หลังจากออกกำลังกายตามเวลาที่เธอกำหนดเอาไว้เสร็จ หญิงสาวก็กลับขึ้นห้องพักของตน เมื่อเข้าไปในห้อง เธอก็เดินไปหยิบน้ำดื่มออกมาจากตู้เย็นหนึ่งขวด แล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลังเพื่อออกไปนั่งพักที่เก้าอี้ด้านนอกห้องก่อนที่จะกลับเข้ามาอาบน้ำ วันนี้เธอต้องไปถ่ายแบบภาพนิ่งชุดคอลเลคชั่นใหม่ที่พี่พุดซ้อนรับงานเอาไว้ให้
รถตู้ของบริษัทถูกส่งมารับนางแบบสาวที่คอนโดหรูแห่งนี้ ภายในรถมีเมริสาที่พี่พุดซ้อนแวะไปรับมาก่อนหน้านั้นนั่งรออยู่แล้ว อลินายกมือไหว้ทักทายผู้จัดการส่วนตัวและคนขับรถ แล้วหันไปทักทายเพื่อนนางแบบวัยเดียวกัน
“ดูฮาน่าสิ แค่เดินออกมาจากคอนโดคนก็มองตามคอแทบเคล็ดละ” เมริสาเอ่ยแซวเพื่อนสาวยิ้มๆ อลินาไม่เคยสังเกตเลยว่าตัวเธอเองนั้นค่อนข้างโดดเด่น เพราะตอนอยู่ที่อเมริกาเธอก็ไม่ได้โดดเด่นเกินใคร
“เขาก็มองเพราะเรามาอยู่ใหม่ไง หน้าแปลกไรงี้” อลินาตอบออกมาแต่ใช้คำพูดไม่ถูกทำให้ทั้งผู้จัดการสาวและเพื่อนสาวพากันหัวเราะออกมาแล้วแก้ไขเป็นคำที่ถูกให้
“คิกๆๆ เค้าไม่ได้เรียกว่าหน้าแปลกจ้ะ เค้าเรียกว่าแปลกหน้า” คนฟังถึงกับอายขึ้นมาทันที
“อ๋า....แปลกหน้า”
อลินาแก้คำที่เธอพูดผิดให้ถูกต้องแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่คนทั้งรถจะพากันเงียบไปเพราะรถกำลังมุ่งหน้าสู่สตูดิโอที่อยู่นอกเขตเมือง
ภายในห้องแต่งหน้าแต่งตัวของนางแบบ เสียงช่างแต่งหน้าที่กำลังจัดการแต่งเติมเสริมความงามให้กับสองนางแบบสาวหน้าใหม่เอ่ยชมทั้งสองสาวไม่ขาดปาก ยิ่งกับอลินายิ่งถูกชื่นชมเพราะผิวหน้าของเธอนั้นเนียนไร้ที่ติ อลินาได้แต่ส่งยิ้มหวานให้เป็นการแทนคำขอบคุณ สองสาวนั่งนิ่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมอยู่นานเกือบชั่วโมงจนในที่สุดสองนางแบบสาวก็พร้อมในการถ่ายแบบ
“มองกล้องครับ น้องฮาน่าเงยหน้าขึ้นนิดนึงครับ ส่วนน้องเมย์มองไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ถืออยู่หน่อยครับ ใช่ครับ...อย่างนั้นแหละครับ”
เสียงของช่างภาพวัยสามสิบปลายๆ บอกให้นางแบบสาวทั้งสองทำตามที่ตนต้องการ ทั้งอลินาและเมริสาก็ทำตามได้ไม่มีผิดพลาด
นานนับสองชั่วโมงกับการถ่ายแบบเปิดตัวสินค้าให้แบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่ของประเทศไทย และเมื่อทำงานเสร็จ พุดซ้อนผู้จัดการส่วนตัวของสองสาวจึงขอตัวพาทั้งคู่กลับไปที่บริษัททันทีเพราะเย็นนี้มีงานเดินแบบที่งานประมูลเครื่องเพชรโรงแรมหรู และผู้ที่เดินชุดฟินาเล่ของงานก็คือนางแบบในอเดลโมเดลลิ่ง อลินาและเมริสาได้เดินในชุดแรกๆ เท่านั้นเพราะยังถือว่าเป็นน้องใหม่
“งานนี้นางแบบและนายแบบของโมเดลลิ่งเราได้ไปร่วมเดินแบบทั้งหมดห้าคนนะจ๊ะ มีน้องอิงค์ น้องแพม น้องอาร์ต น้องเมย์ และน้องฮาน่า” เจ๊ลูซี่เอ่ยชื่อของนางแบบและนายแบบที่ได้ไปร่วมงานเดินแบบคืนนี้ออกมา
“ว้าว... งานนี้เด็กของพุดซ้อนได้ไปทั้งสองคนเลย ดีใจด้วยนะ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาเพิ่งเห็นเด็กเธอได้รับงานพร้อมกันแบบนี้เป็นครั้งแรก” คำพูดเหมือนแสดงความยินดีแต่มันแฝงไปด้วยความเยาะเย้ยอีกฝ่าย
คนฟังทำเป็นไม่สนใจ พุดซ้อนไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่นพี่ในบริษัทถึงต้องพูดออกมาอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ก็ทำงานให้กับบริษัทเหมือนกัน ผลประโยชน์ที่นางแบบได้รับก็คือผลประโยชน์ของบริษัท
“เอาล่ะ.. เอาล่ะ... พาเด็กๆ ไปก่อนงานจะเริ่มสักสองสามชั่วโมงนะจ๊ะ อ้อ.!!! อย่าลืม...คอนเซปต์ของบริษัทเรานะจ๊ะ”
เจ๊ลูซี่รีบขัดจังหวะก่อนที่จะได้เกิดศึกย่อมๆ ในบริษัท เจ๊ลูซี่รู้ดีว่าพุดซ้อนนั้นไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งกับใคร แต่ถ้าใครมายุ่งกับเธอมากๆ เธอก็จะไม่ทนเหมือนกัน ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะเด็กที่พุดซ้อนดูแลนั้นไม่ค่อยมีงานเข้ามา แต่พอได้เด็กใหม่มาดูแลสองคนกลับมีงานเข้ามาไม่ขาด
“รับทราบค่า/ครับ” ผู้จัดการนางแบบนายแบบต่างพากันขานรับออกมา
“ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของใครของมันได้จ้ะ แล้วก็พุดซ้อนพี่ขอคุยด้วยแป๊บนึงนะ” ทุกคนลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป ทิ้งให้เจ๊ลูซี่คุยกับพุดซ้อนตามลำพัง
“พี่เข้าใจพุดซ้อนนะ ยัยพวกนั้นคงจะอิจฉาเธอที่อยู่ดีๆ ก็ได้เด็กที่มีแบรนด์สนใจมากมายไปดูแล ยังไงถ้าหลบเลี่ยงได้ก็หลบเลี่ยงนะทำหน้าที่ของเราให้ดีก็พอ พี่เชื่อว่าพุดซ้อนจะช่วยให้เด็กใหม่ทั้งสองคนกลายเป็นที่รู้จักในฐานะนางแบบแถวหน้าของบริษัทเราได้ ไม่แน่นะวันข้างหน้าเด็กสองคนนี้อาจจะมีคนใดคนนึงได้เป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงแถวหน้าของประเทศไทยก็ได้” เจ๊ลูซี่เอ่ยออกมายืดยาวเพื่อให้พุดซ้อนไม่ต้องรู้สึกกดดันที่เจอคำพูดแดกดันของพวกรุ่นพี่
“หนูเข้าใจดีค่ะเจลูซี่ เจ๊ไม่ต้องห่วง หนูจะทำหน้าที่ดูแลเด็กสองคนนั้นให้ดีที่สุด” พุดซ้อนยิ้มออกมาก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันกลับไปทำงานที่ตนรับผิดชอบ
“คุณเป็นอะไรที่รัก ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าหืม...”น้ำเสียงที่อ่อนโยนของสามีทำให้อลินายิ้มออกมา เขาไม่เคยแสดงความเห็นแก่ตัวกับเธอ ความจริงแล้วเขาจะทำต่อก็ได้ แต่ว่าเขายอมหยุดเพียงเพราะได้ยินว่าเธอรู้สึกไม่ดี“ฮาน่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สองสามวันมานี้ฮาน่ารู้สึกเพลียๆ”“คุณทำงานจนไม่นอนพักกลางวันใช่ไหม” เขาถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะแน่นอนว่าตอนกลางคืนเขาและเธอมักจะใช้เวลาบนเตียงร่วมกัน“ฮาน่าก็นอนนะคะเดล อืม... มีอีกอย่าง ฮาน่ารู้สึกว่าช่วงนี้หิวบ่อย เหมือนจะอ้วนขึ้นด้วยนะคะ” เธอลูบลงไปบนหน้าท้องที่ดูมีไขมันขึ้นเล็กน้อย แต่ในสายตาของเอเดนมันก็ยังคงแบนราบอยู่ดี“ไม่อ้วนเลยที่รัก แต่ผมรู้สึกว่าคุณดูสวยมากขึ้นนะ”เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดพลางกระซิบบอกเพื่อให้ภรรยามั่นใจ อลินานึกสงสัยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่ก็ยังไม่อยากคิดไปไกล ทางที่ดีเธอคงต้องตรวจดูให้แน่ใจ“อืม...อาทิตย์หน้าผมว่างแล้วล่ะ เราไปฮันนีมูนที่ประเทศไทยกันดีไหม เราแต่งงานกันมาสามเดือนแล้วยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลย” เสียงทุ้มที่ดังออกมาเรียกสติของอลินาที่กำลังหลุดลอยไป“ดะ...ดีค่ะ ฮาน่าคิดถึงเมย์กับพวกพี่ๆ ที่บริษัท วิดิโอคอ
หลังจากอลินาแต่งงานกับเอเดนอย่างเป็นทางการ เธอก็ได้ทำหน้าที่ภรรยาของเอเดนอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะค้นหาในสิ่งที่เธอชอบ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเขียนบทความลงในบล็อกส่วนตัว เธอใช้ประโยชน์จากการที่เธอรู้และพูดได้หลายภาษา แปลบทความของเธอเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเยอรมันและภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอมีนักอ่านหลากหลายสัญชาติทั่วโลกที่กลายมาเป็นแฟนตัวยงของเธอ เรื่องฮันนีมูนที่เคยวางแพลนเอาไว้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะงานของสามีที่ต้องจัดการให้อยู่ตัว ก่อนที่จะทิ้งงานแล้วพาเธอกลับไปเยือนประเทศไทย“กำลังทำอะไรอยู่หืม....ที่รัก” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของคนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะบริเวณสวนของเพ้นส์เฮ้าท์สุดหรูแห่งนี้“กำลังเขียนบทความอยู่ค่ะ วันนี้ที่กาสิโนมีเรื่องยุ่งยากไหมคะ”เธอละมือจากงานที่ทำแล้วหันไปสนใจสามีที่เพิ่งกลับมาจากคาสิโน หลังจากแต่งงานกัน เอเดนก็ได้พาเธอไปดูธุรกิจทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่ แม้ลึกๆ ในใจอลินาจะรู้สึกกังวลกับงานของสามี แต่เธอก็คงจะให้เขาเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ตระกูลของเขาทำมาเนิ่นนาน ในเมื่อเธอรักเขาเธอก็ต้องยอมรับในตัวตนของเขาเช
ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรูถูกเนรมิตด้วยอำนาจของเงินจำนวนมหาศาลถูกตกแต่งด้วยดอกไม้นอกฤดูกาลที่มีความหมายดีๆ สำหรับความรักของคู่บ่าวสาว อลินานั่งแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องพักสุดหรูของโรงแรม ช่างแต่งหน้าระดับโลกถูกเชิญมาทำหน้าที่ ช่างภาพชื่อดัง เชฟการันตีรางวัลระดับโลก ทุกสิ่งทุกอย่างภายในงานล้วนแล้วแต่มีระดับ ตระกูลวินเทอร์ทุ่มงบไม่อั้นในการจัดงานเลี้ยงฉลองการแต่งงานของบุตรชายคนเล็กในครั้งนี้ “คุณสวยมากเลยค่ะมาดาม” ช่างแต่งหน้าที่ไม่ว่ารวยแค่ไหนก็ยังไม่อาจจ้างเธอได้เอ่ยชมนายหญิงเล็กแห่งวินเทอร์ออกมา เธอเสนอตัวมาช่วยในงานนี้เพราะครั้งหนึ่งเคยได้รับความช่วยเหลือจากมาดามเอวาน่า ในครั้งที่เธอนั้นยังเป็นแค่ช่างแต่งหน้าไร้ชื่อเสียง มีเพียงมาดามเอวาน่าที่คอยผลักดันทำให้เธอก้าวมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเหมือนในตอนนี้ เธอจึงรับงานนี้ด้วยความยินดีและเต็มใจ “ขอบคุณมากเลยค่ะ เป็นเพราะคุณฝีมือดีมากกว่าค่ะ...อนาเซีย” อลินาเอ่ยชมออกมาจากใจ ช่างแต่งหน้าคนนี้เป็นคนละเอียด มือเบาแถมยังใส่ใจในเรื่องผิวหน้าของเธออีก “น้อมรับคำชมค่ะ” ช่างแต่งหน้าสาวยิ้มออกมาก่อนที่จะลงมือแต่งหน้าให้แก่เจ้าสาวคนสวย ภายใน
เมื่อรถตู้คันหรูไปถึงหน้าเพ้นส์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อลินาถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของสามี เพราะคนที่จะมีเพ้นส์เฮ้าส์ในพื้นที่กว้างขนาดนี้ในเมืองชิคาโก้ได้ย่อมเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควร“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูฮาน่า” มาดามเอวาน่ารีบออกมาทักทายต้อนรับลูกสะใภ้คนเล็ก“นี่แม่ผมเอง มาดามเอวาน่า” เอเดนกระซิบบอกภรรยา อลินาจึงเดินเข้าไปจับมือทักทายและสวมกอดกับแม่ของสามี“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ”“เรียกแม่สิลูก ต่อไปนี้หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ ถ้าเอเดนรังแกหนูหรือทำตัวไม่ดีกับหนูบอกแม่ได้เลย แม่จะจัดการให้” มาดามเอวาน่ายิ้มออกมาอย่างพอใจพลางให้ท้ายลูกสะใภ้คนสวย“แม่... นี่ผมลูกแม่นะ”มาเฟียหนุ่มทักท้วงก่อนที่สองสาวต่างวัยจะจับจูงพากันเดินเข้าไปนั่งภายในห้องรับแขกของเพ้นส์เฮ้าส์โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก เอเดนหันไปมองหน้าบุ๊ซกับเกริก สองหนุ่มพยายามกลั้นขำพลางส่ายหน้าไปมา“ไม่ทันไรแม่ฉันก็ยึดเมียฉันซะแล้ว” เขาบ่นออกมาก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวตามสองสาวเข้าไปภายในเพ้นส์เฮ้าส์ของตนอลินาได้รับการต้อนรับจากครอบครัววินเทอร์เป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่สามีและพี่ชายทั้งสองของสามีปฏิบัติกับเธอราวกับเจ้าหญิง หลั
เช้าวันต่อมาอลินาและเอเดนก็ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลวินเทอร์ ฮิวโก้ เมริสา เจ๊ลูซี่ และพุดซ้อนได้เดินทางมาส่งทั้งสองขึ้นเครื่อง ความสัมพันธ์ของเมริสากับฮิวโก้ได้พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครในบริษัทรู้ แต่อลินานั้นรู้ดีว่าทั้งเพื่อนและเจ้านายกำลังปลูกต้นรักกัน“ขอให้หนูโชคดีนะคะน้องฮาน่า ดีใจที่ได้พบเจอและได้ร่วมงานกัน” เจ๊ลูซี่เอ่ยลาอดีตนางแบบสาวที่เธอเอ็นดูและมองว่าอนาคตก็คงจะไปได้ไกลกว่านี้หากเธอยังไม่มีพันธะอะไร“พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลฮาน่า ขอบคุณที่เป็นเด็กที่น่ารักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับมาเที่ยวหากันบ่อยๆ นะจ๊ะ” พุดซ้อนเอ่ยน้ำตาซึม แม้จะเป็นเวลาไม่นานที่ได้ดูแลเด็กสาวในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แต่ความผูกพันกลับมีให้อีกฝ่ายไม่น้อย“ขอบคุณพี่ลูซี่และพี่พุดซ้อนมากๆ เลยนะคะที่ใจดีกับฮาน่ามาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน ฮาน่าจะไม่มีวันลืมพวกพี่และจะกลับมาเที่ยวหาบ่อยๆ ค่ะ” สามสาวต่างวัยเข้าสวมกอดลากันก่อนที่จะผละออกจากกัน อลินาจึงหันไปกอดลาเพื่อนสนิทบ้าง“เมย์ขอให้ฮาน่ามีความสุขในชีวิตคู่นะ ขอให้ทั้งสองรักกันไปนานๆ ถ้าเป็นไปได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกทีเ
หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็พากันไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก่อนที่จะได้ไปดำน้ำดูปะการังตามแผนการที่วางเอาไว้ ทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและพนักงานอยู่ไม่น้อยเพราะเพิ่งจะมีข่าวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นบอดี้การ์ดสองคนของมาเฟียหนุ่มก็ดูหล่อเหลาน่าสนใจไม่แพ้กัน“ดูท่าทางบุ๊ซกับเกริกจะได้สาวไทยเป็นแฟนแล้วล่ะ” อลินาเอ่ยออกมาขณะมองไปยังสองหนุ่มที่มีสาวๆ เข้ามาทักทาย“เจ้าสองคนนั้นเห็นหน้าตานิ่งๆ แบบนี้สาวๆ ชอบยิ่งกว่าผมอีกนะ” เอเดนบอกภรรยาก่อนที่จะตักไข่ม้วนในจานใส่ปาก“ไม่จริงมั้งคะ ฮาน่าว่าคุณหล่อกว่าพวกเขาอีก”อลินากระซิบบอกก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา ได้ยินคนอื่นชมมาก็ตั้งมากมายกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมาได้ยินภรรยาชมเท่านั้นมาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการ มือหนาวางมีดและส้อมลงพร้อมเอ่ยถามเธอออกมา“เราไม่ไปดำน้ำแล้วดีไหมที่รัก”“ทำไมคะ เราจองไว้แล้วนี่คะ” อลินาละสายตาจากจานอาหารตรงหน้าแล้วมองใบหน้าของสามี“ก็คุณทำให้ผมอยากจะพาคุณกลับขึ้นห้องไปทำอย่างอื่นแทนการไปดำน้ำน่ะสิ”เขาตอบเธอยิ้มๆ หญิงสาวจึงส่งค้อนน้อยๆ ไปให้สามี ภาพของสองสามีภรรยาหยอกล้อพูดคุยกั