‘สังข์ทองลูกแม่ งามแท้พ่อคุณ...’
เสียงทีวีดิจิตอลขนาดหน้าจอสี่สิบนิ้วแผดโหยหวนลั่นบ้าน ทำให้คนที่กำลังนอนฝันหวานต้องรีบยกหมอนปิดหูทันใด มิไยว่าเสียงเพลงละครจักร์ๆ วงศ์ๆ ยอดฮิตก็ยังคงหลอนหูอย่างต่อเนื่อง
เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบตีสาม หลับไม่ทันอิ่มก็เจอนาฬิกาปลุกที่ชื่อพระสังข์ของแม่ปลุกแต่ไก่โห่อีก
“โอ๊ย...แม่นะแม่! เปิดทีวีเผื่อข้างบ้านหรือไงเนี่ย”
คนที่ชื่อเหมือนเมียพระสังข์ลุกพรวดจากที่นอนอย่างเหลืออด หมดกันเช้าตรู่อันแสนสงบ
รจนายีผมจนฟูยุ่งเหยิงระบายความหงุดหงิด การอยู่เมืองกรุงตัวคนเดียวมากว่าสิบปีทำให้เธอรู้สึกมีอิสระ และเมื่อต้องกลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวที่บ้านต่างจังหวัดแบบนี้มันก็ทำให้รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่
หากจะถามว่าแล้วเธอจะกลับมาทำอะไรน่ะเหรอ
เหตุผลก็เพราะเธอสู้ค่าครองชีพของเมืองกรุงไม่ไหวน่ะสิ ค่าข้าวปลาอาหารต้องกินทุกวันมื้อหนึ่งอย่างประหยัดสุดๆ ก็ต้องมีในกระเป๋าไม่ต่ำกว่าร้อยแล้ว นี่ไม่นับมื้อที่อยากกินฟุ่มเฟือยบ้าง หมูกะทะ ชาบู ปิ้งย่างเอย ไหนจะค่าที่พักที่เช่ารายเดือนรวมค่าน้ำค่าไฟไม่ต่ำกว่าเดือนละสี่ซ้าห้าพันอีกล่ะ ไหนจะค่ารถ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าเนต ยังไม่นับค่าเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอางและข้าวของฟุ่มเฟือยที่ต้องจ่ายอีกเท่าไหร่ ถึงรจนาจะไม่ค่อยบ้าของแบรนด์เนมอะไรมากมายเท่ายัยดาต้าก็เถอะ แต่เธอก็ต้องมีไว้ใช้สอยเท่าที่คิดว่าจำเป็นไม่ให้ใครดูถูกได้ก็เท่านั้น
ทุกอย่างที่ว่ามานั่นหากมีงานการทำมีเงินเดือนใช้เหมือนเดิมก็แล้วไปเถอะ เธอยังสามารถประคองตัวถูๆ ไถๆ เอาตัวรอดไปเป็นเดือนๆ ได้อยู่
แต่นี่ดันมาตกงานหางานใหม่ก็ยากอีก แถมโดนสกัดดาวรุ่งโดยอดีตหัวหน้าเก่าที่แค้นฝังหุ่น กับบริษัทเฮงซวยที่ฟังแต่คนมีตำแหน่งใหญ่กว่านั่นไปล็อบบี้บริษัทอื่นๆ ในเครือและที่มีคอนเนคชั่น จนทำให้ไม่มีบริษัทไหนกล้ารับคนมีประวัติจระเข้ฟาดหางใส่หัวหน้าจนคอเกือบหักต้องเข้าเฝือกคออยู่เป็นเดือนๆ คิดแล้วมันก็น่าโมโห แต่ที่น่าโมโหยิ่งกว่าการโดนไล่ออกแบบไม่ยุติธรรมนั่นก็คือ...
การถูกสวมเขาทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานต่างหากที่ทำให้เธอตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ากลับมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่
รจนาทุ่มตัวนอนก่ายหน้าผากมองเพดาน พลางย้อนคิดถึงเหตุการณ์นรกแตกในวันนั้นขึ้นมาอีกหน
หลังจากเกิดเรื่องจนต้องขึ้นโรงพัก คนแรกที่เธอนึกถึงก็คือ ‘จักริน’ แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมาหลายปี แต่ทว่าโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติดเหมือนอีกฝ่ายจะแก้แค้นที่เธอผิดนัดเขาหลายรอบโดยเฉพาะวันนั้นที่เป็นวันเกิดเขาแต่ดันมาเกิดเรื่องเสียก่อน
แต่มันใช่เวลาไหม
เมื่อโทรหาตัวช่วยไม่ได้เธอก็ต้องช่วยเหลือตัวเองจนเอาตัวรอดผ่านพ้นสถานการณ์บัดซบนั่นมาได้ด้วยสมองและสองมือที่รอบคอบเพราะเสพซีรีส์มาเยอะ เลยแอบอัดเสียงตอนคุยกับผู้จัดการหัวงูนั่นมาเป็นหลักฐาน หาไม่เธอคงโดนจับเข้าไปนอนตบยุงในคุกเล่นสักคืนสองคืนแล้ว
แทนที่จะกลับที่พักเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน เธอยังอุตส่าห์ถ่อสังขารไปหาแฟนหนุ่มถึงคอนโดเพราะเป็นห่วงบวกรู้สึกผิดที่กลับไปฉลองวันเกิดด้วยไม่ทัน อย่างน้อยมีคนให้อ้อนให้ปลอบใจกันบ้างก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียว
โดยไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับความซวยบัดซบดอกที่สอง
‘มาหาใครคะ’
รจนามองหญิงสาวที่เปิดประตูออกมาจากห้องแฟนหนุ่มอย่างงุนงง
‘คุณเป็นใคร’ สายตาเธอกวาดมองคนตรงหน้าก่อนมาหยุดที่หน้าท้องนูนๆ ของอีกฝ่าย
‘ใครมาน่ะที่รัก...’ เสียงนั้นทำให้หัวใจเหี่ยวๆ ของเธอตกไปอยู่ที่ตาตุ่มอีกรอบ เมื่อใบหน้าระรื่นคุ้นตาของจักรินโผล่ออกมาแต่พอเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง ใบหน้าคมคายนั่นก็ถอดสีราวกับเห็นผี
‘รจ! คุณมาทำไม’
นั่นมันใช่คำถามที่ควรถามแฟนหรือไงวะ
‘ผู้หญิงคนนี้ใครคะพี่จักร’
‘แล้วเธอล่ะเป็นใคร มาทำอะไรในห้องแฟนฉัน’ รจนาย้อนถามกลับ เธอจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนในตอนนั้น แต่กลับจำความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่โดนหักหลังได้แม่นทีเดียว
‘แฟนเหรอ...ฉันต่างหากที่เป็นเมียพี่จักร เห็นนี่ไหม’ ฝ่ายนั้นชี้ที่พุงป่องๆ ‘เรากำลังจะมีลูกกัน’
‘ใบเฟิร์นจ๋า เข้าห้องไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่คุยเอง’
‘อ้อ...ชื่อใบเฟิร์นนี่เอง ฉันจำได้แล้ว ที่คราวก่อนโทรเข้ามาตอนเราอยู่ด้วยกัน แล้วพี่บอกเป็นน้องที่ทำงานที่หน้าด้านมาตามตื้อจีบพี่แต่พี่ไม่เล่นด้วยใช่ไหม แล้วนี่คืออะไร ตื้อกันท่าไหนถึงป่องกลางแบบนี้’
‘ใจเย็นๆ ก่อนรจ ค่อยพูดค่อยจากันดีๆ ก็ได้’
สีหน้าคนพูดดูไม่ได้รู้สึกผิดเท่าที่ควร นั่นยิ่งทำให้คนที่เจอเรื่องเฮงซวยมาทั้งวันอย่างรจนายิ่งปรี๊ดแตก
‘ใจเย็นกับผีสิ โดนแฟนเฮงซวยสวมเขาให้ ลูกในท้องนั่นกี่เดือนแล้วล่ะ พี่จะรอให้เด็กมันคลอดออกมาวิ่งได้ก่อนหรือไงถึงจะบอกรจ หรือคิดจะคบซ้อนมีโลกสองใบงี้ ไอ้ชั่วเอ๊ย...’
‘อ้อ! นี่มันความผิดของพี่คนเดียวหรือไง’ จักรินโต้กลับหน้าดำหน้าแดง ‘ที่ผ่านมามันเพราะใครกันแน่ที่เอาแต่หวงเนื้อหวงตัวอย่างกับไม่ใช่คนเป็นแฟนกัน จนทำให้พี่ต้องไปมีคนอื่น...’
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง