ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [ตัวประกอบ]

ภรรยาเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง [ตัวประกอบ]

last updateLast Updated : 2025-10-06
By:  ซูมู่หรานUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
10Chapters
11views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ทางเข้าแห่งนี้ ว่ากันว่า สตรีทั่วหล้าล้วนแต่อยากก้าวเข้าไป ทว่าข้ากลับคิดว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่น่าอภิรมย์เลย แล้วเหตุไฉนโชคชะตาตัวประกอบเช่นข้า กลับต้องพบเจอเรื่องยากลำบากเช่นนี้กันเล่า

View More

Chapter 1

1.บทนำ

บทนำ...

เสียงควบม้าอย่างเร่งรีบยังคงดังก้องป่า  ราวกับกลุ่มคนเหล่านี้กำลังตามล่าใครสักคน  ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น  พวกมันกำลังตามเอาชีวิตใครคนหนึ่งที่กำลังควบม้าหนีตาย

“ตามมันให้ทัน  โอกาสดีเช่นนี้มิได้หาง่าย ๆ”  เสียงตะโกนดังขึ้นตามหลัง  พร้อมกับเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังตามมา

ส่วนกลุ่มคนด้านหน้าควบม้าพร้อมกับวางแผนไปด้วย

“จินเฉิง  เจ้าทิ้งข้าไว้เถิด  มิเช่นนั้นเราจะตายกันหมด”  ถ้อยคำแหบพร่าเปล่งออกมาไม่ต่างจากเสียงลมพัดผ่าน

“ไม่ได้”  ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดกล่าวเสียงแผ่วไม่ต่างกัน  เพราะเขาเองก็บาดเจ็บ  สภาพนายบ่าวดูไม่ค่อยได้เลย  ร่างกายพวกเขาต่างก็โชกไปด้วยโลหิตเต็มอาภรณ์

“จินเฉิง  ดูนั่น”  อี้ฟานร้องเรียกสหาย  พร้อมกับชี้ลงไปด้านล่างเชิงเขา  ซึ่งมีกลุ่มเดินทางของผู้คนน่าจะครึ่งร้อยได้

“ดีควบม้าลงไป”  สหายรีบร้องบอก  ก่อนที่ทั้งคู่จะควบม้าลงไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าลงไปขอความช่วยเหลือกับคนด้านล่าง  

“จินเฉิง พวกเขาอาจเป็นชาวบ้าน อย่าทำให้พวกเขาเดือดร้อน” คนเจ็บเอ่ยบอกอย่างร้อนใจ เพราะกลุ่มที่ตามมาล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ  คนทั่วไปไม่อาจรับมือได้แน่

“ขออภัยที่ข้าน้อยมิอาจฟังคำสั่งได้ขอรับ” ความภักดีทำให้องครักษ์หนุ่มไม่อาจลังเลได้แม้เพียงชั่วอึดใจ  เขารีบบึ่งควบม้าห้อตะบึงไปโดยไม่แยแสคำขอของผู้ที่นั่งซ้อนด้านหลังสักนิด

 

อีกด้านของขบวนสินค้า

“นายน้อย  บนทางลาดมีม้าเร่งฝีเท้ามาขอรับ”  เสียงรายงานดังขึ้น  ทุกคนจึงมองไปยังทุ่งหญ้าด้านบนของแนวเขา

“ด้านหลังมีคนตามมาด้วยขอรับ”  อีกหนึ่งรีบเอ่ย

ผู้ที่อยู่บนรถม้าจึงเปิดม่านออกมา  ดวงตาคมกริบจ้องมองสถานการณ์บื้องหน้าอย่างพินิจ  ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเรียบ

“เตรียมตั้งรับ” สิ้นคำสั่งร่างอรชรก็พาตนเองออกมายืนตระหง่านด้านหน้า  ในมือถือคันธนูพร้อมศรเตรียมยิงสามดอก   เป้าหมายคือผู้บุกรุกที่กำลังตรงดิ่งเข้ามาหาขบวนคาราวาน  แววตาคมเฉี่ยวจับจ้องไปยังบุรุษสามคนด้านหน้า  

“อย่ายิง!” เสียงตะโกนแว่วมา  ทว่าศรธนูหาได้เชื่อฟังไม่  มันยังคงถูกปล่อยออกไปอย่างไร้ปรานี  

ทว่าศรนั้นกลับแผ้วผ่านพวกเขาทั้งสามไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอยจากด้านหลังที่แว่วมาให้ได้ยิน  

“จินเฉิงพวกมันถอยไปแล้ว  ดูเหมือนหัวหน้ามันจะถูกยิง” อี้ฟานรีบกล่าวบอกสหายเพื่อให้เบาใจ

จินเฉิงเห็นเช่นนั้นก็หมายจะควบม้าไปต่อ  ทว่าสิ่งที่เขาคิดกลับต้องหยุดลงในทันที  เพราะผู้เป็นนายได้พลัดตกจากหลังม้าลงมากองต่อหน้าคนเหล่านี้เสียแล้ว

สองสหายจึงรีบกระโดดลงจากม้าเพื่อมาพยุงนายของตน  และพวกเขาก็ถูกคนที่ช่วยเอาไว้โอบล้อมในเวลาต่อมา

“พวกเจ้าเป็นใคร  คงไม่ได้ทำผิดแล้วถูกตามล่าใช่หรือไม่”  หานฟู่เอ่ยถามคนทั้งสามที่มีอาการบาดเจ็บพอสมควร

“พวกเราคือขุนนางในราชสำนัก  คนเหล่านั้นคือโจร  ว่าแต่พวกเจ้าพอจะมีหมอหรือไม่  นายท่านของข้าเสียโลหิตมาก  เขาจะไม่ไหวแล้ว” อี้ฟานรีบเอ่ยบอก  กลุ่มชายฉกรรจ์จึงหันไปยังรถม้าฟังว่านายของตนจะว่าเช่นไร

“เอาคนอาการหนักขึ้นมารักษาบนรถม้า  จากนั้นก็ออกเดินทางได้  ชักช้าจะถึงศาลาพักม้ามืดค่ำ”  เสียงสั่งการแม้จะหวานใส  ทว่ามันกลับดูหนักแน่นและมีอำนาจมาก  เพราะกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านี้ล้วนแต่เชื่อฟัง  และรีบทำตาม

‘นางเป็นใครกัน?’  จิ่นหรงนึก  ในช่วงชุลมุนเขารับรู้ว่ามีคนยืนยิงศรอยู่บนรถม้า และมันก็สกัดมือสังหารได้ในทันที แต่เมื่อขึ้นมาเขากลับพบว่าบนนี้มีแค่สตรีสองนางนั่งอยู่

‘เป็นพวกนางงั้นหรือ’

นัยน์ตาคมจ้องมองสตรีทั้งสองสลับกันไปมา  เพราะทั้งคู่สวมผ้าขาวปิดบังใบหน้าเอาไว้  ทว่าความสงสัยเขากลับหยุดลงเพียงเท่านั้น  เพราะทุกอย่างมันได้ดับวูบไปเสียแล้ว

พวกนางเป็นใคร ไยถึงยอมช่วยเขา…

 

 

 

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
10 Chapters
1.บทนำ
บทนำ...เสียงควบม้าอย่างเร่งรีบยังคงดังก้องป่า ราวกับกลุ่มคนเหล่านี้กำลังตามล่าใครสักคน ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น พวกมันกำลังตามเอาชีวิตใครคนหนึ่งที่กำลังควบม้าหนีตาย“ตามมันให้ทัน โอกาสดีเช่นนี้มิได้หาง่าย ๆ” เสียงตะโกนดังขึ้นตามหลัง พร้อมกับเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังตามมาส่วนกลุ่มคนด้านหน้าควบม้าพร้อมกับวางแผนไปด้วย“จินเฉิง เจ้าทิ้งข้าไว้เถิด มิเช่นนั้นเราจะตายกันหมด” ถ้อยคำแหบพร่าเปล่งออกมาไม่ต่างจากเสียงลมพัดผ่าน“ไม่ได้” ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดกล่าวเสียงแผ่วไม่ต่างกัน เพราะเขาเองก็บาดเจ็บ สภาพนายบ่าวดูไม่ค่อยได้เลย ร่างกายพวกเขาต่างก็โชกไปด้วยโลหิตเต็มอาภรณ์“จินเฉิง ดูนั่น” อี้ฟานร้องเรียกสหาย พร้อมกับชี้ลงไปด้านล่างเชิงเขา ซึ่งมีกลุ่มเดินทางของผู้คนน่าจะครึ่งร้อยได้“ดีควบม้าลงไป” สหายรีบร้องบอก ก่อนที่ทั้งคู่จะควบม้าลงไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าลงไปขอความช่วยเหลือกับคนด้านล่าง “จินเฉิง พวกเขาอาจเป็นชาวบ้าน อย่าทำให้พวกเขาเดือดร้อน” คนเจ็บเอ่ยบอกอย่างร้อนใจ เพราะกลุ่มที่ตามมาล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ คนทั่วไปไม่อาจรับมือได้แน่“ขออภัยที่ข้าน้อยมิอาจฟังคำสั่งได้ขอรับ” ความภัก
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
2.ใม่เป็นดั่งหวัง/1
ณ ชานเมืองผิงทิศทางตะวันออกของแคว้นหนาน ที่นี่ถือว่าเป็นเมืองใหญ่พอสมควร เพราะอยู่ห่างเมืองหลวงแค่เพียงครึ่งวันเท่านั้น ทว่าต้องควบม้ามาจึงจะถึงได้ไวเช่นนี้ หากนั่งรถม้าก็ต้องใช้เวลาเกือบวันจึงจะถึงตัวเมืองและที่นี่ก็คือบ้านเกิดเมืองนอนของ ‘มู่ตันหยง’ บุตรสาวคนรองของโหราจารย์มู่ซางฉี ทว่ายามนี้นางแต่งให้ฟู่อินโหวไปแล้ว ผู้ที่อาศัยอยู่ในจวนจึงมีแค่น้องสาวคนเล็กนามว่า ‘มู่ตันหยาง’ส่วนพี่ชายคนโตนามว่า ‘มู่ตานชุย’ นาน ๆ จึงจะได้กลับมาที เพราะเขาประจำการอยู่ที่ค่ายเสียมากกว่าจึงทำให้น้องสาวคนเล็กอย่างมู่ตันหยางจำต้องพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง ไร้ซึ่งญาติพี่น้องคอยอยู่เคียงข้าง ส่วนบิดาก็ต้องประจำอยู่ในวังหลวงตามหน้าที่ แม้มู่ซางฉีจะร้องขอให้นางไปอยู่ด้วย ทว่ามู่ตันหยางกลับไม่พึงปรารถนาที่จะติดตามไปเพราะนางไม่ชอบความวุ่นวายของเมืองหลวง… ยิ่งไปกว่านั้น มู่ตันหยางยังมีหน้าที่ต้องดูแลสำนักคุ้มภัยของท่านปู่ และบริวารนับร้อยที่ยังคงพึ่งใบบุญตระกูลมู่อยู่ นางจึงไม่อาจทอดทิ้งสถานะประมุขสำนักคุ้มภัยนี้ไปได้ทว่าวันนี้นางจำต้องจากที่นี่ไปแล้ว…“คุณหนู พวกเราขอให้ท่านมีความสุขมาก ๆ
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
3.ไม่เป็นดั่งหวัง /2
ร่างสูงของเจ้าบ่าวได้หยุดยืนที่กลางห้องราวกับชั่งใจ แต่ความเป็นจริงจิ่นหรงกำลังตื่นเต้นต่างหาก“นี่ท่าน…” มู่หลิงเห็นอีกฝ่ายก็ยกนิ้วชี้หน้า“อย่าเสียมารยาท คนผู้นี้คือรัชทายาท” มู่เฟิงรีบเอ่ยบอกน้องสาวของตน ก่อนที่นางจะทำกิริยาหยาบคายใส่“ระ…รัชทายาทหรือ” คนตื่นตระหนกยังคงไม่เชื่อ“เรื่องอื่นเอาไว้เราจะอธิบายภายหลัง ว่าแต่นายของเจ้าที่แต่งเข้ามา ใช่แม่นางที่ช่วยรัชทายาทเอาไว้วันนั้นหรือไม่” อี้ฟานเอ่ยถามแทนผู้เป็นนาย ซึ่งยืนนิ่งจ้องมองเจ้าสาวของตนด้วยดวงตาเปล่งประกายราวกับเก็บของรักที่หล่นหายกลับคืนมาได้“ใช่… เป็นคุณหนูของเราเองที่ช่วยพวกท่านไว้เมื่อครึ่งเดือนก่อน” มู่หลิงเอ่ยบอกเสียงอ่อนลง จิ่นหรงยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างชายาของตนที่ยังคงนั่งนิ่งเหมือนรูปปั้นที่ถูกนำมาตั้งเอาไว้“เปิดผ้าก่อนเพคะ” แม่สื่อหลวงเอ่ยบอกเจ้าบ่าวจึงทำตามโดยการใช้ไม้ยกผ้าคลุม ไม่ถึงอึดใจมันก็ร่วงหล่นลงไปกองทางด้านหลัง เผยใบหน้างามหวานหยดย้อยให้เห็น ทำเอาจิ่นหรงถึงกับนิ่งงันไปในทันทีทว่าเจ้าสาวกลับขมวดคิ้วด้วยความมึนงง“พี่ชายสุดหล่อ ไยท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า” ตันหยางเอ่
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
4.สังหารด้วยเพลิง
ตันหยางยืนจ้องพระสวามีที่มองตนด้วยแววตานิ่งเรียบ “พระองศ์คงไม่คิดจะให้หม่อมฉันนอนพื้นกระมัง”“เจ้าบอกเองว่าจะนอนตรงนั้นมิใช่หรือ”“ก็แค่ลมปากทรงเชื่อหรือเพคะ ขยับไป…หากไม่ขยับหม่อมฉันจะนอนทับพระองค์นะเพคะ” ตันหยางบอกกล่าวเสียงจริงจัง ผู้เป็นสามีจึงรีบทำตามที่นางบอก เพราะเขาเชื่อว่านางต้องทำจริงแน่ สตรีผู้นี้เคยพูดเล่นเสียที่ไหน ด้วยว่าการกระทำที่ผ่านมา มันเผยธาตุแท้ให้เขาได้เห็นหลายคราแล้วตันหยางยกยิ้มก่อนจะหย่อนกายลงนั่ง เมื่อถอดรองเท้าแล้วนางก็เอนตัวลงนอนพร้อมกับดึงเอาผ้าจากเขามาห่มครึ่งตัว “นอนเถิดเพคะ หากไม่นอนจะทำอย่างอื่นหม่อมฉันก็ไม่ว่านะ” นางเอียงหน้ามองเขาพร้อมกับยิ้มมุมปาก ทว่าผู้เป็นสามีกลับขยับนอนตะแคงหันหลังให้ พร้อมกับบ่นพึมพำให้ได้ยิน ตันหยางได้แต่เม้มปากไว้เพราะเกรงตนจะหลุดขำออกมา ก่อนจะปิดเปลือกตาลง ทว่าในใจกลับคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น องค์รัชทายาทเกลียดชังนาง เขามิได้เต็มใจจะแต่งด้วย ที่สำคัญเขาน่าจะพึงใจสตรีอื่นอยู่ ซึ่งมันคงมิใช่ใครที่ไหน นอกจากคุณหนูกู้อิงเถาสตรีที่ร่วมทางกับตนในช่วงนั้น เพราะท่าทีที่พระสวามีแสดงออกมันเผยให้เห็นชัดเจน ‘
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
5.ห่วงหรือ
จิ่นหรงได้แต่นั่งนิ่งมองชายาของตนอย่างชื่นชม แต่ยังไม่ทันได้กล่าวอันใด ตำหนักอันสวยงามก็พังครืนลงมา และเป็นช่วงที่เหล่าองครักษ์ฝ่ายในดับไฟที่ประตูทางเข้าได้พอดี“ฝ่าบาท! กระหม่อมขออภัยที่อารักขาล่าช้าพ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าองครักษ์จินอู่เอ่ยพร้อมกับหมอบลงอย่างสำนึกผิด“เรื่องสำคัญยามนี้ควรต้องรีบพาคนเจ็บไปรักษา รีบพาทุกคนออกไปจากที่นี่ก่อน” จิ่นหรงออกคำสั่งเอง ยามนี้ร่างกายเขาเริ่มกลับมามีแรงบ้างแล้ว เพียงแต่มันยังไม่เต็มที่นัก จากนั้นเขาก็หันมาหาร่างอรชรที่นอนแผ่หราบนพื้นหญ้า“พระชายาเป็นอย่างไรบ้างเพคะ” มู่หลิงรีบมาประคองผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง เพราะคิดว่าตันหยางหมดสติ ก่อนหน้านี้นางไม่ได้รับอนุญาตให้ตามเข้ามา จึงต้องรออยู่ด้านนอกรวมกับองครักษ์ของรัชทายาท “หลินเอ๋อร์รีบดูน้องสิ” ผู้เป็นย่าร้องเตือนด้วยความกังวล เพราะเกรงหลานสะใภ้ตนจะหมดสติ จิ่นหรงจึงรีบเข้ามาจับนาง “อื้อ…อย่ากวนคนจะนอน” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างขัดใจ ทำให้ผู้ที่เป็นห่วงถึงกับส่ายศีรษะไปตาม ๆ กัน“ดูท่าหยางเอ๋อร์คงจะเหนื่อยมาก หลินเอ๋อร์เจ้าพาน้องกลับไปพักเถิด” ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงเอ็นดูจิ่น
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
6.รับบทเมียเอก
อี้ฟานยืนนิ่งไม่ต่างจากรูปปั้น เพราะประโยคที่ได้ยินทำเขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่เลยทีเดียว“ช่างเถิด ข้ารู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ได้ห่วงใย ทว่าเรื่องที่ข้าสั่งใต้เท้าก็ทำตามเถิด คนของข้าดูแลข้าได้ไม่จำเป็นต้องมีเพิ่ม”“แต่ว่า…”ตันหยางเงยหน้ามองพร้อมกับใช้สายตากดต่ำจ้องเขา สุดท้ายองครักษ์หนุ่มจึงต้องทำตามอย่างเลี่ยงมิได้ขณะนั่นเอง…อรชรของสนมชิงก็ก้าวเข้ามาในห้องโถง “หม่อมฉันสนมชิงบุตรสาวเจ้ากรมขุนนาง ขอถวายพระพรพระชายารัชทายาทเพคะ” ชิงอวี้หรูกล่าวอย่างนอบน้อม ท่วงท่าที่แสดงออกมาก็อ่อนช้อยนัก “นั่งสิ เจ้ามาหาข้ามีธุระอันใดหรือ” ตันหยางเอ่ยอย่างเป็นมิตร เพราะนางไม่ใช่คนที่ชอบตั้งแง่กับผู้ใดตั้งแต่แรกเห็น“หม่อมฉันแค่อยากมาเยี่ยมเพคะ ก่อนนี้มาแล้วทว่าพระชายายังไม่ได้สติ วันนี้ได้ข่าวว่าฟื้นแล้วเลยรีบมาดู”“ขอบใจนะข้าสบายดี แค่หลับนานไปหน่อยเท่านั้น”“ดีจริงเพคะ เห็นเช่นนี้หม่อมฉันก็เบาใจ” อวี้หรูยิ้มจนเห็นฟันขาว ทว่าเมื่อเห็นผู้ที่ตนเอ่ยด้วยมีสีหน้าเรียบเฉย นางก็หุบปากลงในทันที “พระชายาทรงกำลังคิดว่าหม่อมฉันมาถามเพื่อเอาใจพระองค์ใช่หรือไม่เพคะ” ดวงตาเรียวเล็กกะพริบถี่รัว“
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
7.ผ่อนคลาย
จิ่นหรงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมนานกว่าหนึ่งก้านธูป จนกระทั่งเสียงหวานของสนมเกาแว่วมาให้ได้ยิน ร่างสูงจึงรีบลุกพรวดแล้วเดินขึ้นเรือนชายาของตนไปในทันที ทำเอาสนมคนงามได้แต่ยืนนิ่งงัน เพราะไม่กล้าตามขึ้นไป “บ้าจริง ข้ามาช้าไปหรือนี่” นางบ่นพึมพำ ก่อนจะเดินย่ำเท้าย้อนกลับไปยังเรือนพักด้วยอาการหงุดหงิดส่วนคนที่หนีขึ้นเรือนมาก็กำลังเดินตรงมายังห้องนอน เมื่อเห็นเพียงสาวใช้ของชายาตนอยู่ก็ไม่เอ่ยถามอันใด เพราะคิดว่าตันหยางคงกำลังอาบน้ำ จิ่นหรงจึงเอ่ยสั่งว่า “เจ้าไปเอาชุดที่ตำหนักมาให้ข้าที”“เพคะ” มู่หลิงรับคำแล้วก็ออกไปจากห้อง เมื่อประตูปิดลงร่างสูงก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังมุมห้องเพื่อเข้าไปยังห้องอาบน้ำ“อยากดูก็เดินเข้ามาสิเพคะ ไม่เห็นต้องทำตัวเป็นพวกถ้ำมองเลย” เสียงตำหนิดังขึ้นตั้งแต่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้ามาเสียด้วยซ้ำ ร่างสูงจึงชะงักเล็กน้อยแต่ก็เดินต่อจนมาหยุดที่ข้างขอบบ่อที่กว้างกว่าเตียงนอนเป็นเท่าตัว“จะอาบด้วยกันไหมเพคะ” ตันหยางเอ่ยเชิญชวน เพราะนางไม่ได้เปลือยผ้าอาบเหมือนผู้อื่น ยังมีผ้าพันผูกรอบกายอยู่ ทว่าหากนางลุกขึ้นมันย่อมเผยทรวดทรงองเอวให้เห็นเด่นชัดแน่จิ่
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
8.สตรีต้องซื่อสัตย์
ความเงียบเข้าปกคลุมในทันที ไม่มีใครกล่าวอันใดอีกจนกระทั่งเกศาที่ถูกเช็ดมันเริ่มแห้ง ตันหยางจึงเอ่ยว่า“หม่อมฉันจะไปเอาหวีมาสางให้นะเพคะ”“อืม” จิ่นหรงรับคำ พร้อมกับเหลือบมองร่างอรชรที่เดินห่างออกไป ‘ทำไมนางถึงได้ดีกับข้านัก ทั้งที่ข้ามักจะว่าร้ายนางอยู่ตลอด หรือนางจะตกหลุมรักข้าอย่างที่จินเฉิงกล่าว’ เขานึกถึงคำพูดของคนสนิทที่เอ่ยบอกเมื่อวันก่อน มู่ตันหยางพยายามเข้าใกล้เขา และคอยยั่วยวนอยู่เสมอ คืนนี้ก็เช่นกัน เขาคิดจนเหม่อ กระทั่งร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้จึงได้สติรีบหันหนีตันหยางยกยิ้ม ก่อนจะเดินมายืนซ้อนด้านหลังเขาเพื่อหวีผมให้ “ทำไมเพคะ ทรงคิดหาวิธีก่นด่าหม่อมฉันอีกหรือ”“ข้าอยากรู้…” เสียงทุ้มกลับขาดหายไป“ว่า?” คิ้วสวยขมวดเป็นปมทันที มือก็ชะงัก“เหตุใดเจ้าถึงดีกับข้านัก” ในที่สุดเขาก็ถามตันหยางเงียบไปครู่หนึ่ง ทว่านางก็ไม่ได้ปล่อยให้อีกฝ่ายรอนาน เมื่อมือขาวเริ่มขยับ ปากนางก็พูดไปด้วย“หม่อมฉันแต่งให้พระองค์แล้ว ไม่ให้ดีกับพระองค์จะให้ไปดีกับผู้ใด มีสามีได้สองสามคนก็ว่าไปอย่าง หากเป็นเช่นนั้นรับรองว่าพระองค์จะไม่เอ่ยถามเช่นนี้แน่ เพราะหม่อมฉันคงขลุกอยู่เรือน
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
9.หวง
หลังจากจัดการตนเองเรียบร้อย ตันหยางก็รีบออกจากห้อง วันนี้นางตั้งใจจะไปเยี่ยมไทเฮาที่ตำหนักใหม่ เพราะนี่ก็สามวันแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนยังไม่ได้ไปถามไถ่อาการเลย แต่จะว่าไปนางเองก็เพิ่งฟื้นเมื่อบ่ายวาน จึงไม่ได้ไปเยี่ยมผู้ใด“เจ้าจะไปไหน” จิ่นหรงเอ่ยถามชายาตัวน้อยเสียงอ่อน วันนี้นางแต่งกายด้วยอาภรณ์พลิ้วไหวสีชมพูอ่อน มันช่างขับกับผิวพรรณขาวผ่องของนางดีเหลือเกิน เสียก็ตรงเนินอกมันดูล้นจนเกินไป ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเดินมาหา แล้วยกผ้าที่คล้องอยู่บนแขนขึ้นมาพาดลงปิดส่วนที่ล้นออกมา“ใครเขาทำอย่างนี้กันเพคะ” ตันหยางท้วง พร้อมกับดึงผ้าลงมาไว้ที่แขนตนตามเดิม แต่อีกฝ่ายก็ยังจับพาดบ่าเช่นเคย“อย่าดื้อ มันดูไม่งามมิเห็นหรือ” เอ่ยพร้อมกับจ้องมาที่เนินเต้าอวบอิ่มของชายา และเขาก็ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น“คนชีกอ คิดว่าคนอื่นเขามีตามองแต่ตรงนี้เหมือนพระองค์หรือเพคะ ลามก” นางต่อว่าเขาก่อนจะรีบเดินหนีจิ่นหรงมองตามพร้อมกับขมวดคิ้ว แล้วหันมาหาคนสนิทที่ยืนอยู่ไม่ไกล “คนเช่นข้าหรือชีกอ นางแต่งกายไม่มิดชิดข้าก็แค่ตักเตือน แต่นางกลับด่าข้ากระนั้นหรือ”สองสหายยิ้มแหย แต่ไม่มีใครกล้าตอบอันใด “
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
10. ทวงบุญคุณ
ตันหยางยกยิ้มกับท่าทางของสตรีตรงหน้า ต่างจากฮองเฮาที่นั่งมึนงงด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเมื่อครู่ญาติผู้น้องตนเอ่ยเองว่า ผู้ที่ช่วยคนไว้คือตันหยาง และคนที่เฝ้าไข้บุรุษแปลกหน้าทั้งวันคืนก็ยังเป็นตันหยาง แล้วเหตุใดยามนี้ กู้อิงเถาถึงได้เอ่ยว่าคนผู้นั้นคือตนเอง ความสงสัยมีมาก ฮองเฮาจึงหันกลับมาหาตันหยางที่นั่งนิ่งทว่าริมฝีปากกลับยกยิ้ม‘เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ แล้วนี่คนที่เสี่ยวอิงเอ่ยถึงคือรัชทายาทกระนั้นหรือ’ ฮองเฮาได้แต่นึกในใจเพราะไม่กล้าถาม ด้านจิ่นหรงเมื่อได้ฟังคำของสตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ‘นางคือหญิงสาวที่ช่วยเราไว้กระนั้นหรือ’“รัชทายาทจำหม่อมฉันไม่ได้จริงหรือเพคะ ตอนเจ็บป่วยหม่อมฉันหรืออุตส่าห์นั่งเฝ้าพระองค์ทั้งวัน ไยถึงลืมกันง่ายเพียงนี้เพคะ” อิงเถาเอ่ยตัดพ้อพร้อมกับยกมือขึ้นมาทำทีสะอื้นไห้“ขะ… ข้าขอโทษ ยามนั้นเจ้าปิดหน้าไว้ข้าเลยจำไม่ได้ แล้วนี่เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เยี่ยงไร” เมื่อได้สติเขาก็รีบถาม“หม่อมฉันเป็นญาติผู้น้องฮองเฮาเพคะ”“อย่างนี้เองหรือ” จิ่นหรงยิ้มอ่อน ก่อนจะหันมาหาชายาตนที่นั่งก้มหน้ามองกล่องในมืออย่างไม่แยแสอันใด“ลุกสิ ไยเจ้า
last updateLast Updated : 2025-10-06
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status