ติ๊ง!
เสียงสัญญาณลิฟท์ดังขึ้น แต่ไม่ได้ขัดจังหวะในการนัวเนียของสองหนุ่มสาวที่ตอนนี้กำลังดุเดือดเข้มข้น จากจูบเดียวเริ่มลุกลาม นพรดาโอบรอบต้นคอแกร่งไว้มั่น เมื่อเขาผละจากริมฝีปากมาซุกไซ้ที่ต้นคอเธออย่างวาบหวาม จนอารมณ์สาวโสดเตลิดไปไกล
มือหนาบีบเนื้อหนั่นแน่นที่บั้นท้ายของเธออย่างแรง ก่อนจะสอดเข้าไปภายในชุดเดรสเซ็กซี่เพื่อสำรวจเป้าหมายต่อไป
“หืม?”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆ เมื่อพบว่าภายใต้ชุดแนบเนื้อนั่นคือ...
“จีสตริง!”
มุมปากหยักกระตุกขึ้น ก่อนที่จะขบเม้มต้นคอและจูบข้างแก้มนวลหอมกรุ่นของแม่เลขาสาวที่ซ่อนความเร่าร้อนไว้ภายใน
“บอสคะ!”
นพรดาไหวตัว เมื่อรับรู้ถึงมือที่ป้วนเปี้ยนสำรวจร่างกายใต้ร่มผ้าของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต พอมองเห็นภาพอันเร่าร้อนที่สะท้อนจากกระจกในลิฟท์ตัวนั้น ใบหน้าสวยก็แดงวาบ
ท่านี้ไม่ดีต่อใจเสียเลย เธอถูกเขาอุ้มกระเตงเหมือนลิงกำลังอุ้มแตง น่าหวาดเสียวเหลือเกิน หากใครมาเห็นเข้าล่ะก็ งามหน้าทั้งนายทั้งเลขาก็คราวนี้
“ปะ ปล่อยก่อน ลิฟท์ถึงชั้นที่คุณอยู่แล้วค่ะ”
“อืม...”
อืมอะไรวะ อืมแล้วไม่ปล่อยคืออะไร ยังไม่ทันได้คำตอบ หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียง
เปรี๊ยะ!
คนมือบอนดึงสายจีสตริงของเธอจากด้านหลังแล้วปล่อยให้มันดีดกลับเข้ามาที่ร่องแคบฟิตจนเธอสะดุ้งเฮือกปนเสียววาบท้องน้อย ดวงตาเขียวปั๊ดตวัดมองเจ้าของมืออย่างลืมตัว
“อื้อ...ทำอะไรของคุณเนี่ย”
“หึ...” เขากระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะแกล้งทำแบบเดิมซ้ำอีกทีแต่คราวนี้แรงกว่าเดิมจนเลขาสาวเผลอครางอู้
“เคยลอง...ในลิฟท์ไหม” เสียงพร่ากระซิบข้างหู จนทำหญิงสาวขนลุกซู่
“ลองอะไร ในลิฟท์มีกล้องนะ คุณไม่กลัวเป็นข่าวเหรอ” สติอันน้อยนิดคิดเหตุผลมาดึงสติอีกฝ่าย
“ไม่มีหรอก ลิฟท์นี่ไม่มีกล้อง และนอกจากผมก็ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ใช้มันด้วย”
นั่นคือเรื่องจริงที่เธอก็รู้ เพราะต้องมาเอาของ หรือทำธุระให้เขาที่นี่บ่อยครั้ง ลิฟท์ส่วนตัวนี้สั่งทำเฉพาะจะเปิดแค่ห้องที่อยู่ชั้นบนสุดมีไว้สำหรับเขาคนเดียวเท่านั้น
จะรวยไปไหนวะเนี่ย
“บอสอย่าพูดเป็นเล่นสิคะ” หญิงสาวปากคอสั่น แต่ในใจกลับตื่นเตลิดไปไกล
“ผมไม่เคยพูดเล่น”
พอขาดคำ นพรดาก็ต้องผวากอดต้นคอของเขาแน่น เมื่อถูกอีกฝ่ายจู่โจมด้วยริมฝีปากและลิ้นร้อนร้ายจนซัดสติเธอกระจุยกระจาย
ร่างบางถูกปล่อยลง และจับพลิกหันกลับหลังไปยันที่ผนังลิฟท์ไว้ พร้อมกับที่ชายหนุ่มโอบกอดเธอมาจากด้านหลังอย่างน่าหวาดเสียว มือของเขาเคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไวเหลือเกิน
เพียงไม่นานชุดสวยของเธอก็ถูกปลดลงมาจนเห็นบราปีกนกแบบมีตะขอติดด้านหน้าที่ปกปิดสองเต้าเต่งตึงเบียดชิดกัน
“มองกระจก” เขาสั่งเสียงเข้ม ทำให้เลขาสาวต้องทำตามด้วยความระทึกใจระคนตื่นเต้น เมื่อเห็นเขาปลดบราออกเพื่อสัมผัสเนื้อตัวส่วนที่แสนหวงแหนของเธอและฟอนเฟ้นมันอย่างเมามัน
“บอส...อื้อ...” เสียงหวานเผลอครวญคราง ใจหนึ่งอยากจะปัดป้อง อีกใจกลับตื่นเต้นกับสัมผัสอันเร่าร้อนของเขา
คนที่ปกติแสนโหดแสนเย็นชา ใครจะรู้ว่ามีมุมเร้าใจแบบนี้กับเขาด้วย นพรดากัดฟันแน่นยามที่รับรู้ถึงความร้อนผ่าวของฝ่ามือที่ไล้ไปตามแผ่นหลังขาวเปลือยเคลื่อนลงต่ำไปป้วนเปี้ยนแถวสะโพกหนั่นแน่นของตน เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะเป็นเขาที่ได้เชยชมตัวเธอแบบนี้
“อ๊ะ!” หญิงสาวไหวตัวเยือก เมื่อถูกเกี่ยวสายจีสตริงดึงขึ้นๆ ลงๆ ให้มันเสียดสีกับช่องทางอันลี้ลับในส่วนที่ผู้หญิงทุกคนหวงแหน ยังไม่ทันหายตกใจก็พลันรู้สึกถึงบางสิ่งที่ดุนดันแทรกเข้าไป
“บอส ไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้ อา...”
ขัดไปก็เท่านั้น เมื่ออีกฝ่ายไม่มีสติจะฟังเสียแล้ว เพราะกำลังเพลิดเพลินกับเรือนร่างงดงามของวัยสาวสะพรั่งที่อวดท้าทายสายตา
“แน่น แถมยังร้อนเร็วเสียด้วย แบบนี้สนุกแน่” ปากชมไม่ขาด แต่มือก็ไม่หยุดสำรวจภายในกุหลาบดอกตูมที่ตอนนี้เริ่มชุ่มฉ่ำด้วยหยาดน้ำหวานเพราะถูกเขากระตุ้นยั่วให้เกิดอารมณ์หวามรัญจวน
“แน่นมาก ทำไมแน่นขนาดนี้”
เลขาสาวทำหน้าเหยเก กัดริมฝีปากแน่น จะให้ตอบอย่างไร ในเมื่อเธอไม่เคยมีประสบการณ์บนเตียงมาก่อนสักครั้งมันก็ต้องแน่นแบบนี้ไง ใครจะไปโชกโชนแบบเขาล่ะ โวะ!!
“ผมทนไม่ไหวแล้ว อยากลองเข้าไปในตัวคุณตอนนี้เลย”
“ว่าไงนะ”
เลขาสาวเบิกตาค้าง ถามอย่างตกใจ หูแว่วได้ยินเสียงรูดซิปพรืดจากทางด้านหลัง ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขายังไม่ยอมถอนปลายนิ้วออกจากตัวเธอด้วยซ้ำ อย่าบอกนะว่า...
ดวงตาคู่งามเบิกกว้างมองภาพน่าหวาดเสียวจากกระจกด้านหน้า ก็ได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังปลดเปลื้องอาวุธประจำกายที่มีขนาดไม่ธรรมดาออกมาจากกางเกงสแล็กสุดเนี้ยบของเขา พลางมองสบตาเธอผ่านกระจกบานเดียวกัน เมื่อเห็นรูปพรรณสัญฐานของอีกฝ่ายชัดๆ ทั้งขาวแถมตรงปลายมนสวยมีสีชมพูเรื่อ แต่ความใหญ่โตนี่สิทำเอานพรดาถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ
ตายห่า บาซูก้ายักษ์!
ยังไม่หายตกใจ เจ้าของปืนใหญ่ก็จัดการกระชับเอวบางเข้ามาใกล้ฐานที่มั่นของตน เตรียมพร้อมที่จะผนึกรวมร่างกับเธอ
“บ...บอส เดี๋ยวก่อน...”
สวบ! อึก!
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ