“ใช่ค่ะ ดิฉันคืออดีตภรรยาที่เพิ่งเซ็นใบหย่ากับคุณสิงห์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ” “จริงเหรอเนี่ย” แขกในงานนั้นพูดกันเซ็งแซ่ “นี่เธอ หยุดนะ” เสียงแหลมของผู้เป็นเจ้าสาวดังขึ้นจากทางด้านหลัง รติรสหันไปส่งยิ้มเหยียดให้พิมรสา “หุบปากไปก่อนนะคะ คุณเจ้าสาว” “แต่ทุกท่านรู้ไหมคะด้วยเหตุผลอะไรของดิฉันถึงได้หย่ากับเจ้าบ่าวคนนี้เพราะว่าพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่เห็นด้วยค่ะ และพ่อเจ้าบ่าวก็จับได้ว่าดิฉันถูกคุณสิงห์จ้างมาแต่งงานค่ะ เพราะอะไรเหรอคะ” เธอหยุดยิ้มเพราะเสียงพูดที่สั่นเครือ รติรสพยายามตั้งสติให้มั่นและสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ดิฉันอยากจะบอกว่าเหตุผลสำคัญที่ดิฉันมาในวันนี้ ก็คือดิฉันมีเรื่องที่จะมาแสดงความยินดีกับลูกชายเจ้าของโรงแรม ไม่ใช่เพราะว่าเขากำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวคนนี้หรอกค่ะ แต่เหตุผลนั่นก็คือ...” ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงก็นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อจนคนที่นั่งข้างกันเงียบจนได้ยินเสียงของลมหายใจของกันและกัน “มีผู้หญิงคนหนึ่งได้แต่งงานกับสามีมาเป็นเวลาเกือบสี่เดือนแต่แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งเราก็ต้องหย่ากันหลังจากหย่าเธอจึงรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์”
View More“เอ่อ! ท่านแขกผู้มีเกียรติครับ กรุณารออยู่ที่โต๊ะด้านล่างก่อนนะครับ ตอนนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังจะสวมแหวนกันนะครับ” รติรสจึงเดินไปดึงไมค์มาจากมือพิธีกรชายทันที
“ว้าย!” สาโรจน์ตกใจร้องออกมาเสียงดังเมื่อถูกกระชากไมค์ไปจากมือแล้วรีบถอยหลังออกห่างจากรติรสด้วยความตกใจ
“เอาล่ะค่ะ ถ้าใครยังไม่รู้จักดิฉัน ดิฉันขอเฉลยก่อนเลยนะคะว่าดิฉันคือใคร แต่จากที่ทุกท่านเห็นคงจะเดาออกแล้วว่าดิฉันน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าบ่าวแน่นอน” รติรสหยุดพูดแล้วกวาดสายตาไปหยุดที่สีหราชน้องชายของอดีตสามีที่นั่งส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เธอและเลื่อนสายตาไปที่พ่อแม่ของพยัคฆิน
“ใช่ค่ะ ดิฉันคืออดีตภรรยาที่เพิ่งเซ็นใบหย่ากับคุณสิงห์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ”
“จริงเหรอเนี่ย” แขกในงานนั้นพูดกันเซ็งแซ่
“นี่เธอ หยุดนะ” เสียงแหลมของผู้เป็นเจ้าสาวดังขึ้นจากทางด้านหลัง รติรสหันไปส่งยิ้มเหยียดให้พิมรสา
“หุบปากไปก่อนนะคะ คุณเจ้าสาว”
“แต่ทุกท่านรู้ไหมคะด้วยเหตุผลอะไรของดิฉันถึงได้หย่ากับเจ้าบ่าวคนนี้เพราะว่าพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่เห็นด้วยค่ะ และพ่อเจ้าบ่าวก็จับได้ว่าดิฉันถูกคุณสิงห์จ้างมาแต่งงานค่ะ เพราะอะไรเหรอคะ” เธอหยุดยิ้มเพราะเสียงพูดที่สั่นเครือ รติรสพยายามตั้งสติให้มั่นและสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“พวกคุณรู้ไหมคะว่าด้วยเหตุผลอะไร” เสียงซุบซิบนินทาก็ดังขึ้นอื้ออึงทั้งห้องจัดเลี้ยง
“เรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะค่ะ แต่ดิฉันอยากจะบอกว่าเหตุผลสำคัญที่ดิฉันมาในวันนี้ ก็คือดิฉันมีเรื่องที่จะมาแสดงความยินดีกับลูกชายเจ้าของโรงแรม ไม่ใช่เพราะว่าเขากำลังจะแต่งงานกับเจ้าสาวคนนี้หรอกค่ะ แต่เหตุผลนั่นก็คือ...” ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงก็นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อจนคนที่นั่งข้างกันเงียบจนได้ยินเสียงของลมหายใจของกันและกัน
“แต่ก่อนที่ทุกท่านจะได้รู้ว่าเรื่องอะไร ดิฉันมีนิทานเรื่องหนึ่งจะมาเล่าให้ฟังค่ะก็ถือซะว่าเป็นการเบรกโฆษณาก่อนที่จะเข้าพิธีแต่งงานก็แล้วกันนะคะ”
“มีผู้หญิงคนหนึ่งได้แต่งงานกับสามีมาเป็นเวลาเกือบสี่เดือนแต่แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งเราก็ต้องหย่ากันหลังจากหย่าเธอจึงรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์” เสียงฮือฮาดังขึ้นกว่าเดิม
“ใช่ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นก็คือดิฉันเอง” เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้องจัดงานแขกเหรื่อที่อยู่ในงานต่างพากันตกใจและคนที่น่าจะตกใจมากที่สุดก็คือ พยัคฆิน เขากำกล่องแหวนไว้แน่นจนมือสั่นเทาไปหมด เขาไม่อยากจะเชื่อหูเลยว่าเธอนั้นท้องจริง ๆ รติรสหันมาส่งยิ้มให้กับพยัคฆินแล้วปรายตาไปยังพิมรสา
“มันไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นมานะคะ แต่มันเป็นเรื่องจริง” ว่าแล้วจอภาพที่เป็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งก็กลายมาเป็นวิดีโอของภาพอัลตร้าซาวด์ทารกที่กำลังอยู่ในท้องซึ่งหัวใจดวงน้อย ๆ กำลังเต้นอยู่
“ตึก ตึก ตึก” หยดน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาอาบแก้มของพยัคฆิน เขามองวิดีโอที่เปิดขึ้นจอใหญ่จากทางด้านหลัง เสียงหัวใจของเด็กที่อยู่ในครรภ์นั้นเต้นดังเป็นจังหวะ จนมันบีบรัดหัวใจของเขาจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก
“ทุกท่านได้ยินเสียงหัวใจเล็ก ๆ ที่กำลังเต้นอยู่ไหมคะ” เธอพูดและหันมองไปรอบ ๆ
“เด็กคนนั้นกำลังอยู่ตรงนี้ค่ะ” หญิงสาวชี้ไปที่ท้องน้อยของตัวเอง
“ใช่ค่ะ หัวใจของเขาเต้นอยู่ในนี้และวันนี้เขาก็รู้ด้วยนะคะว่าพ่อของเขากำลังแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น” รติรสพูดพร้อมรอยยิ้มเหมือนคนข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ให้ลึกที่สุด
พยัคฆินกำมือแน่นด้วยความเจ็บปวด หญิงสาวหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อของลูกในท้อง
“ในวันที่เราหย่ากัน ฉันพึ่งรู้ค่ะว่าฉันกำลังท้องแต่ที่เจ็บใจมากที่สุดคืออะไรรู้ไหมคะ” รติรสหันไปยิ้มกับแขกในงานแต่งของพยัคฆินและพิมรสา
“ในวันที่ฉันรู้ว่าตัวเองท้อง คือวันที่ฉันได้รับการ์ดเชิญแต่งงานจากพ่อของลูกนั่นเอง” เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงที่กลางหัวของพยัคฆินเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งได้ขนาดนี้
ตอนที่ 12 เปิดตัวลูกสะใภ้รติรสรีบลุกขึ้นจากที่นอนแล้วปลดเนกไทของเขาตามคำสั่ง หญิงสาวรู้สึกมือสั่นเมื่อเห็นสายตาดุๆของเขาแบบนั้น เธอปลดเนกไทเสร็จแล้วเขาก็บุ้ยปากให้เธอช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทันที“เสื้อด้วยเหรอคะ”“ก็ใช่สิ แล้วคุณจะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ยังไงถ้าไม่ถอดเสื้อออก”“คุณทำเองไม่ได้เหรอคะ” ชายหนุ่มมองจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ“คุณจะต้องเริ่มเรียนงานที่จะเป็นภรรยาในการปรนนิบัติสามีนะ” หญิงสาวก้มหน้างุดด้วยความเขินอายแต่แล้วเขาก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง“อะไรอีกคะ” เธอถามเขาออกไปเสียงห้วนด้วยท่าท่างไม่พอใจ“ถ้าตอนที่เราไปเ
ตอนที่ 11 ทำหน้าที่ภรรยาเมื่อเจอคำถามของพยัคฆินว่าเธอมีปัญหาหรือเปล่าหากการจ้างแต่งงานแล้วต้องนอนห้องเดียวกัน“ไม่ค่ะ ฉัน..” หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มพอเห็นแววตาดุๆของเขาเธอก็แทบจะไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรออกไป หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆให้เขาพลางหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นเอกสารทันทีอมรยิ้มกว้างแล้วเอกสารยื่นให้พยัคฆิน พยัคฆินลงชื่อในเอกสารทั้งสอง ฉบับเสร็จแล้วอมรจึงเก็บเอกสารหนึ่งฉบับไว้กับตัวเองแล้วยื่นเอกสารอีกใบหนึ่งให้กับรติรส“นี่คือสัญญาการแต่งงานครับ ผมรบกวนคุณรติรสส่งเลขบัญชีให้ผมด้วยนะครับ ผมจะทำการโอนเงินให้ครับ” รติรสส่งเลขบัญชีให้กับอมร เขานั่งก้มหน้างุดอยู่กับโทรศัพท์ไม่นานเสียงข้อความก็แจ้งเตือนขึ้น“ติ่ง!” หญิงสาวเปิดดูข้อความดวงตาของเธอก็เบิกกว้างเงินจำนวนสามล้านหนึ่งแสนบาทถูกโอนเข้าบัญชีของเธอทันที จนเธอเงยหน้ามองอมรกับพยัคฆินสลับกันไปมา“เอาล่ะ ถือว่าสัญญาของเรานั้นได้เริ่มขึ้นแล้วเพราะฉะนั้นคุณจะต้องอยู่ที่นี่ทำเหมือนว่าคุณเป็นภรรยาของผมจริงๆ”“แล้วงานของฉันละคะ” หญิงสาวถามขึ้นด้วยท่าทางอึกอักเพราะเธอก็มีงานทำประจ
ตอนที่ 10 สัญญาจ้างแต่งงานพยัคฆินหยิบแหวนขึ้นมาแล้วสวมใส่นิ้วนางของหญิงสาวด้วยท่าทางอ่อนโยนเขาจูบที่หลังมือของเธอ รติรสสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากริมฝีปากหยักนั้นจนทำให้เธอรู้สึกเขินอายจนหน้าแดงฟ้าที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดวิดีโอแล้วรีบโพสต์ลง Facebook แท็กรติรสทันที“หลังจากที่เพื่อนฉันเสียใจจากผู้ชายเลวๆคนหนึ่งก็ได้มีเทพบุตรสุดหล่อมาขอแต่งงานด้วยแหวนเพชรเม็ดใหญ่ เหมือนภาพเจ้าชายที่ขอเจ้าหญิงแต่งงานก็ไม่ปาน”พชรที่เห็นภาพนั้นบาดตาบาดใจเขาจึงเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้วยท่าทางหัวเสียรติรสที่มองตามผู้ชายที่เธอเคยคิดจะฝากชีวิตไว้ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่หักหลังเธอและทำให้เธอเจ็บช้ำได้ถึงขนาดนี้ พยัคฆินกระตุกมือของเธอเบาๆ เขาลุกขึ้นแล้ว
ตอนที่ 9 แต่งงานกับผมนะเมื่อพชรหันกลับไปมองก็เห็นเข้ากับชายหนุ่มที่รูปร่างสูงมากกว่าเขา ใบหน้าหล่อเหลาและยังดูอายุน้อย ผิวพรรณขาว ริมฝีปากหยักอมชมพูสุขภาพดีรติรสที่หันไปมองตามเสียงเพราะเธอนั้นรู้สึกคุณเสียงนั้นมากแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดเขาก็คือผู้ชายคนเมื่อคืน รติรสหันไปมองหน้าฟ้าระวีฟ้าระวีที่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้เพื่อนสาวเพราะเธอนั่นแหละคือต้นเหตุที่ทำให้พยัคฆินมาอยู่ที่นี่เมื่อเขาประชุมเสร็จก็มีเสียงไลน์เด้งขึ้นและทำให้เขางุ่นงงมากกว่านั้นก็คือฟ้าระวีเธอส่งข้อความมาหาเขาว่า“คุณรีบมาที่ร้านเบเกอรี่ด่วนเพราะว่าถ้าคุณไม่มาคุณจะเสียใจ เพราะแฟนเก่าของรติกำลังมาขอคืนดี” และฟ้าระวีอีกนั่นแหละที่ส่งข้อความไปบอกพชร“ฟ้ากับรติอยู่ที่ร้านเบเ
ตอนที่ 8 ขอคืนดี“เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ ฉันควรจะโทรหายัยฟ้า” เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากำลังจะกดเบอร์โทรหาฟ้าระวีแต่ก็มีสายเรียกเข้าเสียก่อน“ฮัลโหล ฟ้าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่คอนโดของผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวถามเพื่อนออกไปด้วยท่าทางร้อนรนเมื่อคุยกันได้ไม่กี่คำพวกเธอก็นัดเจอกัน รติรสรีบกลับไปที่บ้านแล้วอาบน้ำแต่งตัวไปยังร้านเบเกอรี่ที่แก๊งค์สามสาวของเธอชอบไปทันที“รติทางนี้” รติรสรีบเดินไปหาเพื่อนสาวด้วยความอยากรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรกันแน่ทำไมเธอถึงจำเรื่องทั้งหมดไม่ได้นะ“ยัยฟ้านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันไปโผล่ที่คอนโดผู้ชายคนนั้น&r
ตอนที่ 7 คุณต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองแสงพระอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องนอนทำให้รติรสนั้นรู้สึกตัวขึ้นมาแต่ความรู้สึกนั้นช่างแตกต่างไปจากทุกวันเพราะเธอรับรู้ได้ถึงไออุ่นเหมือนกับว่าได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคนหญิงสาวลืมตาขึ้นมาก็เจอเข้ากับแผงอกของใครบางคนจนเธอต้องกะพริบตาปรับแสงที่ส่องสว่างรอดผ้าม่านสีขาวแล้วหันกลับมาดูแผงอกนั้นอีกครั้งหญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความงงงวยเธอจึงมองสำรวจไปตามแผงอกและเลื่อนขึ้นไปยังลำคอ“นั่นลูกกระเดือกนี่ ผู้ชายเหรอ” เธอรู้สึกสงสัยดวงตากลมสวยก็เลื่อนผ่านไปคางที่มีหนวดเคราเล็กน้อย แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วว่าตอนนี้เธอกำลังฝันหวานอะไรอยู่กันแน่ ทำไมเธอถึงนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชาย&nb
Comments