ฟู่จาวหนิงเดินมาข้างๆ อันเหนียน อันเหนียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "ไม่อย่างนั้น ให้ลุงฟู่มาดูข้าดีไหม?"เขามองความคิดเล็กคิดน้อยของอ๋องเจวี้ยนไม่ออกเสียที่ไหน?แต่ที่นี่ก็มีแค่ฟู่จาวหนิงคนเดียวที่เป็นหมอจริงๆ"อย่าขยับ"ฟู่จาวหนิงไม่มองเขา แค่จับแขนเขาไว้ บิดกระดูกข้อมือเขาแล้วถามไปด้วย"ไปบิดมาท่าไหน? แค่บอกท่าทางมาหน่อย แล้วก็บอกเรื่องแผลบนขาด้วย"อันเหนียนดูจนใจมาก เขาจึงต้องเล่าออกมารอบหนึ่งเซียวหลันยวนที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ยินพอดี"ดังนั้น พวกเขาก็เลยจราจลขึ้นมา" ฟู่จาวหนิงเอ่ยคำนี้ จากนั้นจึงจับมือของอันเหนียน ดันๆ บิดๆ และได้ยิงเสียงดังแกร๊กขึ้นมาอันเหนียนปวดจนแทบจะร้องออกมาแต่พริบตาต่อมา เขากลับรู้สึกว่าความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ที่ข้อมือเขาลดลงไปมากแล้วเขาทดลองจะหมุนๆ ดูด้วยสัญชาตญาณ"อย่าขยับ"ฟู่จาวหนิงห้ามทันที "กระดูกของท่านผิดรูปไปหน่อย หลังจากดันเข้าที่แล้วต้องดามไว้ให้นิ่งๆ สักสองสามวัน ตอนนี้ถ้าขยับมั่วซั่วเดี๋ยวจะผิดรูปไปอีก หลังจากนี้ถ้ารักษาไม่ดี ข้อมือของท่านก็จะเจ็บเป็นระยะๆ ขึ้นมา"ถ้าหากหมอทั่วไปจัดการพันให้นิ่งส่งเดช ก็จะรักษาได้ไม่ดีจนเปลี่ยนรูป ภายหลัง
"วางใจได้ ทักษะเย็บปิดของข้าดีมาก หลังจากเย็บแล้ว รอยแผลเป็นจะจางมาก จะมีแค่รอยด้ายเส้นหนึ่งเท่านั้น" ฟู่จาวหนิงคิดว่าเขากลัวมาก จึงอธิบายขึ้นมาคำหนึ่งอันเหนียนกลับตกตะลึงสั่นสะเทือน"บาดแผลของข้า จะไม่เหลือรอยแผลเป็นน่าเกลียดหรือ?"เดิมทีเขาทำใจไว้แล้ว ว่าน่องนี้ภายหลังจะมีแผลเป็นน่าเกลียดใหญ่ๆ แผลหนึ่งแน่นอน น่าจะขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเลยทีเดียว แต่ฟู่จาวหนิงกลับบอกว่าจะเหลือรอยจางๆ เส้นเดียวเท่านั้น?"ถ้าไม่เย็บปิดล่ะก็ จะเป็นแบบนั้นนั่นล่ะ แผลเป็นหนักหนามาก แต่ถ้าเย็บก็จะไม่เป็น" ฟู่จาวหนิงตอบ"นี่เจ้าจะเย็บหรือไม่เย็บกันแน่?" เซียวหลันยวนเริ่มหมดความอดทนเขาไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงมารักษาขาเขาด้วยซ้ำ แต่อันเหนียนกลับยังกล้าลังเลอีก ถ้ายังลังเลอีกนิดเดียว เข้าจะพาฟู่จาวหนิงไปแล้ว ปล่อยให้เขามีแผลเป็นซะเซียวหลันยวนเหลือบตามองผาดหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า "หนิงหนิง พันแผลให้เขาไปเลยแล้วกัน ชายชาตรีทั้งแท่ง มีแผลเป็นที่ขา ปกติก็มองไม่เห็นด้วย จะไปคิดมากทำไม?"ก่อนหน้านี้บนหน้าเขายังมีแผลเป็นพิษด้วยซ้ำอันเหนียนยังจะลังเลอีกที่ไหน?เขากำลังตกตะลึง จึงตั้งสติกลับมาไม่ได้ตอนนี้พอได
"เสร็จแล้ว ห้าวันอย่าให้โดนน้ำล่ะ อีกสองสามวันข้าจะมาเลาะด้ายออกให้""แค่นี้คือเสร็จแล้วหรือ?" อันเหนียนถามขึ้นอย่างงงงัน"ทำไม รู้สึกว่ายังเย็บไม่สะใจพอหรือ?" เซียวหลันยวนต่อคำเขามาให้ "ข้าเฉือนให้เจ้าอีกสักแผลดีไหม?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะพรวดขึ้นมา "อย่าเอะอะ"อันเหนียนแหงนตาขึ้นมองเซียวหลันยวน "จริงด้วย อ๋องเจวี้ยน ท่านรู้ใช่ไหม องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น...""อ๋องเจวี้ยน"เสียงอันเหนียนยังไม่ทันขา ดในประตูวงกลมก็มีเสียงอ่อนหวานดังขึ้น ใช้น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจน่าสาร เรียกเซียวหลันยวนขึ้นมาเซียวหลันยวนมองไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมาก!ยิ่งไปกว่านั้นหน้ายังเหลือง ตาบวมแดง ถูกเฉินเซียงประคองขึ้นก็ยังยืนไม่นิ่ง อ่อนไหวเหมือนต้นหลิ่วต้องลม"นางทำไมเปลี่ยนไปแบบนี้?" เซียวหลันยวนไม่เข้าใจเขารู้อยู่แล้วว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอยู่ที่นี่ จดหมายของพวกเขามีเขียนไว้แล้วอันเหนียนเลิกคิ้วขึ้น "แล้วนางเดิมทีเป็นอย่างไรกัน? โอ้ ข้าน้อยลืมไป ปีที่แล้วอ๋องเจวี้ยนไปต้าชื่อมานี่นะ ได้ยินว่าตอนนั้นช่วยชีวิตองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ด้วยนี่ ใช่ไหม?"ใต้เท้าผู้ตรวจการที่ซ่อนนัย อยากจะเอาคืนที่อ๋องเจวี
"ไม่ต้องพูดแล้ว ข้ากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นแค่คนแปลกหน้า เห็นคนแปลกหน้าแล้วมีอะไรน่าดีใจกัน?"แค่คนแปลกหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นได้ยินคำนี้ของอ๋องเจวี้ยนแล้วหน้าซีดไปนางมองอ๋องเจวี้ยนอย่างไม่อยากเชื่อ พวกเขาจะอย่างไรก็ไม่เหมือนคนแปลกหน้ากันนี่นา?"อ๋องเจวี้ยนมีบุญคุณช่วยชีวิตข้าไว้ ตอนนั้นที่ต้าชื่อ เดิมทีข้าเองก็ชื่นชมท่านอ๋อง มีบุญคุณช่วยชีวิตก็ต้อง..." ทดแทนบุญคุณด้วยร่างกายสิองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพูดยังไม่ทันจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทนางอย่างเย็นชา"บางครั้ง ข้าเองก็มีคุณธรรมช่วยเหลือเมื่อเห็นความไม่ถูกต้อง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็ฯใคร ก็จะนิ่งดูดายไม่ช่วยเหลือไม่ได้ แต่ว่า ข้าไม่ได้หวังให้องค์หญิงใหญ่มาตอบแทนอะไร"ประโยคของเขาแทบจะพูดอย่างชัดเจนว่า:ถ้าจะทดแทนคุณด้วยร่างกาย นั่นจะกลายเป็นทดแทนบุญคุณด้วยความแค้นนะองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นร่างโงนเงนอ๋องเจวี้ยนพูดกับนางเช่นนี้ไม่มีการเกรงใจเลยแม้แต่น้อยเฉินเซียงเองในใจก็ดำดิ่ง ท่าทีของอ๋องเจวี้ยนต่อองค์หญิงใหญ่ แตกต่างจากที่พวกนางคิดไว้อย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้นี่นานางกัดฟัน ประคององค์หญิงใหญ่ มองเซียวหลันย
เซียวหลันยวนตอนนี้รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ฉลาดเอาเสียเลยถ้าทิ้งสาเหตุที่เขาไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงโกรธจากการหึงหวง แค่พูดว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ป่วยอยู่ นางควรจะเลี่ยงให้มากที่สุดสิ จะได้ไม่ระบาดโรคใส่เขายังไม่พูดเรื่องความรู้สึกดีหรือไม่ดี เอาแค่ตัวตนของทั้งสองฝ่ายพอ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ของต้าชื่อ ส่วนเขาเป็นอ๋องเจวี้ยนจากแคว้นเจา ถ้าหากนางทำให้เขาติดโรคระบาด จนเขาเกิดเรื่องขึ้นมา ไม่ว่าองค์จักรพรรดิจะมีท่าทีแบบไหนกับเขา เขาจะไม่ใช้โอกาสนี้มาเอาเปรียบฝ่าบาทของต้าชื่อหรอกหรือ?จะอย่างไรก็ต้องชดเชยมาให้แล้วก็ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ ไม่รู้เพราะอะไรพอมาแคว้นเจา แต่ไม่ไปที่เมืองหลวง กลับมาที่เมืองเจ้อแทน เขาตอนนี้ถ้าพานางกลับไป คนอื่นจะคิดอย่างไรกัน? เขารู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่อยู่ที่เมืองเจ้อ?พวกเขาสองคนลักลอบมีความสัมพันธ์หรือเปล่า? ไปทำอะไรที่เมืองเจ้อกัน?ยังมีอีกเรื่อง เขาเพิ่งจะรีบเดินทางมาถึงเมืองเจ้อ จะอย่างไรก็ต้องอยู่ดูเมืองเจ้อก่อนว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเจอหน้ากันก็จะให้เขาพานางเข้าเมืองหลวง คิดอะไรอยู่กัน?สรุปก็คือ เขาไม่ชอบห
ทำไมถึงกลายเป็นที่รักยิ่งของอ๋องเจวี้ยนไปได้กัน?พวกสืออีกับไป๋หูเองก็ใช้ปลายนิ้วชี้แตะริมฝีปาก หมุนตัวออกไป ไม่อยากฟังเรื่องนี้จุ๊ๆ ท่านอ๋องไม่เห็นพวกเขาเป็นคนนอกเลย คำพูดพวกนี้ยังพูดตรงหน้าพวกเขาอีกฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน ในดวงตาก็มีรอยยิ้ม"ขอบคุณอายวนที่ช่วยหนุนข้านะ" นางตอบ "องค์หญิงใหญ่ก็ไม่ค่อยเชื่อฟังหมอจริงๆ ดูแลยากมาก""หมอเทวดาฟู่!" นางเป็นแบบนั้นที่ไหน?!องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้จะร้องไห้แล้วจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังไม่รู้ด้วยว่าเพราะอะไร เมื่อครู่เองก็หยุดไอไปแล้วแท้ๆ ตอนนี้พอร้องไห้ก็เริ่มไอขึ้นมาอีกเฉินเซียงเห็ฯนางไอแบบนี้ก็ร้อนรนขึ้นมาแล้วนางอดพูดกับเซียวหลันยวนขึ้นมาไม่ได้ "อ๋องเจวี้ยน องค์หญิงใหญ่ของพวกเรานำความจริงใจมาที่แคว้นเจา ถ้าแคว้นเจาไม่ปกป้องพวกเรา พวกเราก็จะไปที่แคว้นหมิ่นแล้ว!""โอ๋?"เซียวหลันยวนยกเสียงสูงตอนที่เฉินเซียงปลุกความสนใจของเขาขึ้นมา แล้วคิดว่ากำลังจะหันมาสอบถามนางนั้น เซียวหลันยวนกลับหันมาหาฟู่จาวหนิง น้ำเสียงเปลี่ยนไป ฟังแล้วดูอบอุ่นชิดเชื้อ"หนิงหนิง เจ้าไปล้างมือก่อนเถอะ ข้ารอเจ้าอยู่ที่นี่"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ท่านไปเรือน
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาเมืองเจ้อแน่นอนว่าไม่ได้มาหาอ๋องเจวี้ยนแต่หลังจากที่นางเสร็จธุระที่เมืองเจ้อแล้ว แน่นอนว่าต้องไปที่เมืองหลวงเพื่อหาอ๋องเจวี้ยนต่อ ที่มายังเมืองเจ้อ นางก็ทำเพื่อเพิ่มการรับประกันอีกชั้นหนึ่งในการเข้าไปยังจวนอ๋องเจวี้ยนแต่คิดไม่ถึงว่า พเข้าเมืองเจ้อก็ป่วยทันที ธุระจึงจัดการไม่สำเร็จ แล้วยังมาถูกอ๋องเจวี้ยนรังเกียจเสียก่อนอีก"องค์หญิงใหญ่ จะต้องเป็นเพราะอ๋องเจวี้ยนกลัวโรคนี้แน่"เฉินเซียงทำได้แค่พยายามปลอบใจองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"ท่านลองคิดดู อ๋องเจวี้ยนเดิมทีก็ป่วยมาสิบปียี่สิบปี สุขภาพของเขาเพิ่งจะดีขึ้น แน่นอนว่าต้องกลัวว่าจะติดโรคระบาดอะไรอยู่แล้ว เขาเองก็อาจจะร่างกายอ่อนแอกว่าคนอื่นอีกก็ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้องค์หญิงใหญ่""เป็นแบบนั้นหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสองตาไร้ประกาย ไม่ค่อยมีความมั่นใจเสียแล้ว"ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ข้าน้อยบอกว่าท่านดูไม่ดี แต่ช่วงนี้ท่านป่วยหนักมาก หน้าตาคงดูเศร้าหมองไปแน่นอน"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยื่นมือมาจับหน้าตนเองจู่ๆ นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา เมื่อครู่ไม่ควรออกไปพบอ๋องเจวี้ยนเลยให้เขาเห็นสภาพตนเ
แล้วก็ไม่รู้ว่าชายชราคนนั้นคือใคร กล่องใบนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ใส่อะไรเอาไว้เรือ่งนี้สำหรับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้วเป็นเรื่องสำคัญมากแน่นอน จะถามนางอย่างไรก็คงไม่ยอมพูดออกมาแน่แต่ก็ไม่เป็นไร พอถึงเวลานางก็ให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้เสียก็จบ"องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้จะฝังเข็มหยุดอาการไอหรือยัง?"ฟู่จาวหนิงเดินเข้าไป เคาะประตูเสียงในห้องก็เงียบลงมาทันทีฟู่จาวหนิงแอบขำ นี่คงทำให้นายบ่าวทั้งสองคนตกใจแน่ พวกนางน่าจะลนลานไม่รู้ว่านางได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้หรือเปล่าแล้วก็ตามคาด หลังจากเฉินเซียงมาถึงประตูก็ถามนางขึ้น "หมอเทวดาฟู่มาเมื่อไรกัน? คงไม่ได้ยืนอยู่ที่ประตูนี้พักนึงแล้วใช่ไหม?""ข้ามีเวลามาเสียกับพวกเจ้าซะที่ไหนกัน? สามีข้าเองก็มาแล้ว ข้าก็ต้องอยากรีบฝังให้เสร็จแล้วออกไปพบเขาสิ"ฟู่จาวหนิงแกล้งยั่วดโมโหองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเสียหน่อยพอได้ยินคำนี้ของนาง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็รู้สึกโชคดีที่นางไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครุ่ พลางรู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมา ชายคนนั้นที่นางอยากแต่งงานด้วย ตอนนี้เป็นสามีของคนอื่นไปแล้ว"ความรักของหมอเทวดาฟู่กับอ๋องเจวี้ยนดีขนาดนี้เชียวหรือ?""แน่นอนสิ องค์หญ
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม