“เอ่อ เจ้านายครับ เจ้านาย ถึงโรงแรมแล้วครับ” โทนี่เปิดประตูรถลงมาเรียกเจ้านายที่เบาะโดยสารหลังรถอย่างเกรงอกเกรงใจเนื่องจากเขาเรียกมาสักพักแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้านายมาดเข้มของเขาจะตื่นจากนิทรา ออกจากบ้านมาก็หลับทันที เห็นทุกทีที่ออกจากบ้านต้องคอยเช็คข่าว และตารางงานที่จะต้องทำในวันนี้ตลอด สงสัยจะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้วันนี้เจ้านายเข้ามาโรงแรมสายกว่าปกติมากโข
ภาคภูมิ พิชญะสกุล หนุ่มรูปหล่อบ้านรวย ผู้กุมบังเหียนใหญ่คนปัจจุบันของโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ Paradise ที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศ เขามีพร้อมทั้งฐานะและหน้าตาเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาครอบครองสี่ห้องหัวใจของเขาได้เมื่อถึงเวลาเขาก็คงจะเจอคนที่หัวใจต้องการเอง เขาจึงไม่อยากคบใครฆ่าเวลา แค่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ตามธรรมชาติของผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่มีข้อผูกมัดจะดีกว่าเพื่อรอใครบางคนที่จะมาดูแลหัวใจของเขาในอนาคต ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและจะมีจริงหรือไม่ “อือ รู้แล้ว แกจะตะโกนทำไมวะโทนี่ ฉันแค่พักสายตาไม่ได้หลับลึกขนาดนั้น” เสียงเข้มเอ่ยเสียงขุ่นกับเลขาพ่วงตำแหน่งลูกน้องคนสนิทก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถคันหรูพาร่างกายสมบูรณ์แบบเดินเข้าไปในโรงแรม “นี่ฉันผิดเหรอวะจอห์นแล้วฉันก็ไม่ได้ตะโกนด้วยนะเว้ย แกก็ได้ยิน” โทนี่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กกับจอห์นที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่ “ยังไม่ชินอีกเหรอวะ ไปเถอะ เจ้านายเดินไปโน่นแล้ว” จอห์นว่าก่อนจะลากคอโทนี่ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเดินตามเจ้านายไป “สวัสดีครับบอส/สวัสดีค่ะบอส” เมื่อเห็นว่าเจ้านายรูปหล่อเข้ามาในโรงแรมเหล่าพนักงานต่างทำความเคารพเจ้านายหนุ่มไปตลอดทาง เขาทำเพียงแค่พยักหน้าตอบและยิ้มน้อยๆ ให้กับลูกน้องของตนก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร แต่แล้วสายตาก็พลันไปสะดุดที่สาวน้อยหน้าหวานแต่แอบเซ็กซี่ในชุดนักศึกษาที่ล็อบบี้ของโรงแรมซึ่งกำลังคุยอย่างออกรสกับชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเขามั่นใจว่าเมื่อตอนเขาเข้ามาไม่เห็นหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเท่าที่ควร เมื่อเท้าไวเท่าความคิดเขาก็พาร่างกายของตัวเองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ทันทีทำให้โทนี่กับจอห์นที่ตามหลังมารีบเดินตามเจ้านายไป คนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นไม่ได้สังเกตรอบตัวว่ากำลังมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาดีเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ และมาหยุดยืนอยู่ตรงด้านหลังสาวน้อยหน้าสวย “ไอภาค” ธีรเดชที่เงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง พอรู้ว่าเป็นใครก็ร้องเรียก แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่ายืนเหม่ออะไรอยู่ ท่าทางเลื่อนลอยอย่างกับคนบ้า ตานี่เยิ้มเชียว หันสบตากับลูกน้องมันลูกน้องมันก็ได้แต่ส่ายหัวกันไปมา ทนไม่ไหวเขาเลยต้องลุกไปหาแล้วตบหน้าดัง เผียะ! “ไอ้ทรพีมือหรือตีนวะตบมาได้นะมึง” ภาคภูมิถึงกับสะดุ้งลูบหน้าตัวเองที่ตอนนี้เขาคิดว่ามันคงแดงแน่ๆ เพราะแรงตบที่กระแทกหน้าเขามันแรงไม่ใช่น้อยไอเพื่อนเวรตบมาได้ แล้วดูสิยัยตัวเล็กคนสวยนี่ก็นั่งขำเขาด้วย ฮึ่ย! “อ้าว ไอเวรนี่ เดี๋ยวพ่อก็ถีบให้อีกหรอ กูธีรเดชไม่ใช่ทรพีแล้วเป็นห่าอะไรวะ ยืนเหม่อเหมือนหมามองเครื่องบินเลย อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรกับกู อย่าเชียวนะมึง” ธีรเดชลูบแขนตัวเองไปมาอย่างขนลุกเขาไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกัน อย่างเขาเหมาะแก่เป็นพ่อพันธ์ุมากกว่า “ไอบ้าฉันไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกัน พูดงี้เดี๋ยวกูขายไม่ออก” คำว่าขายไม่ออกเขาเน้นหนักเป็นพิเศษและสบตากับสาวน้อยในชุดนักศึกษาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี “พี่ธีร์คะ พลอยขอขัดจังหวะการจีบกันของพี่แป๊บนึงนะคะ คือพลอยจะขอตัวไปเรียนก่อนน่ะค่ะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน คลาสสำคัญด้วย” เธอเห็นว่าธีรเดชพูดคุยกับคนที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากพอสมควรจนเธอคิดว่าควรที่จะพาตนเองออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว และอีกอย่างอีตาคนที่ชื่อภาคอะไรนั่นก็ชอบมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ชอบกล “อ่าฮะ แต่เดี๋ยวก่อนน้องพลอย พี่ลืมแนะนำเราเลยมัวแต่คุยเพลิน ภาค นี่แพรพลอย น้องสาวฉัน ลูกของคุณอาฉันน่ะ ส่วนนี่ภาคภูมิพี่ภาคเพื่อนสนิทพี่เองจ้ะ” ธีรเดชแนะนำสาวน้อยข้างกายให้กับเพื่อนสนิทได้รู้จักเพราะทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันมาก่อน เมื่อธีรเดชแนะนำแพรพลอยก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มและส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขาก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้พี่ชาย และเขามองตัวเองไม่ดีเลยต้องทำตามมารยาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องพลอย” เมื่อได้รับรู้ว่าคนตรงหน้ามีศักดิ์เป็นน้องของเพื่อนสนิทเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะตอนแรกเขาคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นเด็กของเพื่อนเขาแต่ตอนนี้รู้แล้วเขาเลยไม่ค่อยเก็บอาการ และสายตาเท่าที่ควร ชายหนุ่มใช้สายตาสำรวจสาวน้อยร่างบางจนได้ค้อนกลับมาเมื่อเจ้าตัวสบตากับเขาเข้าพอดี “รู้จักกับเพื่อนพี่ธีร์แล้วงั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล้วเจอกันนะคะพี่ธีร์ สวัสดีค่ะ” แพรพลอยเอ่ยลากับธีรเดชและไม่ลืมที่จะลาภาคภูมิที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาแพรวพราว “แล้วเจอกันน้องรัก” ธีรเดชขยี้ผมสวยอย่างเอ็นดู “สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ” แพรพลอยเอ่ยลาภาคภูมิอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวออกไป แม้ว่าภาคภูมิจะอยากรั้งสาวเจ้าไว้ และอยากจะทำโทษที่โทษฐานเรียกเขาซะห่างเหิน แต่ก็ไม่อาจทำได้ จึงได้แต่มองตามร่างบอบบางไปจนลับสายตา เพราะเขายังไม่อยากทำให้ไก่ตื่นไปมากกว่านี้ แต่การกระทำของชายหนุ่มก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลูกน้องคู่ใจที่ลอบสบตากันเป็นระยะอย่างรู้กัน “วันนี้แกมาทำอะไรที่นี่วะไอธี ไม่อยู่บริหารห้างกิ๊กก๊อกของแกแล้วเหรอ ถึงได้มีเวลามานั่งเล่นที่ห้องทำงานฉันเนี่ย” เขาแกล้งเย้าแหย่ธีรเดชให้มันยั๊วะ โทษฐานที่มันกล้าตบหน้าเขาโชว์สาววันนี้ "กิ๊กก๊อกบ้านป้าแกสิห้างฉันมันห้างมีระดับโว้ยที่มาวันนี้ก็แค่มานัดเจอน้องพลอยเพราะน้องฉันอยากกินเค้กของโรงแรมแกรายนั้นนะชอบอย่างกับอะไรดีซึ่งฉันว่ามันก็งั้นๆ แหละ” ธีรเดชกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ภาคภูมิส่ายหัวอย่างขำๆ เขาแค่แกล้งแหย่เล่นจริงๆ แล้วห้างมันใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศเชียวแหละเขาเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้ทำงานอย่างผ่อนคลาย ไม่ได้สนใจเอกสารที่รอการอนุมัติจากเขาอย่างเร่งด่วน ปกติเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก ไม่เคยวอกแวกกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นแต่วันนี้สติเขากระเจิดกระเจิงหมด ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น คิดถึงแต่น้องพลอยที่มองมุมไหนก็สวย ถึงแม้ตัวจะเล็กแต่ทรวดทรงองค์เอวไม่ธรรมดาถึงแม้จะมองแค่ภายนอก แต่เขาก็รู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นต้องมีสรีระที่งดงามแน่ๆ แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องหรูของธีรเดชที่วางไว้บนโต๊ะ เนื่องจากเจ้าตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อคิดอะไรดีๆ ออกก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ยิ้มอะไรวะเจ้าเล่ห์ชอบกล แล้วนั่นมันโทรศัพท์ฉันนี่ เอาไปทำอะไรมาภาค” ธีรเดชเดินมาทรุดนั่งหน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนตามเดิมหลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำมา “ยืมมาโทรเข้าเครื่องตัวเองน่ะ พอดีว่าหาของตัวเองไม่เจอ สงสัยจะไม่ได้เอามา” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าสงสัยจึงส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป “เอ่อ แกพาน้องพลอยมาแกไม่กลัวแฟนน้องเขาเข้าใจผิดคิดว่าแกจีบเหรอวะ” เขาถามคนที่กำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเองอยู่คงจะกลัวว่าเขาจะแกล้งอะไรล่ะสิ" “ประสาทฉันกับน้องพลอยเป็นพี่น้องกันเว้ย แล้วก็คงไม่มีใครเข้าใจผิดหรอกเพราะน้องพลอยไม่มีแฟนเข้าใจ๊” ร่างบอบบางใบหน้าสวยหมดจดในชุดนิสิตนักศึกษากำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ได้ฟังในสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนกำลังบรรยายแม้แต่น้อยแต่ต้องมาสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนจนต้องลูบแขนไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ “นี่ยัยชะนีหน้าสวย หล่อนเป็นอะไรยะ ทำหน้ายังกับยักษ์คิ้วนี่ขมวดซะยุ่งเชียว” ซินดี้สาวสวยในร่างชายชาตรีส่งเสียงกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวเนื่องจากเห็นว่าแม่เพื่อนรักไม่ได้สนใจจะจดเล็กเชอร์แม้แต่น้อย ทำหน้าตาอย่างกับจะไปฆ่าใครงั้นแหละ “แกจะหยิกฉันทำไมนังชาย เจ็บนะยะ ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง” สาวสวยทำปากยื่นแล้วแว้ดใส่เพื่อนเสียงเบา เพราะไม่กล้าส่งเสียงดังรบกวนคนที่ตั้งใจเรียน แล้วหยิกหมับเข้าที่หน้าอกเพื่อนอย่างแรงเป็นการเอาคืน ไม่ได้คิดถึงใครสักหน่อย แค่ไม่ชอบสายตาที่เพื่อนพี่ชายที่ใช้มองเธอต่างหาก คนอะไรไม่มีมารยาทเลย จาบจ้วงซะไม่มี เธอต่อประโยคนี้ในใจไม่ได้เอ่ยออกไปให้เพื่อนฟัง “ว้าย อีนี่ซินดี้ย่ะ ซินดี้เรียกให้ถูกด้วยเดี๋ยวตบหน้าสั่น แล้วนี่หยิกมาได้หัวนมฉันแทบขาดเดี๋ยวแม่ยันโครมเลย” เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะอยู่ในห้องเรียนเลยได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้คนที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ แทน เห็นว่าเพื่อนไม่ได้สนใจตนเองแล้วแพรพลอยก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ จะตั้งใจฟังบรรยายตอนนี้ก็คงจะไม่รู้เรื่องแล้วเพราะไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่แรก ไว้ค่อยถามซินดี้เอา เพราะอีตานั่นคนเดียวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ทำสมาธิเธอหดหายหมดภาคภูมิจับขาเรียวสวยที่หนีบแน่นกางออก ตาคมมองสำรวจร่างงดงามตรงหน้าอย่างหลงใหล ริมฝีปากแดงเข้มพรมจูบขาเรียวสวยทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้มือใหญ่ลูบไล้กุหลาบงามอย่างแผ่วเบา แพรพลอยสะดุ้ง พยายามจะหนีบขาไว้ แต่ก็โดนมือหนาล็อกเอาไว้ ร่างสูงเลื่อนตัวลงนอนกลางหว่างขาขาว ค่อยๆ ก้มหน้าลงจูบลงหอมทั่วกุหลาบสาว “อือ พี่ภาคขาพลอยเสียว” แพรพลอยนอนครวญครางเสียงหวาน บิดตัวเร่าๆ “เมียจ๋า ครางหวานจัง ผัวขาช๊อบชอบ” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ชิดกุหลาบสีชมพูสดที่ตอนนี้มีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาให้เขาได้ชิม ตั้งแต่เขาเริ่มได้ปลดปล่อยความต้องการทางธรรมชาติกับหญิงสาวคนอื่นๆ ไม่เคยมีใครที่เขาทำแบบนี้มาก่อน เพราะเขาไม่สามารถทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รักได้ แต่แพรพลอยคือคนที่เขารักและเธอก็คือข้อยกเว้นทุกอย่างสำหรับเขา“อืออออ หยุดเถอะคะจะขาดใจแล้ว” แพรพลอยจิกเล็บลงบนบ่ากว้างระบายความเสียวซ่าน ขาเรียวสวยก็หนีบใบหน้าหล่อคมไว้แน่น “อืมม บอกให้พี่พอแต่ขาเมียจ๋านี่หนีบหน้าพี่แน่นเลยนะคนดี” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ “ก็มันเสียว!” แพรพลอยพูดเสียงสะบัด ภาคภูมิละใบหน้าออกจากกุหลาบงามเคลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางที่นอนมองเขาด้วยดวงตาหวาน
แพรพลอยเดินไปหยิบเสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ แล้วเดินกลับออกมาคืนนี้และคืนต่อๆ ไปเธอคิดไว้ว่าจะไปนอนที่ห้องนอนเล็ก ซึ่งเธอจะยึดพื้นที่ให้เป็นของเธอนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยิ้มย่องในใจเมื่อเข้ามาได้เธอก็จัดการล็อกประตูอย่างเสร็จสรรพ ถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเตรียมตัวนอน แค่คิดว่าจะได้นอนแบบสงบสุขเธอก็มีความสุขแล้ว ใช้เวลาอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง บำรุงผิวพรรณอีกครึ่งชั่วโมง รวมแล้วเธอใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากเสร็จขั้นตอนทุกอย่างแล้วแพรพลอยก็นอนเล่นโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนๆ และเช็คข่าวสารต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดียจนกระทั่งเริ่มง่วง และหลับไปในที่สุด ส่วนภาคภูมิตอนนี้กำลังนั่งอ่านแฟ้มเอกสารที่โทนี่และอเล็กซ์เอามาให้เขาอย่างจริงจัง เพราะเขาไม่อยากให้งานของเขาทุกงานออกมาผิดพลาด และเขาก็เกือบจะเผลอร้องไชโยออกมาเมื่อโทนี่บอกว่านี่เป็นแฟ้มสุดท้ายแล้ว เขาจะได้ไปนอนกอดแม่ทูนหัวคนสวยของเขาสักที หลังจากแยกกันมาสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ติดไองานบ้าๆ นี่ป่านนี้เขากับน้องพลอยไปถึงไหนแล้ว คิดอย่างเซ็งๆ ได้แต่หวังว่าแพรพลอยจะยังไม่เข้านอน หลังจากเคลียร์งานเสร็จภาคภูมิก็ตรงดิ่
ตกเย็นภาคภูมิก็มารับแพรพลอยไปอยู่กับเขาที่คอนโด แพรพลอยได้ให้สัญญากับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะกลับมานอนที่บ้านบ่อยๆ ฝ่ายภาคภูมิก็นั่งยิ้มไม่หุบตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านของแพรพลอย มือหนาก็คอยกอบกุมมือบางเอาไว้ขณะขับรถ “พี่ภาคขาเราจะแยกห้องกันนอนใช่ไหมคะ” แพรพลอยถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางยอม แต่ก็ถามเผื่อได้เอาไว้ ภาคภูมิเหลือบมองหน้างามแวบหนึ่งอย่างยิ้มๆ รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังจะถามนะน้องพลอย “น้องพลอยคิดว่าไงล่ะ” ภาคภูมิย้อนถามแพรพลอยที่กำลังนั่งเอียงข้างมองเขาตาแป๋ว ก่อนจะตอบสะบัดใส่เขา “ก็คิดว่าพี่ภาคคงไม่ยอม และก็คิดว่าพี่ภาคต้องจับพลอยกินแหงๆ พลอยพูดถูกไหมคะ”แพรพลอยหรี่ตาพูดอย่างรู้ทันคนเจ้าแผนการณ์ ที่ตอนนี้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นรถเมื่อได้ฟังคำพูดของเธอ “ฮ่าๆ น้องพลอยนี่รู้ใจพี่ไปหมดซะทุกเรื่องเลย ถ้ารู้อย่างนั้นแล้วก็ยอมให้กินซะดีๆคนสวย พี่จะได้เป็นผัวขาของน้องพลอยอย่างเต็มรูปแบบไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้” ภาคภูมิส่งสายตาวิบวับมาให้คนที่นั่งข้างเขา ทำอะไรมากไม่ได้เพราะกำลังขับรถอยู่ “ทำไมชอบพูดจาทะลึ่งตึงตังจังคะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าพลอยจะอายมากแค่ไหน” แพรพลอยบิดหูคนพูดจาไม่
“มากันแล้วเหรอลูก เดี๋ยวอีกสักพักคุณพ่อคงลงมา” คุณกานดารับไหว้คนรักของลูก กอดตอบลูกสาวคนสวยที่กอดเอวแม่แน่น แม้อายุจะเข้าใกล้เลขหกแล้วแต่ผิวพรรณและรูปร่างคุณกานดาไม่ได้ต่างจากสมัยตอนสาวๆ มากนัก เพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และยิ่งเป็นถึงเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังที่มีแต่เหล่าคนดังมาตัดเย็บด้วยยิ่งต้องทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอด “ครับคุณแม่” ภาคภูมิยิ้มให้คุณกานดาและมองคนตัวเล็กที่กำลังอ้อนแม่ “ไปทำงานกับพี่ภาคเป็นยังไงบ้างลูก” คุณกานดาถามลูกสาวที่นั่งซบไหล่นางอยู่ “คุณแม่ต้องถามเจ้านายน้องพลอยแล้วล่ะค่ะว่าน้องพลอยทำงานเป็นยังไงบ้าง” แพรพลอยโยนไปให้คนตัวโตตอบจะให้เธอบอกมารดาอย่างไรล่ะเพราะเธอไม่ได้ทำงานอะไรเลยนอกจากคอยให้คนตัวโตหากำไรจากร่างกายของเธอ “น้องพลอยทำงานเก่งครับคุณแม่หัวไวสอนอะไรไปก็เข้าใจได้เร็ว” ภาคภูมิตอบคุณกานดาและแอบเหล่ตามองร่างบางที่ตอนนี้นั่งทำหน้าตูมและส่งค้อนวงใหญ่มาให้เขาเขาได้แต่อมยิ้มอย่างชอบใจที่เธอเข้าใจความหมายของเขาเป็นอย่างดี “งั้นก็ดีแล้วจ้ะยังไงแม่ฝากน้องไว้กับภาคด้วยนะ” คุณกานดายิ้มมองลูกสาวที่กำลังทำปากขมุบขมิบใส่ภาคภูมิอยู่ “น้องพลอยอ้อนอะไรเมียพ่ออีกหะเร
08.00 น. สองร่างต่างไซซ์นอนกอดเกยกันอยู่บนเตียงกว้าง วงแขนกอดเกี่ยวเอวคอดกิ่ว ขาพาดก่ายเรียวขาสวยประหนึ่งหมอนข้าง คนที่ลืมตาคนแรกคือเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่น แววตาคู่คมมีแต่ความอ่อนโยนยามทอดมองคนหลับตาพริ้ม เรียวปากบางสวยแย้มน้อยๆ ทำชายหนุ่มอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ เขาจูบแก้มนุ่ม สูดดมความหอมจากซอกคอขาวผ่อง ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความอย่างทะนุถนอม ใจจริงยังไม่อยากปลุกนางฟ้าให้ตื่น แต่มีธุระสำคัญที่ต้องไปด้วยกันจึงจำเป็นต้องปลุก แพรพลอยกำลังนอนหลับสบายรู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่อยู่แถวๆ บั้นท้ายจึงพยายามปัดออก แต่ปัดเท่าไหร่เจ้าตัวน่ารำคาญมันก็ไม่ไปสักทีเธอจึงส่งเสียงปรามเบาๆ คิ้วขมวดทั้งที่เปลือกตาบังปิดสนิท คนลงมือปลุกยิ่งนึกสนุกค่อยๆ เลิกชายเสื้อเชิ้ตที่ทูนหัวใส่นอน เผยให้เห็นความอวบอั๋น ตาคู่คมวาววับ ขยับกายลงไปจูบ และหอมด้วยใบหน้าระรื่น หญิงสาวฝืนลืมตาขึ้นมาเพราะรู้สึกแปลกๆ เปียกชื้น และร้อนผ่าว ความสงสัยเกิดขึ้นได้ไม่นานเมื่อพบว่าคนบางคนกำลังฟัดก้นเธอ เสียงหวานๆ จึงเแว้ดดุคนมักมากอย่างมีน้ำโห “พี่ภาค คนโรคจิต!” ดวงหน้าเรียวงอง้ำแดงก่ำ ขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง โกยผ้าผ่มขึ้นมาปกปิดเรือนร่าง คล
“พี่ไม่ได้เมา พี่แค่น้อยใจ อยากจะแต่งงานกับคนที่รักแต่เธอก็ดันไม่อยากแต่งด้วย อยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอทุกวัน และที่อยากรู้มากที่สุดก็คือธอเคยรักพี่บ้างหรือเปล่า น้องพลอยช่วยไปถามเธอให้พี่ทีได้ไหม” ที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากเธอเลย มีแต่เขาที่พูด หญิงสาวยิ้มอ่อน เขี่ยแก้มสาก “พลอยไปถามเธอมาให้พี่ภาคนานแล้วล่ะค่ะว่าเธอคิดยังไง รู้สึกยังไงกับพี่ อยากฟังไหมคะ ?” ภาคภูมิครางรับในลำคอ “เธอบอกว่าที่ยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากแต่ง แต่ขอเวลาให้ได้เรียนรู้กันไปอีกสักพักนึงก่อน แล้วเรื่องที่พี่ภาคอยากรู้ว่าเธอรักพี่ภาคไหม” สองมือนุ่มนวลประคองแก้มสาก สายตาประสาน และเป็นภาคภูมิเองที่อดรนทนไม่ไหว “พี่อยากรู้ใจจะขาดแล้ว อย่าแกล้งกันเลยคนดี” ตอนนี้เขาแทบลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ แพรพลอยมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนเด็กที่อยากได้ของขวัญแล้วโดนขัดใจประมาณนั้นเลย “เธอบอกว่ารักพี่ภาคมากค่ะ พลอยรักพี่ภาคนะคะ ถ้าไม่รักคงไม่ยอมให้ลวนลามแบบนี้หรอก” บู้บี้แก้มสากก่อนยื่นปากจุ๊บเบาๆ สีหน้าคนสมปรารถนาตอนนี้แม้แต่เด็กน้อยยังรู้ว่าเขากำลังดีใจ “พี่ก็รักน้องพลอยค่ะ รักมากจนคิ