แชร์

มิติสวรรค์ 1

ผู้เขียน: พิมพ์สีทอง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-27 15:04:55

ฟางเหนียงพึมพำแผ่วเบา มองฟักทองที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุแมงกานีส ธาตุเหล็กและซิงค์ ซึ่งเหมาะกับการทำให้ก้อนแป้งน้อยกลับมาร่างกายแข็งแรงรวมทั้งร่างนี้ด้วย

“ตกลงเอาฟักทองแล้วกัน”

เมื่อตกลงกับตัวเองได้แล้ว ฟางเหนียงจึงเดินไปหยิบมีดในบ้านหลังเล็ก ภายในมิติสวรรค์ของนาง ซึ่งได้มาจากการเอาผนึกซอมบี้แลกมา นางเอาไปล้างน้ำจนสะอาด เพราะจำไม่ได้ว่าอันไหนใช้แทงซอมบี้ไปบ้างแล้ว แต่น้ำในมิตินางสามารถชำระล้างเชื้อไวรัสพวกนั้นได้เป็นอย่างดี 

นางปิดบังเรื่องมิติของตัวเองมาโดยตลอด เพื่อความอยู่รอดของตนเอง

คนที่เปิดเผยจะได้รับความคุ้มครองอย่างดี แต่ว่านั่นหมายถึงอิสรภาพที่เหลือเพียงน้อยนิดได้หายไป และนางยังต้องตามหาบิดากับมารดา ที่อยู่ไกลจากที่ตัวเองอยู่หลายพันกิโลเมตร 

แต่น่าเสียดายที่ทั้งคู่ไม่อาจประคองชีวิตรอนางได้ และมันมีคนที่ชั่วร้าย มีพลังที่สามารถยึดครองอำนาจของคนที่ตัวเองฆ่าได้ 

นั่นทำให้ผู้ที่ปลุกพลังมิติได้ล้วนตกเป็นเหยื่อ แต่โลกที่ใกล้จะล้มสลายก็โหดร้ายเช่นนี้ แต่ที่นางอยู่ได้เพราะเดิมนางเองก็เป็นทหารหญิง ที่ฝึกมาอย่างยากลำบาก ฟางเหนียงถอนหายใจ พยายามปลดปล่อยอดีตที่ไม่อาจแก้ไขได้

“เอ๊ะ เอามะละกอสุกไปสักลูกแล้วกัน”

ฟางเหนียงเหลือบไปเห็นมะละกอที่ออกผลอย่างงาม นางไม่รอช้ารีบจัดการผักที่จะทำกับข้าวเย็นนี้อย่างคล่องแคล่ว แล้วนำออกไปข้างนอก 

วันนี้ทำผัดฟักทองและมะละกอสุกมาให้เด็ก ๆ กินเล่นไปก่อน แม้อาหารจะเรียบง่ายแต่ก้อนแป้งคู่นี้ก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาไม่ได้ถามว่าได้ผักพวกนี้มาจากที่ไหน แต่ก็ยังมีสายตาอยากรู้อยากเห็นมองตาม 

ฟางเหนียงมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม นางไม่เคยมีลูกแต่ก้อนแป้งคู่นี้ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เพราะฉะนั้นนางจะปกป้องทั้งคู่และให้ชีวิตที่สมบูรณ์ให้พวกเขา 

แต่เมื่อนึกไปถึงพรุ่งนี้ที่นางจะต้องเดินทางเข้าเมือง ซึ่งต้องใช้เวลาทั้งวันก็รู้สึกไม่วางใจ หรือว่านางควรเอาเด็ก ๆ ไปไว้ในมิติแบบนี้นางก็ไม่ต้องห่วงพวกเขามาก 

แต่นั่นหมายความว่าความลับของนางเปิดเผย ดวงตาคู่งามมองเด็ก ๆ กินข้าวจนอิ่มอย่างพิจารณา เมื่อเห็นความฉลาดของพวกเขาแล้วไม่น่าจะมีปัญหา เพียงแค่สั่งสอนเพิ่มอีกนิดทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ แต่หากเด็ก ๆ เผลอพูดออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ นั่นทำให้นางกล้าที่จะให้เด็กรับรู้มิติสวรรค์

“เจ้าก้อนแป้งน้อย มานี่สิแม่จะพาไปที่ที่ หนึ่ง” 

เมื่อกินข้าวล้างจานเรียบร้อยแล้ว จึงได้พากันที่ห้องนอน ซึ่งที่นอนก็เก่าและขาดไปมากแล้ว อีกทั้งยังบางจนไม่อาจให้ความอบอุ่นร่างกายได้อีก เด็กน้อยเดินไปหามารดาที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างแปลกใจ ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อภาพที่พวกเขาเห็นนั้นเปลี่ยนไป ที่นี่ไม่มีกลางคืนจึงสว่างตลอดเวลา นั่นทำให้เห็นบ้านหลังน้อยน่ารักและพืชผักเป็นจำนวนมาก

“ท่านแม่ที่นี่คือที่ไหนขอรับ” 

ฟางหรงเอ่ยถาม ขณะที่มือจับมือมารดาไว้แน่น ที่นี่น่าสนใจไปหมดมันงดงาม แต่ก็ยังหวาดกลัวที่จะวิ่งออกไปสำรวจ ขณะที่แฝดพี่เม้มปากแน่น ขณะที่ดวงตามองอย่างหวาดระแวง

“เหรินเอ๋อร์ หรงเอ๋อร์ ลูกฟังแม่นะ” 

ฟางเหนียงย่อตัวจนใบหน้าสบกับดวงตากลมโตของทั้งคู่ นางยังไม่ได้ปล่อยมือ นางจับมือทั้งคู่ไว้คนละข้าง ก่อนจะค่อย ๆ บอกเล่า และสั่งสอนเด็กน้อยให้รู้ความลับพวกนี้ และเป็นอันตรายแค่ไหนหากมีคนรู้ความลับนี้

“สิ่งที่ลูกเห็นที่นี่ ลูกสัญญากับแม่ก่อน ว่าจะไม่นำไปพูดข้างนอก เข้าใจหรือไม่” เด็กน้อยก้อนแป้งทั้งคู่ยังฉงนสงสัย แต่ความฉลาดของทั้งคู่ ทำให้พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

“ที่นี่คือมิติสวรรค์ เป็นมิติลับที่เราไม่อาจบอกใครได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือสนิทมากแค่ไหนก็ตามเข้าใจหรือไม่”

“ทำไมขอรับ” 

คนน้องเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ที่นี่งดงามมาก หากมีคนรู้พวกเขาจะได้ไม่ต้องดูถูกเหยียดหยามอีก

 “เพราะหากมีคนรู้พวกเรื่องพวกนี้ พวกเขาจะฆ่าแม่ และนำแม่ไปเผาทั้งเป็น และลูกก็จะไม่มีแม่อีกต่อไป” 

เด็กน้อยทั้งสองเบิกตากว้างอย่างตกใจ หากไม่มีแม่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร แม้อายุยังน้อยแต่ก็ผ่านเรื่องราวมาไม่น้อย และยังได้ยินผู้ใหญ่บางคนนินทามารดาบ่อยครั้ง แม้ที่ผ่านมามารดาจะไม่ค่อยใส่ใจพวกเขา แต่ก็ยังหาข้าวหาน้ำให้กิน

“พวกข้าจะไม่บอกใครขอรับ” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   คลื่นใต้น้ำ 2

    "ไปไหน""สถานที่ล่าสัตว์วันนั้น"ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็นางไม่ปฏิเสธแน่อยู่แล้ว"เอาสิ"การล่าสัตว์ขององค์ชายรองกับองค์ชายรัชทายาทนั้นเกิดขึ้นระหว่างเสด็จเยี่ยมราษฎร ระหว่างรับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้าน วันหนึ่งพวกเขาก็ชวนกันไปล่าสัตว์ฆ่าเวลาป่านนี้อยู่ระหว่างเมืองหลวงกับเมืองเหวินทางตะวันออก ป่าหนาทึบเป็นอันดับสองจากป่ารอบเมืองทั้งหมดหลี่เจิ้นหัวออกมากับนางสองคน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ใช้รถม้าหรือพาหนะใดเพราะไม่อยากสะดุดตา แม้จะมีคนเชื่อว่าเป็นฝีมือองค์ชายรองแต่พระองค์ยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง หากอยากให้คนร้ายดิ้นไม่หลุดก็ต้องหาหลักฐานมาให้ได้"เจ้าคิดไว้ในใจแล้วหรือยัง!""เรื่องอะไร!" เขาตะโกนถามกลับ การวิ่งฝ่าสายลมทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้ยินเสียงกันและกัน"จะสืบอย่างไร…" พูดได้ไม่ถึงครึ่งประโยคฉินหลิวซีก็ส่ายหน้า ทำมือเป็นสัญญาได้ไปคุยกันหลังถึงที่หมาย คุยกันตอนนี้ให้ตายอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องเดินทางกันอยู่นานในที่สุดก็ถึงป่าระหว่างสองเมืองเสียที พวกเขาตามร่องรอยมาถึงจุดเกิดเหตุ ทั้งรอยเท้าและของตกหายไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ก

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   คลื่นใต้น้ำ 1

    โจวเมิ่งอิ๋งคร่ำครวญถึงความน่าสงสารราวโชคชะตากลั่นแกล้งของบุตรสาว ไม่มีแก่ใจมารับรองแขกด้วยตัวเองด้วยซ้ำ ดีที่มีอนุคนสนิทอยู่ข้างกายคอยปลอบใจฟังจากน้ำเสียงคงทุกข์ใจเหลือประมาณ หลี่เจิ้นหัวรู้เรื่องที่ตัวเองสามารถทำได้แล้ว"ทีนี้ข้าจะลงมืออย่างไรดีนะ…"บรรยากาศในห้องค่อนข้างอับชื้น พี่หญิงต้อนรับนางเป็นอย่างดีแม้จะหน้าซีดเซียวกว่าปกติก็ตาม"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ พี่หญิงดูผอมลงไปหรือไม่ กินข้าวไม่อร่อยอย่างนั้นหรือ""อยากที่เจ้าเห็น ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ดังนั้นเลยเชื่อว่าอีกไม่นานคงดีขึ้น"แต่ดูเหมือนความเชื่อของนางจะทรยศนางทีละนิด แต่ละวันที่ผ่านไปขื่นขมนักสีหน้าของหลี่เมิ่งเหยาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอน ถึงจะบอกว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างไร แต่สถานการณ์แบบนี้คงยิ้มไม่ออก"เรื่องนี้จัดการไม่ได้ง่าย ๆ แต่หากต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรพี่หญิงอย่าได้เกรงใจนะเจ้าคะ""ฉินหลิวซี ถ้าซาบซึ้งน้ำใจเจ้าจริง ๆ" หลี่เมิ่งเหยาน้ำตารื้น พอรู้ว่านางอาจต้องโทษเหล่ามิตรสหายก็พากันหนีหน้า ส่วนหนึ่งก็คงเพราะคำสั่งของบิดามารดามิให้มาข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เป็นที่จับตามอง 2

    เหตุการณ์นี้ทั้งสองนัดแนะกันเองโดยไม่ได้บอกผู้ติดตามพวกเขาจึงไม่ได้ถูกลงโทษที่ละเลยหน้าที่ และโชคดีที่แม่ทัพหลี่ซึ่งเดินทางไปด้วยมาช่วยไว้ทันด้วยเหตุนี้จึงบังเกิดความสงสัยขึ้นในหมู่ชาวเมือง ว่าเป็นฉากที่ถูกจัดไว้หรือเปล่า"เพราะอย่างนี้จึงไม่มีใครสนใจเจ้าของร้านเครื่องประทินโฉมแล้วสินะ…"เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่กว่าเห็น ๆ ก็ดี เพราะข้าก็ไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจมากนักในตอนนี้ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสกุลหลี่ ยังวางใจไม่ได้"ต้องไปหาเจิ้นหัวหน่อยแล้ว"ฉินหลิวซีไปที่หอกระจายข่าวแล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้นกว่าปกติ นางรู้แล้วว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น แต่ไม่นึกว่าจะส่งผลกระทบถึงสกุลหลี่มากกว่าที่คิด"เพราะพี่หญิงเป็นพระคู่หมั้นขององค์ชายรัชทายาทอย่างนั้นหรือ…?"หรือจะไม่ใช่กันนะคุยกับตัวเองยังไม่จบก็พบว่ายืนอยู่หน้าห้องทำงานของหลี่เจิ้นหัวเสียแล้ว นางเคาะประตูสองครั้งอีกฝั่งก็เอ่ยอนุญาต"หลิวซี~" พอเห็นหน้านางอีกคนก็โอดครวญเสียงอ่อนอย่างน่าสงสาร ท่ามกลางม้วนกระดาษสู่ท่วมหัว"ดูเหมือนเจ้าจะมี

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   เป็นที่จับตามอง 1

    ร้านที่ไม่มีใครรู้ที่มาแน่ชัด รู้แต่ว่าสกุลหลี่เป็นผู้จัดจำหน่ายให้เสมือนคนกลางหลี่ซีเหยาเหยียดยิ้มนึกอยากขัน สินค้านี้มีอยู่ในร้านของบ้านอยู่แล้ว นางเป็นผู้เอามาให้เช่นนี้ช่างน่าขายหน้าจริง ๆ ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหากสังเกตและไตร่ตรองดูสักนิดจะรู้ว่าบรรจุภัณฑ์นี้ไม่ได้วางขายในปัจจุบัน มันเป็นตลับแบบใหม่ที่ยังไม่ได้วางหน้าร้านที่ไหน"นี่เป็น…สินค้าจากร้านของข้าเอง เป็นกระปุกชาดและตลับแป้งลายใหม่ที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายที่ไหน ข้ามอบมันให้พี่หญิงเป็นคนแรก"ทันทีที่ฉินหลิวซีพูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย"เป็นไปไม่ได้ สามัญชนชั้นต่ำอย่างเจ้าจะเป็นเจ้าของสิ่งนี้ได้อย่างไร อย่ามาแอบอ้างนะ เจ้าต้องไปแอบซื้อที่ไหนมาแน่ ๆ แล้วไปแอบเปลี่ยนตลับทีหลังใช่ไหมล่ะ" หลี่ซีเหยาอย่างไม่ยอม นางเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนมารดาที่เป็นอนุสั่งให้สาวใช้มาพาตัวออกไปเพราะเริ่มจะทำขายหน้า อีกทั้งแม่ทัพยังมองนางด้วยแววตากรุ่นโกรธอีกด้วย หากไม่รีบจัดการนางก็จะโดนลงโทษหลังจบงานนี้แน่สถานการณ์สงบลงแต่เรื่องของฉินหลิวซียังเป็นที่พูดถึงตัวตนของเจ้าขอ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   งานวันเกิดพี่หญิงใหญ่ 2

    "บุตรสาวคนเล็กของข้าอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับคุณชายหลี่ เรียนรู้งานฝีมือตั้งแต่ยังเล็กจนชำนาญ พิณ หมาก อักษร ล้วนเป็นเลิศ…"เซียนโอสถน้อยรู้สึกกระดากใจเกินจะฟังจึงเดินหนีออกมา รู้หรอกว่าหลี่เจิ้นหัวคงไม่เอาด้วยแต่นางก็ไม่ชอบใจอยู่ดีถึงจะไม่พอใจแต่ถ้านางโวยวายหรืออาละวาดขึ้นมาเพราะเรื่องนี้ รังแต่จะสร้างความไม่พอใจให้ฮูหยินท่านที่มีต่อนางเพิ่มมากขึ้นฉินหลิวซีกลับมานั่งที่โต๊ะ น้าหญิงกับน้าเขยทำตัวไม่ถูกกับงานเช่นนี้จึงเลือกโต๊ะที่ไม่ค่อยโดดเด่น นางเข้าใจว่าทั้งสองคงอึดอัดจึงไม่ห้าม แต่ว่านางร่วมโต๊ะด้วยไม่ได้ ในบัตรเชิญบอกไว้ว่าให้นางนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้าของงานโคมไฟแดงประดับต้นไม้สว่างวาบขึ้นจากเดิมพร้อม ๆ กัน ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองหน้าเรือนรับรองที่มีทางเดินหินอ่อนทอดยาวออกมาถึงสวน ฉินหลิวซีเห็นหลี่เมิ่งเหยาออกมาแล้วจึงขอตัวท่านหญิงหลี่ออกมาพร้อมกับสหายท่านหญิงคนอื่น ๆ ฉินหลิวซีรู้สึกคุ้นหน้าพวกนางเกือบทุกคนเพราะเคยเจอกันมาก่อนแล้ว นางรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ถ้าได้ร่วมโต๊ะกับคนที่คุ้นเคยกันมันดีต่อความรู้สึกนางมากกว่าที่ต้องร่วมโต๊ะกับคนแ

  • เกิดใหม่ทั้งทีได้ลูกมาสองแถมสามีอีกหนึ่งคน   งานวันเกิดพี่หญิงใหญ่ 1

    "จริงสิ พี่หญิงเชิญเจ้าไปงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของนาง เจ้าพอจะมีเวลาหรือไม่""งานวันคล้ายวันเกิดของพี่หญิงหรือ ต่อให้ข้าไม่ว่างก็จะไปแน่"ฉินหลิวซีได้รับความช่วยเหลือจากพี่หญิงของหลี่เจิ้นหัวมาไม่น้อย แค่ไปร่วมงานแค่นี้ทำไมนางจะทำไม่ได้แล้ว"ถ้าพี่หญิงได้ยินคงดีใจ""งานเริ่มวันไหน""วันมะรืนปลายยามโหย่ว นี่บัตรเชิญของเจ้า น้าหญิงกับน้าเขยเจ้าสามารถมาเข้าร่วมในฐานะผู้ติดตามได้""นางคงตื่นเต้น"ฉินหลิวซีคิดภาพออกเลยว่าชิวหลานจะพูดอะไรหรือแสดงท่าทีประมาณไหนหลังจากได้ยินเรื่องนี้ น้าหญิงของนางร่าเริงมากตั้งแต่มาเมืองหลวง คุ้มค่าแล้วที่พาทั้งคู่มาเปิดหูเปิดตาฉินหลิวซีตั้งใจสร้างชื่อเสียงและตัวตนของตนเอาไว้ที่นี่ ในอนาคตไม่รู้ว่าลูกหลานสกุลชิวกับท่านพ่อท่านแม่จะย้ายมาที่เมืองหลวงหรือไม่ แต่หากพวกเขามาสิ่งที่นางสร้างไว้จะต้องเป็นประโยชน์แน่"ข้าเองก็ตั้งตารอวันนั้น"หลี่เจิ้นหัวมองนาง สายตาแสดงความรู้สึกอย่างไม่ปิดบัง หญิงสาวไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเฝ้ารออะไร แต่แววตาของเขานั้นทำให้นางอยากสร้างความประทับใจที่จะได้พบกันยามค่ำคืนให้พิเศษขึ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status