“แล้วกัน เลยมอมทั้งคนทั้งหมาเลย รองเท้าก็ขาดหมดแล้ว เฮ้อ! นังหมาจอมแสบนี่” แม่ของสองสาวหันรีหันขวางหาไม้เรียว “รองเท้าที่บ้านมันก็กัดจนเกลี้ยงแทบไม่มีใส่กันแล้ว ยังจะไปขโมยรองเท้าชาวบ้านอีก นังเมรีไปเอาไม้เรียวมาที”
“ไม้เรียวก็อยู่ในมือพี่รจนั่นไงแม่”
“แล้วนี่จะทำยังไง พ่อสาธุเขาจะใส่อะไรล่ะนั่น”
“เดี๋ยวหนูไปซื้อรองเท้าแตะที่ร้านป้าสายหยุดให้ก่อนก็ได้แม่ คุณรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” ในฐานะเจ้าของหมา รจนาจะทำอะไรได้นอกจากรับผิดชอบแทน
“คุณรู้ไซซ์ผมแล้วเหรอ”
“หา! ไซซ์ ไซซ์อะไร” หญิงสาวงุนงง
“อ้าว ก็คุณจะไปซื้อรองเท้าให้ผมน่ะ รู้ไซซ์เท้าผมแล้วหรือไง”
“อ๋อ...งั้นคุณใส่ไซซ์อะไรล่ะคะ แล้วสีล่ะ เอาสีเดิมไหม” ปากพูดแต่ตามองสีรองเท้าที่เก่าคร่ำคร่าจนดูไม่ออกว่ามันเป็นสีอะไร
“ว่าแต่สีเดิมของคุณนี่มันสีอะไร”
เจ้าของรองเท้ากลั้นขำ เก๊กหน้าขรึมใส่แม่สาวแปลกหน้า
“เดี๋ยวผมไปด้วยดีกว่า จะได้ลองใส่ด้วยว่าพอดีเท้าไหม”
รจนามัวแต่มองหน้ามอมๆ ของคนพูด จึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าพ่อแม่และน้องสาวของเธอที่หันไปมองสบตากันอย่างแปลกใจ
“โอเคค่ะ เอางั้นก็ได้ งั้นเดี๋ยวรจมานะแม่”
“ใจคอจะไปกันทั้งแบบนั้นน่ะเรอะ มีหวังชาวบ้านแตกตื่นหมด” นางสีดากระเซ้าขำๆ ทำให้รจนาเพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้สารรูปทั้งเขาและเธอนั้นมอมด้วยขี้โคลนไม่ต่างจากหมาเลย โดยเฉพาะชายหนุ่มที่ทุกอณูมีแต่ดินโคลนจากท้องร่องเห็นแต่ลูกกะตา
“พ่อสาธุแหน่ะ เข้าไปล้างหน้าล้างตาในบ้านน้าก่อน หรือจะอาบน้ำด้วยก็ได้นะเดี๋ยวน้าหาผ้าผ่อนให้ใส่ไปก่อน”
“นั่นสิพี่สาธุ”
“ผมกลับไปอาบที่บ้านดีกว่าครับ เกรงใจ”
“มาเกรงใจอะไรกัน ไปๆ เจ้ารจแน่ะพาพี่เขาไปจะอาบในห้องน้ำหรือโอ่งข้างนอกก็ตามสบาย ยัยเมรีตามแม่เข้าไปเอาเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวให้พี่เขาหน่อยไป๊”
“หนูอีกแล้วเหรอแม่” เจเนรัลเบ๊ประจำบ้านโอด แต่ก็ยอมทำตามเมื่อรู้ใจว่าแม่ต้องการสิ่งใด
รจนาแอบถลึงตาใส่มารดากับน้องสาว แต่พอคิดว่าต้นเหตุที่เขามอมม่อกเป็นเพราะอะไร เธอก็จำต้องก้มหน้ารับกรรม
“ว่าไงล่ะคุณ จะอาบข้างนอกหรือข้างในดี”
ชายหนุ่มก้มมองสภาพตัวเอง ก่อนเงยหน้าสบตาคนถามอย่างจนใจ
“ข้างนอกแล้วกันคุณ ตัวสกปรกแบบนี้ไปอาบในบ้านจะเลอะเทอะกันเสียเปล่าๆ”
รจนาพนักหน้า พาเดินนำทางชายหนุ่มไปที่โอ่งน้ำที่ตั้งอยู่ข้างหลังบ้าน เมรีหายไปไม่นานก็วิ่งออกมาพร้อมเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำง่ายๆ มายื่นให้
“หนูช่วยอาบไหมพี่สาธุ”
“ยัยเมรี!” รจนาหวดน้องสาวจอมแก่แดด
“โอ๊ย! มาตีน้องทำไมเนี่ย หรือพี่รจจะช่วยอาบให้พี่สาธุเองล่ะ”
รจนาวางหน้าไม่ถูก มันใช่เรื่องหรือที่จะให้สาวโสดอย่างเธอมาอาบน้ำให้ผู้ชายแปลกหน้า
“คุณอาบเองได้ใช่ไหม”
“ถ้าตอบว่าไม่ใช่ คุณจะอาบให้ผมไหมล่ะ” คำตอบยียวนไม่เท่าลูกตาวิบวับที่มองมา
“ฝันไปเถอะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี่ โตป่านนี้แล้วก็อาบเองแล้วกัน ฉันจะไปอาบให้เจ้าเอริดีกว่า ไปเมรี จะยืนดูเขาอาบน้ำหรือไงล่ะ”
“หื้อ...ฉันดูได้เหรอพี่” รจนาสูดหายใจเข้าปอด พลางลากคอน้องสาวตัวป่วนออกไปก่อนจะทำให้เธอขายขี้หน้ามากกว่านี้
โดยสองพี่น้องไม่ทันเห็นสายตาที่มองตามหลัง พร้อมรอยยิ้มมุมปากอย่างขบขัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดเสื้อผ้าที่เลอะโคลนออกเผยให้เห็นรูปสุวรรณชั้นใน แล้วหันไปคว้าผ้าขาวม้าที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ให้มาพันท่อนล่างอย่างคล่องแคล่ว ก่อนอาบน้ำล้างคราบโคลนออกจากตัวจนหมดจด
หากทว่าตอนที่อาบเสร็จ เขาก็ยื่นมือหมายจะไปหยิบผ้าเช็ดตัวนี่สิ
“อ้าว! ผ้าเช็ดตัวหายไปไหนล่ะ” สาธุคุณแปลกใจ เมื่อกี้เขายังเห็นลูกสาวเจ้าของบ้านเอาผ้าเช็ดตัวมาวางไว้ให้พร้อมเสื้อผ้าและผ้าขาวม้าอยู่นี่นา ชายหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวาก็พลันเห็นชายผ้าขนหนูสีน้ำเงินลากผ่านไปทางพุ่มไม้หน้าบ้านไวๆ ก็ร้องลั่น
“เฮ้ย! นั่นแกจะเอาไปไหน เอาคืนมานะ”
ไวเท่าใจคิด ชายหนุ่มรีบกระโจนตามเจ้าหมาบีเกิ้ลจอมแสบ โดยไม่ทันเห็นว่ามีใครโผล่มาจากมุมบ้านเพราะได้ยินเสียงเอะอะของเขา จนกระทั่ง...
“ว้าย!”
รจนาผงะเสียหลักจะหงายหลัง หากชายหนุ่มมือไวทายาดรีบคว้าตัวเธอไว้แต่เขาดันกะแรงพลาด ทำให้ร่างเล็กกว่าล้มทับลงมาบนตัวเขาเต็มๆ เสียนี่
“เฮ้ย!”
“โอย...” รจนาครวญคราง วันนี้เธอจับกบไปกี่รอบแล้วนี่ คราวนี้กบตัวใหญ่เสียด้วย หญิงสาวยันแขนจะลุกขึ้นแต่คราวนี้คนที่อยู่ใต้ร่างกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือซ้ำยังดึงตัวเธอไว้แนบกายเปียกโชกแน่น
“เอ๊ะ! คุณมากอดฉันทำไมลุกซักทีสิ ฉันเปียกหมดแล้วเนี่ย”
“อยู่เฉยๆ ก่อน ผมลุกตอนนี้ไม่ได้” เสียงห้าวๆ ปนหอบเพราะวิ่งมาฟังแล้วทำให้แก้มสาวร้อนวาบแปลกๆ พอจะขยับตัวก็สำเหนียกถึงวัตถุแปลกปลอมบางอย่างที่ดุนดันตรงหน้าท้อง ทั้งน่ารำคาญและชวนอึดอัดเธอจึงเอื้อมมือลงไปหมายจะจับออก
“โอ๊ะ! นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง