มือบางกำแน่น แววตาเจ็บปวด
“ฉันเคยอธิบายคุณไปแล้ว ว่าฉันทำเพื่อครอบครัว!”
“ถ้าทำเพื่อครอบครัว ก็ทำตัวให้มันดีๆ อย่ามาวุ่นวายกับผม ผมไม่นิยมมีเมียคนเดียวกับพ่อเข้าใจไหม!” เขาตวาดลั่น “คุณอยากให้ผมเป็นไอ้ลูกทรพีแย่งเมียพ่อหรือไง เราเลิกกันแล้วคุณไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับผม ถ้าไม่เลิก อย่าหาว่าผมไม่เตือน ผมถือว่าผมอดทนกับคุณมามากพอแล้วขวัญ!”
คนถูกตวาดน้ำตานองหน้า ริมฝีปากสั่นระริก
“ฉันยังรักคุณ คุณก็รู้ภีม”
เขาหัวเราะในลำคอ “รักเหรอ? รักภาษาอะไร ถ้ารักผมมากพอคุณน่าจะรอได้ แต่คุณรอไม่ได้ไงขวัญ”
“ฉันมีความจำเป็น คุณก็รู้”
“เปล่าเลยผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่ต้องการจะรู้ด้วย คุณคือเมียของพ่อผม ผมรู้แค่นี้เข้าใจไหม!”
มือบางยกปิดปาก ทรุดกายลงนั่งกับโซฟา เขาหันกายเพื่อกลับ
“เดี๋ยวก่อนได้ไหมภีม ดื่มกับขวัญสักแก้ว เหมือนที่เมื่อก่อนเราเคยดื่มด้วยกันได้ไหม ขวัญสัญญาว่าขวัญจะหยุดทุกอย่าง”
เขาหันมาสีหน้าไม่ไว้ใจ “อย่าดีกว่า ผมไม่อยากเชื่อใจอะไรคุณอีก”
หญิงสาวหัวเราะ “คุณกลัวขวัญเหรอ กลัวทั้งๆ ที่ธามไทอยู่ด้วย”
ภีมพลเหลือบมองลูกน้อง แล้วเดินกลับมากระแทกก้นลงบนโซฟาระบายลมหายใจ
“แก้วเดียวเท่านั้น!”
เธอรินไวน์ขาวใส่แก้ว แล้ววางไว้ตรงหน้า แล้วเลือกรินให้ตนเองยกขึ้นเพื่อขอชน
“ชนกับฉันหน่อยได้ไหม” ดวงตาเธอหวานฉ่ำ ภาพวันเก่าๆ หวนกลับมา แต่มันไม่มีผลต่อสภาวะของใจอีกแล้ว
แกร๊ง
แก้วกระทบกัน สองคนกระดกดื่มจนหมด ขวัญจิรายิ้มเย็นช้อนสายตามองอดีตคนรัก
“รู้อะไรไหมภีม ขวัญอยากฆ่าผู้หญิงที่นอนกับคุณทุกคน เพราะมันแย่งสิ่งที่ขวัญต้องการ ขวัญไม่เคยได้สิ่งนั้นจากคุณมาก่อนเลย รวินดามันสมควรตายเสียด้วยซ้ำ ขวัญยอมไม่ได้หรอกถ้ามันจะไปโจษจันว่าได้นอนกับหนุ่มหล่ออย่างภีมพล ขวัญทนไม่ได้!” รอยยิ้มเหี้ยมส่งไปยังภีมพล คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
“คุณพูดอะไร!”
เธอหัวเราะราวกับคนบ้า
“คุณคิดว่าขวัญจะปล่อยมันไปหรือไง คุณพามันไปรักษาที่ห้องนี่คะ!”
ชายหนุ่มชะงักหันไปทางลูกน้อง “ธามไทกลับไปที่ห้องตอนนี้เลยเร็วเข้า!”
ธามไทรีบวิ่งออกจากห้องทันที ภีมพลลุกยืนมองอดีตคนรักแววตาเกรี้ยวกราด
“คุณมันเกินเยียวยาแล้ว เรื่องนี้พ่อผมจะต้องรู้!”
ขวัญจิราลุกยืนเผชิญหน้า “แต่ก่อนที่จะรู้ คุณคงไม่กล้าเปิดปากหรอกภีม เพราะคุณกำลังจะกลายเป็นชู้กับฉันไงล่ะ!”
ตึก ตึก
หัวใจเต้นเร็วขึ้น ภีมพลชะงักดวงตาผ่านร้อน อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้น มือเริ่มสั่นเทาลำคอแห้งผาก ลมหายใจหนักหน่วง เขาต้องการปลดปล่อย หลงกลงั้นเหรอ ธามไทออกจากห้อง หรือโดนยาจากที่ไหน ไวน์ขาวแก้วนั้น เขาช้อนสายตามองอดีตคนรักแล้วกัดฟันแน่น
“คุณทำอะไร!”
“ฉันแค่ทำให้คุณอยากนอนกับฉันเท่านั้นเอง” พูดจบ มือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อจนเห็นบราเซียแล้วถอดมันออกจากร่าง ตามด้วยกางเกงขาสั้น เหลือเพียงชิ้นส่วนติดกายสองชิ้น
ภีมพลหายใจหอบสะท้าน พยายามถอยหลัง แต่ร่างกายไม่อำนวยเอาเสียเลย ร่างเกือบเปลือยค่อยๆ ก้าวเข้ามาหา
“จำสิ่งที่คุณทำเอาไว้ขวัญ แล้วคุณจะเสียใจ!” เขาประกาศกร้าว รวบรวมกำลังครั้งสุดท้าย ต่อต้านความต้องการวิ่งมาตรงประตู เปิดออก
“จับเขาไว้!” ขวัญจิราสั่งบอดี้การ์ด
สติยังคงไว้ได้ ศิลปะป้องกันตัวเคยฝึกมา
ผลั่ก
เขาเสยปลายคางแล้วหมุนตัวแตะเข้าท้องบอดี้การ์ดสองคนจนล้มกอง พยุงกายออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ร่างกายมันทานทนแทบไม่ไหว ต้องการที่ปลดปล่อย แล้วที่ไหนที่เขาควรไป รวินดาไม่สามารถช่วยเหลือได้ในตอนนี้ เธอบาดเจ็บอยู่
ห้องของเธอคนนั้น ผู้หญิงที่เขาหลงชอบตั้งแต่แรกเห็น พยุงกายไปตามเส้นทาง เสียงฝีเท้าเหมือนมีคนติดตาม ภีมพลรีบหลบ เห็นบอดี้การ์ดของขวัญจิราติดตามมาไม่ห่าง เมื่อพวกมันผ่านพ้นเขารีบเร่งฝีเท้าไปยังห้องเป้าหมาย
ปัง ปัง ปัง
เขาเคาะประตูกวาดตามองรอบๆ อย่างระแวดระวัง แก่นกายเจ็บปวดเพราะต้องการปลดปล่อย ลมหายใจหอบหนักขึ้นทุกขณะ
แอด...
นาราภัทรแง้มประตูมอง เห็นคนยืนหน้าห้อง ใบหน้าคุ้นเคยเธออ้าปากแต่กลับถูกปิดไว้ แล้วลากเข้าห้องทันที
“อื้อ!” หญิงสาวดิ้นรนเมื่อถูกกอดรัดไว้แน่น
ความร้อนจากร่างกาย ทำเอาหญิงสาวขมวดคิ้ว ดิ้นรนให้เขาปล่อยเธอ ได้ยินเสียงฝีเท้าคนอยู่ด้านนอก เสียงพูดคุยตามหาใครสักคน แล้วเงียบหายไป ริมฝีปากเป็นอิสระ นาราภัทรผลักแผงอกทันที
“ทำบ้าอะไร ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!” คนตัวเล็กตวาดแว๊ด
“ผมขอโทษ...” เสียงพร่าเอ่ยบอก กอดตัวเองแน่น
“เป็นอะไรมิทราบ!”
เขาปรือตา แล้วทอดมองใบหน้างดงามของหญิงสาว เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ต่อให้ต้องถูกโกรธ เกลียด ก็จำต้องทำ หากเป็นแบบนี้เขาคงขาดใจตายแน่
“ผมขอโทษ ขอโทษด้วย ให้อภัยผมด้วยนะ....” เขาบอกเสียงแหบพร่า
“หมายความว่ายังไง ขอโทษเรื่องอะไร!”
หมับ!
ตุบ!
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง คนตัวเล็กกระเด้งตัวลุกขึ้นแล้วตะเกียกตะกายหนีทันที เธอรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร ข้อเท้าถูกจับลากกลับมา
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย กรี๊ด!” นาราภัทรกรีดร้อง
ร่างบางถูกจับพลิกมา แล้วปิดด้วยริมฝีปากหนาทันที
“อื้อ!”
ตุบ ตุบ ตุบ
มือบางกำแน่นแล้วรัวกำปั้นบนแผงอก หัวไหล่ ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง แต่แรงเธอไม่อาจสู้แรงอีกคนได้เลย
แควก!
ชุดนอนกระโปรงแขนยาวถูกกระชากจนขาดติดมือ คนใต้ร่างหวีดร้องแต่เสียงกลับถูกกลืนหายในลำคอ ลิ้นร้อนกำลังควานหาความหวาน เธอไม่ประสีประสา ใช้ฟันหมายกัดแต่เขากลับรู้ทันบีบปลายคางจนเจ็บร้าว เขาถอนริมฝีปากแล้วจัดการจับชิ้นส่วนติดกายเธอสองชิ้นสุดท้าย
“ไม่!” หญิงสาวร้องห้ามเสียงหลง
ภีมพลล้วงกระเป๋าสูท หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมา นาราภัทรชะงักดวงตาเบิกกว้างน้ำตาเริ่มไหลริน มือบางยกปิดปากเก็บอาการดีใจเอาไว้ เขาคุกเข่าต่อหน้านักข่าว“นารา... แต่งงานกับผมนะครับ”หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ “ค่ะคุณภีม”แหวนถูกบรรจงสวมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งเธอไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ครอบครองมันขวัญจิรากรีดร้อง น้ำตานองหน้า เมื่อเห็นข่าวในโลกโซเชียล ทำไมพวกมันถึงมีความสุข แล้วเหตุใดเป็นเธอที่ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ ทุกวันนี้ข้าวจะกินแทบไม่มี ต้องอดอยาก ถูกคนอื่นตรงหน้าว่าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ“เท่าไหร่น้อง!” เสียงลูกค้าเอ่ยถามขวัญจิรารีบเก็บอาการ “พันนึงค่ะพี่ ค้างคืนถึงเช้าเลยจ้ะ”ลูกค้าสองคนมองหน้ากัน “สองคนพันนึงไหวไหม”แม่ค้าชักสีหน้าแต่รีบเก็บอาการ วันนี้ยังไม่ได้ลูกค้า ถ้าปฏิเสธคงลำบากแน่“เพิ่มอีกสักห้าร้อยได้ไหมคะ”“สองร้อย ถ้าไม่ได้ไม่เอา”“ได้จ้ะๆ พันสองนะคะ”ประตูรถเปิดออก ร่างบางแทรกกายนั่ง ยังไม่ทันถึงห้อง เธอต้องบำรุงบำเรอลูกค้ากลัดมันขณะรถขับเคลื่อนอยู่ อีกคนจบ อีกคนก็สลับมาแทน ถึงบ้านพักไม่ทันได้อาบน้ำก็ถูกกระชากลากขึ้นเตียง จากนั้นพากับอัพยาคนละเม็ด ร่างกายเธอแทบลุกไม่ไหวเม
รุ่งรันต์มองหน้าเด็กแล้วถอนหายใจ ชีวิตเด็กคนนี้น่าสงสาร แต่ยังมีวาสนาอยู่บ้าง คงไม่มีใครเหมือนนาราอีกแล้ว ที่พ่อของลูกย้อนกลับมาสร้างความสัมพันธ์กันตั้งแต่ศูนย์รถจอดเสียงดังจนคนในบ้านชะงัก นาราภัทรและเจ๊มะนาวมองหน้ากันแล้วเดินออกมา เห็นร่างสูงใหญ่กำลังเปิดประตูลงมา เขาเร่งฝีเท้ามาหยุดยืนหน้าคนรักแล้วดึงมือบางมากุมไว้“นารา ผมขอโทษ เกิดเรื่องกับคุณอีกแล้ว!” สีหน้าแววตาบ่งบอกถึงความห่วงใย รุ่งรันต์เม้มริมฝีปากแล้วระบายลมหายใจ“เรื่องนี้คุณจะทำยังไงคะ คุณภีมพล ในเมื่อคุณมีส่วนทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” มะนาวถามหาความรับผิดชอบ และคิดว่ามีเพียงเขาที่แก้ปัญหานี้ได้“ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเอง ผมไม่มีทางทำให้นาราต้องเจ็บปวดหรือร้องไห้อีก” เขายืนยันเสียงหนักแน่นนาราภัทรยิ้มบางๆ ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนกับเรื่องข่าวสักเท่าไหร่ ในวงการบันเทิงสามารถกอบโกยเงินได้มากก็จริง ทว่ามันไม่ได้สร้างความสุขให้เลย มีแต่คนริษยาแก่งแย่งชิงดีกัน เธอเองคงยืนในสถานะดาราดังได้ไม่นานสามคนพากันเดินเข้าห้องรับรองในบ้าน แล้วนั่งปรึกษากัน“พรุ่งนี้ผมนัดนักข่าวเพื่อแถลงข่าวแล้ว”“แล้วจะแถลงข่าวยังไงให้นาราไม่กลายเป็นประเด็
ขวัญจิรากัดฟันเมื่อเห็นข่าวตามหน้าหนังสือ และสื่อในโลกออนไลน์ มือยกนิตยสารฉีกจนขาดวิ่น แล้วเหวี่ยงลงพื้น กระทืบซ้ำด้วยความเกลียดชัง และขออาฆาตแค้นคนในรูปไปตลอดเธอหยิบมือถือติดต่อหาเพื่อนสนิท ไม่มีวันให้มันได้มีความสุข รวมถึงเขาด้วย บังอาจทอดทิ้งเธอไม่ไยดี“ว่าไงขวัญ” เสียงวิชาญรับสาย“เจอกันหน่อยได้ไหม”“มีอะไรอีกล่ะ ช่วงนี้ฉันยุ่งนะ”“ออกมาเถอะน่า รอบนี้ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วย สองแสนพอไหม”ปลายสายชะงักแล้วยิ้มกว้าง“ตกลง เดี๋ยวไปหานะ”วิชาญเดินทางถึงคอนโด เมื่อประตูเปิดออก เขารีบแทรกกายเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วทิ้งกายลงบนโซฟาตัวยาว ขวัญจิรารีบนั่งลงตรงข้าม“มีอะไรจะใช้งานอีกล่ะ!” วิชาญถามแล้วระบายลมหายใจ“ฉันอยากให้ช่วยจัดการนังนาราภัทรหน่อย”วิชายตวัดสายตามองสีหน้าตกใจ“จะทำอะไรอีกล่ะขวัญ แค่ที่ทำไปมันยังไม่พอหรือไง ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงประกันตัว หาเรื่องใส่ตัวเดี๋ยวก็โดนหนักขึ้นอีกหรอก!” คนเป็นเพื่อนเตือน“ช่างมัน! คนอย่างฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ตอนนี้ทำอะไรได้บ้างนอกจากนอนอยู่ในห้องไปวันๆ งานที่ไหนก็ไม่จ้าง เงินเก็บก็ร่อยหรอลงไปทุกที!”“ถ้ารู้ว่าลำบาก ก็อย่าเลยดีกว่าไหม” ไม่คิดว่าขวัญจ
สองอาทิตย์ต่อมาร่างคนเจ็บยังคงอยู่บนเตียง ศีรษะและขามีผ้าพันไว้ เขาต้องเข้าเฝือกเนื่องจากกระดูกหัก และเย็บแผลตรงขาเนื่องจากมีแผลฉีกขาดเป็นทางยาว เขาตื่นมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ร้าวระบมไปทั่วร่าง นึกว่าตนเองคงตายไปแล้ว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น โชคดีที่ยังรอด ได้กลับมาแก้ตัวกับคนที่รักอีก“ภีมเป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ครั้งนี้เพิ่งเข้าใจว่าลูกมีความสำคัญกับชีวิตเขามากแค่ไหน“ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยครับ” เขาบอก แล้วกวาดตามองรอบๆ เพื่อหาใครบางคน แต่วันนี้กลับไม่มีวี่แววอรรถเดชรู้สึกได้ “มองหานาราอยู่เหรอ”เขายิ้มบางๆ “เธอคงไม่มา”คนที่มาเยี่ยม พบนาราบ่อยครั้ง มีเพียงเขาที่ตื่นมาไม่เคยพบเธอเลย นาราทำเหมือนต้องการหลบหน้า เขาอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม ตอนที่ยังไม่รู้อะไรเลย ยังดีเสียกว่ารู้ความจริงแล้วต้องเจ็บปวดแอด..เสียงประตูดัง ร่างบางก้าวเข้ามาในอ้อมแขนมีเด็กหญิงอายุราวๆ สองขวบ เด็กน้อยกวาดตามองรอบๆ แล้วยิ้มด้วยความดีใจ ภีมพลชะงักจ้องมองด้วยความดีใจ ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้เห็น เขาขยับเตียงให้หลังตรงเพื่อมองหน้าเด็กคนนั้นให้ชัดเจนนาราภัทรอุ้มน้ำฟ้ามายืนข้างเตียง เด็กน้อยมองดูค
เธอเดินผ่านหน้า เขาคว้าข้อมือจับไว้แล้วบีบเบาๆ“หากวันใดคุณแต่งงานกับผม ผมก็ต้องรู้ คุณจะปิดผมไปตลอดชีวิตเลยหรือไง!”คนถูกจับหันกลับมามองทั้งน้ำตา“ฉันไม่คิดปิดบัง แต่ฉันยังไม่อาจทำใจได้ ถึงน้ำฟ้าจะไม่ได้เกิดมาจากความรักของพ่อแม่ แต่ฉันก็รักเขามาก คุณคงไม่เข้าใจเพราะตลอดเวลาที่ฉันเลี้ยงน้ำฟ้ามา คุณไม่เคยอยู่เคียงข้าง คุณอาจหลงลืมคนที่คุณทำร้ายไปแล้วด้วยซ้ำในเวลานั้น”ชายหนุ่มหลับตาเพื่อกลั้นน้ำตา“เพราะคุณไม่เคยบอก รู้ไหม... ว่าผมตามหาคุณตลอด ผมต้องการรับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไป แต่ผมหาคุณไม่พบ”หญิงสาวบิดข้อมือให้พ้นการเกาะกุม ช้อนสายตามองคนรักทั้งน้ำตา ใช่เธอยังรักเขา แต่ในหัวมันสับสน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี“ฉันขอเวลานะคะภีม ขอเวลาให้ฉันได้คิด ใคร่ครวญทุกอย่าง”“แล้วผมละนารา ระหว่างที่คุณขอเวลา ผมควรทำยังไง” เป็นครั้งแรกที่อยากร้องไห้ออกมาจริงๆ เจ็บแบบนี้เพิ่งเคยเผชิญ มันทรมานเหลือเกิน ต้องจากกันทั้งที่ยังรัก แล้วเมื่อไหร่จะกลับมาเหมือนเดิมอีก"ฉันขอร้อง ตอนนี้ฉันยังให้คำตอบอะไรคุณไม่ได้ ขอเวลาคิดหน่อยนะคะ”คนตัวเล็กไม่ให้อีกคนตอบ เดินออกมาจากบ้านแล้วใส่กระเป๋าไว้ท้าย ขับเคลื่อนออก ภีมพ
ประตูห้องนอนเปิดออก ร่างบางก้าวออกมาดวงตาแดงก่ำ เดินลงมาถึงชั้นล่างเห็นเขายืนพูดคุยกับสาวใช้ เมื่อสบตากันรอยยิ้มอ่อนโยนส่งมา นาราภัทรเม้มริมฝีปาก ภีมพลขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าแววตาคนรักผิดปกติ เขาเดินมาหารั้งมือบางมากุมไว้“เป็นอะไรครับ” เสียงทุ้มถามด้วยความเป็นห่วงคนตัวเล็กดึงมือออก มองเขาแววตาเย็นชา น้ำตาเริ่มคลอ“นารา...”ริมฝีปากบางสั่นระริก เจ็บตรงหัวใจเหลือเกิน เธออยากมีความสุข แต่กลับไม่หลุดพ้นห้วงความทุกข์ในอดีตเสียที“คุณภีม... คุณจำฉันได้บ้างหรือเปล่า” เสียงแผ่วเบาถาม น้ำตาเริ่มไหลรินภีมพลชะงักดวงตาเบิกกว้าง จ้องมองใบหน้าคนรัก สีหน้าเริ่มเผือดลง“หมายความว่ายังไงครับ” พยายามทำใจดีสู้เสือ แต่แววตาเธอบ่งบอกมาหมดแล้วสะบัดมือออกจากการเกาะกุม ความเจ็บช้ำในอดีตตามหลอกหลอนเธอไม่เคยเจือจาง เธอเจ็บจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ ถ้าหากไม่ได้เจ๊มะนาวช่วยเหลือ คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา“คุณไม่เคยจำเรื่องที่ทำไว้ในอดีตเลยเหรอคะ ไม่เคยจำว่าทำร้ายใครไว้ ไม่สนว่าคนคนนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหนด้วยใช่ไหม!” เธอตะโกนออกมาทั้งน้ำตา มือจับหน้าอกข้างซ้ายรวดร้าวทรมานคนถูกตำหนิเข้าโอบประคอง แต่เธอกลับเบี่ยงก