การติดอยู่ในกระโจมที่ไร้ทางออกเช่นนี้มันไม่ได้น่าสนุกเท่าไหร่นักเพราะว่าเขาไม่แม้แต่จะได้สัมผัสร่างกายของสตรีที่มีใบหน้าเย้ายวนผู้นั้นเลยด้วยซ้ำ ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของนางเผยอออกมาเล็กน้อยทำให้ดูแล้วรู้สึกอยากจะกดจูบริมฝีปากลงไปยิ่งนัก ทว่าคำกล่าวที่นางพูดออกมากำลังทำให้อารมณ์ที่ คุกรุ่นของเขากำลังจางหายไป
ความรักคือถ้อยคำลวงที่มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะหลงเชื่อ คำว่าตลอดไปมันไม่มีอยู่จริงเช่นเดียวกับความรักที่เป็นนิรันดร์ พระเจ้าบัญญัติคำพวกนี้เอาไว้เพื่อให้เราหลงเชื่อ หลงคิดว่าถ้อยคำลวงเหล่านั้นคือเรื่องจริงๆ ทั้งที่..เรามองด้วยตาเปล่ายังมองไม่เห็นถึงความรักเลยด้วยซ้ำ “หากเจ้าตั้งใจเช่นนั้น ก็จะต้องพยายามมากทีเดียวเลดี้ไกอา เพราะว่าข้าไม่สนใจและไม่คิดที่จะมี..ความรัก เจ้ามีความสามารถนะ เจ้าสามารถทำให้ข้าอยากจนแทบคลั่งและสามารถทำให้เจ้าสิ่งนี้หมดความรู้สึกอยากไปได้เหมือนกัน” เมื่อกล่าวจบคาเรนก็ล้มตัวนอนลงไปบนที่นอน เขาเบนสายตามองไปทางอื่น ในเมื่อเธอจะทำตัวยุ่งยากและวุ่นวายมากขนาดนั้น เช่นนั้นเขาก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งด้วยก็แล้วกัน เจตนาของเรามันต่างกัน เธอต้องการสามีแต่เขาไม่ต้องการภรรยา แค่ความคิดแรกเริ่มมันก็ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว เพราะอย่างนั้นคาเรนปฏิญาณในใจเลยว่าเขาน่ะ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเลดี้ไกอาอีกแล้ว เมื่อได้ยินคำกล่าวที่ถูกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเย็นชา ไกอาก็แย้มยิ้มออกมา เธอเดินไปที่เตียงนอนก่อนจะล้มตัวนอนลงข้างๆ เขา “ที่รัก..ท่านไม่คิดจะแบ่งปันผ้าห่มที่แสนจะอบอุ่นนั่นให้ข้าอย่างนั้นหรือคะ?” การเล่นสนุกของเธอยังไม่จบลงตราบใดที่ประตูห้องแห่งนี้ยังไม่เปิดออก “ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษ หากต้องการบุรุษดีๆ เจ้าควรจะหาทางออกไปจากห้องนี้แล้วไปมองหาที่อื่น ไม่ใช่จะมาบังคับคนสารเลวเช่นข้าแล้วบีบบังคับให้ข้าเป็นคนดี ข้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเลดี้ หากว่าหนาว เจ้าก็ไปหยิบพรมปูพื้นมาห่มสิ ข้าเองก็ไม่ได้สวมเสื้อเพราะอย่างนั้นข้าก็หนาวมากเหมือนกัน” บอกตามตรงว่าเธออึ้งเล็กน้อย เพราะว่าเขาคือท่านดยุค คือขุนนางจากราชอาณาจักรแห่งนี้ แต่การกระทำของเขามันเหมือนกับพวกนักเลงข้างถนนหรือไม่ก็พวกโจรป่ามากกว่า และที่เขาพูดออกมานั้นมันไม่ได้ผิดตรงที่ว่าหากเธอชอบคนดีก็ไปหาคนดีสิ มาหาเขาที่เป็นคนเลวทำไม แต่เขาอาจจะลืมคิดไปว่าเธอไม่ได้ชอบคนดีสักหน่อย..ที่มุมปากของไกอาแย้มยิ้มออกมา รอยยิ้มที่แสนน่ารักปรากฏขึ้นมาที่มุมปากแต่ดวงตาสีอัญมณีของเธอกลับฉายแววซุกซน คราแรกเธอหลงใหลในใบหน้าของเขา เพราะเขาเหมือนอดีตคนรัก แต่ต่อมาเมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่ไกอาก็คิดว่าเธอจะปล่อยผ่านเพราะนิสัยใจคอของท่านดยุคและอดีตคนรักของเธอมันไม่เหมือนกันสักนิดเดียว แต่..พอได้มองเห็นกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องหัวใจของเขา มันทำให้เธอรู้สึกว่านี่มันคือเรื่องท้าทายมากๆ เลย ไกอาแค่อยากเอาชนะเขา อ่า..แน่นอนว่าในตอนนี้มันไม่ได้มีเรื่องของความรักมากเกี่ยวข้องแต่หากว่าเขาจะมาเป็นสามีของเธอ เธอก็ยินดี เธอไม่ใช่คนหัวโบราณที่ยึดติดกับเรื่องในอดีตอยู่แล้ว แค่ในอนาคตต่อจากที่เขาตกลงเป็นสามีของเธอ เขาไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีอื่นเหมือนอย่างที่ผ่านมาก็พอ ไกอามุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม เธอยกมือขึ้นมากอดท่านดยุคจากทางด้านหลังพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ อากาศในทะเลทรายนี่ชวนให้เป็นไข้ดีเหมือนกันแฮะ เพราะว่าในช่วงเวลากลางวันจะมีอากาศที่ร้อนมากกว่าปกติ แต่ในตอนกลางคืนหนาวสะบัดเลย เพราะแบบนี้ชนชั้นสูงของที่นี่ถึงได้นิยมจัดงานเลี้ยงในตอนกลางคืนอย่างนั้นสินะ เพราะว่าร่างกายจะได้อบอุ่น..แหม “เอามือออกไป ข้าไม่ชอบให้ใครมานอนกอด เว้นเสียแต่เจ้าจะอยากทำเรื่องอย่างอื่นที่ไม่ใช่การนอนกอดในคืนนี้” ไกอาลุกขึ้นนั่ง เธอมองหน้าของท่านดยุคอีกครั้ง “จะทำก็ได้นะคะ แต่ว่าท่านดยุคจะต้องตกลงเป็นสามีของข้าก่อน” “เจ้ามันบ้าไปแล้ว..” นี่เขากำลังพบเจอสตรีประเภทใดกัน? “พรุ่งนี้ข้าไปหาที่คฤหาสน์ได้ไหมคะ ตั้งแต่มาที่นี่ข้ายังไม่มีเพื่อนเลย คงจะดีหากว่าท่านดยุคพาข้าไปเที่ยวชมเมือง” ให้ตายเถอะ เขาอยากจะหาอะไรมัดยัยนั่นเอาไว้เพื่อไม่ให้นางพูดอะไรออกมาอีก แต่ในห้องนี้ก็ไม่ได้มีเชือกหรือว่าผ้าอะไรเลย เป็นอีกครั้งที่หลานสาวของเขาจัดงานได้อย่างดีเยี่ยมมากเหลือเกินเพราะไม่มีทั้งอาวุธและอะไรก็ตามที่จะทำเป็นอาวุธได้เลย “ข้าไม่ว่าง” ยิ่งเห็นเขาพยายามที่จะถอยห่างจากเธอไกอาก็ยิ่งรู้สึกขบขันมากทีเดียว นี่ใช่ท่านดยุคที่เดินเข้ามาในห้องนี้ด้วยท่าทางมั่นใจคนเดิมรึเปล่านะ “ใจร้ายจังเลยนะคะ” เมื่อกล่าวจบไกอาก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้กอดเขาอีกแล้ว เธอนอนมองเพดานของกระโจมเงียบๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ .............. “ฝ่าบาท..พระองค์ทรงปฏิเสธการเข้าร่วมงานเลี้ยงอีกแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาสีอำพันจ้องมองไปที่องครักษ์คนสนิท ก่อนที่เขาจะเบนสายตามองไปยังจดหมายเชิญมากมายที่ถูกส่งมาหาเขา “ข้าไม่อยากไป งานเลี้ยงอะไรแบบนั้นไม่เหมาะสมกับข้าหรอก” องครักษ์วัยสามสิบแทบจะทรุดตัวลงเบื้องหน้าขององค์รัชทายาท ฝ่าบาทของเขานั้นรูปงามและเก่งกาจแทบทุกด้าน เหลือเพียงสิ่งเดียวที่องค์ราชานั้นทรงเป็นกังวลคือเรื่องของคู่ครอง.. องค์ราชายังคงรับพระสนมเข้ามาในพระราชวังที่แสนใหญ่โตแห่งนี้อยู่เรื่อยๆ แต่องค์รัชทายาทกลับยังไม่คิดสานสัมพันธ์กับสตรีใดเลยแม้แต่นางเดียว นั่นทำให้ทุกฝ่ายต่างกังวลไปตามๆ กัน รวมทั้งเขาที่เป็นผู้ดูแลองค์รัชทายาท “ไม่ต้องห่วงหรอกอาบู เพราะเมื่อถึงเวลาเดี๋ยวข้าจะแต่งงานเอง เจ้าไม่ต้องคิดมากไป” อาบูมองหน้าขององค์รัชทายาท เขาเองก็ไม่ได้อยากจะห่วงหรือว่ากดดันพระองค์มากเกินไป หากว่าเขาไม่ได้รับคำสั่งมาจากองค์ราชาน่ะนะ “องค์ราชาทรงกดดันมานะพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายรองเองก็พึ่งจะมีพระโอรส องค์ราชาทรงห่วงใยว่าตำแหน่งองค์รัชทายาทของพระองค์จะสั่นคลอนหากว่าพระองค์ยังไม่ทรงแต่งงาน” เคียนปรายตามองไปออกด้านนอกหน้าต่างห้องทำงานของเขา คำกล่าวที่แสนกดดันนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่เขายังเจ็บปวดกับเรื่องบางอย่างที่ฝังลึกหยั่งรากลงไปในใจ ทำให้เขาไม่กล้าเปิดรับความรักครั้งใหม่หรือแม้กระทั่งการร่วมหลับนอนกับสตรีใด.. แต่ตำแหน่งรัชทายาทเขาจำเป็นต้องรักษา เพราะหากจะปกป้องท่านแม่มีแต่เขาจะต้องเป็นองค์ราชาเท่านั้น..พระราชวังแสนหรูหราที่ขนาดน้ำพุกลางสวนยังทำมาจากทองคำ ที่นี่เป็นสถานที่ ที่ความรู้สึกในการมาครั้งแรกและครั้งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงโนแอลหยุดฝีเท้าของเธออยู่ที่สวนด้านหน้าพระราชวัง เธอมองแผ่นหลังขององค์ราชาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและแฝงไปด้วยความเย็นชา“หากว่าฝ่าบาทจะทรงพูดคุยหรือว่าหารือเรื่องงานล่าสัตว์ที่กำลังจะถึง หม่อมฉันว่าเราสามารถพูดคุยกันที่นี่ได้นะเพคะ”คีนแนนหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินในทันที เขาหันกลับมามองใบหน้าของดรุณีน้อยที่กำลังมองเขาด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ“เจ้าไม่ชอบที่ข้าเรียกเจ้ามาอย่างนั้นหรือ ทั้งที่ในคืนนั้น..รางวัลที่ข้ามองให้เจ้าก็นับว่าส่งมอบให้ด้วยความสุขสมมิใช่หรือ? แล้วเหตุใดถึงทำท่าทางราวกับไม่อยากได้รางวัลนั้นเป็นครั้งที่สองล่ะ”โนแอลขบเม้มริมฝีปากเบาๆ“เพราะหม่อมฉันไม่ชอบอยู่กับความเพ้อฝันเพคะ อะไรที่เป็นไปไม่ได้ หม่อมฉันก็จะไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว แค่ครั้งเดียวก็..มากเกินพอ”คีนแนนขยับฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาหาโนแอล เขาจับที่ปลายคางของเธอก่อนจะเชยคางมนนั้นขึ้นมาเพื่อให้เธอมองสบตาเขา“หากจะนับกันจริงๆในเรื่องนี้ เจ้าเป็นฝ่ายที่เริ่มมันขึ้นมาด
ส่วนนั้นชุ่มไปด้วยน้ำลายหยาดเยิ้มยั่วยวนให้แทรกกายเข้าหา ปลายนิ้วสัมผัสบริเวณที่ถูกปิดสนิท ซึ่งชุ่มชื่นจากการปรนเปรอด้วยปาก“อา..คาเรน”ไกอาเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอหันหน้ากลับมามองหน้าเขา ซึ่งสีหน้าของเธอมัน..งดงามมากทีเดียวเหอะ..นี่มันคืออะไรกัน ความสวยงามที่ราวกับว่านางไม่ใช่มนุษย์นี้ สตรีสามารถงดงามเช่นนี้ได้ด้วยอย่างนั้นหรือ เขานอนกับสตรีมานับไม่ถ้วนแต่กลับไม่เคยมีสตรีใดที่สามารถตรึงใจได้ถึงเพียงนี้เลยสักนาง นี่คือเหตุผลที่รัชทายาทไม่สามารถปล่อยเธอไปได้อย่างนั้นสินะ มันคือเหตุผลที่พระองค์ยินยอมละทิ้งศักดิ์ของราชวงศ์เพื่อมาใช้ภรรยาคนเดียวกันกับเขาไกอาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ส่วนลึกในกายสั่นไหวจนเผลอขยับสะโพกตามจังหวะสอดรับกับการเคลื่อนไหวของนิ้วมือที่กำลังสำรวจข้างใน เสียงเปียกชื้นดังขึ้นอย่างน่าละอายนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำเรื่องเช่นนี้กับบุรุษทั้งสองคนพร้อมๆ กับ สาบานได้เลยว่าในครั้งแรกไกอาไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นแบบนี้ เพราะว่าเธอแค่อยากจะพูดคุยกับพวกเขาทั้งสองคนให้รู้เรื่องไปเท่านั้นเอง แต่ทว่าการที่เรื่องราวมันดำเนินมาถึงการกระทำเช่นนี้ ก็ดีไม่น้อย
แรงกระตุ้นจากฝ่ามือที่ลูบไล้ส่งผลกับทุกส่วนในร่างกายอย่างน่าเหลือเชื่อ ลิ้นอุ่นไล้เลียไปตามยอดปลายถันสีหวาน ตวัดเลียไปมาสลับกับออกแรงดูดดึงเบาๆ พอให้ร่างกายของไกอาได้สั่นสะท้านหากจะบอกว่าองค์รัชทายาทคาเบเรียนนั้นเก่งกาจเรื่องการเร้าอารมณ์ เช่นนั้นท่านดยุคเซนเดอร์ก็คงจะเก่งกาจในการรู้จุดสัมผัสที่จะทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านเธอปรายตามองหน้า ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังครอบครองปลายยอดอก“อา..”เมื่อริมฝีปากของไกอาเป็นอิสระ เธอก็เปล่งเสียงร้องครางแสนหวานล้ำออกมาอย่างน่าละอาย เคียนปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ทำจากผ้าไหมราคาแพงระยับของเขาออกไปในทันที ดูเหมือนว่าการแข่งขันของเขาและดยุคแห่งเซนเดอร์จะยังไม่จบ..อันที่จริงต้องเรียกว่ามันไม่มีทางจบสิ้นเลยน่าจะดีกว่า เขาไม่รู้เหมือนกันว่าชายผู้นั้นเป็นอะไรถึงได้ชื่นชอบการแข่งขันกับเขานักหนา ในทุกครั้งที่ฤดูกาลล่าสัตว์เดินทางมาถึงท่านดยุคจะต้องแข่งขันล่าสัตว์อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเอาชนะเขา ตั้งแต่จำความได้เขาและท่านดยุคเป็นคู่แข่งกันมาโดยตลอด เคียนเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าแม้กระทั่งเรื่องสตรี เราทั้งสองคนก็ยังจะต้องแข่งขันกัน..และเขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเ
สิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยที่ตัวของไกอาเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวเช่นกัน สิ่งนั้นมันคงเป็นความลุ่มหลงและความอ่อนไหวที่ไขว้กันอย่างสลับซับซ้อนมาทีเดียวในตอนนี้ทั้งที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอยังกังวลในเรื่องของการหาสามี แต่ทว่าในวันนี้เธอกลับได้บุรุษทั้งสองคนเป็นสามีพร้อมๆ กันงานแต่งงานของเราจะต้องสนุกมากแน่ๆ ..ดวงตาสีอำพันของเคียนวูบไหวไปมาราวกับเปลวเทียนที่ต้องสายลม ใบหน้าของเขาขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ในขณะที่ไกอานั้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาส่วนคาเรน เขากำลังคิดว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบเล็กน้อย ฝ่ามือหนาใหญ่ของคาเรนจับเข้าที่เอวของไกอา เขายกเธอลอยขึ้นมาจากตักขององค์รัชทายาท ก่อนจะวางเธอเอาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง เขาวางคางเกยลงไปบนไหล่เล็กๆ ของเธอด้วยความออดอ้อน“จำครั้งที่เราพบเจอกันครั้งแรกได้หรือไม่ เจ้าบอกว่าเจ้าจะนอนกับบุรุษที่จะมาเป็นสามีของเจ้าเท่านั้นและในยามนี้ข้ายินยอมเป็นสามีของเจ้าแล้ว ในเมื่อหัวใจและความคิดของเรานั้นมันตรงกัน เช่นนั้นในเรื่องถัดไป เราก็ควรจะทำให้ร่างกายของเรามันตรงกันสิถึงจะถูกต้อง..”เขาไม่ได้กล่าวคำลอยๆ ขึ้นมาเรื่องที่เขาจะเป็นสามีของเธอ คาเรนจัดเตรียมใบทะเบียนสมรสมาด้วย เขาย
เรือนรับรองของขุนนางแต่ละคนจะเป็นกระโจมน้อยใหญ่แตกต่างกันไป แต่ทว่าเรือนรับรองของไกอา มันคือคฤหาสน์หลังย่อมๆ เลยทีเดียว เป็นที่พักที่ดูพิเศษแตกต่างจากขุนนางคนอื่นๆ เธอเดินนำองค์รัชทายาทและท่านดยุคเข้าไปด้านใน เหล่าสาวใช้ต่างยกถาดสุราและผลไม้มากมายขึ้นมาวางเอาไว้บนโต๊ะกลางตัวเตี้ยๆ ที่ทำจากไม้ หลังจากนั้นพวกนางก็เดินออกไปพร้อมประโยคที่ทิ้งท้ายเอาไว้ว่าพวกนางเติมน้ำอุ่นในอ่างเต็มแล้วไกอานั่งลงบนม้านั่งตัวยาว ส่วนคาเรนเลือกที่จะนั่งข้างๆ เธอ และนั่นทำให้ที่นั่งบนม้านั่งเต็มแล้ว เคียนจึงจำเป็นที่จะต้องเดินไปนั่งอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ“ว่ามาสิคะ พวกท่านทั้งสองต่างก็บอกว่าว่ามีเรื่องจะพูดคุยกับข้า”คาเรนแสร้งหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนสถานการณ์ เขายื่นมือมาโอบเอวของไกอาเอาไว้ บอกได้เลยว่าที่เขาเข้าใกล้เธอมันเป็นเพราะเขาแค่ต้องการเอาชนะองค์รัชทายาท แต่ทว่ายิ่งเขารู้จักไกอามากเท่าไหร่ นางยิ่งมีมุมที่ทำให้เขาหลงใหลนางได้ตลอดเวลา เพราะดวงหน้าที่งดงามยากจะละสายตา และเพราะท่าทีเย่อหยิ่งที่แสนมั่นอกมั่นใจของนาง..“เท่าที่ข้าจำได้ เลดี้กล่าวว่าเจ้าจะให้คำตอบกับคำถามของข้าในวันนี้นี่ครับ”ไกอาเงยหน้าขึ้นมา
คำถามที่องค์ราชาเอ่ยถามออกมานั้นไม่ใช่แค่โนแอลที่ได้ยิน แต่ทว่าทั้งไกอาและผู้คนบริเวณนั้นต่างได้ยินทั้งหมดถึงแม้ว่าไกอาจะสนิทกับโนแอลได้ไม่นานมากนัก แต่เธอก็ชื่นชอบโนแอลมากพอสมควร และหากว่าเธอสามารถเลือกได้ ไกอาไม่อยากให้โนแอลวางมือของนางลงบนมือขององค์ราชา เธออยากให้เพื่อนหลุดพ้นจากความรักที่ไร้ซึ่งหนทางที่จะสมหวัง ความเจ็บปวดที่ไร้ที่สิ้นสุดกำลังรอคอยโนแอลอยู่บนเส้นทางความรักนั้น และในสายตาของไกอามันไม่คุ้มเลยสักนิด แต่ถึงแม้ว่าเธอจะคิดเช่นนั้น แต่นี่คือชีวิตของโนแอล..สิ่งที่ไกอาทำได้คือคอยมองดูโนแอลอยู่ห่างๆ นี่คือชีวิตของโนแอล..เพราะอย่างนั้นเธอเองก็ควรจะเคารพการเลือกของสหาย..โนแอลจ้องมองมือขององค์ราชาอยู่ครู่หนึ่ง มันน่าหัวเราะมากทีเดียว เพราะการที่พระองค์เอ่ยถามออกมาและยื่นมือออกมาเช่นนี้ พระองค์ไม่ได้ให้โอกาสในการปฏิเสธกับเธอตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ ไม่มีหนทางให้ถอยหนีเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงหนทางที่จะต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น..เธอวางมือลงบนมือขององค์ราชาด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม โนแอลเบนสายตาไปมองหน้าของไกอา“ดูเหมือนว่าข้าจะมีงานเร่งด่วนที่จะต้องไปทำ เพราะอย่างนั้นในวั