ตึก ตึก เสียงฝีเท้าซอยถี่รีบเร่งเขามาตามระเบียงทางเดิน ลัวมามาที่กำลังช่วยเสิ่นฮูหยินเช็ดถูดูแลเครื่องประดับก็ขมวดคิ้ว
“บ่าวคนใด เหตุใดเสียกริยาเช่นนี้”
สวีเหยียนเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าฉายความสงสัย
“คงมีเรื่องด่วน เจ้าออกไปดูเถิด”
ทว่ายังไม่ทันลัวมามาจะออกไป บ่าวคนดังกล่าวก็วิ่งมาถึงหน้าประตูห้องเสียงตะโกนเรียกดังมาก่อนเจ้าตัว
“ฮูหยิน ฮูหยินเจ้าค่ะ” น้ำเสียงระคนตื่นเต้นยินดีกระตุ้นความสนใจ สวีเหยียนจึงเอ่ยถามน้ำเสียงร่ำสั่น
“เข้ามาพูดจาดี ๆ เกิดอันใดขึ้น” อีชิงถลาเข้าไปคุกเข่าตรงหน้า น้ำหูน้ำตาของนางไหลท่วมใบหน้าเอ่ยน้ำเสียงสะอื้น
“คุณชายใหญ่เจ้าค่ะ..ฮูหยิน..ท่านหงอี้โหวกลับมาแล้ว เจ้าค่ะ ”
สวีเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็ลุกพรวดขึ้นถาม
“เยี่ยหงกลับมาแล้ว..แล้วตอนนี้คนอยู่ที่ใด”
“ห้องโถงเรือนใหญ่เจ้าค่ะ...”
เสิ่นฮูหยินพยายามรักษากริยา นางแทบอยากจะวิ่งออกไปยังเรือนใหญ่ให้เร็วที่สุดทว่าก็ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าให้ถี่ขึ้นเท่านั้น เสียงสะอื้นไห้ดังแว่วมาจากห้องโถง ฝีเท้าของเสิ่นฮูหยินชะงักช้าลงนางก้าวเข้าไปอย่างรู้สึกหวาดหวั่นใจ
เสิ่นเยี่ยหงเงยหน้าหันมองไปยังมารดา เขาลุกจากที่นั่งจากนั้นก็ไปคุกเข่าหน้าเสิ่นฮูหยิน กู้เฉียวจิงเห็นเช่นนั้นก็พา กู้ซวินไปคุกเข่าเคียงข้างสามี
ชายหนุ่มปรายตามองเล็กน้อยไม่กล่าวอันใด ชายหนุ่มเบือนหน้าไปทางมารดาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแฝงความคนึงหา
“ท่านแม่...ลูกอกตัญญูกลับมาแล้วขอรับ”
เสิ่นฮูหยินถลาเข้าไปพยุงบุตรชายลุกขึ้น ภายในใจเปี่ยมล้นเต็มไปด้วยความยินดี “เยี่ยหง...เจ้ากลับมาแล้ว..หลายปีที่ผ่านมาเหตุใดไม่ส่งข่าว แม่เป็นห่วงเจ้าแทบขาดใจรู้ไหม”
“ทำให้ท่านแม่เป็นห่วง ข้ารู้สึกผิดยิ่งนัก”
เสิ่นฮูหยินพลันกล่าว
“ทว่ากลับมาก็ดีแล้ว...ดีแล้ว” เมื่อใจคลายความตื่นเต้นลง นางก็ปรายสายตามองคนที่ติดตามบุตรชายมา เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามรูปร่างอรชนดูอ่อนหวานน่าหลงใหล เสิ่นเยี่ยหงเห็นสายตามารดาก็รีบเอ่ยแนะนำ
“ท่านแม่นี่คือ กู้เฉียวจิงภรรยาของข้านางเป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้ ช่วงที่ข้าความจำเสื่อมได้แต่งงานกับนางแล้วมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน”
ความตื่นเต้นยินดีใจยังคงไม่หายใจสั่น ความตระหนกก็เข้ามาแทน เสิ่นฮูหยินรีบคุมสติกล่าว
“ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยดูแลเยี่ยหง...นี่ นี่คือหลานข้าอย่างนั้นหรือ” กู้ซวินเมื่อถูกจ้องมองก็รู้สึกหวาดหวั่นเขากุมมือมารดาแน่น เสิ่นเยี่ยหงจึงพูดขึ้น
“ซวิน เข้ามาคารวะท่านย่าของลูก”
เมื่อบิดาสั่ง กู้ซวินก็ค่อย ๆ เดินมายังเบื้องหน้าเสิ่นฮูหยิน จากนั้นก็คุกเข่ายกมือประสาน “หลานคารวะท่านย่า”
น้ำเสียงของกู้ซวินใสกระจ่างแฝงความประหม่า ดวงตาของเด็กชายกลมโต ผิวพรรณสะอาดหมดจดท่าทางดูฉลาดเฉลียว แม้จะเกิดในชนบทก็ต่างจากบุคคลทั่วไป กลิ่นอายมีความเย่อหยิ่งในตัว
เสิ่นฮูหยินพินิจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ช่างเป็นเด็กที่น่ารัก รู้ความยิ่งนัก ในเมื่อเป็นบุตรของเยี่ยหงเจ้าก็เป็นหลานของข้า”
ขณะนั้นก็มีฝีเท้าจำนวนหนึ่งเข้ามา หญิงสาวงดงามอรชนผู้หนึ่งเป็นคนนำขบวนเข้ามา เมื่อมองเห็นคนในห้องโถงฝีเท้าของนางก็หยุดชะงัก
เสิ่นฮูหยินเบือนหน้าไปแล้วพูดขึ้น “อิงเอ๋อร์มาคารวะพี่ชายของเจ้าสิ”
กู้เฉียวจิงหรี่ตามองเล็กน้อย หญิงงามพริ้มเพราอ่อนโยนผู้นี้คงเป็นเสิ่นซูอิงน้องสี่ของเสิ่นเยี่ยหง
พวกเขาทักทายพูดคุยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความคะนึงหา กู้เฉียวจิงปรายสายตามองภาพตรงหน้าเย้ยหยันในใจ ในยุคที่สตรีได้รับความสำคัญน้อย ทั้งที่นางเป็นภรรยา เป็นคนช่วยชีวิต ยังไม่สำคัญเท่ากับบุตรชายของนาง ภายในใจของกู้เฉียวจิงจึงเกิดความปรารถนาหนึ่งขึ้นมา นางอยากจะไปยืนจุดที่คนนับถือนางพินอบพิเทาดูสักครั้ง ในฐานะนักฆ่าจากศตวรรษที่ 25 แถมยังมีห้องยาเคลื่อนที่ติดตัว ฐานะรองแม่ทัพติดตามสามีก็น่าจะไม่สูงจนเกินไป กู้เฉียวจิงก้มหน้าคิดแผนการต่าง ๆ ภายใต้การพูดคุยของพวกเขาอยู่เงียบ ๆ ประหนึ่งคนไร้ตัวตน
เมื่อได้ไต่ถามพูดคุยสักพัก คล้ายเสิ่นฮูหยินตระหนักถึงบางอย่าง จึงสั่งให้คนพากู้เฉียวจิงไปพักผ่อนเพราะคาดว่าอีกไม่นานคงจะมีหลายคนเข้ามาคารวะเสิ่นเยี่ยหง ฐานะของนางค่อนข้างจะกระอักกระอ่วนจำเป็นต้องพูดคุยภายในเสียก่อน
เรือนไผ่หยกของเสิ่นเยี่ยหงจะอยู่ถัดจากเรือนใหญ่ไปไม่ไกลนัก ทว่าเรือนที่จัดเตรียมให้กู้เฉียวจิงกลับเป็นเรือนหลังเล็กหลังหนึ่ง และค่อนข้างอยู่ห่างไกลผู้คน กระนั้นกู้เฉียวจิงก็ไม่รู้สึกผิดหวังแต่อย่างไร เพราะเรือนหลังนี้ก็นับว่าใหญ่กว่าบ้านหลังเดิมนางมาก
ถึงแม้กู้เฉียวจิงจะเป็นหญิงสาวชาวบ้าน แต่ก็คนที่ เสิ่นเยี่ยหงพากลับมาแนะนำด้วยตนเอง รวมทั้งนางยังคลอดบุตรชายให้ตระกูลเสิ่นทำให้บ่าวไพร่ต่างปฏิบัติกับนางอย่างระมัดระวัง
“แม่นางกู้ ข้าได้เตรียมน้ำเอาไว้ท่านจะอาบน้ำก่อนหรือไม่เจ้าคะ”
แม่นางกู้? ใบหน้างดงามคลี่ยิ้มอย่างเย้ยหยันเมื่อวานนางยังเป็นฮูหยินทว่าวันนี้กลับกลายเป็นแม่นางเสียแล้ว หากเป็นกู้เฉียวจิงตัวจริงนางคงจะเสียใจไม่น้อย
“อาบน้ำก็ดี ข้ารู้สึกว่าตนเองสกปรกยิ่งนัก”
กู้ซวินถูกพาตัวไปอาบน้ำปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน เมื่อเรียบร้อยแล้วเด็กน้อยก็มานั่งรอมารดาอย่างสุภาพเรียบร้อย ทันทีมารดาปรากฏกายเขาก็จ้องมองอย่างตกตะลึง
เด็กน้อยเดินเข้ามาใกล้มารดาแล้วพูดขึ้น
“ท่านแม่ท่านงดงามยิ่งนัก”
มีเพียงยิ้มให้กับบุตรชาย รอยยิ้มของกู้เฉียวจิงจึงมีประกายขึ้นไปถึงดวงตา พลางเอ่ยถาม “เจ้าหิวหรือยัง”
เด็กน้อยส่ายหน้า “ไม่หิวขอรับ...ท่านแม่...แล้วท่านพ่อไม่พักอยู่กับพวกเราหรือ”
เดิมกู้ซวินก็ไม่ควรจะพักอยู่เรือนเดียวกันกับนาง ทว่าเสิ่นฮูหยินเองก็หาเป็นคนใจดำ จึงยังไม่จับแยกพวกนางสองแม่ลูกในตอนนี้ นางดึงแขนบุตรชายมานั่งข้างกายแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“กู้ซวิน เจ้าคงเห็นแล้วว่าที่นี่หาได้เหมือนหมู่บ้านอี้หลาง บิดาของเจ้าก็ไม่ใช่คนเดิมแล้ว ทุกอย่างจะต้องปรับเปลี่ยนเจ้าเองก็ต้องปรับตัว แต่นั้นก็เปลี่ยนแค่การปฏิบัติตนท่านพ่อก็ยังเป็นท่านพ่อของเจ้าเช่นเดิม”
กู้ซวินผงกหน้าเล็กน้อย “ลูกเข้าใจแล้วขอรับ”
กู้เฉียวจิงลูบหัวบุตรชายอย่างรักใคร่ เดิมนางก็คิดว่าใช้ชีวิตเรียบง่าย ดูแลให้บุตรชายเติมใหญ่ก็น่าจะเพียงพอ แต่วันนี้ทำให้นางครุ่นคิด นางไม่อาจจะอยู่ในฐานะสงบปากสงบคำได้
ตอนที่ 60 บทบาทต่อไป...พี่สาวจงหงวน “คุณหนูหวัง...ถึงโรงเตี้ยมแล้วขอรับ” เสียงพ่อบ้านเฉิงเอ่ยเรียกอยู่นอกรถม้าด้วยเสียงนอบน้อม พอหวังเว่ยซินเลิกผ้าม่านออกมา ก็เจอป้ายขนาดใหญ่หอสุราชิงเห่อ โรงเตี้ยมใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง หวังเว่ยซินถอนหายใจ มิต้องสงสัย คงไม่ได้เริ่มต้นแบบชีวิตสตรีชาวบ้านทั่วไปเสียแล้ว นางก้าวลงรถม้า พ่อบ้านเฉิงก็เอ่ยบอก “นี่คือเอกสารของท่านขอรับ เมื่อสักครู่คนเอามาส่งแล้ว” “รบกวนแล้ว ขอบคุณพ่อบ้านเฉิงมาก” “มิกล้า มิกล้า โรงเตี้ยมนี้ท่านจะอยู่กี่คืนก็ได้ขอรับ ข้าได้สั่งเถ้าแก่เอาไว้ ให้ไปเก็บที่จวน” หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นก็เอ่ย “ท่านพ่อบ้านมีภารกิจมากมาย ขอมิอาจรบกวนนาน ส่งข้าเท่านี้พอ” พ่อบ้านเฉิงถูกกำชับว่าอย่าขัดใจคนเบื้องหน้าเด็ดขาด ก็รีบขานรับทันที “มิกล้า มิกล้า เช่นนั้นบ่าวขอตัว” “เดินทางดี ๆ เจ้าค่ะ” จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็มารับหน้าต่อ “คุณหนูเชิญด้านในเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านจะไปยังห้องพักหรือว่านั่งผ่อนคลายที่ระเบียงชั้นสองก่อนดีเจ้าคะ”
ตอนที่ 59 เรื่องราวสามปีที่ผ่านมา รถม้าจวนหงอี้กงเคลื่อนผ่านพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา “นี่...รู้ไหมฮูหยินหงอี้กง จัดหาอนุให้กับท่านหงอี้กงอีกแล้วนะ ...ได้ยินว่าเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มงดงามที่สุดที่หอซิงเซียงอุตสาหามาได้ แต่จวนหงอี้กงก็ยังมาแย่งคนไป” “จริงหรือ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามดูตื่นเต้นประหลาดที่สุด ทำให้คนเล่ายิ่งรู้สึกสนุกอยากเล่าต่อ “แน่นอน...ข้าได้เห็นกลับตา ว่าไปแล้วก็อิจฉาหงอี้กงยิ่งนัก ได้ฮูหยินที่ใจกว้างดั่งมหาสมุทรเช่นนี้ หากเป็นข้าก็อยากจะกลับเรือนทุกวัน” “คริ คริ” เสียงสตรีผู้หนึ่งหัวเราะขบขันพลางกล่าว “ท่านมีเงินเลี้ยงพวกนางหรือข้าได้ยินว่า ฮูหยินหงอี้กงใช้เงินเดือนละหลายหมื่นตำลึงหมดไปกับอาภรณ์เครื่องประดับของเหล่าอนุเชียวนะ” บุรุษผู้นั้นรู้สึกละอาย ตอนนี้แค่นี้ภรรยากับบุตรสองคนก็แสนอัตคัดจะมีปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงอนุเพิ่มบุรุษผู้หนึ่ง หมุนจอกชาในมือไปมาคิดไปแล้วก็แปลกใจดูเหมือนว่า อยู่ ๆ เขาก็ตัดใจจากกู้เฉียวจิงได้ ส่วนฮูหยินอันดับหนึ่งที่ทุกคนให้ตำแหน่งมา “ฮื้อ ฮื้อ ท่านไปไหนมา
ตอนที่ 58 ฮูหยินกู้..ถามข่าวท่านทุกวัน ซูซูมอง เด็กสาวประครองหีบขึ้นมา เมื่อเปิดดูข้างในก็เจอตั๋วเงินหลายแผ่นพร้อมเครื่องประตับจำนวนหนึ่ง ดวงตาโตของเด็กสาวเจิดจ้าใต้แสงดาว ได้ยินเสียงนางพึมพำ“เงินของข้า เงินของข้า”นางประคองหีบออกมาอย่างประคบประหงม ลุกขึ้นปัดฝุ่นเล็กน้อยแล้วหันมากล่าว “ซูซู ขอบคุณท่านมากนะที่เฝ้าให้ข้า ข้าไปล่ะ”ในขณะที่กำลังจะทะยานออกไป ซูซูก็เอ่ย“คุณหนูช้าก่อน” จากนั้นก็ไปขวางหน้าเด็กสาว เห็นสีหน้าที่ดูแตกตื่นแววตาสังหารประกายวาบขึ้น นางก็รีบอธิบาย “ป่ะ...เปล่า ข้ามิได้ห้ามที่ท่านจะนำหีบไป เพียงแต่ฮูหยินสั่งเอาไว้ หากท่านมาก็ให้เชิญท่านไปพบ”เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจยิ้มตอบ “ฝากบอกนางว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เอาไว้ทุกอย่างลงตัวแล้วข้าจะไป”หวังเว่ยซินกำลังจะก้าวเท้าออกไปก็ถูกซูซูขวางอีกรอบ “คุณหนูจะบอกข้าได้หรือไม่...ว่าท่านพักอยู่ที่ใด เผื่อหากว่าฮูหยินถามข้าจะได้มีข้อมูล...ฮูหยินถามข่าวท่านทุกวันเลยนะเจ้าคะ สีหน้านางดูเป็นกังวลและห่วงใยท่านมาก” แววตาของหวังเว่ยซินมีประกายอบอุ่นขึ้นมา นางคลี่ยิ้มตอบ “ข้าถูกนำมาขายที่หอซิงเซียง ตอนนี้ให้ข้าไปไถ
ตอนที่ 57 หวังเว่ยซิน..ได้ตามที่ขอในถนนเส้นหนึ่งในอำเภอเล็ก ๆ มีรถม้าคันนี้กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง ภายในรถม้ามีเด็กสาววัยแรกแย้มอยู่ประมาณห้าหกคน ทุกคนล้วนมีผิวพรรณละเอียดใบหน้าหมดจด เค้าโครงรูปหน้าชัดโตขึ้นย่อมเป็นหญิงงามอย่างไม่ต้องสงสัย“ฮื้อ ฮื้อ...ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าครอบครัวข้าจะขายข้า” เสียงเด็กสาวร้องไห้สะอื้นจนตัวโยก บางคนร้องจนหมดแรงหลับไป กู้เฉียวจิงตอนนี้อยู่ในร่างของ หวังเว่ยซิน หนึ่งในสาวงามที่ถูกครอบครัวขายมา เด็กสาวตรอมใจตายยกร่างให้กู้เฉียวจิง อย่างไม่อาลัยอาวรณ์พร้อมขอไปเกิดใหม่ทันทีนางนิ่งเงียบสนิทพยายามทบทวนเรื่องราวของตนเองจากความทรงจำเจ้าของร่างพร้อมกับตรวจสอบพรว่าได้ครบหรือไม่ ในข้อที่หนึ่งขอไปเกิดใหม่พร้อมความทรงจำและวรยุทธ์ ข้อนี้ผ่านไม่มีข้อผิดพลาดถูกต้องตามเจตนา ข้อสอง เกิดในครอบครัวที่นางสามารถเลือกใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ทันที นับว่าใช่ ตอนนี้นางมีมารดาและน้องชายแต่นางถูกขายออกมาโดยผู้ที่ได้ว่าเป็นย่าแท้ ๆ อำมหิตสุด ๆ แต่ก็ยังถูกต้องตามที่ขอ หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ ส่วนข้อสาม คงต้องรอสักระยะ ได้ยินคนขับรถม้า
ตอนที่ 56 พรหนึ่งข้อกับตัวละครลับ ในที่สุดกู้เฉียวจิงก็ทนความง่วงไม่ไหว คล้อยหลับไปในตอนดึก ค่ำคืนในฤดูหนาวสายลมพัดเย็นยะเยือก ในห้วงคลับคล้ายเหมือนฝัน นางได้พบกับคนผู้หนึ่งยืนอยู่กลางหิมะ ใบหน้าเหมือนกับนางในตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยน “เจ้าคือ กู้เฉียวจิงคนนั้น?” หญิงสาวคนนั้นยิ้มละมุนตอบ “ใช่ข้าเอง...ข้ามาขอบคุณท่าน หากไม่มีท่านทุกอย่างคงไม่ลงเอ่ยเช่นนี้...ข้าซึ้งใจท่านนัก” กล่าวตามจริง กู้เฉียวจิงก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอันใดมากนัก แค่ทำตามคำสั่งและระงับอารมณ์ให้มากเท่านั้นเอง จึงกล่าว “ข้าทำตามภารกิจ...เจ้ามิต้องขอบคุณ” นางส่ายหน้า “ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณ” กู้เฉียวจิงมองคนเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิดแววตาฉายความสงสัย “ท่านไปอยู่ที่ไหนมาเหตุใดพึ่งปรากฏกาย” “ข้าก็อยู่กับท่าน...หนึ่งร่างสองวิญญาณ”กู้เฉียวจิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ความเข้าใจหนึ่งผุดขึ้นใช่แล้ว..กู้เฉียวจิงเจ้าของร่างไม่ได้บอกว่านางตาย มิน่า ๆ หลายครั้งนางก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหง คงจะเป็นความรู้สึกของสตรีคนนี้ นางเอ่ยถ
ตอนที่ 55 หลบหน้า “ซื่อจือ” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกกู้ซวินด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความยินดี รอยยิ้มของเด็กชายหันมามองมารดาอบอุ่นเป็นพิเศษ ชวนให้ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมกับความสุขที่ล้นออกมาทั้งใจ ความสุขนี้มากเกินบรรยาย หลังจากออกกำลังไป ฝึกกระบี่ไปหลายกระบวนท่าแล้ว กู้ซวินก็มานั่งข้างมารดา รับน้ำมาดื่มพลางเอ่ยถามมารดา “ท่านแม่...ผู้ที่ตัดเส้นแขนขา จะสามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้อีกหรือไม่ขอรับ” กู้เฉียวจิงกระพริบตาเล็กน้อยสายตาอ่อนโยน มองบุตรชายเป็นกังวลนางก็รู้สึกใจอ่อน “ไม่ต้องห่วง...แม่มีหนทางช่วยพ่อเจ้า” ดวงตาบุตรชายเป็นประกายขึ้นมา “จริงหรือขอรับ” “แม่มิเคยโกหกเจ้า” “ป่ะ..เปล่าขอรับ ลูกแค่ตื่นเต้นเกินไป” “เอาล่ะ ไปอาบน้ำเสียก่อน...ทานอาหารให้เรียบร้อยอย่าได้ให้อาจารย์ต้องรอ” เด็กชายตอบรับทันที “ขอรับท่านแม่”ผลัดออกจากบุตรชาย กู้เฉียวจิงก็กลับไปที่เรือนไปหยอกล้อเสิ่ยซูเวยสักพักก่อนจะออกจากจวนไป โรงหมอฮุ๋ยหวง กัวเล่อเยี่ยนชำเลืองมองกู้เฉียวจิง ใบหน้าของนางคล