/ เมือง / เกลียดที่สุด หยุดที่รัก / บทที่ 13 การกอดช่วยให้หายป่วย

공유

บทที่ 13 การกอดช่วยให้หายป่วย

last update 최신 업데이트: 2024-12-25 15:05:49

ดารินธิราเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของ Pier 39 ท่าเรือจำนวนมากที่จอดเทียบท่าส่องแสงสีส้มสว่างไสวยามค่ำคืน

ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของความวินเทจเก่า ๆ ที่คละคลุ้งอยู่รอบท่าเรือคลาสสิคแห่งนี้ 

แต่การบันทึกภาพเพื่อเป็นไอเดียก็ต้องจบลง พลันใดเมื่อหยาดฝนเทกระหน่ำลงมา พร้อมกับลมกระโชกที่พัดโบกขึ้นมาจากอ่าวซานฟรานซิสโก ทำให้เรือลำใหญ่น้อยทั้งหลายโคลงเคลงตามคลื่นที่ยกตัวขึ้นมากระทบฝั่ง

เม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาเทสาดบงพื้นทางเดินบดบังทัศนียภาพตรงหน้าให้พร่ามัว ผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เดินออกมาชมวิวทิวทัศน์แห่กันวิ่งหลบฝนจ้าละหวั่น รวมทั้งเธอด้วย ทันใดเสียงคำรามก็ดังกึกก้อง ไฟฟ้าบริเวณนี้ดับพรึ่บมืดสนิท จึงแทบมองอะไรไม่เห็น

และเพราะความรีบร้อนของหญิงสาวทำให้โทรศัพท์ในมือกระเด็นหลุดจากกระเป๋ากางเกงยีนส์

ดารินธิราจึงก้มลงควานหาจนทั่วแต่พอหยิบขึ้นมา แขนเสื้อกลับคล้องเกี่ยวกับร่องไม้ทางเดิน ติดแน่นจนตึงแขนไปหมด พยายามดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก

ตอนนี้เธอทั้งหนาวทั้งสั่น ปากและฟันกระทบกันเสียงดังจนแทบบรรเลงเป็นเพลง ดวงตาสลดหลี่มองหาความช่วยเหลือ และสะดุดเข้ากับแหวนที่ผู้ชายเย็นชาคนนั้นมอบให้ จึงลองกดแหวนหัวลูกปัดดูสักครั้ง

ทั้งที่รู้ว่าเขาอาจไม่มีทางมา ทว่าอย่างน้อยสิ่งนี้ก็ยังปลอบประโลมใจที่ห่อเหี่ยวและหดหู่ของเธอท่ามกลางพายุคลั่งนี้ได้

"บ้าชะมัด บ้า บ้าที่สุด"

มือของเธอกำหมัดแล้วต่อยลงบนพื้นไม้ รอคอยว่าจะมีเทวดาองค์ใดยื่นมือมาช่วยหญิงสาวผู้โชคร้ายอย่างเธอมั้ย

แต่เวลาก็ล่วงเลยมานาน นานจนมือไม้เริ่มซีดเซียว และดวงตาก็เริ่มฝ้าฟาง พลางคิดในใจว่าทางเดียวที่เธอจะรอดจากพายุห่าฟ้าคลั่งนี้ คือถอดเสื้อตัวนี้ออกซะ

ดารินธิราตัดสินใจถอดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเจ้าปัญหาออกอย่างทุลักทุเล ตอนนี้ท่อนบนของเธอเปลือยล่อนจ้อนเหลือเพียงแต่บราสีดำ 

พลันใดนั้นก็มีบางอย่างคลุมลงมาที่ตัวเธอ ดารินธิราเพ่งมองใบหน้าที่อยู่ในความมืด แต่เพราะมืดจนมองอะไรไม่เห็นและยิ่งฝนที่เทลงมาอย่างหนักยิ่งทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนมากขึ้น

"นั่นใคร...." เธอตะโกนถาม

"ผมเอง"

เขาตะโกนบอกเธอออกไป เพราะเสียงฝนที่เทลงมาอย่างหนักทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างยากลำบาก

ชายหนุ่มประคองเธอไปเรื่อย ๆ จนถึงทางออก กระทั่งมาถึงรถของเขา แม็กนัสรีบกดรีโมทเปิดรถแล้วเปิดประตูให้ร่างที่เปียกปอนหนาวสั่นรีบเข้าไปในรถ 

ดวงตาอ่อนล้าชำเลืองมองร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่าโชว์แผงอกขาวจั๊วะเต็มด้วยมัดกล้ามอันแข็งแกร่ง ที่แท้เขาก็ถอดเสื้อตัวเองแล้วสวมให้เธอใส่แทน

"เดมี่! คุณพักที่ไหนผมจะไปส่ง"

เขาถามขณะที่เร่งรีบขับรถพาเธอกลับไปส่งโรงแรม ทว่าหญิงสาวกลับเอาแต่เงียบใส่ไม่ยอมพูดยอมจา

มือหนาจึงยื่นไปแตะแก้มซีด ดึงมือกลับมาบังคับพวงมาลัย แล้วเหยียบมิดอย่างร้อนใจจนถึงโรงแรมที่เขาพักอยู่

เขาประคองเธอมาวางบนเตียงแล้วจัดการถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมด หาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวไล่ไข้ที่กำลังปะทุขึ้น แต่ไม่ว่าสัมผัสไปยังจุดใด ก็ร้อนเหมือนไฟไปหมดจนเขาใจคอไม่ดี เขาจึงตัดสินใจให้ฮัลค์หาหมอมาดูอาการของเธอโดยด่วน

"คุณแม็กครับ หมอมาแล้วครับ"

ชายหนุ่มเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย ไม่นานนักหมอสาวก็ออกมา

"ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ภรรยาของคุณจะอาการดีขึ้น"

ใบหน้าขาวชะงักกับคำว่า 'ภรรยา'

"อ้อแล้วไงต่อครับ"

เขาไม่ปฏิเสธแถมยังทำตีเนียนคุยโต้ตอบกับหมอต่อ

"ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หมอฉีดยาลดไข้ให้แล้ว แต่ไข้เธอสูงมากจึงต้องรอเวลาให้ร่างกายฟื้นตัวหน่อย ที่เหลือคุณก็ให้เธอทานยาจนหมด ถ้ามีไข้อีกก็คอยหมั่นเช็ดตัวบ่อย ๆ เน้นจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ หมอขอตัวกลับก่อนนะคะ"

"ขอบคุณมากครับหมอ ฮัลค์ไปส่งคุณหมอด้วย"

"ครับ"

19.45 น.

ร่างกายเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มสีขาวขยับยุกยิกเพราะพิษไข้ที่เล่นงานจนปวดร้าวไปทั้งตัว

"หิวน้ำ...หิวน้ำ"

ใบหน้าที่หลับซุกอยู่กับแขนของตนเองผงกขึ้นมาดู รินน้ำใส่แก้วประคองร่างที่ร้อนจัดขึ้นมาแหย่หลอดเข้าไปในปากแห้งผาก

ดารินธิราดูดน้ำจนแทบหมดแก้ว และผลอยหลับไปอย่างง่ายดาย

แต่พอกลางดึกเวลาเกือบตีสาม เสียงร้องอื้ออึงก็ดังขึ้น ทำเอาคนเฝ้าไข้ถึงกับนอนไม่ลง เพราะต้องคอยลุกขึ้นมาเช็ดตัวให้เธอตลอดทุกครั้งที่ไข้ขึ้นสูง 

ชายหนุ่มผมเพ้าชี้ฟูเพราะอดหลับอดนอนเห็นเธอนอนขุดคู้ตะแคงตัวกอดก่ายตนเองอยู่ใต้ผ้าห่ม

"เอาว่ะ!....ลองดู"

มองดูพักหนึ่งจึงตัดสินใจถอดเสื้อนอนของตนเองออก ดึงร่างร้อนมาแนบชิด ดันให้ใบหน้าร้อนซุกนาบลงบนอกแกร่งของเขา และกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เพื่อถ่ายเทความร้อนของเธอด้วยวิธีเนื้อแนบเนื้อ และเขาเชื่อว่าการกอดจะช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยของเธอให้ดีขึ้นได้ไม่ช้าก็เร็ว

เปลือกตาหนักอึ้งเปิดขึ้นมองภาพเบื้องหน้าช้า ๆ ทว่ากลับเห็นใบหน้าขาวใสของอัจฉริยะหัวหงอกจ่อชิดอยู่กับใบหน้าของเธอแทน

ดารินธิราขยับจับตัวเองดูแล้วผมว่าเธอเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมา อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเขากับเธออุ่นเตียงกัน

"ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่"

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มปรือมองแล้วคว้าเอวคอดกิ่วเข้ามา ทำให้เกิดแรงบดเบียดเสียดสีของความนุ่มหยุ่นใต้ผ้าห่ม

"เมื่อคืนคุณกับฉัน......."

"ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ผมแค่นอนกอดคุณเฉย ๆ แล้วที่กอดก็เพราะคุณป่วย"

"คุณแค่พาฉันไปส่งโรงพยาบาลมันจะง่ายกว่ามั้ย"

"แต่ผมก็อัญเชิญหมอมารักษาถึงที่เลยนะ อีกอย่างผมโทรหาเลขาคุณ แล้วบอกว่าคุณไม่สบายหนักมาก ผมจะอาสาดูแลคุณเอง"

"ทำไมคุณถึงไปบอกกุ๊กไก่แบบนั้น เดี๋ยวก็เข้าใจผิดไปกันใหญ่หรอก"

"แต่ดูเหมือนว่าเลขาคุณจะเข้าใจผมผิดอยู่จริง ๆ แถมด่าผมว่าโลเลหลายใจ แล้วบอกอีกว่าเธออยากให้ผมลงเอยกับคุณมากกว่าฟีโอน่า ไม่ยักรู้เลยว่าเลขาคุณเชียร์ผมขนาดนี้" เขาพูดพลางยื่นปลายจมูกโด่งเข้ามาชิดกับปลายจมูกของดารินธิรา หญิงสาวผงะรีบพลิกตัวหันหลังให้อีกฝ่ายทันที

"ท....ทำอะไรของคุณ ไหนว่าเกลียดกัน" เดมี่บ่นด้วยน้ำเสียงงึมงำ

"อืม...เกลียด" เขาย้ำ ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์พลางประทับริมฝีปากลงบนหัวไหล่ขาวเนียน พรมจูบวนเวียนไปมา

"ค....คุณ" ดารินธิรานั่งตัวแข็งรู้สึกเหมือนไข้กำลังจะขึ้นอีกรอบเพราะการกระทำชวนจั๊กจี้ของเขา

"ผมจะไม่ล่วงเกินคุณเดมี่" เสียงเข้มกระซิบบอก แล้วลุกลงจากเตียงนอน ปล่อยให้เธอนอนยึดผ้าห้มไว้กับตัวเองแน่นอย่างหวาดระแวง 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 54 ทาสคนใหม่ของปาตาโกไททัน

    เรียวขาเล็กกระชับแน่นถูกฝ่ามือร้อนคลั่งรักคลั่งคะนึงหาของสามีปลดออกอย่างเร่งรัด ไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถามเหตุการณ์ต่าง ๆ กับเขา ใบหน้าคมขาวก็ก้มลงมาปิดปากของเธอแนบสนิท และยังไม่ได้เตรียมตักตวงออกซิเจนเลยด้วยซ้ำจูบที่สูบแก่นวิญญาณและพลังงานในร่างกายที่อ่อนเพลียมาทั้งวันไปจนเกือบหมด ไหนจะปลายลิ้นที่ควานหาลิ้นของเธอแล้วเกี่ยวรัดไว้จนเธอแทบสำลักรสจุมพิตที่หนักหน่วงนี้ สุดท้ายเธอก็หัวหมุนตาลายแต่ก็ยังอยากตักตวงความสุขนี้กับเขาต่อไป ติ๊ดดดดดด ติ๊ดดดดดดเสียงร้องจากสมาร์ทวอชที่เดมี่ฝังดวลออร่าชิฟเอาไว้ที่หลังคอทำให้มันส่งสัญญาณมาที่เครื่องของเขาและเธอพร้อมกัน ใบหน้าตื่นตระหนกผละจูบออกด้วยความตกใจและรีบยกข้อมือดูสัญญาณเตือนประหลาดที่ขึ้นเป็นรูปเด็กทารก เขาจ้องนิ่งดวงตาไม่กระพริบ "นี่มัน...." แม็กนัสก้มลงหอมแก้มของเดมี่เพื่อปลอบประโลมเธอทันที แล้วยิ้มให้กับใบหน้าที่ซีดเป็นไก่ต้มของภรรยาด้วยความดีใจ "มีอะไรคะคุณแม็ก" "สงสัยว่าคุณกำลังจะมีทาสคนใหม่ให้ไอ้เจ้าปาตาโกไททันมาโยรัมซะแล้ว" "คะ.....หมายความว่าฉะ... ฉันท้อง" "อืม คุณท้อง ถึงว่าคุณต้านแรงจูบของผมไม่ได้เลย ทั้งที่ปกติคุณจะรุกกลับจนผมเสี

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 53 ความคิดถึงอันแสนเร่าร้อน

    เดมี่ได้ยินพวกคิสท์ โอซัลลิแวนคุยกันเรื่องแผนที่ และแผนฆ่าสามีของเธอ ซึ่งความจริงเรื่องแผนที่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปพราะทุกๆ เส้นทางแทบจะปรากฏเด่นชัดอยู่ในรอยหยักสมองเรียบร้อยแล้ว เรื่องสำคัญกว่าที่เธอต้องกังวลคือจะปกป้องสามียังไงดีในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ผู้หญิงอย่างเธออาจจะไม่ได้ดีพร้อมและเก่งไปหมดทุกเรื่อง แต่บางเรื่องก็จำเป็นแม้จะไม่เก่งและพร้อมก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะขอเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่จะดึงความสนใจของศัตรูสามีมาเป็นเธอแทน เธอไม่ลังเลเลย แต่เลือกด้วยความเด็ดขาด ในชีวิตนี้เธอเคยสูญเสียพ่อไป และก็เคยเสียศูนย์จากการไร้พ่อมานานหลายปี รวมทั้งเสียเวลากับการไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนที่เธอรัก และกว่าจะเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน ก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน วินาทีที่เธอก้าวมายังจุดที่อันตรายสุดขีดแล้ว จะถอยหลังกลับไปยังจุดเริ่มต้นก็คงจะป่วยการเสียแล้ว ถ้าแม็กนัสจะโกรธเธอเพราะความบุ่มบ่ามใจร้อนและเข้ามายุ่งกับงานของเขา เธอก็จะยอมรับ เพียงแต่ว่าขอให้เธอมีโอกาสช่วยเขาบ้างก็พอ ในห้องพักหรูวีไอพีชั้นสุดของโรงแรมซึ่งห้องของเดมี่อยู่ห่างกับห้องที่แม็กนัสอยู่เพียงสองห้อ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 52 ตามล่าสามีกลับบ้าน

    ฮัลค์ผู้ที่กุมความลับทุกอย่างไว้รีบวิ่งตามภรรยาของเจ้านายไปด้วยความเป็นกังวล เพราะเขากลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ทางที่ดีเปิดเผยความจริงกับเธอก่อนดีกว่า แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที“พาฉันไปร้านอาหารของแม่หน่อยได้ไหมคะ?”“คือว่า....ก่อนที่คุณเดมี่จะไป ผมขอให้คุณเดมี่ไปที่ๆ หนึ่งด้วยกันก่อนได้ไหมครับ”หญิงสาวรีบเช็ดน้ำหูน้ำตาที่เลอะเปื้อนเต็มดวงหน้า แล้วพยักหน้ารับเกือบสี่สิบนาทีบอดี้การ์ดหนุ่มจึงได้พาดารินธิรามาส่งที่บ้านทรงเอเฟรมของเธอ ดารินธิราหันไปมองหน้าเขาอย่างสับสนงุนงง“รีบเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เพราะผมไม่รู้ว่ามีหูตาสัปปะรดที่ไหนคอยมองดูพวกเราอยู่หรือเปล่า”“ทำไมล่ะคะ?”เอ่ยถามพลางรีบร้อนลงจากรถก่อนจะยืนมองบ้านของตัวเองที่ไม่ได้กลับมาพักใหญ่ หญิงสาวหากุญแจบ้านที่ซ่อนไว้ใต้กระถางต้นไม้แล้วไขกุญแจ ทว่าไขเท่าไหร่ก็ไขไม่เข้า“เอ้…..หรือมันจะเสียแล้ว”“มันไม่ได้เสียหรอกครับ”ชายหนุ่มตัวโตยิ้มแล้วหยิบเอากุญแจอีกดอกที่อยู่ใต้กระถางต้นดอกคาเมเลียหน้าบ้านของดารินธิราออกมา แล้วหันซ้ายหันขวาดูท่าทีก่อนจะรีบไขเข้าไปในตัวบ้าน เขาก็ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมาหลังจากที่สับคัทเอ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 51 แผนที่แสนทรมาน

    มือที่จับปากกาสไตลัสอยู่นั้นค้างนิ่งกลางอากาศ ใบหน้าเงยขึ้นมองมายังต้นเสียงที่ขัดจังหวะศิลป์ของเธอ ดวงตากลมโตเหล่มองใบหน้าของฮัลค์อย่างคนมีคำถาม"คุณ?""พ่อสิ คุณอะไรเล่า?""อ่อ..ค่ะคุณพ่อ แล้วลมอะไรหอบคุณพ่อมาถึงที่นี่""ก็เธอเป็นลูกสะใภ้ตระกูลอาเวนชี่แล้วไม่ใช่รึไง""ค่ะ....แล้วมีธุระอะไรกับฉัน หรือว่ามาหาคุณแม็กคะ""ไอ้ลูกบ้านั่นฉันไปหามันเรียบร้อยแล้วล่ะ เพราะแบบนี้ไงถึงได้มาหาเธอ""เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?"เบลค อาเวนชี่ ย่อตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวอย่างเหนื่อยหน่ายใจต่างกับคนเดิมที่เคยเกรี้ยวกราดใส่เธอ"แม็กนัสได้รู้ความจริงเรื่องแม่ของเขา ความจริงที่ฉันปิดบังมาตลอดหลายสิบกว่าปีมานี้ ที่ว่า.....แม่ของเขาเป็นอาชญากรที่ถูกทางการจีนหมายหัว และฉันเองเป็นคนที่ถูกส่งมาให้จัดการเธอ แต่แล้วฉันก็ไม่อาจทำเรื่องแบบนั้นได้ เพราะ.....""คุณรักเธอ" ดารินธิราต่อประโยคที่ขาดช่วงไปอย่างนุ่มนวล "ใช่....ฉันรักแม่ของเขามาก จนยอมเป็นคนเลว แต่ฉันไม่อยากให้เจ้าแม็กคิดว่าฉันกับแม่ของเขาให้กำเนิดเขาเพราะเหตุผลอื่น ที่ฉันแต่งงานกับแม่ของเขาเพราะความรักจากใจจริง ไม่ใช่เพราะภารกิจลับจากองค์กรไหนทั้งนั้น ฉันแ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 50/2 ห่างไกล

    เสียงของเธอถูกคงส่งไปไม่ถึงเขา เพราะโทรศัพท์ถูกตัดสายทิ้งซะก่อน และเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าเธอโทรมา แล้วผู้หญิงที่อยู่ปลายสายนี้ล่ะ เธอเป็นใครกันแน่ ทำไมสามีของเธอถึงยอมให้หล่อนมาอยู่ด้วยจนมืดค่ำขนาดนี้ ใช่ว่าเธอจะเป็นคนขี้หึงหรอกนะ แต่นี่มันมากเกินไป อยู่ดีๆ นึกจะไปก็ไปไม่บอกไม่กล่าวเมียอย่างเธอเลยสักนิด ต้องให้คนอื่นมาบอก แถมโทรมาหาสักหน่อยก็ไม่มี เอาสิ! นังจิ้งจอกคนนั้นเป็นใครเธอไม่สนหรอก แต่หากคิดจะใช้โอกาสนี้รวบหัวรวบหางสามีของเธอ คงไม่ง่ายนักหรอก ดารินธิราเดินทางมาถึงสถาบันบีเดอะไลท์ตั้งแต่ยามเพิ่งจะเดินทามาถึง แม้สถาบันของเธอจะกลับมาอยู่ในสภาพใหม่ที่ดีและสวยงามกว่าเดิมหลายเท่าเพราะฝีมือของแม็กนัส แต่นั่นกลับไม่ไช่เหตุผลที่ทำให้เธอรีบร้อนมาทำงานเพื่อมาชื่นชมตึกใหม่ แต่เป็นเพราะบทสนทนาเมื่อคืนต่างหากที่ทำให้เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว"อโลฮ่า! พี่เดมี่ วันนี้เราได้งานนออกาไนซ์จัดศิลปะการแสดงประจำปี, จัดนิทรรศการ ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน อ้อแถมมีงานเทียบเชิญขอให้พี่เดมี่ไปโชว์เต้นเปิดตัวให้กับองค์กรการกุศลด้วยนะคะ กุ๊กไก่ดีใจมากค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณโมนาจะมีอิทธิพลขนาดนี้""ที่ไหน เมื

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 50/1 ห่างไกล

    Count your age by friends, not years. Count your life by smiles, not tears.นับอายุของคุณด้วยจำนวนเพื่อน และนับชีวิตของคุณด้วยรอยยิ้มไม่ใช่หยดน้ำตา-John Lennon-ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนไล่มองใบหน้าขาวเนียนดุจผิวทารกเพศชาย แม้ตอนนี้นาฬิกาบนผนังห้องจะบอกเวลาแค่ตีสามครึ่งเท่านั้น แต่แสงกระทบของพระจันทร์ที่ส่องสว่างเข้ามาในห้องนี้ กลับทำให้รู้สึกว่าเช้าวันใหม่ได้เดินทางมาถึงแล้วและเป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่ของเธอกับเขา หลินเย่ซี สามีดีกรีมหาเศรษฐีที่จับผลัดจับพลูไปเป็นสายลับ ทำให้เธอต้องมาพัวพันกับเรื่องล่าอารยธรรมสุดขอบโลกกับเขาไปด้วยโดยไม่คาดคิด "เดมี่..........."เขาปรือตาขึ้นแล้วพลิกตัวตะแคงข้างสบตามาที่เจ้าของรอยยิ้มละมุนที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยมองดูเขาอยู่อย่างเงียบๆ "ฉันปลุกคุณตื่นหรือเปล่าคะ?""เปล่าครับ แต่ตอนนี้.....ก็คล้ายว่าจะตาสว่างมากกกกก" เขาพูดจบก็เอาสองมือปิดตาตัวเอง หญิงสาวหลุบต่ำมองดูสภาพตัวเองที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวบางของเขาในสภาพไร้บรา คงไม่ต้องเดาแล้วล่ะว่า เขาปิดตาทำไม โมนายัยเบ๊อะเอ้ย! เดี๋ยวเขาก็หาว่าเธอจงใจอ่อยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางความอายแทบพลิกแผ่นดินทำให

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status