"หนิงหนิง!"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็สำรอกแห้งๆ ออกมา ทำเอาเซียวหลันยวนตกใจสะดุ้งโหยงเขาประคองตัวนางทันที "เจ้าเป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนไหม?"ฟู่จาวหนิงยืดตัวตรงขึ้นมา ยื่นมือตบหน้าอกตัวเอง ก็รู้สึกว่าเหมือนไม่เป็นไรแล้ว"ไม่มีอะไร เมื่อครู่แค่รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมากะทันหันน่ะ" ฟู่จาวหนิงส่ายหัว "อาจจะเพราะวันนี้เร่งเดินทาง ถนนบนภูเขาก็ไม่ค่อยดีนัก โคลงเคลงไปหน่อย"พอนางพูดจบ ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยถูกต้อง จึงคิดไปถึงเรื่องหนึ่งท่านผู้เฒ่าฟู่เองก็กังวล"เจ้ารีบดูตัวเองสิ จับชีพจรตัวเองได้ไหม?"ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินว่าหมอจะรักษาตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะดูอาการป่วยให้ตัวเองได้ไหม"จาวหนิง นั่งลงก่อน" เซี่ยซื่อให้พวกเขาเข้าไปในห้อง จากนั้นก็ให้อันห่าวไปรินน้ำเข้ามา "ไปรินน้ำอุ่นเข้ามาหน่อย ยังไม่ต้องต้มชา ตอนไม่ค่อยสบายดื่มน้ำอุ่นหน่อยจะดีกว่า""ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เซี่ยอันห่าวรีบวิ่งออกไปรินน้ำ ตอนออกมาก็เจอกับเสี่ยวเถา จึงรีบดึงเสี่ยวเถาไว้"แม่นางอันห่าว คุณหนูของเรากับท่านอ๋องมาแล้วใช่ไหม?" เสี่ยวเถาเองก็ไม่เจอฟู่จาวหนิงนานมากแล้ว ตอนนี้พอได้ยินว่านางมา จึงวางมืองานด้านห
เซียวหลันยวนไม่ปฏิเสธอยู่แล้วหลังจากนี้พอตงฉิงสร้างขึ้นใหม่ ก็ยังจำเป็นต้องมีคนขอแค่อยากมา ขอแค่สามารถปฏิบัติตามกฏหมายได้ เขาล้วนยินดียอมรับทั้งสิ้น"ได้แน่นอน" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "แต่ว่า เรื่องเหล่านี้ข้าจะสั่งคนให้มาจัดการโดยเฉพาะ พวกเจ้าก็อย่าเข้ามากันส่งเดชแล้วกัน""ขอรับๆๆ ขอบคุณท่านอ๋อง ประชาชนต้องฟังท่านอ๋องแน่นอนอยู่แล้ว" พวกเขาดีใจมากมีคนที่คุ้นเคยเข้ามา พวกเขาถึงจะรู้สึกผูกพันกับที่นี่มากขึ้น"ไปเถอะ" เซียวหลันยวนจูงมือฟู่จาวหนิงเข้าไปในบ้านอุทยานเซี่ยซื่อออกมาข้างนอก กำลังจะไปปลูกต้นไม้สักหน่อย เซี่ยอันห่าวเองก็ตามมาด้านหลัง ผลคือพอพวกนางเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นคนเดินจับมือกันเข้ามา ก็ตกตะลึงดีใจขึ้นทันที"ท่านอ๋อง จาวหนิง!""พี่หญิงจาวหนิง!"เซี่ยอันห่าวกังวลว่าฟู่จาวหนิงจะไม่มา คนที่ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยมากที่สุดคือฟู่จาวหนิง ต่อให้ท่านผู้เฒ่าฟู่กับพวกฟู่จิ้นเชินจะมากันหมด แต่นางก็ยังมีความรู้สึกลนลานเป็นห่วงแบบที่อธิบายไม่ถูกอยู่ดีขอแค่ได้เห็นฟู่จาวหนิง นางจึงรู้สึกว่าใจของตัวเองกลับมาอยู่ในที่เดิมแล้วนางวิ่งตรงไปหาฟู่จาวหนิง"อันห่าว"ฟู่จาวหนิงดึงมือออก
"นายท่านกับใต้เท้าหลันไปหาเมืองอั้นแล้ว"พูดถึงเมืองอั้น กระทั่งเฉินซานเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเขาพูดถึงล้อไม้ขนาดยักษ์นั้น "ใต้เท้าหลันล้วนเคารพและและเชื่อฟังนายท่านมาก เพราะเขารู้ว่าเป็นกลไกการเปิดเมืองอั้น ครั้งนี้ถ้าสามารถหาเมืองอั้นเจอจริงๆ ความดีความชอบของนายท่านคงมากโขเลยทีเดียว"เฉินซานพูดถึงจุดนี้ จึงเพิ่งคิดได้ว่าอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่นี่ เขาก็ชะงักไปกลัวว่าเขาจะกำลังขอความดีความชอบให้กับตระกูลฟู่ของพวกเขาก่อนหน้านี้ความแค้นของอ๋องเจวี้ยนกับพวกนายท่าน เขาเองก็รู้อยู่เพียงแต่ตอนนั้นเฉินซานเองก็ไม่คิดว่าตนเองวันนี้จะกลายมาเป็นคนของบ้านตระกูลฟู่อ๋องเจวี้ยนเหลือบมองเข้ามา"ทำไม กลัวว่าข้าจะคาดโทษเจ้าหรือ?"สายตาแบบนี้หมายความว่าอะไรกัน?"ข้าน้อยมิกล้า""ความดีความชอบของท่านพ่อตา ข้าไม่พลาดไปแน่นอน" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเขากลับมองไปทางฟู่จาวหนิง หนิงหนิงอย่าคิดว่าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเหล่านี้ล่ะฟู่จาวหนิงแค่รู้สึกว่าน่าขำ"เสี่ยวเฟยล่ะ?""คุณชายน้อยเองก็ตามไปด้วย"ฟู่จาวเฟยเองก็ตามไปเมืองอั้นหรือ?พอเข้ามใกล้ พวกเขาก็เห็นผืนนาที่ถูกบุกเบิกขึ้นมาแล้วเช่
ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนพอได้ยินคำพูดเหล่านี้ ความรู้สึกในใจก็หวั่นไหวขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากนี้ที่นี่จะเป็นแคว้นของพวกเขาบ้านของพวกเขา แน่นอนว่ายังหวังให้ที่นี่ดีขึ้น มีจุดเด่นหลากหลายประการระหว่างทางที่เดินมา พวกเขาก็เห็นทิวทัศน์ที่งดงามมากมายก่อนหน้านี้ได้ยินว่าตงฉิงสวยงามมาก ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้จริงๆรอให้ที่นี่สร้างใหม่เสร็จก่อน พอมีผู้คนมาอยู่อาศัย ก็จะยิ่งงดงามขึ้นไปอีก"เจอร่องรอยของลัทธิเทพทำลายล้างบ้างไหม?" เซียวหลันยวนถามองครักษ์"ไม่พบเลยขอรับ ขุนพลหลานเองก็กำชับพวกเราให้คอยสังเกตอย่างละเอียด ห้ามประมาทเด็ดขาด แต่ก็ไม่พบอะไรเลย" องครักษ์ตอบพอได้ยินคำนี้ เซียวหลันยวนเองก็ยังไม่ได้รู้สึกวางใจ"ต้องตั้งใจให้ดี อย่ารู้สึกว่าตงฉิงไม่มีใครอยู่เด็ดขาด ลัทธิเทพทำลายล้างวางแผนมาหลายปี เป้าหมายเองก็พุ่งเป้ามาทางตงฉิง จะต้องไม่ปล่อยโอกาสไปง่ายๆ แน่นอน"เขากำชับขึ้นมาอย่างเข้มงวด"ขอรับ ท่านอ๋อง"ฟู่จาวหนิงเองก็แอบกังวลอยู่ลัทธิเทพทำลายล้างไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยข่าวที่เจ้าลัทธิฝั่งซ้ายเกิดเรื่องขึ้นไม่รู้ว่าส่งไปถึงลัทธิเทพทำลายล้างแล้วหร
วิชายุทธ์ของฟู่จาวเฟยตอนนี้ถือว่าดีมากแล้วเขาเรียนมาจากจงเจี้ยน ส่วนตนเองก็ฝึกมาอย่างยากลำบาก เซียวหลันยวนเองก็เคยชี้แนะเขาเช่นกัน เดิมทีเขาก็มีพรสวรรค์มากในด้านนี้ ดังนั้นตอนนี้ก็แทบจะฝีมือพอๆ กับหลานหรงแล้ว นี่เป็นเพราะโอกาสที่เขาได้ต่อสู้จริงๆ ยังมีไม่เยอะมากแต่หลานหรงนั้นทำศึกจริงๆ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนฟู่จิ้นเชินแม้จะไม่เข้าใจวิชายุทธ์ แต่เขาก็อ่านตำราพิชัยสงครามมา หลอมรวมความเข้าใจถ่องแท้และสอนวิธีการรับมือศัตรูให้กับเขาไปอีกไม่น้อย ฟู่จาวเฟยในตอนนี้ ยังขาดแค่ประสบการณ์การต่อสู้จริงเท่านั้นพอได้ยินเขาขอร้องจะเข้าไปขึ้นมาเองแบบนี้ ฟู่จิ้นเชินก็คิดๆ แล้วจึงเห็นด้วยเขาบอกกับหลานหรงว่า "เช่นนั้นก็ให้ข้ากับเสี่ยวเฟยเข้าไปสืบดูก่อนเถอะ ถ้าคนเข้าไปมากเกินไป อาจจะทำให้คนเมืองอั้นเกิดการระแวดระวังขึ้นมาได้ ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังรักษามนุษยธรรมและเจตนาเดิมไว้อยู่หรือเปล่า"ถ้าหากพวกเขาเคยผ่านวิกฤตการเอาชีวิตรอดมาก่อน เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย บางทีกฏระเบียบในเมืองก็อาจจะล่มสลายไปแล้วก้ได้ จนตอนนี้มีกฏระเบียบใหม่ที่พวกเขาสร้างกันขึ้นมาเองถ้าคนนอกบุ่มบ่า
ฟู่จาวเฟยเองก็อยากจะทำอะไรบ้างเหมือนกัน หวังว่าจะสามารถช่วยพี่เขยอ๋องเจวี้ยนกับพี่สาวได้บ้างหลังจากมาถึงตงฉิง เขาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากสถานที่นี้ เหมาะกับเขามากกว่าแคว้นเจาเสียอีก เขาชอบตงฉิงมากแม้ตงฉิงตอนนี้จะยังเป็นแค่ซากปรักหักพัง แต่เขาก็รู้สึกว่า ที่นี่มีกลิ่นอายของความเป็นอิสระอยู่ ในเมืองหลวงแคว้นเจา ตัวตนฐานะเขากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างาก เพราะความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยง เขากระทั่งถูกกักบริเวณจนต้องอยู่แต่บ้านตระกูลฟู่เท่านั้น ออกไปไหนไม่ได้แม้จะออกมาข้างนอก ก็ยังต้องแอบออกมา แล้วไปจวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อหาพี่สาวแต่พอมาตงฉิงแล้ว เขารู้สึกว่าตนเองได้รับอิสระกับความเป็นตัวของตัวเองแบบการขี่ม้าห้อตะบึงไล่ตามดวงตะวันมาอีกครั้งยิ่งไปกว่านั้น แคว้นเจาทางนั้น พี่สาวก็จัดวางงานอะไรให้เขาทำได้ลำบาก แต่ว่าที่ตงฉิง มีงานมากมายรอให้เขาไปทำอยู่หลังจากนี้เขาสามารถพยายามฟื้นฟูตงฉิงกลับมาพร้อมกับพ่อแม่และพี่สาวได้ทุกที่ล้วนมีที่ให้เขาได้เปล่งแสงเปล่งประกายส่วนเมืองอั้นแห่งนี้ เขาเองก็สนใจเป็นอย่างมาก และจะต้องเป็นคนแรกที่เข้าไปเห็นรูปลักษณ์ของเมืองอั้นแห่งนี้ให้ได้ถ้ำภูเขาลึ