปเอาเงินมาคืน เธอยังคิดว่าอย่างน้อยได้คืนมาสักครึ่งก็ยังดี แต่นี่อะไร
เพี้ยะ! ฝ่ามือหนาฟาดลงไปที่ใบหน้าของลูกสาวทันที
“โอ้ย!! แม่! แม่จะตบฉันทำไมเนี่ย! ฉันก็แค่บอกว่าไอ้ก้องมันปิดมือถือ ยังไม่ได้บอกเลยว่าไอ้ก้องมันเอาเงินหนีไป”
“แต่แม่จะเชื่อใจนายก้องได้ยังไงกันคะ เงินตั้งหนึ่งล้าน แล้วตอนนี้แม่ยังติดต่อนายก้องไม่ได้เลย”
“ก้องมันก็แค่ปิดมือถือเองทิชา ฉันก็ไปตามมันที่คอนโดแล้ว แต่ก็เงียบไป แต่ฉันก็ถามเจ้าของคอนโดที่ก้องมันเช่าแล้ว ว่ามันยังไม่ได้คืนห้อง งั้นก็แสดงว่าก้องเองมันก็ยังไม่ได้ไปไหน แกก็อย่าพึ่งโวยวายได้มั้ย ฉันเองก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว”
ภายในใจของกานดาตอนนี้มันร้อนยิ่งกว่าไฟซะอีก ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่เธอติดต่อแฟนหนุ่มของเธอไม่ได้ กานดาพยายามทำใจดีสู้เสือ เธอมองคนไม่ผิด ก้องรักเธอ ก้องบอกว่าจะเอาเงินไปลงทุนและได้กำไรจะเอามาสร้างครอบครัวกับเธอ
“แต่ทิชาไม่คิดอย่างแม่หรอกนะ นายก้องหอบเงินหนีแม่ไปแล้ว...เงินตั้งหนึ่งล้าน...แม่ไม่มีวันได้คืนหรอก”
“นี่ยัยทิชา แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง แกคิดว่าแม่โดนหลอกงั้นเหรอ”
“ใช่! แกโดนหลอกกานดา! ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าสร้างปัญหาให้ฉันกับทิชาอีก เงินตั้งมากมายขนาดนี้ แกจะเอาปัญญาที่ไหนมาใช้เขา”
“แต่เรื่องนี้มันยังไม่ชัดเจนเลยนะแม่ ฉันแค่ติดต่อก้องไม่ได้ก็แค่นั้นเอง เดี๋ยวสักพักก้องมันก็โทรกลับมาเองแหละค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงนะ”
“จะไม่ห่วงได้ยังไง! แกมาช่วยฉันกับลูกสาวของแกใช้หนี้มั้ยล่ะ นึกแล้วยังโมโหไม่หาย แกไปบอกคุณท่านยังไง ทำไมคุณท่านถึงยอมให้เงินแกโดยไม่ถามฉันสักคำ”
เพราะเรื่องเงินนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำไมคุณท่านถึงไม่ถามเธอก่อน ด่วนตัดสินใจให้แบบนี้ คุณท่านก็ทำให้วรรณาแปลกใจอยู่เหมือนกัน
“นั่นสิคะ เงินเป็นล้าน คุณท่านจะไม่ถามแม่สักคำเลยเหรอคะว่าแม่เอาเงินไปทำอะไร ครั้งที่แล้วยายก็คุยกับคุณท่านแล้วนี่คะ ว่าถ้าแม่เข้าไปยืมเงินคุณท่านอีก คุณท่านจะไม่ให้แล้ว ถึงให้ก็ต้องโทรมาถามยายก่อน”
“ฉันจะไปรู้อะไรล่ะ คุณท่านให้ฉันทำสัญญา ฉันก็ทำ แกกับยายอย่าพึ่งโวยวายได้มั้ย ขอฉันติดต่อกับก้องก่อน เรื่องมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิดก็ได้ทิชา”
“ฉันพนันได้เลยกานดา...ว่าครั้งนี้แกโดนไอ้ก้องมันหลอกแล้ว แกคิดว่าตัวเองฉลาดนักหรือไง แกทำไมได้สร้างเรื่องไม่จบไม่สิ้นสักที แกไม่สงสารฉันบ้างเลยหรือไง ไม่สงสารฉัน แกก็ควรจะสงสารลูกของแกบ้าง แกเคยคิดบ้างมั้ย...กานดา”
“แล้วถ้านายก้องหนีไป...แม่จะเอาเงินมาใช้หนี้คุณท่านยังไงคะ...แม่เคยคิดเรื่องนี้บ้างมั้ย หนี้ครั้งที่แล้วหนูกับยายยังใช้กันไม่หมดเลย...แม่จะทำยังไงคะ”
***********************
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ