คราแรกที่ได้สบตากับสาวน้อยหน้าหวาน ผู้ซึ่งลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนรัก ประธานหนุ่มรูปงามเจ้าของโรงแรมอันเลื่องชื่อก็เกิดหัวใจเต้นแรงดุจหนุ่มน้อยอ่อนหัด แต่เรื่องนั้นมองข้ามมันไปเถอะ ในวินาทีนั้นเขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องครอบครองเธอให้จงได้ แม้วิธีการบางอย่างจะดูไร้ยางอายไปหน่อยเขาก็ไม่สน ขอเพียงได้สมใจปรารถนาต่อให้ถูกมองว่าหน้าด้านเขาก็พร้อมยิ้มรับ
View More“เอ่อ เจ้านายครับ เจ้านาย ถึงโรงแรมแล้วครับ” โทนี่เปิดประตูรถลงมาเรียกเจ้านายที่เบาะโดยสารหลังรถอย่างเกรงอกเกรงใจเนื่องจากเขาเรียกมาสักพักแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้านายมาดเข้มของเขาจะตื่นจากนิทรา ออกจากบ้านมาก็หลับทันที เห็นทุกทีที่ออกจากบ้านต้องคอยเช็คข่าว และตารางงานที่จะต้องทำในวันนี้ตลอด สงสัยจะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้วันนี้เจ้านายเข้ามาโรงแรมสายกว่าปกติมากโข
ภาคภูมิ พิชญะสกุล หนุ่มรูปหล่อบ้านรวย ผู้กุมบังเหียนใหญ่คนปัจจุบันของโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ Paradise ที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศ เขามีพร้อมทั้งฐานะและหน้าตาเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาครอบครองสี่ห้องหัวใจของเขาได้เมื่อถึงเวลาเขาก็คงจะเจอคนที่หัวใจต้องการเอง เขาจึงไม่อยากคบใครฆ่าเวลา แค่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ตามธรรมชาติของผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่มีข้อผูกมัดจะดีกว่าเพื่อรอใครบางคนที่จะมาดูแลหัวใจของเขาในอนาคต ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและจะมีจริงหรือไม่ “อือ รู้แล้ว แกจะตะโกนทำไมวะโทนี่ ฉันแค่พักสายตาไม่ได้หลับลึกขนาดนั้น” เสียงเข้มเอ่ยเสียงขุ่นกับเลขาพ่วงตำแหน่งลูกน้องคนสนิทก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถคันหรูพาร่างกายสมบูรณ์แบบเดินเข้าไปในโรงแรม “นี่ฉันผิดเหรอวะจอห์นแล้วฉันก็ไม่ได้ตะโกนด้วยนะเว้ย แกก็ได้ยิน” โทนี่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กกับจอห์นที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่ “ยังไม่ชินอีกเหรอวะ ไปเถอะ เจ้านายเดินไปโน่นแล้ว” จอห์นว่าก่อนจะลากคอโทนี่ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเดินตามเจ้านายไป “สวัสดีครับบอส/สวัสดีค่ะบอส” เมื่อเห็นว่าเจ้านายรูปหล่อเข้ามาในโรงแรมเหล่าพนักงานต่างทำความเคารพเจ้านายหนุ่มไปตลอดทาง เขาทำเพียงแค่พยักหน้าตอบและยิ้มน้อยๆ ให้กับลูกน้องของตนก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร แต่แล้วสายตาก็พลันไปสะดุดที่สาวน้อยหน้าหวานแต่แอบเซ็กซี่ในชุดนักศึกษาที่ล็อบบี้ของโรงแรมซึ่งกำลังคุยอย่างออกรสกับชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเขามั่นใจว่าเมื่อตอนเขาเข้ามาไม่เห็นหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเท่าที่ควร เมื่อเท้าไวเท่าความคิดเขาก็พาร่างกายของตัวเองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ทันทีทำให้โทนี่กับจอห์นที่ตามหลังมารีบเดินตามเจ้านายไป คนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นไม่ได้สังเกตรอบตัวว่ากำลังมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาดีเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ และมาหยุดยืนอยู่ตรงด้านหลังสาวน้อยหน้าสวย “ไอภาค” ธีรเดชที่เงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง พอรู้ว่าเป็นใครก็ร้องเรียก แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่ายืนเหม่ออะไรอยู่ ท่าทางเลื่อนลอยอย่างกับคนบ้า ตานี่เยิ้มเชียว หันสบตากับลูกน้องมันลูกน้องมันก็ได้แต่ส่ายหัวกันไปมา ทนไม่ไหวเขาเลยต้องลุกไปหาแล้วตบหน้าดัง เผียะ! “ไอ้ทรพีมือหรือตีนวะตบมาได้นะมึง” ภาคภูมิถึงกับสะดุ้งลูบหน้าตัวเองที่ตอนนี้เขาคิดว่ามันคงแดงแน่ๆ เพราะแรงตบที่กระแทกหน้าเขามันแรงไม่ใช่น้อยไอเพื่อนเวรตบมาได้ แล้วดูสิยัยตัวเล็กคนสวยนี่ก็นั่งขำเขาด้วย ฮึ่ย! “อ้าว ไอเวรนี่ เดี๋ยวพ่อก็ถีบให้อีกหรอ กูธีรเดชไม่ใช่ทรพีแล้วเป็นห่าอะไรวะ ยืนเหม่อเหมือนหมามองเครื่องบินเลย อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรกับกู อย่าเชียวนะมึง” ธีรเดชลูบแขนตัวเองไปมาอย่างขนลุกเขาไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกัน อย่างเขาเหมาะแก่เป็นพ่อพันธ์ุมากกว่า “ไอบ้าฉันไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกัน พูดงี้เดี๋ยวกูขายไม่ออก” คำว่าขายไม่ออกเขาเน้นหนักเป็นพิเศษและสบตากับสาวน้อยในชุดนักศึกษาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี “พี่ธีร์คะ พลอยขอขัดจังหวะการจีบกันของพี่แป๊บนึงนะคะ คือพลอยจะขอตัวไปเรียนก่อนน่ะค่ะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน คลาสสำคัญด้วย” เธอเห็นว่าธีรเดชพูดคุยกับคนที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากพอสมควรจนเธอคิดว่าควรที่จะพาตนเองออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว และอีกอย่างอีตาคนที่ชื่อภาคอะไรนั่นก็ชอบมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ชอบกล “อ่าฮะ แต่เดี๋ยวก่อนน้องพลอย พี่ลืมแนะนำเราเลยมัวแต่คุยเพลิน ภาค นี่แพรพลอย น้องสาวฉัน ลูกของคุณอาฉันน่ะ ส่วนนี่ภาคภูมิพี่ภาคเพื่อนสนิทพี่เองจ้ะ” ธีรเดชแนะนำสาวน้อยข้างกายให้กับเพื่อนสนิทได้รู้จักเพราะทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันมาก่อน เมื่อธีรเดชแนะนำแพรพลอยก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มและส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขาก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้พี่ชาย และเขามองตัวเองไม่ดีเลยต้องทำตามมารยาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องพลอย” เมื่อได้รับรู้ว่าคนตรงหน้ามีศักดิ์เป็นน้องของเพื่อนสนิทเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะตอนแรกเขาคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นเด็กของเพื่อนเขาแต่ตอนนี้รู้แล้วเขาเลยไม่ค่อยเก็บอาการ และสายตาเท่าที่ควร ชายหนุ่มใช้สายตาสำรวจสาวน้อยร่างบางจนได้ค้อนกลับมาเมื่อเจ้าตัวสบตากับเขาเข้าพอดี “รู้จักกับเพื่อนพี่ธีร์แล้วงั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล้วเจอกันนะคะพี่ธีร์ สวัสดีค่ะ” แพรพลอยเอ่ยลากับธีรเดชและไม่ลืมที่จะลาภาคภูมิที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาแพรวพราว “แล้วเจอกันน้องรัก” ธีรเดชขยี้ผมสวยอย่างเอ็นดู “สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ” แพรพลอยเอ่ยลาภาคภูมิอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวออกไป แม้ว่าภาคภูมิจะอยากรั้งสาวเจ้าไว้ และอยากจะทำโทษที่โทษฐานเรียกเขาซะห่างเหิน แต่ก็ไม่อาจทำได้ จึงได้แต่มองตามร่างบอบบางไปจนลับสายตา เพราะเขายังไม่อยากทำให้ไก่ตื่นไปมากกว่านี้ แต่การกระทำของชายหนุ่มก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลูกน้องคู่ใจที่ลอบสบตากันเป็นระยะอย่างรู้กัน “วันนี้แกมาทำอะไรที่นี่วะไอธี ไม่อยู่บริหารห้างกิ๊กก๊อกของแกแล้วเหรอ ถึงได้มีเวลามานั่งเล่นที่ห้องทำงานฉันเนี่ย” เขาแกล้งเย้าแหย่ธีรเดชให้มันยั๊วะ โทษฐานที่มันกล้าตบหน้าเขาโชว์สาววันนี้ "กิ๊กก๊อกบ้านป้าแกสิห้างฉันมันห้างมีระดับโว้ยที่มาวันนี้ก็แค่มานัดเจอน้องพลอยเพราะน้องฉันอยากกินเค้กของโรงแรมแกรายนั้นนะชอบอย่างกับอะไรดีซึ่งฉันว่ามันก็งั้นๆ แหละ” ธีรเดชกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ภาคภูมิส่ายหัวอย่างขำๆ เขาแค่แกล้งแหย่เล่นจริงๆ แล้วห้างมันใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศเชียวแหละเขาเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้ทำงานอย่างผ่อนคลาย ไม่ได้สนใจเอกสารที่รอการอนุมัติจากเขาอย่างเร่งด่วน ปกติเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก ไม่เคยวอกแวกกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นแต่วันนี้สติเขากระเจิดกระเจิงหมด ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น คิดถึงแต่น้องพลอยที่มองมุมไหนก็สวย ถึงแม้ตัวจะเล็กแต่ทรวดทรงองค์เอวไม่ธรรมดาถึงแม้จะมองแค่ภายนอก แต่เขาก็รู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นต้องมีสรีระที่งดงามแน่ๆ แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องหรูของธีรเดชที่วางไว้บนโต๊ะ เนื่องจากเจ้าตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อคิดอะไรดีๆ ออกก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ยิ้มอะไรวะเจ้าเล่ห์ชอบกล แล้วนั่นมันโทรศัพท์ฉันนี่ เอาไปทำอะไรมาภาค” ธีรเดชเดินมาทรุดนั่งหน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนตามเดิมหลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำมา “ยืมมาโทรเข้าเครื่องตัวเองน่ะ พอดีว่าหาของตัวเองไม่เจอ สงสัยจะไม่ได้เอามา” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าสงสัยจึงส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป “เอ่อ แกพาน้องพลอยมาแกไม่กลัวแฟนน้องเขาเข้าใจผิดคิดว่าแกจีบเหรอวะ” เขาถามคนที่กำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเองอยู่คงจะกลัวว่าเขาจะแกล้งอะไรล่ะสิ" “ประสาทฉันกับน้องพลอยเป็นพี่น้องกันเว้ย แล้วก็คงไม่มีใครเข้าใจผิดหรอกเพราะน้องพลอยไม่มีแฟนเข้าใจ๊” ร่างบอบบางใบหน้าสวยหมดจดในชุดนิสิตนักศึกษากำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ได้ฟังในสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนกำลังบรรยายแม้แต่น้อยแต่ต้องมาสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนจนต้องลูบแขนไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ “นี่ยัยชะนีหน้าสวย หล่อนเป็นอะไรยะ ทำหน้ายังกับยักษ์คิ้วนี่ขมวดซะยุ่งเชียว” ซินดี้สาวสวยในร่างชายชาตรีส่งเสียงกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวเนื่องจากเห็นว่าแม่เพื่อนรักไม่ได้สนใจจะจดเล็กเชอร์แม้แต่น้อย ทำหน้าตาอย่างกับจะไปฆ่าใครงั้นแหละ “แกจะหยิกฉันทำไมนังชาย เจ็บนะยะ ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง” สาวสวยทำปากยื่นแล้วแว้ดใส่เพื่อนเสียงเบา เพราะไม่กล้าส่งเสียงดังรบกวนคนที่ตั้งใจเรียน แล้วหยิกหมับเข้าที่หน้าอกเพื่อนอย่างแรงเป็นการเอาคืน ไม่ได้คิดถึงใครสักหน่อย แค่ไม่ชอบสายตาที่เพื่อนพี่ชายที่ใช้มองเธอต่างหาก คนอะไรไม่มีมารยาทเลย จาบจ้วงซะไม่มี เธอต่อประโยคนี้ในใจไม่ได้เอ่ยออกไปให้เพื่อนฟัง “ว้าย อีนี่ซินดี้ย่ะ ซินดี้เรียกให้ถูกด้วยเดี๋ยวตบหน้าสั่น แล้วนี่หยิกมาได้หัวนมฉันแทบขาดเดี๋ยวแม่ยันโครมเลย” เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะอยู่ในห้องเรียนเลยได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้คนที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ แทน เห็นว่าเพื่อนไม่ได้สนใจตนเองแล้วแพรพลอยก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ จะตั้งใจฟังบรรยายตอนนี้ก็คงจะไม่รู้เรื่องแล้วเพราะไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่แรก ไว้ค่อยถามซินดี้เอา เพราะอีตานั่นคนเดียวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ทำสมาธิเธอหดหายหมด“พี่ไม่ได้เมา พี่แค่น้อยใจ อยากจะแต่งงานกับคนที่รักแต่เธอก็ดันไม่อยากแต่งด้วย อยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอทุกวัน และที่อยากรู้มากที่สุดก็คือธอเคยรักพี่บ้างหรือเปล่า น้องพลอยช่วยไปถามเธอให้พี่ทีได้ไหม” ที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากเธอเลย มีแต่เขาที่พูด หญิงสาวยิ้มอ่อน เขี่ยแก้มสาก “พลอยไปถามเธอมาให้พี่ภาคนานแล้วล่ะค่ะว่าเธอคิดยังไง รู้สึกยังไงกับพี่ อยากฟังไหมคะ ?” ภาคภูมิครางรับในลำคอ “เธอบอกว่าที่ยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากแต่ง แต่ขอเวลาให้ได้เรียนรู้กันไปอีกสักพักนึงก่อน แล้วเรื่องที่พี่ภาคอยากรู้ว่าเธอรักพี่ภาคไหม” สองมือนุ่มนวลประคองแก้มสาก สายตาประสาน และเป็นภาคภูมิเองที่อดรนทนไม่ไหว “พี่อยากรู้ใจจะขาดแล้ว อย่าแกล้งกันเลยคนดี” ตอนนี้เขาแทบลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ แพรพลอยมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนเด็กที่อยากได้ของขวัญแล้วโดนขัดใจประมาณนั้นเลย “เธอบอกว่ารักพี่ภาคมากค่ะ พลอยรักพี่ภาคนะคะ ถ้าไม่รักคงไม่ยอมให้ลวนลามแบบนี้หรอก” บู้บี้แก้มสากก่อนยื่นปากจุ๊บเบาๆ สีหน้าคนสมปรารถนาตอนนี้แม้แต่เด็กน้อยยังรู้ว่าเขากำลังดีใจ “พี่ก็รักน้องพลอยค่ะ รักมากจนคิ
เลิกงานแล้วภาคภูมิยังไม่ยอมพาแพรพลอยกลับไปส่งที่บ้าน แต่เขาพาเธอมายังคอนโดของเขาแทนโดยการอ้างว่าอยากทานอาหารฝีมือของเธอ ก่อนกลับคอนโดเขาจึงพาเธอแวะซื้อของสดเพื่อที่จะนำมาประกอบอาหารเย็น ภาคภูมิเข็นรถเข็นเดินตามร่างบางที่วันนี้รับหน้าที่เป็นแม่ครัว แพรพลอยหยิบโน่นจับนี่อย่างคล่องแคล่วเมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้วภาคภูมิก็นำของทั้งหมดไปคิดเงิน และตรงกลับคอนโดทันที “พี่ภาคไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ เดี๋ยวตรงนี้พลอยจัดการต่อเอง” แพรพลอยดุนหลังภาคภูมิให้ออกไปจากห้องครัวแต่กว่าจะออกไปได้เขาก็เรียกร้องจูบจากเธอชนิดที่ว่าถ้าไม่พอใจจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เมื่อจูบจนพอใจเขาจึงปล่อยร่างบางในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ “พี่อาบน้ำเสร็จแล้วจะมาช่วยนะคะ” ภาคภูมิขยิบตาให้แพรพลอยอย่างขี้เล่นก่อนจะเดินออกไปแต่โดยดี ภาคภูมิออกไปแล้วแพรพลอยก็หันมาเก็บของที่ซื้อมาให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะนำผักและเนื้อสัตว์ที่จะใช้ทำอาหารมาล้างน้ำให้สะอาดก่อนจะเริ่มต้นหั่นและปรุงในลำดับต่อไป ภาคภูมิเองเมื่ออาบน้ำรับความสดชื่นแล้วก็เดินสูดกลิ่นหอมๆ ของอาหารที่ร่างบางกำลังสาละวนทำอยู่ในตอนนี้ ขายาวก้าวเข้าไปประชิดที่หลังบาง ก้มหน้าลงม
วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกของเธอแพรพลอยเลยทำให้เธอตื่นแต่เช้ากว่าปกติเพื่อจะมาขอรับพรจากคุณพ่อ คุณแม่ก่อนที่แฟนหนุ่มจะมารับไปทำงาน ความจริงเธอจะขับรถไปเองแต่เขาไม่ยอมเลยต้องตามใจท่านประธาน “คุณพ่อคุณแม่ขาวันนี้น้องพลอยจะไปทำงานกับพี่ภาควันแรก อวยพรหน่อยค่ะ” อ้อนคุณพ่อคุณแม่เสียงหวาน ทำงานวันแรกเธอก็อยากจะได้พรจากบุพการีแม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าการเป็นเลขาของภาคภูมินั้นต้องทำอะไรบ้าง เพราะปกติเขาก็มีคุณเลขาคนเก่งคอยทำหน้าที่อยู่แล้ว “แม่ขอให้ลูกสาวคนสวยของแม่พบเจอแต่คนดีๆ และไม่ดื้อกับพี่เขานะลูก” คุณกานดาลูบศีรษะลูกสาวด้วยความเอ็นดู รั้งใบหน้างามมาหอมแก้มอย่างแสนรัก เรื่องห่วงลูกเธอก็ย่อมต้องห่วง แต่เชื่อใจว่าที่ลูกเขยว่าจะสามารถดูแลแก้วตาดวงใจดวงนี้ของเธอและสามีได้เป็นอย่างดี หลังได้รับพรจากมารดาแพรพลอยก็ขยับกายเข้าไปหาบิดาที่กำลังนั่งยิ้มมองเธออยู่ “ลูกสาวพ่อเก่งอยู่แล้ว พ่อเชื่อว่าถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วไม่มีสิ่งไหนที่ทำไม่ได้” คุณสันติลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รักอย่างเอ็นดู “น้องพลอยรักคุณพ่อคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ” โผเข้ากอดคุณพ่อคุณแม่พร้อมกันก่อนจะยื่นหน้าหอมแก้มท่านคนละฟอดใหญ่ ภาคภูม
อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงสอบปลายภาคของแพรพลอย ซึ่งวันนี้ก็เป็นวิชาสุดท้ายแล้วหลังจากสอบเสร็จเธอก็จะสำเร็จการศึกษาและต้องไปทำหน้าที่เลขาตามที่โดนเรียกร้องมา ทำให้อาทิตย์ที่ผ่านมาเธอไม่ค่อยได้เจอกับภาคภูมิเท่าไหร่ แต่เขาก็จะคอยแวะมาหาเธอ และพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่เธอเป็นประจำ ตอนแรกเธอเคยสัญญาว่าจะแต่งงานทันทีเรียนจบแต่เธอขอยืดระยะเวลาออกไปก่อน ตอนแรกภาคภูมิทำท่าจะไม่ยอมท่าเดียวจนเธอต้องอ้อนขออยู่นานกว่าเขาจะยอมใจอ่อน แน่นอนว่ามีข้อแลกเปลี่ยน คือให้เธอไปทำงานเป็นเลขาส่วนตัวซึ่งเธอก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง “ทำข้อสอบได้ไหมคะคนสวย” หลังแยกกับเพื่อนแพรพลอยก็เดินมาขึ้นรถที่มีภาคภูมิเป็นคนขับ เราจะไปหาอะไรทานกันหลังจากหลายวันที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลาได้สวีตหวานกันสักเท่าไหร่ “สบายมากค่ะ แต่ตอนนี้มาก” ลูบท้องแบนราบของตัวเองป้อยๆ เมื่อเช้าเธอทานไปนิดเดียวเอง พอใช้พลังงานไปเยอะร่างกายเลยร้องหาอาหาร ภาคภูมิเอื้อมมือลาลูบผมนุ่มอย่างเอ็นดูก่อนจะทำแก้มป่องให้คนสวยหอมแก้ม “ชื่นใจจัง ทนอีกนิดนะคะเดี๋ยวก็จะได้ทานแล้ว ว่าแต่อยากทานอะไรคะ” ก้มมองคนที่เอนตัวมาพิงศีรษะกับไหล่เขา “อยากทานอาหารญี่ปุ่นแล้วก็ตบท้า
แพรพลอยลืมตาเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ภาคภูมิเป็นคนตั้งไว้ขณะนี้เป็นเวลา 11.30 น. มองคนที่กำลังซุกบนอกของเธอ ขาก็ก่ายเอาไว้ขยับไปไหนไม่ได้ "พี่ภาคขาตื่นก่อนค่ะ" เขย่าแขนคนขี้เซาให้ตื่นจากนิทรา ยังไม่อย่างตื่นเลย” พึมพำชิดอกอวบ สูดดมความหอมเข้าปอดอย่างเต็มที่ “ถ้างั้นก็ปล่อยพลอยก่อน จะได้เวลานัดแล้ว ส่วนพี่ภาคก็นอนต่อ กอดแบบนี้ลุกไม่ได้ค่ะ” “อาจารย์พวกนั้นขัดขวางความสุขพี่” บ่นแต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอดเพื่อให้เธอได้ไปจัดการตัวเอง ส่วนเขาก็นอนรออยู่บนเตียงรอเข้าห้องน้ำต่อจากเธอ “จะนอนต่อเหรอคะ” ออกมาจากห้องน้ำก็เดินมาหาคนบนเตียงที่นอนมองเธอตาหวานฉ่ำ “ไม่นอนแล้วค่ะ ดึงหน่อย” ส่งแขนให้ แพรพลอยก็ช่วยดึงอย่างว่าง่าย ทว่าภาคภูมิกลับไม่ยอมลุกง่าย ๆ คนตัวบางจึงเสียหลักล้มลงไป “แกล้งอะ” ทุบอกกว้างเมื่อรู้ตัวว่าถูกเขาแกล้ง แถมยังกอดรัดเธอเสียแน่น แล้วประกบปากสูบเอาลมหายใจไปจากเธอจนหอบ “พอได้แล้วค่ะ” เบี่ยงหน้าหนีเพราะกลัวว่าเขาจะทำมากกว่าจูบ “สัญญากับพี่ว่าจะไม่เข้าใกล้ผู้ชายคนไหน ถ้ามีใครมาคุยด้วยบอกมันไปเลยว่ามีผัวแล้วแถมขี้หึงมากด้วย” ภาคภูมิสั่งเสียงเข้มจ้องตากลมโ
วันนี้เป็นวันเป็นวันที่แพรพลอยมีกำหนดการที่จะเดินทางไปหัวหินเพื่อนทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และรุ่นน้องคณะบริหารที่เธอกำลังจะจบการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเธอก็เพิ่งจะทราบว่าโรงแรมที่เธอจะไปพักนั้นเป็นของภาคภูมิ พอเธอถามว่าเขาทราบมาก่อนแล้วไหมก็ได้คำตอบว่าเขาลืมว่าเคยอนุมัติไปเมื่อทางมหาวิทยาลัยของเธอขอมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเขาให้โทนี่เป็นคนจัดการ ส่วนตัวเขาเองก็มาทราบเรื่องจากเธออีกที ทำให้ตอนนี้เธอต้องมานั่งอยู่กับเขาในรถคันหรูที่มีโทนี่เป็นคนขับ แทนที่จะเป็นรถบัสที่ทางมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ เพราะคนตัวโตที่นอนหนุนตักเธอตอนนี้ไม่ยอมท่าเดียว เธอเลยต้องขออาจารย์ว่าจะไปเจอกันที่หัวหินเลยทำให้เพื่อนเธอแซวกันยกใหญ่ว่ามีคนตามมาคุม “พี่ภาคจะตามมาทำไมคะเนี่ย บอกแล้วว่าไม่ต้องมาทำไมดื้อตลอด” บอกคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักที่ดูจะอารมณ์ดีเกินเหตุจนน่าหมั่นไส้ “พี่มาตรวจงานต่างหากไม่ได้มานานต้องมาดูแลหน่อย” ตอบคนรู้ทันก่อนจะกันนอนตะแคงหันหน้าซุกที่หน้าท้องแบนราบอย่างอ้อนๆ “ไม่ต้องมาทำตัวเป็นผู้บริหารที่ดีเลยค่ะ” แพรพลอยบ่นอย่างไม่จริงจังมือนุ่มก็คอยลูบไล้ผมดำดกหนาไปม
Comments