เมื่อได้ยินเรื่องเล่าที่น่าตกใจจากรติรสก็ทำให้ฟ้าระวีพยายามให้เพื่อนใจเย็นๆเพราะอาจจะเข้าใจผิด
“แกเข้าใจผิดหรือเปล่ายัยรติ พี่เพชรอาจจะไปกับลูกค้าก็ได้นะแก” รติรสส่ายหน้าไปมามือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเอง
“ไม่ผิดคนหรอกเพราะฉันเห็นกับตาจริงๆ ครั้งแรกที่ฉันโทรไปพี่เพชรกดตัดสายทิ้งแต่พอฉันโทรหารัวๆ พี่เพชรก็รับสายแต่พี่เพชรบอกว่ากำลังประชุมอยู่กำลังประชุมอะไรกันแก โอบไหล่ผู้หญิงขึ้นโรงแรมฉันเห็นเต็มสองตาไม่พอยังหอมแก้มผู้หญิงคนนั้นอีกนะ” รติรสเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เพื่อนสนิทอย่างฟ้าระวีฟัง
“ฉันเหมือนใจจะขาดเลยยัยฟ้า ฉันทรมานมากเลยตอนนี้” หัวใจของเธอมันช่างร้าวรานแทบจะหายใจไม่ออกหญิงสาวเอามือทุบหน้าอกของตัวเองที่เริ่มหายใจติดขัดเพราะร้องไห้เป็นเวลานาน
“แกอย่าร้องไห้มากเลยนะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันไปหาก็แล้วกันไม่นานนะรติ” ฟ้าระวีรีบขับรถมาหารติรสที่บ้านพร้อมกับมินรดาเพื่อนในแก๊งค์อีกคน
“ยัยรติรสเปิดประตูให้เราหน่อยด้วย” เสียงสองสาวเพื่อนสนิทร้องเรียกอยู่ที่หน้าบ้าน รติรสรีบดีดขึ้นจากที่นอนและวิ่งลงไปเปิดประตูให้เพื่อนสาว พอเห็นทั้งสองแค่นั้นแหละรติรสก็ร้องไห้โผล่กอดฟ้าระวีกับมินรดาทันที สามสาวกอดกันกลมที่หน้าบ้าน
“ไปยัยรติ ฉันจะพาแกไปแหกออกไอ้ผู้ชายเจ้าชู้คนนั้น” รติรสส่ายหน้าไปมาเพราะไม่อยากไปเห็นหน้าของพชรอีกแล้ว แถมยังเป็นแผลสดเธอยังไม่สามารถทำใจได้
“ไม่เอา” เสียงพูดที่แทบจะฟังไม่รู้เรื่องเพราะรติรสเอาแต่สะอื้นไห้
“เธอกลัวอะไร เธอไม่ใช่คนผิดซะหน่อย” มินรดาพูดขึ้นด้วยท่าทางโกรธจัด
“ฉันยังไม่อยากเห็นหน้าพี่เพชรน่ะ เอาเป็นว่าให้ฉันสบายใจขึ้นกว่านี้ก่อน ฉันไม่อยากคุยกับเขาในเวลานี้” มินรดาลูบหลังของเพื่อนสาวที่เหมือนจะอ่อนแรงแทบจะยืนไม่อยู่ด้วยความสงสารเพราะรติรสนั้นคบกับพชรมาตั้งแต่เรียนมหาลัยจนถึงปัจจุบันก็ย่างเข้าปีที่ห้าแล้ว
เธอก็คิดว่ารติรสกับพชรนั้นมีความสุขด้วยกันแต่คิดไม่ถึงเลยว่าพชรจะยังไม่ทิ้งความเจ้าชู้ประตูดินทั้งๆที่กำลังจะเดินเข้าประตูวิวาห์กับรติรสอีกหนึ่งสัปดาห์
“จะทำยังไงดี นี่ฉันก็ซื้อชุดเพื่อนเจ้าสาวมาซะแพงเลย” ว่าแล้วมินรดาก็ทำหน้าตาเสียดายกับชุดเพื่อนเจ้าสาวที่ซื้อมาในราคาแพง จนฟ้าระวีนั้นตีเข้าที่ต้นแขนของมินรดาแรงๆ
“อุ๊ย เจ็บนะ” ฟ้าระวีบุ้ยหน้าให้มินรดาหันไปมองหน้าของรติเพราะคนที่น่าจะเสียใจที่สุดน่าจะเป็นรติรสไม่ใช่มินรดา เพราะค่าเตรียมงานทุกอย่างแทบจะเป็นเงินของรติรสทั้งนั้นพอรู้ว่าพชรนั้นสวมเขาให้เพื่อนสาวฟ้าระวีก็รู้สึกสงสารรติรสไม่น้อย
“เอายังไงแก แล้วเงินค่าจัดงานก็จ่ายไปให้หมดแล้ว”
“ฉันรู้นะว่าแกแทบจะออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้พี่เพชร เห็นไหมล่ะมันได้อะไรไปง่ายๆมันถึงทิ้งเราไปง่ายๆไง” คำพูดของฟ้าระวีก็ไปสะกิดใจของรติรสขึ้นอีก เธอก็ร้องไห้ออกมาจนตัวสั่น
“ฮือ ฮึๆๆๆ” จนมินรดายกมือขึ้นปิกปากของฟ้าระวีแทบไม่ทัน ฟ้าระวีดึงมือของมินรดาออกจากปากเธอด้วยความหงุดหงิด เธอกลียดผู้ชายแบบนั้นแทนเพื่อนของตัวเองแต่ไม่ว่าจะพูดคำไหนออกไปก็ยิ่งทำให้รติรสนั้นเสียใจร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“โทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจน่ะ เอาเป็นว่าแกอย่ามามัวร้องไห้เสียใจเหมือนยายเพิ้งเลย คนเรามันต้องเดินหน้าสิวะ” รติรสร้องไห้ส่ายหน้าไปมาพลางกอดฟ้าระวีไว้แน่นด้วยความเสียใจ เธอไม่อยากทำอะไรอีกแล้วในเวลานี้ เธอแทบจะไม่มีแรงที่จะหายใจอยู่แล้ว
“เอาอย่างนี้ฉันมีข้อเสนอดีๆ แกก็ประกาศไปแล้วว่ามันเลิกกับพี่เพชรงั้นก็แสดงว่าแกโสด ถ้าโสดก็ไปหาผู้ชายใหม่สิวะ จะเสียใจอะไร” มินรดาพูดท่าทางจริงจัง
“หาผู้ชายใหม่อะไรวะ ยัยมิ้น” มันใช่เวลาพูดเรื่องที่จะหาแฟนใหม่หรือเปล่า
“ก็หาผู้ชายใหม่มาดามใจไงเพราะว่ามีคนพูดไว้นะ ว่าคนเราจะหายจากความเสียใจได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ชายคนใหม่มาดามใจ” รติรสส่ายหน้าไปมากับความคิดพิเรนของผู้เป็นเพื่อนเพราะเธออยากไม่อยากที่จะออกไปไหน ไม่กล้าที่จะสู้หน้าใครทั้งนั้น
“ไม่เอาอ่ะ ฉันอายแล้วที่สำคัญฉันก็โพสต์ออกไปแล้วด้วยว่าฉันกับพี่เพชรจะไม่แต่งงานกัน ถ้าฉันออกไปแล้วเจอเพื่อนๆจะทำยังไง” ฟ้าระวีที่มองรติรสด้วยความไม่พอใจเพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของรติรสเลย คนที่ผิดนั้นเป็นพชรมากกว่า ทำไมเพื่อนของเธอจะต้องไปอายสายตาคนอื่นด้วย
“เรื่องอายแกลืมไปได้เลย แกไม่ใช่คนที่ผิดและคนที่ควรอายก็คือพี่เพชรเพราะฉะนั้น ฉันจะพาแกไปเที่ยวไปเปิดหูเปิดตาแล้วเจอคนใหม่ๆ แกจะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเก่าๆไงล่ะ” ก็จริงอย่างที่เพื่อนสาวเธอว่า ทำไมเธอจะต้องเป็นคนอาย ทำไมเธอต้องเป็นคนรู้สึกผิดในเมื่อคนที่ทำผิดยังไม่รู้สึกอายเลย
“แกจะคิดอะไรอีกนานวะ รติไปลุกๆไปอาบน้ำเลยไป เดี๋ยวฉันจะช่วยแต่งหน้าเอาให้สวยที่สุด” ว่าแล้วเพื่อนสาวทั้งสองก็ฉุดลากแขนของรติรสเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูหันมาปรบมือกันด้วยท่าทางดีใจที่ชวนให้เพื่อนสาวนั้นลุกขึ้นมาจากความทุกข์ได้
เมื่อรติรสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วมินรดาก็เป็นคนเลือกชุดให้รติรสทันที
“ชุดนี้ดีไหมว่ะแก” มิ้นเสนอขึ้นแต่ฟ้านั้นส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปที่ราวเสื้อผ้าหยิบชุดเซ็กซี่สีดำออกมาชูชุดเดรสเว้าหลังลึกขึ้นและสะบัดชุดนั้นทันที
“ชุดนี้สิดีกว่าจริงไหมรติ” ฟ้าระวีหันไปถามความคิดของเพื่อนสาวที่ตอนนี้ดวงตาบวมเปล่ง
“ตายแล้วทำไมตาแกบวมขนาดนั้นวะรติ ยัยมิ้นไปเอาน้ำแข็งมาประคบด่วน” ฟ้าระวีสั่งให้มินรดารีบไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้เพื่อนสาวทันทีกลัวว่าถ้าออกไปสภาพแบบนี้จะหาผู้ไม่ได้กลายเป็นการไล่ผู้มากกว่า
หลังจากการประคบไม่นานตาที่บวมเปล่งก็ยุบลงมาก จนฟ้าระวีอดหัวเราะขำไม่ได้
“ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยเพื่อนสาว เอาล่ะเดี๋ยวฉันแต่งหน้าให้สวยๆกลบดวงตาเศร้าๆของแกเลย” ว่าแล้วฟ้าระวีก็บรรจงแต่งหน้าให้หญิงสาวไม่นานก็เสร็จ
“จบปิ๊ง! สวยเหมือนกับคนละคนเลยว่าไหม ยัยมิ้น” มินรดาก้มหน้าลงมามองแล้วพยักหน้ายกนิ้วโป้งให้กับฟ้าระวีด้วยรอยยิ้มสดใส
“สวยที่สุดเลยเพื่อนสาวของฉันไปกันเถอะ” สามสาวควงแขนกันออกไปทันทีเมื่อทั้งสามสาวมาถึงผับใจกลางเมือง
“พร้อมหรือยัง”
“จะดีเหรอแก”
“พวกแกจะพาฉันมาหาผู้จริงๆ”
“ฉันพูดเล่นหรอกน่า ฉันแค่อยากให้แกมาปลดปล่อยความทุกข์ก็แค่นั้นมาๆเข้ามาเร็ว”
“นู่นไปนั่งตรงนู้น” มินรดาชี้นิ้วไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงกลางไม่ว่าใครไปใครมาก็จะต้องมองเห็นเธอทั้งสามเป็นแน่ ฟ้าระวีหันไปพยักหน้าและส่งยิ้มให้มินรดาที่รู้การรู้งานว่าควรที่จะนั่งโต๊ะไหน
“งั้นสั่งเครื่องดื่มมาเลย” ไม่นานเครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟ มินรดาและฟ้าระวีที่นั่งอ่อยเหยื่ออยู่ก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ออกมาปลดปล่อยหลังจากที่เริ่มทำงานกันอย่างจริงจังก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากเที่ยวแบบนี้มานานแล้วจึงถือโอกาสนี้ได้ปลดปล่อยสักที
เมื่อรติดื่มจนเมาหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ก็เริ่มจะน้ำตาซึมและเริ่มร้องห่มร้องไห้ออกมาเสียงดัง
ตอนที่ 57 ซุกเมียซุกลูก“นี่ใช่ไหมคะที่เป็นสาเหตุให้พี่วุฒิไม่ยอมกลับบ้านเพราะพี่วุฒิแอบไปมีอยู่กับเมียใช่ไหม” วรวุฒิหัวเราะขำออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวคนเดียวของเขาจะคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้“อะไรกันยัยลิน พี่จะไปมีเมียตอนไหน”“ก็มีตอนนี้ล่ะค่ะ มีทั้งเมียมีทั้งลูก ลินจะโทรฟ้องคุณแม่ว่าพี่วุฒินิสัยไม่ดีทำผู้หญิงท้อง” ไพลินเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจนวรวุฒิรีบเดินไปดึงโทรศัพท์ออกจากมือน้องสาวที่คิดเป็นตุเป็นตะไปได้“อะไรกันนั่นไม่ใช่เมียพี่ลูกพี่ซะหน่อย ลินก็คิดไปซะไกล”“แล้วถ้าไม่ใช่พี่วุฒิจะส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้รินตรวจทำไมล่ะคะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ใช้คำนำหน้าว่านางที่สำคัญใช้นามสกุลสิงหเขมราของเราด้วยถ้ าไม่ใช่เมียพี่วุฒิแล้วพี่วุฒิจะเป็นห่วงเด็กในท้องได้ยังไงคะ” วรวุฒิส่ายหน้าไปมาอย่างนึกขำไม่ได้ที่เห็นท่าทางของน้องสาวนั้นเริ่มออกแนวจะห่วงเขาซะแล้ว“อะไรกันเล่ายัยลินแล้วพี่มีนามสกุลนี้คนเดียวหรือยังไง เจ้าสิงห์ก็มี เจ้าเสือก็ลินไม่คิ
ตอนที่ 56 ผู้หญิงคนนั้นใช่นามสกุลเราได้ยังไง“ทำไม คุณเป็นผู้ชายคนใหม่ของผู้หญิงคนนั้นเหรอ” หมอหนุ่มส่ายหน้าไปมา“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอทั้งนั้น เธอก็เป็นเพียงแค่คนไข้ของผม” เขาหมุนตัวกลับเพื่อที่จะเดินเข้าไปตรวจคนไข้ในห้อง“ใครดูก็รู้ว่าไม่ได้เป็นเพียงคนไข้กับหมอคงจะตรวจอย่างอื่นล่ะสิท่า” วรวุฒิหันกลับมาจ้องหน้าของพิมรสาด้วยท่าทางไม่พอใจที่เธอพูดแบบนั้นออกมา“ถ้าคุณกล้าดูถูกผมอีกครั้ง ผมจะฟ้องคุณ” คำพูดที่ราบเรียบกับสายตาที่ดุดันนั้นจ้องมองหญิงสาวจนพิมรสาอึกอักไม่รู้จะพูดยังไงต่อ บุรุษพยาบาลจึงบอกให้เธอออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว“เชิญครับคุณผู้หญิง”“ฉันรู้แล้วล่ะน่า” หญิงสาวก้าวเท้าฉับ ๆ ออกไปด้วยความไม่พอใจแต่ถึงยังไงเธอก็ทำสำเร็จอีกขั้นแล้ว รติรสคงจะกระอักเลือดตายแล้วมั้ง พิรสาสวมแว่นตาดำยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วเดินไปยังรถสปอร์ตของตนเองฟ้าระวีที่เดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าห้องตรวจด้วยความกังวลใจไม่นาน วรวุฒิก็เดินมาสมทบที่หน้าห้องตรวจเช่นกัน“พอดีผมมีเรื่องจะถามนะครับ” วรวุฒิพ
ตอนที่ 55 ตั้งครรภ์“แล้วเดือนที่แล้วประจำเดือนเธอมาหรือเปล่า” รติรสพยายามนั่งนึกอยู่ไม่นานเธอก็พยักหน้า“เหมือนจะมานิดนึงนะคะ” เธอหันไปตอบพยาบาลสาวที่กำลังรอคำตอบอยู่พยาบาลเขียนข้อมูลลงในแบบฟอร์ม หลังจากนั้นฟ้าระวีก็พยุงรติรสไปนั่งรอเพื่อเรียกเข้าห้องตรวจ“เดือนนี้ประจำเดือนแกยังไม่มาเหรอแก” ฟ้าระวีถามพร้อมใบหน้าที่ตกตะลึง“หรือว่าแกจะท้องวะ”“ยัยฟ้า” รติรสพูดขึ้นเสียงสั่นเครือยิ่งคิดยิ่งน่าหวั่นใจเพราะตอนมีอะไรกับพยัคฆิน เธอก็วุ่นวายจนไม่ได้กินยาคุมสักครั้งเลยคิดแล้วก็รู้สึกหวั่น ๆ ไม่รู้ว่าเธอจะท้องป่องหรือเปล่าถ้าเธอท้องป่องแล้วเธอจะทำยังไง“ทำยังไงดีแก” รติรสหันไปถามฟ้าระวีด้วยเสียงสั่นเครือ เธออยากจะร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะที่นี่อยู่ที่โรงพยาบาลเดี๋ยวจะเป็นการรบกวนคนไข้คนอื่น“ไม่มีอะไรหรอกน่าทำใจดี ๆ ไว้” รติรสนั่งก้มหน้าด้วยท่าทางเป็นกังวลและแล
ตอนที่ 54ทำไมผมต้องหย่า“ไม่ค่ะ ฉันไม่เอา” หญิงสาวตอบขึ้นมาด้วยท่าทางหนักแน่น เธอไม่ต้องการเศษเงินของใครแค่นี้ชีวิตเธอก็วุ่นวายมากพอแล้ว เธอไม่อยากได้รับความสงสารจากเขาอีกแม้แต่น้อย เมื่อเห็นท่าทางถือดีของรติรสยิ่งทำให้พยัคฆินขบกรามแน่นพยัคฆินที่กำลังจะจรดปากกาและเซ็นใบหย่าให้เธอ แต่เขาก็หยุดเอาไว้ตรงนั้น“ผมเปลี่ยนใจ ผมไม่หย่า” เจ้าหน้าที่ที่พยายามไกล่เกลี่ยอยู่ตั้งนานอยากจะให้ทั้งคู่ลองคิดทบทวนให้ดีเสียก่อน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายนั้นกลับเปลี่ยนใจขึ้นมาซะงั้นพยัคฆินลุกขึ้นตึงตังแล้วเดินออกไปจากที่ว่าการอำเภอทันทีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมคุณสิงห์เปลี่ยนใจขึ้นมา” มินรดาหันไปถามรติรสด้วยท่าทางตกใจ จู่ ๆ รติรสก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามพยัคฆินออกไป จนสองเพื่อนสาวมองหน้ากันเหลอหลาแล้วหันไปยิ้มกับเจ้าหน้าที่คนเดิม“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฝ่ายชายยังไม่พร้อมค่ะ”“ไม่เป็นไรค่ะ ให้คู่สามีภรรยาคุยกันให้ชัดเจนก่อนนะคะค่อยมาใหม่ก็ได้ค่ะ” สองสาววิ่งหน้าตั้งตามรติรสกับพยัคฆินออกมาข้าง
ตอนที่ 53เสียทั้งตัวเสียทั้งใจ“พี่แก้วคะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของคุณสิงห์เหรอคะ ทำไมคุณสิงห์ถึงมาถ่ายพรีเวดดิ้งอีกรอบล่ะคะ” แก้วฤทัยรีบยกมือทำท่าจุ๊ปากไม่ให้วิภาดาพูดมากกว่านี้เธอกลัวว่าพิมรสาจะมาได้ยินเดี๋ยวเป็นเรื่อง“พูดเบา ๆ หน่อยสิน้องดาเดี๋ยวคุณพิมก็มาได้ยินหรอก ดาก็รู้เกียรติศัพท์คุณพิมเธอยิ่งไม่ธรรมดา” วิภาดารีบคว้าข้อมือของแก้วฤทัยเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง“ค่ะ ดาทราบดีค่ะ แต่ดาว่าผู้หญิงคนใหม่นี้ไม่ค่อยน่ารักเลยนะคะ ทั้งจิกกัดและสั่งเรายังกับทาสพี่ก็เห็น”“เห็นแล้วจะทำยังไงได้ล่ะ เขาเป็นลูกค้าไง”“แต่ลูกค้าก็ไม่ใช่พระเจ้านะพี่”“ลูกค้ามีเงินให้เรา ถ้ายังจะพูดมากอีกเดี๋ยวลูกค้าเปลี่ยนใจแล้วเราจะเอาเงินไหนใช้จ่าย ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้ ดานั่นแหละจะโดนไล่ออกจากงานได้” แก้วฤทัยชี้ทางสว่างให้วิภาดาว่าไม่ควรนินทาหรือซุบซิบเรื่องของลูกค้าเพราะมันผิดกฎและที่สำคัญอาจจะเกิดเรื่องใหญ่ได้จนทำให้เธอหลุดจากงานนี้“ค่ะ แต่ดารู้สึกว่าดาสงสารผู้หญิงคนก่อนของคุณสิงห์นะคะเพราะว่าวันท
ตอนที่ 52 คุณสิงห์จะแต่งงาน“โอ๊ย! ไอ้ลูกเวรมันวอนแต่เช้าเลย” ผู้เป็นพ่อด่าตามหลังสีหราชแต่แล้ว เขาได้ยินเสียงตะโกนของพ่อไล่หลังมาซึ่งไม่รู้หรอกว่าพ่อเขาตะโกนด่าเขาคำไหนแต่เขารู้ว่าพ่อคงจะอวยพรเขาสักอย่างนึง เขาจึงวนรถมอเตอร์ไซค์กลับมาและเบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ใส่ผู้เป็นพ่อจนควันดำจากมอเตอร์ไซค์คลุ้งไปทั่วหน้าบ้าน“ไม่รู้ว่าฉันทำให้แกเกิดมาได้ยังไง ไอ้ลูกเลว” อุไรที่วิ่งออกมาจากห้องครัวเมื่อได้ยินเสียงคมสันตะโกนด่าลูกชายลั่นบ้าน“เจ้าเสือทำอะไรน่ะ หยุดนะ” จากที่เธอกำลังทอดไก่อยู่พอได้ยินเสียงของคมสันตะโกนด่าลูกชาย เธอก็รีบวิ่งมาห้ามศึกทันที แม้แต่ตะหลิวก็ยังติดมือของอุไรมาด้วยเมื่อเห็นลูกชายทำท่าเบิ้ลรถจนควันดำโขม่งโฉงเฉงทั่วบ้าน เธออยากที่จะเอาตะหลิวเคาะหัวลูกชายสักทีสองทีให้หลาบจำจะได้ไม่ทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก ไม่รู้โตมายังไงทั้ง ๆ ที่เธอก็สอนเขามาอย่างดีแต่เขาก็ยังเป็นเด็กก้าวร้าวและไม่เคารพผู้ใหญ่เมื่อสีหราชเห็นผู้เป็นพ่อนั้นโกรธจนควันออกหูและเห็นแม่กำลังวิ่งออกมาจาก