ญาติคนนี้ที่รักเธอมากที่สุด แม้แต่ตอนที่เสียชีวิตในชาติที่แล้ว เธอก็ยังไม่ได้พบหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ
ครั้งนี้ เธอจะต้องอยู่เคียงข้างและแสดงความกตัญญูเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้ผู้อาวุโสท่านผิดหวังอีกแล้ว
เพราะว่ายังมีบาดแผลอยู่ เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่กล้าไปพบคุณตา
เธอทำได้แค่ระงับความตื่นเต้นและรีบร้อนที่อยู่ภายในใจเอาไว้ แล้วอีกสักสองวันค่อยนัดกลับไปพบเขา
หลังจากวางสาย เฉียวสือเนี่ยนก็นั่งอยู่ที่ระเบียง และนึกถึงเรื่องราวของตัวเองในชาติก่อนขึ้นมา
ตอนนั้นอายุสิบแปดปี เพราะเหตุการณ์ ‘วีรบุรุษช่วยสาวงาม’ เพียงครั้งเดียว ทำให้เธอที่เป็นสาววัยรุ่นแรกแย้มได้ตกหลุมรักฮั่วเยี่ยนฉือ
สาวน้อยที่หมกหมุ่นในความรักไร้ยางอายจนไม่มีอะไรจะเสีย มารยาหญิงเล่มไหนเธอก็งัดมาใช้จนหมดแล้ว แต่จะทำอย่างไรเขาก็ไม่ประทับใจสักที
ช่วงที่เรียนจบมหาวิทยาลัย คุณนายใหญ่ฮั่วรับรู้ถึงความคิดของเธอ จึงพยายามวางแผนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ฮั่วเยี่ยน ฉือจดทะเบียนสมรสกับเธอ นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้กลายเป็นคุณผู้หญิงฮั่ว
แม้ฮั่วเยี่ยนฉือจะเกลียดเธอ แต่เธอก็ยังคงวาดฝันหวานในใจว่า จะสามารถทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือประทับใจได้
จนกระทั่งหลังแต่งงานได้ครึ่งปี ป๋ายอีอีก็กลับประเทศและเข้ามาในบริษัทของฮั่วเยี่ยนฉือ
ความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างพวกเขาทำให้เธอกลัวจะสูญเสียฮั่วเยี่ยนฉือไป
เธอเริ่มตึงเครียด โวยวาย และอยากได้ความมั่นใจจากฮั่วเยี่ยนฉือ
แต่ทั้งหมดนี้กลับไร้ประโยชน์ แถมเพราะการขู่จะกระโดดตึกของเธอ จึงทำให้ความสัมพันธ์ของฮั่วเยี่ยนฉือกับป๋ายอีอีลึกซึ้งยิ่งขึ้นทุกที จำนวนวันที่เขาจะกลับบ้านก็ยิ่งน้อยลงไปด้วย
เธอตัดสินใจพยายามเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความสิ้นหวัง โดยการไปขอร้องคุณนายใหญ่ฮั่ว ให้ท่านช่วยสร้างโอกาสให้เธอไปต่างประเทศกับฮั่วเยี่ยนฉือกันสองต่อสอง
ไม่คาดคิดเลยว่าคืนก่อนจะไปต่างประเทศ ป๋ายอีอีกลับประสบเหตุบุกรุกบ้าน ลอบวางเพลิง และชิงทรัพย์ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ทว่าหลังจากคนร้ายถูกจับ เขากลับบอกว่าเธอเป็นผู้บงการ!
เรื่องนี้ทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือโกรธมาก ไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร เขาก็จะจับเธอเข้าคุกให้ได้
ด้วยการจัดการของคุณตาและความช่วยเหลือของคุณนายใหญ่ฮั่ว ทำให้เธอรอดพ้นจากการถูกฮั่วเยี่ยนฉือจับเข้าคุก
แต่ฮั่วเยี่ยนฉือตัดสินใจใช้ปัญหาทางจิตเป็นเหตุผล ส่งเธอไป ‘รักษา’ ที่โรงพยาบาลจิตเวช และการรักษานี้กินเวลานานกว่าสองปี……
เมื่อคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในชาติก่อน เฉียวสือเนี่ยนก็น้ำตาไหลอาบแก้ม
ความบิดเบือน ความอิจฉาริษยา ความบ้าคลั่ง ความทุกข์ทรมานสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดมาจากความมัวเมาที่เธอมีต่อฮั่วเยี่ยนฉือ
ความมัวเมานี้ทำลายชีวิตของเธอ
คาดว่าพระเจ้าคงทนดูไม่ได้ จึงให้โอกาสเริ่มต้นใหม่กับเธออีกครั้ง
ตอนนี้ความรู้สึกของฮั่วเยี่ยนฉือและป๋ายอีอียังไม่ถึงขั้นลึกซึ้ง
และเธอก็ยังไม่เข้าสู่ความบ้าคลั่ง รวมถึงเรื่องที่สูญเสียสติสัมปชัญญะเหล่านั้น ล้วนยังไม่เกิดขึ้น
เธอแค่ต้องอยู่ห่างจากพวกเขา เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลจิตเวช และไม่เป็นโรคมะเร็งด้วย!
เธอก็จะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง!
……
สามวันต่อมา เฉียวสือเนี่ยนได้ผ่านการพักผ่อนและปรับตัว บาดแผลที่เกิดจากการกระโดดตึกเกือบจะหายดีแล้ว
สภาพจิตใจและสุขภาพจิตก็มั่นคงสมบูรณ์แล้วเช่นกัน
หลังฮั่วเยี่ยนฉือและป๋ายอีอีจากไปในวันนั้น ก็ไม่เห็นหน้าพวกเขาอีกเลย
คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าชาตินี้ป๋ายอีอีจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ฮั่วเยี่ยนฉือก็ยังคงไม่กลับบ้านอยู่เหมือนเดิม
แน่นอนว่าเฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้สนใจ
เธอตัดสินใจแล้วว่าจะทำการตัดขาดกับฮั่วเยี่ยนฉือ
และยุติการแต่งงานที่ผิดพลาดนี้
ต่อไปพวกเขาแยกทางใครทางมัน ต่างคนต่างอยู่
เฉียวสือเนี่ยนหาเบอร์โทรศัพท์ของฮั่วเยี่ยนฉือ และกดโทรออกหาเขา
โทรศัพท์ดังนานแล้ว แต่กลับไม่มีคนรับสายเลย
เกือบลืมไปแล้วว่า ฮั่วเยี่ยนฉือกลัวเธอจะเซ้าซี้ จึงแทบไม่รับโทรศัพท์จากเธอ
เฉียวสือเนี่ยนจึงพิมพ์ข้อความและส่งไปหาเขา
‘ตอนนี้ว่างไหม จะเอาเอกสารไปด้วย พวกเราจะไปทำเรื่องหย่าที่สำนักงานกิจการพลเรือน’
นานแล้วที่เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้รอการตอบกลับจากฮั่วเยี่ยนฉือ
คิดว่าเขาไม่เห็นข้อความ เฉียวสือเนี่ยนจึงส่งไปอีกครั้ง
แม้แต่ข้อความก็ยังคงเหมือนกับหินที่จมลงไปในมหาสมุทร
เฉียวสือเนี่ยนคิดดูแล้ว จึงตัดสินใจไปพบเขาที่บริษัทโดยตรงเลย
แผนกต้อนรับส่วนหน้าของบริษัทรู้จักเฉียวสือเนี่ยน
หลังจากที่เธอได้ทะเบียนสมรสมาแล้ว ก็กังวลว่าจะมีผู้หญิงมาพยายามเอาชนะใจฮั่วเยี่ยนฉือ เธอจึงเคยมาประกาศความเป็นเจ้าของอย่างโอ้อวดที่นี่
สำหรับการมาของเธอในขณะนี้ ทำให้รอยยิ้มของพนักงานส่วนหน้าแฝงไปด้วยความดูถูกเล็กน้อยเอ่ย “ขอโทษด้วยนะคะ หากต้องการจะเข้าพบท่านประธานต้องนัดล่วงหน้าค่ะ”
เธอไม่เป็นที่ชื่นชอบของฮั่วเยี่ยนฉือ ทุกคนต่างรู้กันดี
เฉียวสือเนี่ยนไม่คิดเล็กคิดน้อยกับท่าทางของพนักงาน เธอหยิบแฟ้มเอกสารออกมา “งั้นรบกวนเธอเอาแฟ้มนี้ส่งให้ฮั่วเยี่ยนฉือด้วยนะ”
หลังจากวางแฟ้มเอกสารลง เฉียวสือเนี่ยนก็หันหลังและจากไป
แต่เธอเพิ่งเดินได้สองก้าว ก็ได้ยินพนักงานส่วนหน้าเยาะเย้ยด้วยเสียงที่เบา “คาดว่าคงจะเป็นจดหมายสารภาพรักอีกแล้วล่ะสิ หน้าไม่อาย!”
จากนั้น แฟ้มเอกสารของเธอก็ถูกทิ้งลงถังขยะ!