เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เสียงปืนหลายนัดดังขึ้นภายในห้องลับของกาสิโนแห่งนี้ ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำสนิทนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ สายตาคมราวกับสายตาของเหยี่ยวปราดมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ที่ปลายเท้า วัตถุสีดำที่ถูกใช้เมื่อสักครู่ถูกส่งให้กับลูกน้อง ก่อนที่เขาจะหยิบผ้าเปียกที่ลูกน้องเตรียมมาให้เพื่อใช้เช็ดมือ “คนที่มันหักหลังตระกูลของเรา ก็ต้องพบจุดจบแบบนี้ทุกคนแหละ” เสียงทุ้มคำรามดังออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ “จัดการให้เรียบร้อย อย่าให้สุนัขได้กลิ่นเป็นอันขาด” สุนัขที่ว่าคือพวกตำรวจ แน่นอนว่าพวกตำรวจกับพวกมาเฟียนั้นไม่ถูกกัน เพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นผู้รักษากฎหมาย และมาเฟียเป็นผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย “ครับนาย” ลูกน้องคนสนิทรับคำก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้องที่เหลือลากชายร่างโตที่เพิ่งหมดลมหายใจออกไปจากห้องลับที่ถือว่าเป็นห้องเชือดของกาสิโนแห่งนี้ “ยังมีเรื่องที่ฉันต้องจัดการอีกไหมบุ๊ซ” เสียงทุ้มเย็นชาดังขึ้นหลังจากที่ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ “ทุกเรื่องที่นายกังวล จัดการเรียบร้อยหมดแล้วครับ” ชายหนุ่มร่างโตที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดส่วนตัวของมาเฟียหนุ่มตอบออกมายิ้มๆ “ถ้าอย่างนั้น นายโทรไปบอกกัปตันให้เตรียมเครื่องบินส่วนตัวของฉันให้พร้อม อาทิตย์หน้าเราจะบินไปประเทศไทยกัน” “รับทราบครับนาย” บุ๊ซรีบออกจากห้องแล้วต่อสายไปหานักบินของตระกูลวินเทอร์ในเมืองชิคาโก้ทันที ภายในห้องที่ยังเย็นเฉียบ มือหนาหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูออกมาเปิดดูภาพของภรรยาในนามที่เขายังไม่มีโอกาสได้ไปแนะนำตัวกับเธอเลยสักครั้ง ว่าเขานี่แหละคือสามีของเธอ ริมฝีปากหนาสีกุหลาบเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อได้มองใบหน้าสวย รอยยิ้มของเธอทำให้เขานึกย้อนไปถึงวัยเด็ก เด็กน้อยคนนั้นที่ทำให้ชีวิตของเขาเข้มแข็งขึ้นมาได้ และรอคอยวันที่จะได้พบเธออีกครั้ง หลังจากจัดการเรื่องที่กาสิโนเสร็จเรียบร้อย เอเดนก็เดินทางกลับเพ้นท์เฮ้าส์ส่วนตัวของเขาทันทีโดยไม่รู้ว่าผู้เป็นมารดากำลังรอเขาอยู่ที่นั่น รถตู้คันใหญ่ติดฟิล์มทึบรอบคันขับเคลื่อนไปจอดที่หน้าเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรู “นี่แม่ฉันมาที่นี่เหรอ” มาเฟียหนุ่มพึมพำออกมาก่อนที่จะลงจากรถแล้วสาวเท้าเข้าไปด้านในทันทีโดยบรรดาบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ดูแลเขาอยู่ต่างพากันก้มโค้งทำความเคารพมาเฟียหนุ่มตลอดแนวทางเดิน สุภาพสตรีที่มีเส้นผมสีบรอนด์ทองกำลังนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขก ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ ออกมาก่อนที่จะก้าวเดินเข้าไปหาแล้วสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง “สวัสดีครับแม่ นึกยังไงถึงมาหาผมที่นี่ได้ครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่เคยพูดกับใครถูกใช้กับผู้เป็นมารดา แต่แทนที่จะได้รับการตอบกลับเป็นการกอดแต่กลับถูกมารดาหยิกเข้าไปที่ท่อนแขนล่ำของตนจนมาเฟียหนุ่มแกล้งร้องโอดโอยออกมา “โอ๊ย!!! แม่.... หยิกผมทำไมครับ ผมเจ็บนะ” คนที่ไม่เคยกลัวเลือด หรือกลัวกระสุนปืนอย่างเอเดน แต่ทว่ากลับร้องออกมาราวกับว่าเจ็บปวดเพียงเพราะถูกมารดาหยิกเนื้อ “ไม่ต้องมาแสดงเลย เอเดน แม่เพิ่งรู้ว่าลูกแอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนหนี่งมา คิดจะมีเมียแต่ไม่บอกครอบครัวให้รู้เนี่ยนะ เอเดน ลูกยังเห็นพวกเราเป็นครอบครัวของลูกอยู่ไหม” ไม่ทันที่เขาจะเดินไปนั่งลงให้ดีๆ ก็ถูกมารดาต่อว่าจนยืดยาว “โถ่ๆๆๆ มันกะทันหันจริงๆ ครับแม่ ผมขอโทษครับ แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงผมแล้วนะ เพราะตอนนี้ผมมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว ไม่ได้ชอบพวกผู้ชายด้วยกันอย่างที่นักข่าวพวกนั้นเอาไปเขียนแน่นอน” เอวาน่าหันไปจ้องหน้าบุตรชายตาเขม็ง “แม่ถามหน่อยเถอะ ลูกรักผู้หญิงที่ลูกจดทะเบียนสมรสด้วยใช่ไหม หรือมีเหตุผลอะไรที่กำลังปิดบังแม่อยู่” เธอไม่ได้เชื่อเสียทีเดียว แม้จะตามสืบมาบ้างแล้วว่าลูกสะใภ้คนเล็กนั้นเป็นใคร มาจากไหน และแน่นอนว่าคุณลูเซียโน่ สามีของเธอและตัวเธอ นั้นไม่ได้รังเกียจที่อีกฝ่ายเป็นเด็กกำพร้า ออกจะสงสารชีวิตของเธอเสียด้วยซ้ำ ทั้งสองจึงไม่อยากจะให้ฝ่ายหญิงต้องมาทุกข์ใจอยู่กับเจ้าลูกชายที่มีหน้าที่รับช่วงต่อธุรกิจของตระกูล เพราะการเป็นภรรยาของมาเฟียนั้นไม่ใช่เรื่องดีอย่างที่คนภายนอกเข้าใจ “ครับ... เพราะเธอคือรักแรกพบของผม” มาเฟียหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเล มิสซิสวินเทอร์จ้องหน้าบุตรชายคนสุดท้องเพื่อดูว่ามีความลังเลหรือล้อเล่นอยู่ในแววตาของเขาไหม แต่เธอก็ไม่พบความผิดปกติอะไรเธอจึงยิ้มออกมา “ถ้าอย่างนั้นก็ไปตามน้องกลับมา แล้วก็จัดงานแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราว ลูกทำเหมือนกับว่าตัวเองยังเป็นผู้ชายโสดอยู่เลยรู้ไหม ถึงจะไม่ไปยุ่งกับพวกผู้หญิงเหมือนพี่ชายทั้งสองของลูก แต่คนอื่นก็เอาไปนินทาอยู่ดีว่าลูกน่ะ....” “ชอบผู้ชาย” มิสซิสวินเทอร์พูดยังไม่ทันจบ บุตรชายก็สวนขึ้นมาทันทีจนนางตาเบิกโพลง ปากอ้าออกกว้างจนบุตรชายหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆๆ แม่ครับ ผมชอบผู้หญิงจริงๆ เรื่องชอบผู้ชายไม่เป็นความจริงแน่นอน” เขาสวมกอดมารดา นางเอวาน่าจึงกอดบุตรชายตอบ เพราะน้ำเสียงจริงจังไม่ติดเล่นของเขาทำให้เธอวางใจ“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปตามน้องกลับมา ลูกรู้ไหมว่าน้องเป็นผู้หญิงที่สวยมาก หากปล่อยไปอยู่ไกลๆ ตามลำพังแบบนั้น แม่กลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจไปจากลูก” นางเอวาน่าผละอ้อมกอดออกจากบุตรชายแล้วเอ่ยออกมาอย่างยืดยาว“แน่นอนครับ อาทิตย์หน้าผมจะบินไปตามเธอกลับมา แต่แม่ครับ ผมคงต้องใช้เวลาอยู่ที่ไทยสักหน่อย แม่ช่วยคุยกับพ่อให้มาดูแลชิคาโก้แทนผมก่อนได้หรือเปล่าครับ”ถึงแม้บิดาจะวางมือไปแล้วแต่เขี้ยวเล็บของอดีตมาเฟียก็ยังคงคมกริบเหมือนเดิม พวกตำรวจบางคนก็นับถือบิดาของเขาเพราะบางทีตระกูลวินเทอร์ก็ให้ความช่วยเหลือพวกตำรวจในเรื่องที่พวกตนไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน“ได้สิ จะมีปัญหาได้ไง ลูกแม่จะไปตามเมียทั้งที แต่แม่ให้เวลาแค่สามเดือนนะ เพราะพ่อกับแม่วางแผนเอาไว้ว่าจะพากันไปเที่ยวรอบโลก”มารดาตอบกลับมาในทันที แต่ทว่ากลับมีเงื่อนไขที่ทำให้มาเฟียหนุ่มต้องมองบนให้กับชีวิตคู่ของบิดามารดาที่หมั่นเติมความหวานให้แก่กัน เมื่อก่อนลูเซียโน่ บิดาของเขานั้นเจ้าชู้มาก กว่าจะมาเจอกับเอวาน่าที่เป็นมารดาของเขาก็ผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับความรักที่มีต่อมารดา“อืม...ถ้าอย่างนั้นแม่กลับก่อนล่ะ ได้มาฟังจากปากลูกแบบนี
ณ โรงแรมหรูใจกลางกรุงพุดซ้อนพานางแบบทั้งสองในการจัดการดูแลของเธอเดินทางมาถึงโรงแรมหรูแห่งนี้ก่อนใครเพื่อน เพราะด้วยความเป็นนางแบบน้องใหม่ พุดซ้อนจึงอยากจะแนะนำให้คนจัดงานกับพวกช่างแต่งหน้าทำผม หรือคนในวงการนางแบบนายแบบได้รู้จักเด็กทั้งสอง อลินาที่มีรูปร่างและหน้าตาโดดเด่นได้รับความสนใจจากแขกที่มาเข้าพัก โดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่เหลียวมองเธอจนคอแทบเคล็ด“นั่นนางแบบที่มาเดินแบบในงานคืนนี้เหรอครับ” หนึ่งในผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลเครื่องเพชรในค่ำคืนนี้เอ่ยถามพนักงานต้อนรับออกมาอย่างสนใจ“น่าจะใช่ค่ะ” พนักงานสาวตอบยิ้มๆ เธอเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันเมื่อพุดซ้อนพาสองนางแบบสาวเดินไปถึงห้องแต่งหน้าแต่งตัว พวกพี่ๆ ช่างแต่งหน้าที่มาเตรียมตัวรออยู่ก่อนแล้ว ก็หันมามองสามสาวเป็นตาเดียวกัน“สวัสดีค่ะพวกพี่ๆ พุดซ้อนจากอเดลโมเดลลิ่งพาน้องๆ นางแบบมาร่วมงานในวันนี้ค่ะ” ทั้งอลินาและเมริสายกมือไหว้พี่ๆ ช่างแต่งหน้าที่มองมายังสองสาวตาแทบจะไม่กะพริบ“สวัสดีค่ะ ฮาน่าค่ะ ขอฝากตัวกับพี่ๆ ด้วยนะคะ”“สวัสดีค่ะ เมย์ค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ” สองสาวทักทายพี่ๆ ช่างแต่งหน้า พอทุกคนเรียกสติให้กลับมาได้ก็ทักทายสองสาวกลับทันที“สวัสดีจ
“น้องเมย์ก็สวยกว่าในรูปเหมือนกันจ้ะ” อิงวราหันไปชมนางแบบสาวรุ่นน้องอีกคนเช่นกัน“ขอบคุณพี่อิงค์ค่ะ แต่พี่อิงค์สวยและใจดีสมกับเป็นไอดอลของเมย์เลยค่ะ” เมริสาเอ่ยออกมาพลางยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่รุ่นพี่สาวเข้ามาทักเธอและเพื่อนก่อน โดยไม่ถือว่าตัวเองนั้นโด่งดังขนาดไหน“ขอบใจนะน้องเมย์ พี่ขอให้น้องสองคนตั้งใจทำงานนะคะ อย่าทำให้อเดลโมเดลลิ่งของเราต้องขายหน้าล่ะ” นางแบบสาวยิ้มให้รุ่นน้องทั้งสองแล้วจึงเดินไปยังห้องแต่งตัวส่วนตัวของเธอ เพราะมีชื่อเสียงจึงได้รับสิทธิพิเศษอลินานึกชื่นชมนางแบบสาวรุ่นพี่ของเธอ เพราะน้อยคนนักที่จะเป็นมิตรกับพวกเธอสองคนที่เป็นนางแบบใหม่ แต่กลับได้เลือกให้มาเดินแบบในงานการกุศลในวันนี้ แม้จะเป็นงานที่ไม่ได้เงินแต่ก็เป็นงานที่เหมือนเปิดตัวพวกเธอให้เป็นที่รู้จักในวงการน้ำหวานปรายตาไปมองนางแบบใหม่ทั้งสองด้วยแววตาหมั่นไส้ ตอนที่เธอเพิ่งจะเข้าวงการไม่เคยเลยสักครั้งที่จะได้รับเลือกให้มาเดินแบบในงานประมูลเพชรแบบนี้ ยิ่งกับอิงวราที่เพิ่งจะโด่งดังทีหลังเธอกลับได้รับเลือกให้เดินในชุดฟินาเล่ ซึ่งเป็นชุดเด่นของงานในค่ำคืนนี้และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง นางแบบและนายแบบเร
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเจ้าของร่างสูงโปร่งกำลังเยื้องย่างปะปนมากับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลังผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและรูปร่างที่เหมือนพวกนายแบบเรียกสายตาให้คนมองไปยังเขาอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มเดินนำหน้าชายสองคนที่กำลังลากกระเป๋าเดินตามเขาไปไม่ห่าง มองไปตรงจุดนัดพบก็เห็นใครบางคนที่คุ้นตากำลังยืนรอเขาอยู่ ความโดดเด่นของอีกฝ่ายทำให้เขาเจอตัวมันไม่ยาก“สวัสดี...ฮิวโก้”คนที่กำลังก้มหน้ากดสมาร์ทโฟนในมือเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยทักทายออกมาเป็นภาษาอังกฤษ“เอเดน!!!” สองหนุ่มชูมือขึ้นมาจับพร้อมกับเอาไหล่ชนกันหนึ่งที“นึกว่านายจะถึงช้ากว่านี้เสียอีก” สองผู้ติดตามของเพื่อนสนิทก้มศีรษะให้เขาเล็กน้อย ฮิวโก้จึงก้มหน้ารับการทักทายแล้วจึงหันไปคุยกับเพื่อนสนิทต่อ“นายลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันนั่งเครื่องบินส่วนตัวมา” ฮิวโก้ยิ้มแหยๆ ก่อนที่เอเดนจะชวนเพื่อนสนิทให้ออกจากสนามบินกันสักทีระหว่างที่อยู่บนรถตู้ที่ฮิวโก้นำมารับเพื่อนสนิทกับบอดี้การ์ด ทั้งคู่ก็นั่งพูดคุยกันถึงเรื่องของอลินา แต่พอเห็นป้ายโฆษณาที่ข้างทางก็ทำให้เอเดนยิ้มออกมาอย่างพอใจ“ภรรยาของฉันดูท่าจะงานรัดตัวน่า
เช้าวันต่อมาในขณะที่อลินากำลังจะออกไปทำงาน ประตูห้องฝั่งตรงข้ามก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งของฝรั่งหนุ่มผมบรอนด์ที่เธอเพิ่งเจอเขาเมื่อวาน หญิงสาวมองไปที่เขาอีกครั้งด้วยความแปลกใจ ก่อนจะนึกไปถึงตอนที่มาดูคอนโด พี่พุดซ้อนเคยบอกว่าชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นของบอสใหญ่อเดลโมเดลลิ่ง ฝรั่งคนนี้อาจจะเป็นเพื่อนของบอสใหญ่ที่มาพักผ่อนที่ประเทศไทยแล้วไม่อยากพักที่โรงแรมก็เป็นไปได้หญิงสาวปิดประตูแล้วเดินไปยังลิฟต์ที่มีเพียงตัวเดียวแล้วกดเลขชั้นล่างสุด มาเฟียหนุ่มทำทีเดินมาหยุดยืนรอลิฟต์ข้างๆ เธอเช่นกัน เขาลอบมองใบหน้าสวยแล้วอมยิ้มน้อยๆ ตอนนี้เธอยังไม่รู้ตัวว่าสามีตีทะเบียนของเธอกำลังจะมาทวงสิทธิ์ที่เป็นของเขาแล้ว“ไม่เข้าเหรอคะ”อลินาที่เดินเข้าไปข้างในลิฟต์ก่อนเอ่ยถามฝรั่งหนุ่มที่มัวแต่ยืนอมยิ้มออกมาเป็นภาษาอังกฤษ สองบอดี้การ์ดรู้งานไม่ลงไปพร้อมเจ้านาย เอเดนจึงเดินเข้าไปในลิฟต์แค่คนเดียว“แล้วคุณสองคนไม่ลงไปพร้อมกันเหรอคะ” อลินาเอ่ยถามคนที่เหลืออยู่ด้านนอกลิฟต์เป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง“อ๋อ...พอดีพวกผมลืมของ เชิญลงไปกันก่อนได้เลยครับ” บุ๊ซเป็นผู้ที่ตอบหญิงสาวออกมา เธอพยักหน้าแล้วหันไปกดเลขชั้นความเงี
การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของเอเดน วินเทอร์นั้นค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนตัว เช้านี้หลังจากได้พบภรรยาสาวและทักทายกันไปเพียงเล็กน้อยก็ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นกว่าทุกๆ วัน แต่ถึงยังไงความคิดที่จะจัดการกับคนที่บังอาจมารังแกเธอก็ไม่มีทางล้มเลิกไปได้ และวันนี้เขากำลังจะไปเยือนโมเดลลิ่งคู่แข่งที่เป็นต้นสังกัดของน้ำหวาน นางแบบสาวที่ตั้งใจเดินชนภรรยาของเขาในวันงานเดินแบบประมูลเครื่องเพชรเมื่อสัปดาห์ก่อนตึกสูงใจกลางกรุงซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทพีพีโมเดลลิ่ง บริษัทแห่งนี้ประกอบธุรกิจชนิดเดียวกับอเดลโมเดลลิ่ง เพียงแต่พีพีโมเดลลิ่งนั้นเป็นบริษัทที่ใหญ่และก่อตั้งมานานกว่า ทำให้มีทั้งดารา นางแบบ นายแบบที่มีชื่อเสียงอยู่ในสังกัดจำนวนมาก เอเดนมองออกไปจากภายในรถด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เขาให้บุ๊ซนัดพบกับประธานบริษัทก่อนที่เขาจะบินมาประเทศไทยแล้ว เพราะฉะนั้นนี่คือการมาเยือนแบบมีมารยาทที่สุดสำหรับเขาทันทีร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำลงจากรถที่จอดนิ่งอยู่ที่หน้าบริษัท สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมองมาที่ชายหนุ่ม พวกนางแบบที่เข้ามาบริษัทในวันนี้เหลียวมองเขาอย่างสนใจ เอเดนสั่งให้เกริกรออยู่ข้างล่าง ส่วนเขากับบุ๊
“แตะต้องคนที่ไม่สมควรไปแตะต้อง คนคนนั้นคือใครกันครับ” เขาทำใจกล้าเอ่ยถามออกมาเพราะอยากรู้ว่าคนที่เอเดนกำลังปกป้องนั้นคือใคร“นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ฉันแค่มามอบทางเลือกให้กับนาย ว่าจะจัดการเองหรือจะให้ฉันจัดการให้”“แล้วจะให้ผมจัดการเธออย่างไรดีล่ะครับ ที่จะทำให้คุณพอใจ”เขายังอยากเก็บนางแบบสาวไว้คั่วต่อ เพราะในวงการเธอก็ยังคงโด่งดังมีงานเข้ามาตลอดแม้ชื่อเสียงเรื่องการทำตัวไม่น่ารักจะฉาวไปทั่วทั้งวงการก็ตาม แต่วงการนี้ยิ่งฉาวก็ยิ่งมีชื่อเสียงไม่ใช่หรอกหรือ“ก็จัดการแบบที่ฉันจะไม่ได้เห็นเธอเฉิดฉายอยู่บนรันเวย์หรือตามหน้าจออีก แค่นั้น...นายทำได้ไหม คุณพี”ความหมายของเอเดนหมายถึงให้นางแบบสาวออกจากวงการไปเลย พีรวิทย์ถึงกับอึ้งเพราะนั่นถือว่าร้ายแรงต่อนางแบบสาวมากที่เพียงแค่ไปแตะต้องคนที่ไม่สมควรแตะก็ถึงกับโดนมาเฟียหนุ่มจากอเมริกาคนนี้ตามมาจัดการด้วยตัวเอง“เธอทำให้คุณไม่พอใจถึงขนาดต้องให้ออกจากวงการเลยเหรอครับ แค่ให้เธอไปขอโทษคนคนนั้นไม่ได้เหรอครับ”เขายังอดที่จะช่วยพูดให้นางแบบสาวไม่ได้ เพราะถึงเธอจะมีนิสัยกับเพื่อนร่วมอาชีพไม่ดี แต่เธอก็เป็นคนเดียวที่หาเลี้ยงครอบครัวของเธอ หากเธอไม่ได้เ
หลังจากที่ท่านประธานเรียกพบ นางแบบสาวก็รีบขึ้นไปพบเขาที่ห้องทำงานในทันที โดยคิดว่าที่เขาเรียกพบเธอคงเพราะว่าจะมีงานดีๆ มาป้อนให้กับเธออีก เป็นเพราะที่ผ่านมานั้นเธอทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ร่างระหงตามแบบฉบับของนางแบบเยื้องย่างไปยังหน้าห้องของท่านประธานอย่างน่ามอง แต่เลขาสาวอยู่หน้าห้องกลับแสดงสีหน้าไม่ค่อยดี“ระวังหน่อยนะคะน้องน้ำหวาน ท่านประธานอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ เชียวค่ะ”เธอบอกนางแบบสาวด้วยความเห็นใจ แต่คนฟังกลับไม่สะทกสะท้านเธอเคาะประตูหน้าห้องก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปภายในห้องของท่านประธานทันทีโดยไม่รอให้เขาอนุญาตก่อนสายตาคมจ้องมองเรือนร่างที่เขารู้ดีว่าภายในนั้นงดงามและเร่าร้อนถึงเพียงใด แต่ทว่าไม่ใช่กับเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างตอนนี้ ร่างระหงเยื้องย่างมาทำท่าจะนั่งลงบนตักหนาของเขาแต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเท้า“คุณน้ำหวาน!!! คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณทำอะไรลงไป” เสียงเข้มดังขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวสะดุ้งและนั่งลงข้างๆ เขาแทนตักหนาที่เล็งเอาไว้แต่แรก“อุ๊ย!!! ตกใจหมด ท่านประธานมีเรื่องโมโหอะไรอีกคะ น้ำหวานไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้เลยนะ” นางแบบสาวอุทานอ
เมื่อรถตู้คันหรูไปถึงหน้าเพ้นส์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อลินาถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของสามี เพราะคนที่จะมีเพ้นส์เฮ้าส์ในพื้นที่กว้างขนาดนี้ในเมืองชิคาโก้ได้ย่อมเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควร“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูฮาน่า” มาดามเอวาน่ารีบออกมาทักทายต้อนรับลูกสะใภ้คนเล็ก“นี่แม่ผมเอง มาดามเอวาน่า” เอเดนกระซิบบอกภรรยา อลินาจึงเดินเข้าไปจับมือทักทายและสวมกอดกับแม่ของสามี“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ”“เรียกแม่สิลูก ต่อไปนี้หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ ถ้าเอเดนรังแกหนูหรือทำตัวไม่ดีกับหนูบอกแม่ได้เลย แม่จะจัดการให้” มาดามเอวาน่ายิ้มออกมาอย่างพอใจพลางให้ท้ายลูกสะใภ้คนสวย“แม่... นี่ผมลูกแม่นะ”มาเฟียหนุ่มทักท้วงก่อนที่สองสาวต่างวัยจะจับจูงพากันเดินเข้าไปนั่งภายในห้องรับแขกของเพ้นส์เฮ้าส์โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก เอเดนหันไปมองหน้าบุ๊ซกับเกริก สองหนุ่มพยายามกลั้นขำพลางส่ายหน้าไปมา“ไม่ทันไรแม่ฉันก็ยึดเมียฉันซะแล้ว” เขาบ่นออกมาก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวตามสองสาวเข้าไปภายในเพ้นส์เฮ้าส์ของตนอลินาได้รับการต้อนรับจากครอบครัววินเทอร์เป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่สามีและพี่ชายทั้งสองของสามีปฏิบัติกับเธอราวกับเจ้าหญิง หลั
เช้าวันต่อมาอลินาและเอเดนก็ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลวินเทอร์ ฮิวโก้ เมริสา เจ๊ลูซี่ และพุดซ้อนได้เดินทางมาส่งทั้งสองขึ้นเครื่อง ความสัมพันธ์ของเมริสากับฮิวโก้ได้พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครในบริษัทรู้ แต่อลินานั้นรู้ดีว่าทั้งเพื่อนและเจ้านายกำลังปลูกต้นรักกัน“ขอให้หนูโชคดีนะคะน้องฮาน่า ดีใจที่ได้พบเจอและได้ร่วมงานกัน” เจ๊ลูซี่เอ่ยลาอดีตนางแบบสาวที่เธอเอ็นดูและมองว่าอนาคตก็คงจะไปได้ไกลกว่านี้หากเธอยังไม่มีพันธะอะไร“พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลฮาน่า ขอบคุณที่เป็นเด็กที่น่ารักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับมาเที่ยวหากันบ่อยๆ นะจ๊ะ” พุดซ้อนเอ่ยน้ำตาซึม แม้จะเป็นเวลาไม่นานที่ได้ดูแลเด็กสาวในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แต่ความผูกพันกลับมีให้อีกฝ่ายไม่น้อย“ขอบคุณพี่ลูซี่และพี่พุดซ้อนมากๆ เลยนะคะที่ใจดีกับฮาน่ามาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน ฮาน่าจะไม่มีวันลืมพวกพี่และจะกลับมาเที่ยวหาบ่อยๆ ค่ะ” สามสาวต่างวัยเข้าสวมกอดลากันก่อนที่จะผละออกจากกัน อลินาจึงหันไปกอดลาเพื่อนสนิทบ้าง“เมย์ขอให้ฮาน่ามีความสุขในชีวิตคู่นะ ขอให้ทั้งสองรักกันไปนานๆ ถ้าเป็นไปได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกทีเ
หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็พากันไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก่อนที่จะได้ไปดำน้ำดูปะการังตามแผนการที่วางเอาไว้ ทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและพนักงานอยู่ไม่น้อยเพราะเพิ่งจะมีข่าวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นบอดี้การ์ดสองคนของมาเฟียหนุ่มก็ดูหล่อเหลาน่าสนใจไม่แพ้กัน“ดูท่าทางบุ๊ซกับเกริกจะได้สาวไทยเป็นแฟนแล้วล่ะ” อลินาเอ่ยออกมาขณะมองไปยังสองหนุ่มที่มีสาวๆ เข้ามาทักทาย“เจ้าสองคนนั้นเห็นหน้าตานิ่งๆ แบบนี้สาวๆ ชอบยิ่งกว่าผมอีกนะ” เอเดนบอกภรรยาก่อนที่จะตักไข่ม้วนในจานใส่ปาก“ไม่จริงมั้งคะ ฮาน่าว่าคุณหล่อกว่าพวกเขาอีก”อลินากระซิบบอกก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา ได้ยินคนอื่นชมมาก็ตั้งมากมายกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมาได้ยินภรรยาชมเท่านั้นมาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการ มือหนาวางมีดและส้อมลงพร้อมเอ่ยถามเธอออกมา“เราไม่ไปดำน้ำแล้วดีไหมที่รัก”“ทำไมคะ เราจองไว้แล้วนี่คะ” อลินาละสายตาจากจานอาหารตรงหน้าแล้วมองใบหน้าของสามี“ก็คุณทำให้ผมอยากจะพาคุณกลับขึ้นห้องไปทำอย่างอื่นแทนการไปดำน้ำน่ะสิ”เขาตอบเธอยิ้มๆ หญิงสาวจึงส่งค้อนน้อยๆ ไปให้สามี ภาพของสองสามีภรรยาหยอกล้อพูดคุยกั
ภาพความงดงามของท้องทะเลในยามที่พระอาทิตย์ตกดิน ทำให้จิตใจที่เหนื่อยล้าของใครหลายๆ คนรู้สึกผ่อนคลาย ในอ่างน้ำจากุซซี่ภายในห้องพักสุดหรูที่ทอดยาวออกไปทางทะเล มีร่างสูงใหญ่ผิวขาวเนียนนั่งพิงอ่างอยู่ด้านหน้ามีร่างระหงในชุดว่ายน้ำทูพีชสีดำสุดเซ็กซี่นั่งพิงแผงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาอยู่ มือหนาลูบไล้ไปมาบริเวณหัวไหล่ขาวเนียนก่อนที่เขาจะก้มลงจุมพิตบนไหล่งาม“อืม.... หอมจัง”“ดะ...เดลคะ เราอยู่ข้างนอกห้องนะ คุณคงไม่ได้คิดกำลังทำเรื่องอย่างว่าใช่ไหม” ถึงแม้ที่พักแห่งนี้จะดูเหมือนมีความเป็นส่วนตัว แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ กันไว้ก็ดีกว่าแก้ไม่ใช่หรอกหรือ“หึๆ คุณลืมไปแล้วเหรอที่รัก... ว่าผมไม่ใช่คนที่จะมาล้อเล่นด้วยง่ายๆ น่ะ ไม่ต้องกังวลนะไม่มีใครกล้ามาแตะต้องเราหรอก” คำพูดของเขาทำเอาคนเป็นภรรยาอย่างเธอรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้ต่อความให้ยืดยาว มือหนาของสามีก็ดึงกระตุกปลดสายบราบิกินีตัวจิ๋วของเธอออกเสียแล้ว“ว๊าย!!!”อลินาอุทานออกมาพลางยกมือขึ้นมาปิดบังเต้างามทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะถูกฝ่ามือหนาของสามีจับปลายคางของเธอให้หันมารับจูบที่แสนวาบหวาม จนร่างกายรู้สึกอ่อนระทวยให้อ้
ภายในสตูดิโอถ่ายภาพของบริษัทอเดลโมเดลลิ่งมีบรรดานายแบบและนางแบบกำลังนั่งรอถ่ายภาพกันอยู่ เมื่ออลินาเดินเข้าไปก็เรียกสายตาจากทุกคนและความเงียบก็เกิดขึ้นในทันที แต่แล้วรอยยิ้มต้อนรับก็ปรากฏบนใบหน้าของทุกคน“สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน วันนี้ฮาน่าจะมาลา” หญิงสาวยกมือไหว้พลางเอ่ยออกมา“สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ น้องฮาน่า” ทุกคนทักทายหญิงสาวกลับ"น่าเสียดายที่น้องฮาน่าตัดสินใจลาวงการ พี่ว่าเธอยังดังได้กว่านี้อีกนะ” อินทัชบอกกับหญิงสาวขึ้นมาเป็นคนแรก“นั่นสิ พี่ก็คิดแบบนั้น คุณเอเดนไม่ได้บังคับน้องฮาน่าใช่ไหมคะ” อิงค์ อิงวรากระซิบถามเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าสวยเฉี่ยวของอลินาได้เป็นอย่างดี เธอส่ายหน้าไปมาเบาๆ แทนคำตอบ“พี่อิงค์ มองข้ามเรื่องถูกบังคับไปได้เลยค่ะ เพราะคุณเอเดนทั้งรักและตามใจฮาน่าจะตายไป” เพื่อนสนิทอย่างเมริสาตอบแทน อลินารู้สึกเขินจนหน้าแดง ที่เพื่อนของเธอพูดนั้นไม่ผิดนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง“พวกพี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะน้องฮาน่า กลับมาเที่ยวหาพวกเราบ้างนะ” บรรดาพี่ๆ พนักงานในบริษัทเอ่ยออกมา“ค่ะ เดี๋ยวฮาน่าจะบินมาเยี่ยมบ่อยๆ”อลินายิ้มออกมาทั้งน้ำตา เพียงเวลาไม่กี่เดือนท
ข่าวการลาวงการของนางแบบสาวดาวรุ่งเรียกความสนจากแฟนๆ ที่ติดตามเธอทั่วทั้งประเทศ ต่างพากันรู้สึกเสียดายที่ต่อไปจะไม่มีโอกาสได้เห็นนางแบบสาวก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แต่หลายๆ คนก็รู้สึกยินดีที่ได้รับรู้ว่าหญิงสาวได้พบกับผู้ชายที่เธอรักและรักเธอจนได้ตัดสินใจกลับไปแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน“เจ๊ลูซี่ นี่มันเรื่องจริงเหรอคะที่ว่าสามีของน้องฮาน่าเป็นมาเฟียน่ะ”ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวของอิงวราเอ่ยถามเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะที่ผ่านมาเธอนั้นไม่ได้ญาติดีกับเด็กสาวมากนัก เพราะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเด็กเส้นที่เข้าวงการโดยไม่ต้องพยายามอะไร“จริงสิยะ อีกอย่างตอนนี้เธอก็ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่สองรองจากท่านประธานแล้วด้วย เพราะสามีของเธอก็คือเพื่อนสนิทของท่านประธานที่ได้ร่วมทุนกันก่อตั้งบริษัทนี้มา"บรรดาผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบในบริษัทต่างพากันตกตะลึง จากที่เมื่อวาน อลินานั้นยังเป็นแค่เพียงนางแบบสาวดาวรุ่งธรรมดา วันนี้กลับกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นที่มีมากเป็นลำดับสองของหุ้นทั้งหมด“น้องก็ไม่เคยปิดนะว่าน้องมีสามีแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านั้นน้องยังไม่เคยเจอกับสามีมาก่อนก็เท่านั
เขานั่งไขว่ห้างมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าสายตาของพวกผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ต่างมองภรรยาของเขาด้วยสายตาที่แสดงออกว่าสนใจในตัวเธอ จนทำให้เขาอยากจะสั่งให้ลูกน้องไปควักลูกตาคนพวกนั้นแล้วเอาไปโยนให้สิงโตในกรงที่พ่อของเขาเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ไม่ได้มีเพียงอลินาเท่านั้นที่ได้รับความสนใจจากสายตาของหนุ่มๆ ภายในงาน เพราะเอเดนเองก็เป็นจุดสนใจของบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกนางแบบด้วยกันที่ไม่รู้จักฝรั่งหนุ่ม“อุ๊ย!!! ฝรั่งคนนั้นที่เคยไปที่บริษัทเราใช่ไหมอะ” นางแบบสาวคนหนึ่งในสังกัดของพีพีโมเดลลิ่งเอ่ยถามเพื่อนนางแบบด้วยกันขึ้นมา“อืมใช่... ว่าแต่เขามาดูใครอะ”อลินาเหลือบมองตามสายตาของสองสาวไปก็พบว่าสามีนั่งอยู่ในกลุ่มของผู้ร่วมงาน และเป็นฝรั่งในบทสนทนาของสองสาว หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัยว่าสามีไปที่บริษัทพีพีโมเดลลิ่งทำไม และไปตอนไหนกัน“นายครับ ดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ได้แล้วครับ”ดอกกุหลาบสีแดงช่อโตถูกส่งมาจากมือหนาของบอดี้การ์ดหนุ่ม เอเดนรับมาสายตาคมจ้องมองไปยังด้านหลังของเวที ที่มีบรรดานางแบบยืนมองมาทางเขาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าสายตาคมกลับมองผ่านสองนางแบบสาวด้านหน้าไปยังร่างระหงของภรรยาท
หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกือบจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของตัวเอง แทนนางแบบสาวรุ่นพี่ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่เพียงข้ามคืน อลินาก็ได้กลับมาขบคิดถึงเส้นทางชีวิตของเธอในหน้าที่การงานในวันข้างหน้า การเป็นนางแบบไม่ใช่อาชีพที่เธอใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ที่ทำเพียงเพราะอยากจะใช้เวลาว่างตอนที่อยู่ประเทศไทยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน บางทีหากเธอไม่มาทำงานตรงนี้ คนอื่นที่มีความฝันอยากจะทำอาชีพนี้อาจจะมีโอกาสก็ได้“ที่รัก คุณกำลังคิดอะไรอยู่หืม....” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เขากำลังนอนกอดเธออยู่จากทางด้านหลัง“เดลคะ งานของคุณอันตรายมากใช่ไหมคะ” มือบางยกขึ้นมาลูบท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรัดช่วงเอวขอดของเธออยู่“อืม... ก็เป็นเรื่องปกติของพวกเรา มันก็มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย” เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ รับไม่ได้ที่มีสามีทำอาชีพที่อันตราย“ถ้าฮาน่าบอกว่า ฮาน่าอยากจะอยู่เคียงข้างคุณ ฮาน่าทำแบบนั้นได้ใช่ไหมคะ”“แน่นอนสิ คุณเป็นภรรยาของผม และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ผมรัก” เขาพลิกร่างบางให้หันกลับมาก่อนที่จะค่อมร่างงามของเธอเอาไว้“เรา...มามีลูก มีหลานให้พ่อกับแม่กันดีไหม
น้ำหวาน : ฮัลโหลเกรซ : พี่น้ำหวาน นี่เกรซเองค่ะน้ำหวาน : อือ... ว่าไงเกรซเกรซ : ที่พี่เคยเตือนเกรซ พี่รู้มาก่อนแล้วใช่ไหมว่ายัยนั่นมีคนคอยสนับสนุนเธออยู่น้ำหวาน : ใช่สิ พี่ถึงได้เตือนเธอไง... แต่ดูท่าทางคงจะไม่ฟังสินะ ถึงได้เกิดเรื่องขึ้นมาเกรซ : เอ๊ะ!!! พี่น้ำหวาน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะน้ำหวาน : เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกนะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นซะ พี่บอกเธอได้แค่นี้ โชคดีนะเกรซ...ปลายสายวางไปหลังพูดจบ อดีตนางแบบสาวน้ำตาไหลพรากเพราะคิดว่าสิ่งที่สร้างมาต้องพังพินาศเพียงเพราะความอิจฉาริษยาอีกฝ่าย ถึงว่าพี่น้ำหวานถึงได้เลิกเกลียดชังอีกฝ่าย เพราะว่าเธอไม่อยากมีจุดจบแบบนี้นี่เองและข่าวเกี่ยวกับบริษัทจิวเวลลี่ของตระกูลไฮโซลักกำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็อาจจะเป็นเพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางแบบสาวคนนั้นก็ได้“กรี๊ด!!!! ฮือๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”เกรซกรีดร้องทรุดลงกับพื้นและปล่อยโฮทันที เห็นทีประเทศนี้คงจะไม่มีที่ให้เธอยืนอีกต่อไปแล้ว อดีตนางแบบสาวหยุดร้องไห้ฟูมฟายและตัดสินใจค้นหาของแบรนด์เนมของตนที่มีอยู่ภายในห้อง เพื่อเอา