Share

บทที่ 9 อารมณ์ที่เริ่มก่อตัว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-19 09:16:58

อันนา  ก้าวออกจากร้านกาแฟเพื่อขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของ พีท

พีท ยื่นหมวกกันน็อกมาตรงหน้าเธอโดยไม่พูดอะไร หญิงสาวก้มมองมัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเล็กน้อยอย่างลังเล

หมวกกันน็อกสีดำด้านมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยตามการใช้งาน แต่มันดูสะอาดและถูกดูแลอย่างดี กลิ่นจาง ๆ ของน้ำหอมผู้ชายยังติดอยู่ที่ด้านในของมัน

เธอจ้องมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ยกขึ้นครอบศีรษะ

ขอบหมวกแตะกับหน้าผากของเธอเบา ๆ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ดึงมันลงจนพอดีกับศีรษะ

เธอเอื้อมมือไปจับสายรัดคาง พยายามเกี่ยวมันเข้ากับตัวล็อก แต่นิ้วมือดันสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะความตื่นเต้นหรือเพราะสายรัดมันแน่นเกินไปกันแน่

"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวฉันช่วย"

เสียงของ พีท ดังขึ้นใกล้ ๆ ก่อนที่มืออุ่นของเขาจะเอื้อมเข้ามาจัดการล็อกสายรัดให้แทน ปลายนิ้วของเขาแตะแผ่วเบาที่ใต้คางของเธอ ทำให้ อันนา สะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

อันนา เผลอกลั้นหายใจเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้กว่าที่เธอคาดไว้ ใกล้เสียจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดอยู่แถวแก้ม และกลิ่นกายของเขาที่เจือไปด้วยความสดชื่นแบบผู้ชาย

เธอ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

"พอดีรึยัง?" พีทถามพร้อมเอียงคอมองเธอ ดวงตาสีเข้มของเขามีแววขบขันเมื่อเห็นเธอนิ่งไป

"หะ…หืม?" เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบพยักหน้า "อะ…โอเค พอดีแล้ว"

พีท ยิ้มมุมปากนิด ๆ ก่อนจะผละออก "งั้นไปกันเถอะ"

อันนา พยักหน้าแรง ๆ เหมือนจะกลบเกลื่อนความวูบไหวในอก แต่ต่อให้เธอพยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไร… เธอก็ยังรู้สึกว่ามือของเขาที่แตะคางเธอเมื่อครู่ ทิ้งร่องรอยบางอย่างที่ทำให้เธอหวั่นไหวอย่างช่วยไม่ได้…

อันนา กะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงซ่อนใบหน้าร้อนผ่าวของตัวเองไว้ภายใต้หมวกกันน็อก—ให้ตายเถอะ… ทำไมการใส่หมวกกันน็อกมันถึงทำให้เธอใจสั่นแบบนี้กันนะ?!

พีท ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะขยับถอยหลังไป สวมหมวกกันน็อกอีกอันของตัวเอง แล้วสตาร์ทรถ

หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้งเมื่อมือของเธอเผลอแตะเข้ากับไหล่ของเขา

"จับดี ๆ ล่ะ" พีทเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้อันนา รู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมาอย่างประหลาด

เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมวางมือบนเอวของเขาอย่างไม่เต็มใจนัก หวังว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นท่าทีขัดเขินของตัวเอง

รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่พุ่งตัวออกไปบนท้องถนน สายลมยามค่ำคืนปะทะใบหน้าของ อันนา แต่กลับไม่สามารถช่วยให้ความร้อนที่พวงแก้มของเธอลดลงได้เลย เสียงเครื่องยนต์ดังเป็นจังหวะมั่นคง ในขณะที่เธอพยายามข่มใจไม่ให้สนใจถึงความใกล้ชิดระหว่างเธอกับเขามากเกินไป

ระหว่างทาง พีท ไม่ได้พูดอะไร อันนาเองก็ไม่กล้าทำลายความเงียบเช่นกัน มีเพียงเสียงลมหวิวและไฟถนนที่ทอดเป็นแนวยาวไปตามทาง

จนกระทั่ง…

พีท ชะลอความเร็วลง และในที่สุด รถมอเตอร์ไซด์คันงาม ก็หยุดนิ่งที่หน้าภัตตาคารใหญ่แห่งหนึ่ง ตึกสูงโอ่อ่าตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า แสงไฟสีทองจากตัวอาคารส่องประกายหรูหรา ราวกับสถานที่แห่งนี้ถูกแยกออกจากโลกของเธอโดยสิ้นเชิง

อันนา มองป้ายชื่อภัตตาคาร ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปมองพีทด้วยความตกใจ

"เดี๋ยวนะ…นี่นายพาฉันมากินข้าวที่ไหนกัน ทำไมถึงพามาร้านอาหารที่ใหญ่โตแบบนี้นะ ฉันจะตังค์จ่ายได้ยังไง ?" เธอถามเสียงหลง

"เงินเดือนฉันทั้งเดือนที่ทำงานที่ร้านกาแฟ คงไม่พอจ่ายสำหรับการกินที่นี่เพียงครั้งเดียว พาฉันกลับไปกินร้านข้าวแกงข้างทางทีนะ ขอร้องละ" อันนา รีบบอก ชายหนุ่ม

พีท ยิ้มมุมปาก พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างดัง ดวงตาคมทอประกายขี้เล่น

" ฉันบอกแล้วไง ว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง"

"และมื้อนี้ฉันเลี้ยงเธอเอง ยัยแว่น" พีท พูดพร้อมกับเรียกเด็กมาเก็บรถมอเตอร์ไซด์ของเขาไปไว้ยังที่จอดรถของภัตตาคาร

หญิงสาว รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกพาเข้าสู่โลกที่เธอไม่คุ้นเคย…และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ เธอกำลังจะเข้าไปในโลกใบนั้นกับพีท!

ทั้ง 2  มาถึงภัตตาคารหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพียงแค่ก้าวเข้ามาในล็อบบี้ เธอก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป ผนังร้านประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมัน ภายในร้านตกแต่งแบบสไตด์ยุโรป ดุจดั่งพระราชวัง และพนักงานในชุดสูทยืนต้อนรับอย่างสุภาพ

"เชิญทางนี้ครับ คุณพีท" เสียงพนักงานต้อนรับดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้าง เหมือนกับรู้จักกับชายหนุ่มมาอย่างยาวนาน ก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะที่จัดไว้เป็นพิเศษ โต๊ะที่ตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดและเทียนหอมที่ให้แสงสลัว โรแมนติก ผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตาถูกพับมุมไว้อย่างประณีต จานชามและแก้วไวน์คริสตัลวางเรียงกันอย่างลงตัว เสียงเพลงแจ๊สคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นและหรูหรา

หญิงสาวไม่คิดว่าร้านนี้จะดูหรูหราขนาดนี้ และที่สำคัญ…การต้อนรับของพนักงานก็ทำให้เธอแปลกใจยิ่งกว่า

"เดี๋ยวนะ…นี่มันอะไรกัน?" เธอกระซิบถาม พีท พลางกวาดตามองรอบตัวอย่างระแวดระวัง

"นี่นายเป็นใครกันแน่เนี่ย?" เธอถามเสียงเบา

พีท หัวเราะในลำคอ "เป็นแค่คนธรรมดาที่พาเธอมากินข้าวเท่านั้นเอง"

แต่จากสายตาของพนักงาน…และน้ำเสียงให้เกียรติแบบนั้น อันนาไม่คิดว่าเขาจะ "ธรรมดา" อย่างที่พูดเลยสักนิด!

พนักงานเดินมาเสิร์ฟเมนูอย่างนอบน้อม ไม่ต่างจากเวลาที่ต้อนรับแขกระดับ VIP

อันนา รู้สึกได้ถึงสายตาของพนักงานทุกคนที่มอง พีทด้วยความนอบน้อมอย่างเห็นได้ชัด

"ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนั้นเลย" พีท หัวเราะเบา ๆ โน้มตัวเข้ามาใกล้

"เจ้าของร้านนี้เป็นเพื่อนของพ่อฉันเอง… พวกเขารู้จักฉันดี" พีทกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา ทว่าคนที่นั่งฟังกลับรู้สึกถึงน้ำหนักของประโยคนี้

อันนา อ้าปากค้าง เธอจ้องเขาด้วยสายตาตกใจ "นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"

"แล้วนายเป็นลูกใครกัน?" อันนา ตั้งคำถามในใจตัวเองด้วยความสงสัย

พีท ยิ้มมุมปาก ไม่ตอบอะไร แค่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ

ยังไม่ทันที่ อันนา จะตั้งตัวได้ดี ประตูทางเข้าก็เปิดออก พร้อมกับเสียงหัวเราะดังขึ้นจากอีกมุมหนึ่งของร้าน

เธอหันไปมองตามเสียงฝีเท้า และแล้วสายตาก็สบเข้ากับคนที่เพิ่งเดินเข้ามา—กวิน ชายหนุ่มที่ไม่เคยปราศจากรอยยิ้มเจ้าชู้บนใบหน้า และข้างกายเขาคือ ยี่หวา หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทั้งความสวยและความมั่นใจที่โดดเด่นเกินใคร

ค่ำคืนนี้ พวกเขามากันเพียงสองคน…ดูราวกับเป็นคู่รักที่เร่าร้อนและเมื่อเธอลอบมองคนที่นั่งข้างกาย—พีท—เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองกับเขา ก็ดูเหมือนเป็นคู่รักอีกคู่หนึ่งเช่นกัน…

"เจอกันโดยบังเอิญอีกแล้วนะเพื่อน" เสียงทุ้มของกวิน ดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามาใกล้ เขาแสยะยิ้มขำ ๆ สายตากวาดมองมาที่ พีท  

แต่สิ่งที่ทำให้ อันนา รู้สึกแปลก ๆ คือแววตาของ กวิน ที่จ้องมองเธอ ราวกับมีความคิดบางอย่างซ่อนอยู่

กวิน หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยักคิ้วให้พีท แล้วค่อย ๆ หันไปทาง อันนา แววตาของเขาฉายแววซุกซนอย่างจงใจ ก่อนจะลากสายตามองเธอจากหัวจรดเท้า พิจารณาเธออย่างละเอียดทุกจุด

เขาเริ่มจากใบหน้าหวานที่ดูไร้เดียงสา ดวงตากลมโตภายใต้แว่นตาคู่นั้นซ่อนแววขี้อายที่ทำให้เธอดูมีเสน่ห์โดยไม่ต้องพยายาม

ต่อมา...สายตาของเขาเลื่อนต่ำลงมาที่ลำคอระหง ไล่ไปจนถึงเรียวแขนเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วหยุดที่ส่วนโค้งเว้าของร่างกายเธอ

ทรวดทรงของอันนาแม้จะถูกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาตัวเล็ก แต่ก็ไม่ได้บดบังความสมส่วนที่ชวนให้ต้องเหลียวมอง โดยเฉพาะช่วงอกที่ขับเน้นส่วนเว้าโค้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่สิ่งที่ทำให้ กวิน กระตุกยิ้มออกมา... คือกระโปรงนักศึกษาตัวสั้นที่เธอสวมอยู่ มันเผยให้เห็นเรียวขาขาวละมุนที่ไขว้กันอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งเมื่อเธอขยับตัวเล็กน้อย กระโปรงก็เลิกขึ้นจนเผยให้เห็นเนื้อผิวนวลเนียนมากขึ้น

"นี่เธออีกแล้วเหรอ?" กวิน เอ่ยถาม ริมฝีปากเหยียดเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

"สาวน้อยใส่แว่น หน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น ฉันนึกว่า พีท แค่พามาเล่น ๆ แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นคู่หูทำโครงการวิจัยคนสำคัญกว่าที่คิดแฮะ"

อันนา ขมวดคิ้ว ไม่ชอบน้ำเสียงของเขาเลยสักนิด มันมีทั้งความเยาะเย้ยและบางสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด

ส่วน ยี่หวา ที่เดินตามมาติด ๆ ส่งสายตาเป็นประกาย ก่อนจะก้าวเข้ามานั่งข้าง ๆ พีท "บังเอิญจังเลยนะคะพีท"

เธอพูดเสียงหวาน พร้อมเอนตัวเข้าไปใกล้เขาอย่างจงใจ เธอรู้สึกพอใจในหน้าตาหล่อเหลาคมคาย หุ่นอันสูงโปร่ง รวมถึงร่างกายอันกำยำของพีท ทำให้เธอรู้สึกเร่าร้อนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แต่หญิงสาวเองก็รู้ว่า พีทเอง ไม่ได้สนใจเธอสักนิด

จากนั้น ยี่หวา ก็จะขยับเข้าไปใกล้ พีท มากขึ้นจนแทบจะชิดกัน เธอได้กลิ่นกายที่หอมกรุ่นของชายหนุ่มลอยแตะจมูกของเธอ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอยากเบียดร่างกายเข้าไปให้ใกล้เขาอีกมากขึ้น

ยี่หวา รู้ดีว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เธอมั่นใจในรูปร่างและหน้าตาของตัวเองมาโดยตลอด ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเมินเฉยต่อเธอได้ แต่พีท… เขาเป็นข้อยกเว้น

สิ่งที่ทำให้เธอได้เจอกับพีทในครั้งแรก เนื่องจากเธอเป็นคู่ควงของ กวิน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเจอเพื่อนของ กวิน และหนึ่งในนั้นก็คือ พีท

หญิงสาวปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถูกดึงดูดเข้าหาชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สมส่วน แต่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อพอเหมาะ ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์แบบไม่ต้องพยายาม ยิ่งไปกว่านั้นคือท่าทางนิ่งขรึมและแววตาคมกริบที่ดูเหมือนไม่เคยสนใจใครเป็นพิเศษ นั่นยิ่งทำให้เขาดูน่าหลงใหล

ยี่หวา เคยพยายามเข้าหาเขาหลายครั้ง ใช้ลูกเล่นและเสน่ห์ที่เคยได้ผลกับผู้ชายทุกคน

ทว่า…พีท กลับมองเธอเพียงผ่าน ๆ ตอบรับเธอแค่ตามมารยาท ไม่มีความหวั่นไหว ไม่มีความสนใจใด ๆ แฝงอยู่ในดวงตาคู่นั้นเลย

มันน่าหงุดหงิดและท้าทายในเวลาเดียวกัน

แต่สิ่งที่ทำให้เธอขัดใจที่สุดคือ ตอนนี้ พีท กลับให้ความสนใจกับ อันนา—ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยในสายตาเธอ! หญิงสาวที่ใส่แว่นตา หน้าตาจืดชืดที่ดูเงอะงะ ไม่มีเสน่ห์เย้ายวนสักนิด ทำไม พีท ถึงมองแต่เธอ? แถมเขายังพายัยแว่นคนนี้มานั่งทานข้าวในภัตตาคารหรูร้านนี้อีกด้วย มันน่าเจ็บใจนัก…

ยี่หวา กัดริมฝีปากแน่น ข่มความไม่พอใจเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มหวาน เธอไม่ชอบการถูกเมิน และเธอไม่ยอมให้ตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบในเรื่องนี้แน่ ๆ…

อันนา รู้สึกเหมือนอุณหภูมิรอบตัวลดลง เธอเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้

"อันนา?" เสียงทุ้มของ กวิน ดังขึ้น เรียกให้เธอหันกลับไปมองเขา

กวิน ยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้จนเธอถอยหลังไปเล็กน้อย

"มาทานข้าวกับหนุ่มหล่อสุดฮอต พีท อีกแล้วหรอ?" เขาถามเสียงเรียบ แต่แววตากลับมีความนัยบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก

พีท ยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองปฏิกิริยาของทุกคนราวกับกำลังสนุกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

"ทำไมเหรอ?" พีทเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง

"อันนา เป็นแขกของฉัน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"

กวิน หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ อันนา โดยไม่รอคำเชิญ

"เปล่าหรอก…"

เขาพูดปฏิเสธ แต่ดวงตากลับเป็นประกายเจ้าเล่ห์ ราวกับซ่อนความลับบางอย่างไว้

"ก็ปกติแก ไม่เคยพาใครมาให้เจอบ่อยๆ แบบนี้น่ะสิ"

กวิน โน้มตัวเข้ามากระซิบใกล้ ๆ อันนา เสียงทุ้มต่ำชวนขนลุก

"ยกเว้นว่าคน ๆ นั้นจะพิเศษมากจริง ๆ"

หัวใจ อันนา เต้นกระหน่ำขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เธอหันขวับไปมอง พีท ทันที แต่ชายหนุ่มกลับเพียงแค่หัวเราะเบา ๆ ราวกับไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้น

"ไม่เห็นต้องคิดมากเลย" พีท เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาสบาย ๆ ของเขาตัดกับบรรยากาศที่เริ่มจะอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของเขายังคงเรียบนิ่งราวกับคำพูดของ กวิน ไม่มีผลอะไรกับเขาเลย

"ฉันก็แค่ชวนเธอมาทานข้าว…ไม่มีอะไรพิเศษหรอก" น้ำเสียงของเขาเป็นไปตามปกติ ไม่ได้แสดงออกว่าต้องการอธิบายให้ใครเข้าใจ

แต่ดูเหมือน ยี่หวา เองจะไม่คิดเช่นนั้น

เธอเอียงคอน้อย ๆ ดวงตาคมกริบไล่สำรวจ อันนา ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแบบไม่คิดปิดบัง ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ไม่ได้เป็นมิตรนัก ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

"เหมือนฉันเคยเดินผ่านเธอตอนเรียน แต่เธอก็ไม่ได้มีอะไรสะดุดตา ฉันเลยไม่ทันสังเกตเลยว่า…เธอเรียนคณะเดียวกับฉัน" เธอลากเสียงเนิบนาบ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ราวกับกำลังสนุกกับคำพูดของตัวเองและเอียงคอมองอีกฝ่าย ดวงตาฉายแววขบขัน ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่หวานเสียจนบาดหู

"แล้วเธอก็คงไม่ได้เป็นคนพิเศษของเขาหรอกมั้ง?" รอยยิ้มแต้มที่มุมปาก ก่อนเธอจะกระซิบเบา ๆ แต่จงใจให้ได้ยินชัดเจน

อันนา กำมือแน่น รู้สึกถึงไอร้อนที่ตีขึ้นมาจนแน่นอยู่ที่อก ทุกถ้อยคำของยี่หวาเหมือนเข็มแหลมที่คอยทิ่มแทง เธอไม่ชอบน้ำเสียงยั่วเย้า ไม่ชอบแววตาดูแคลนนั่นเลยสักนิด

แต่จะให้เถียงกลับไปตอนนี้ก็ใช่ว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ดีพอ และเธอเองก็ไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้

เธอสูดลมหายใจลึก กล้ำกลืนความขุ่นเคืองลงไป พยายามรักษาสีหน้าให้เรียบเฉย แม้ว่าภายในใจจะเดือดพล่านแค่ไหนก็ตาม...

"ฉันต้องรีบกินข้าว แล้วรีบไปส่ง อันนา กลับหอพัก" พีท พูดอย่างจริงจัง

กวิน ถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเขาหัวเราะออกมาเบา ๆ ราวกับเจอเรื่องที่ถูกใจ

"โอ้โห นี่แกจะ… รีบไปส่ง หรือรีบไปทำอะไรกันแน่?" เขาแกล้งลากเสียงหยอกล้อ พลางเลิกคิ้วสูงอย่างเจ้าเล่ห์

"หืม…หรือว่าแกมีแพลนอะไรพิเศษกับสาวแว่นของแกคืนนี้?"

คำพูดนี้ของ กวิน ทำให้ ยี่หวา รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนี ราวกับไม่อยากรับรู้หรือให้ความสนใจกับประเด็นที่เขายกขึ้นมา

ส่วน อันนา ได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาของทุกคน ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวจนแทบระเบิด

พีท ปรายตามองกวิน กับ ยี่หวา ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาของเขาแน่วแน่ ไม่เปิดช่องให้มีการต่อรองใดๆ

"ถ้าแก กับผู้หญิงของแก อยากดื่ม ก็น่าจะไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองดีกว่านะ" เขาพูดเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงกดดัน

ยี่หวา รู้สึกหน้าชาเหมือนเธอกำลังถูกตบและทำหน้าไม่ถูก เมื่อ พีท เอ่ยปากออกมา ราวกับกำลังไล่เธอกับกวินไปให้พ้น

สายตาของเขาเฉยชาและเด็ดขาดจนเธอรู้สึกอึดอัด มือกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่พยายามเรียบเรียงคำพูด แต่กลับพบว่าความรู้สึกจุกแน่นในอกทำให้พูดอะไรไม่ออก

ส่วน กวิน เองก็ดูเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเหลือบมอง พีท ด้วยแววตาครุ่นคิด คล้ายจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้า

"เอาล่ะ ๆ เรา 2 คนไปที่โต๊ะของเรากันเถอะ ยี่หวา อย่าขัดจังหวะ พีท กับ อันนา เลย" เขาลากเสียงยาว ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปาก ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง

ยี่หวา เหลือบมอง อันนา เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดอย่างคนไม่พอใจ

เธอเป็นผู้หญิงที่มีทุกอย่าง — หน้าตา หุ่น ความมั่นใจ และเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชายต้องเหลียวหลัง แต่ พีท กลับเมินเฉยใส่เธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในขณะที่ อันนา…ยัยผู้หญิงใส่แว่นตา แสนจืดชืดคนนั้นกลับได้รับความสนใจจาก พีท ชายหนุ่มที่ตัวเธออยากครอบครอง แม้เธอจะมี กวิน อยู่ข้างกายก็ตาม

ริมฝีปากของ ยี่หวา บิดเป็นรอยยิ้มบาง แต่ในใจกลับเดือดพล่าน ฉันไม่มีวันแพ้ให้เธอหรอก ยัยแว่นหน้าจืด!

เธอคิดในใจอย่างมุ่งมั่น สักวันเขาจะต้องตกอยู่ภายใต้เสนห์ของเธอ…ไม่ว่าเธอจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม

แม้ ยี่หวา จะมี กวิน อยู่ข้างกาย แต่ลึกๆ แล้ว ใจของเธอกลับโหยหาอ้อมกอดของ ชายหนุ่มที่ชื่อ พีท ที่ไม่เคยมองเธออยู่ในสายตาของเขาเลย

ส่วน กวิน เองก็เดินโอบเอว ยี่หวา ออกมา

และครุ่นคิดในใจ อันนา เธอน่าสนใจ...ยิ่งเธอทำเหมือนไม่ต้องการความสนใจ ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าของเขาให้ทำตรงกันข้าม หญิงสาวคนนี้ไม่ได้สวยสะดุดตาแบบยี่หวา ทว่ามีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดเขาอย่างน่าประหลาด ราวกับแม่เหล็กที่มองไม่เห็น มิน่าล่ะ...พีท ถึงหวงเธอเหมือนไข่ในหิน และขนาดพามาทานข้าวที่ภัตตาคารแห่งนี้ เขาครุ่นคิด  “มันไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาด้วยเลย เธอต้องเป็นคนพิเศษมากสำหรับเจ้าหมอนี่จริงๆ” แล้วถ้าเขาเกิดอยากลิ้มลองของรักของหวงของพีทขึ้นมาล่ะ...?

ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน มันคงไม่ว่าอะไรหรอก…ใช่ไหม…รึเจ้าพีทมันจะโมโหขนาดไหนนะ ที่ของหวงชิ้นนี้โดนแย่งไป?

กวิน ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะกระชับอ้อมแขนรอบเอวยี่หวาและพาเธอเดินไปยังโต๊ะอาหารที่เขาจองไว้แบบส่วนตัว

ทิ้งไว้เพียง อันนา ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังกลายเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่ไม่คิดปล่อยให้เธอหลุดมือไปง่าย ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 10 ค่ำคืนที่แสนอบอุ่น (1)

    บรรยากาศรอบตัวกลับคืนสู่ความเงียบสงบ เหลือเพียงแค่พีทและอันนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารของพวกเขาแสงไฟสีอุ่นจากโคมระย้าสาดส่องลงมา เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกโดยไม่ตั้งใจบนโต๊ะมีเมนูอาหารสุดพิเศษที่ พีท เป็นคนเลือกสั่ง ทุกจานถูกจัดวางอย่างประณีต กลิ่นหอมของอาหารลอยคลุ้งไปทั่ว แต่เจ้าของร่างสูงที่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้กลับไม่ได้ให้ความสนใจกับมื้ออาหารตรงหน้าเลยสายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวตรงข้าม ที่กำลังใช้ส้อมจิ้มอาหารในจานของเธออย่างเงียบ ๆ ท่าทางเหมือนตั้งใจจะโฟกัสกับมื้อนี้แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอเองก็รับรู้ถึงสายตาของเขา“นี่…” เขาเอ่ย และมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้ม ดวงตาคมวาววับราวกับมีเรื่องในใจที่เขากำลังชั่งใจว่าจะพูดออกมาดีหรือไม่...“แลกเบอร์กันไว้หน่อยสิ” พีท พูดหน้าตาย พลางหมุนส้อมในมืออย่างไม่ใส่ใจ“เผื่อมีอะไรต้องคุยกันเรื่องโครงการวิจัย จะได้สะดวก”อันนา มองเขาด้วยสายตาอ่านไม่ออก ก่อนจะยอมพยักหน้าเล็กน้อย“ก็ได้ จะได้สะดวก”เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหมายเลขของตัวเองแล้วเลื่อนหน้าจอไปให้ พีท บันทึกหมายเลขลงเครื่องของเขา ส่วนพีท ก็ทำแบบเดียวกัน เอ่ยบอกตัวเลขด้วยน้ำเสียงราบเรียบราว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 11 ค่ำคืนที่แสนอบอุ่น (2)

    ห้องพักของ อันนา อยู่ชั้นล่างสุดของอาคาร และตัวหอพักเองก็ไม่ได้มีระบบการล็อคใดๆ มีเพียงรั้วประตูที่กั้นระหว่างหอพักกับถนน และใช้สำหรับเปิด-ปิดเข้าออกหอพักเท่านั้นเมื่อประตูห้องของเธอถูกไขกุญแจและเปิดออก เผยให้เห็นความอบอุ่นด้านในห้องห้องไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่กลับเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและน่ารัก เธอตกแต่งมันด้วยโทนของสีพาสเทลอ่อนหวาน ผนังห้องติดภาพวาดดอกไม้เล็ก ๆ และโปสเตอร์ศิลปะที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน โต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงมีโคมไฟสีชมพูอ่อนตั้งอยู่ พร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างหมอนเตียงของเธอเป็นเตียงขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถนอนได้ 2 คน ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวลายลูกไม้มีหมอนหลายใบจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ โดยเฉพาะหมอนใบเล็กที่เป็นรูปหัวใจที่ดูเหมือนจะเป็นของโปรดของเธอ ผ้าห่มเนื้อนุ่มถูกพับไว้ที่ปลายเตียง ทำให้ห้องดูอบอุ่นเหมือนมุมพักผ่อนของเจ้าหญิงในเทพนิยายอันนา เหนื่อยล้าไปทั้งร่าง หลังจากวันที่เต็มไปด้วยภาระที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เธอถอดแว่นตาวางที่โต๊ะเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถอดชุดนักศึกษาออก เหลือแต่ชั้นในลูกไม้ตัวจิ๋ว 2 ชิ้นที่ห่อหุ้มร่างบาง และเธอเองกำลังถ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 12 จูบแรก

    "อย่าหนีสิ..." เขากระซิบใกล้ริมฝีปากเธอ กลิ่นไวน์เจือจางในลมหายใจของเขา ร้อนผ่าวจนทำให้สติของอันนาสั่นคลอนเธอควรผลักเขาออกไป แต่ทำไมร่างกายถึงไม่ยอมขยับเลย...พีท สบตากับ อันนา อยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิม ริมฝีปากของเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นหญิงสาว หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก และก่อนที่เธอจะทันตั้งสติและก่อนที่เธอจะรู้ตัว…….ริมฝีปากร้อนของ พีท ก็แนบลงมา...ค่อยๆ บดขยี้ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอ อย่างหนักหน่วง ร้อนแรง และเต็มไปด้วยแรงปรารถนากลิ่นไวน์จางๆ ที่เจืออยู่ในริมฝีปากและลมหายใจของเขายิ่งกระตุ้นเร่งเร้าอารมณ์ของชายหนุ่มสัมผัสแรกอ่อนโยนแต่หนักแน่น ราวกับให้เวลาหัวใจของเธอได้ปรับตัวกับแรงปรารถนาที่เขากำลังมอบให้ เขากดจูบลึกขึ้น ดูดดึงริมฝีปากบางแสนยั่วยวนอารมณ์ของเธออย่างโหยหาอันนา สั่นสะท้านไปทั้งตัว ความร้อนแล่นวูบไปทั่วร่าง ราวกับถูกกระแสไฟฟ้าช็อต เธอพยายามจะถอยหนี แต่แผ่นหลังของร่างบางๆของเธอก็ชนเข้ากับผนังอีกครั้งพีท ใช้ร่างกายอันใหญ่โตของเขาครอบครองพื้นที่ตรงหน้าเธอทั้งหมด ไม่มีที่ว่างให้เธอหลบหนีอีกแล้วมือใหญ่ของเขาลูบไล้ไปต

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-20
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 13 ขอนอนพักแค่นั้น

    เขาหยุดทุกสัมผัส ปล่อยให้เธอได้มีพื้นที่หายใจชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียง สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อดับไฟร้อนที่ยังลุกโชนอยู่ในอก ความรู้สึกพลุ่งพล่านจากสัมผัสเมื่อครู่ยังคงอบอวล ปลายนิ้วของเขายังจำได้ถึงความเนียนนุ่มของผิวกาย ริมฝีปากยังคงติดตรึงกับรสสัมผัสอันหอมหวานที่เพิ่งลิ้มลองใบหน้าหล่อคมเข้มเริ่มคลายจากแรงปรารถนาอันเกินจะต้านทานที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และเมื่อเขาปล่อยเธอให้หลุดพ้นจากการถูกทับไว้โดยร่างกายกำยำของเขาหญิงสาว ก็รีบลุกขึ้นจากเตียงไปที่หยิบเสื้อนอนที่โดนเขาขว้างทิ้งไปมาสวมปิดบังเนินเนื้อเต่ง จากนั้นก็เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนอย่างรวดเร็ว ดึงสาบเสื้อเข้าหากันแน่นเพื่อปิดบังเรือนร่างใต้ชุดนอนบางเบา ไม่อยากให้เขาสำรวจเธอด้วยสายตาแบบนั้นอีกเขานิ่งไปพักใหญ่ และเมื่อชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาบนผนัง เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงคืนแล้ว"ขอฉันอยู่ที่นี่สักพักได้ไหม...แค่อยากพักอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อย" ลมหายใจที่ยังหอบพร่า และเสียงทุ้มอ่อนนุ่มของเขาเอ่ยขึ้นอันนา ยังคงมองเขาด้วยแววตาลังเล หวาดกลัว โดยที่ความหวาดกลัวนั้นเธอไม่ได้กลัวเขา แต่เธอกลัวหัวใจเธอเอง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-22
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 14 สายลมยามใกล้รุ่ง

    เขาเดินไปที่มอเตอร์ไซด์คันใหญ่คู่ใจเมื่อสตาร์ทรถ เขาจงใจไม่เร่งเครื่องมากนักเพื่อลดเสียงรบกวน ไม่ให้ใครในหอพักต้องตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำแล้วไม่นาน ไฟท้ายของรถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบเชียบ ละลายหายไปในความมืด ขณะที่เขาขับออกจากเขตหอพักของอันนา…บรรยากาศรอบตัวเขายังเงียบสงัด ถนนโล่งมีเพียงลมเย็นที่ปะทะใบหน้า ทำให้ความมึนง่วงจากคืนอันยาวนานค่อย ๆ จางลงเล็กน้อยแต่มีสิ่งที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในใจของเขา มันไม่ใช่เพียงแค่ความหลงใหล มันลึกซึ้งกว่านั้น อันตรายกว่านั้นมันคือความปรารถนาในตัวอันนา...ความปรารถนาที่ตัวเขาเองยังรู้สึกหวาดหวั่นเขากลัวเหลือเกินว่า สักวันหนึ่ง…เขาอาจจะหยุดความรู้สึกนี้ไว้ไม่ได้ อาจจะเผลอปล่อยให้ความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ กลืนกินสติสัมปชัญญะของเขาไปทั้งหมด และบางที...บางทีคืนนี้อาจเป็นคืนที่เขาเข้าใกล้ขีดจำกัดของตัวเองมากที่สุดแล้วพีท เร่งเครื่อง มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ของเขาทุกครั้งที่เขากลับบ้าน มักจะเป็นหัวค่ำ แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ ครั้งนี้เขากลับมาตอนฟ้าใกล้สาง… สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อรถเคลื่อนตัวเข้ามาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ลุงมิ่ง รปภ.ที่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-22
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 15 ถึงวันที่นัดหมาย (1)

    แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนสายส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง อันนา พลิกตัวช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ความง่วงออกไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงดวงตาคู่งามกวาดมองไปทั่วห้อง และแล้วเธอก็พบว่า…พีท…ไม่อยู่แล้วอันนา ชะงัก หัวใจเต้นแผ่วเบาเมื่อพบว่า ไม่มีร่างของชายหนุ่มที่เธอจำได้ดีว่าเขาอยู่ที่นี่เมื่อคืนเธอขยับนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา ภาพความทรงจำจากเมื่อคืนไหลย้อนกลับมาสัมผัสร้อนแรง... ลมหายใจของเขาที่ใกล้จนได้ยินชัด... ริมฝีปากของเขาที่แนบลงมาหาเธอช้า ๆ แล้วจูบอย่างอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเร่าร้อนสัมผัสของมือหนาที่กอบกุมเต้าอกอวบอิ่มพร้อมทั้งแรงเคล้าคลึงด้วยความเบามือแต่แฝงด้วความผ่าวร้อนได้แผ่ซ่านผ่านชุดนอนบางจิ๋วเข้าไปยังเนินเนื้อยังคงติด ผิวกายของหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสจากชายคนไหนมาก่อนอันนา ใบหน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอหลุบตามองต่ำ ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันว่าค่ำคืนที่ผ่านมามันไม่ใช่แค่ความฝันพีท... ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวและสัมผัสของเขาเธอเองก็ไม่เคยได้เจอะเจอมาก่อนเลย มันทำให้เธอวาบหวามและอบอุ่นไปใ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-22
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 16 ถึงวันที่นัดหมาย (2)

    ตอนบ่ายถึงเวลานัดหมายทำโครงการวิจัยร่วมกันของ ทั้ง 2 คนอันนาเดินเข้ามาในห้องทดลองพร้อมแฟ้มเอกสารแนบอก พยายามรักษาท่าทีให้เป็นปกติที่สุด แม้หัวใจจะเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก เธอก้าวเท้าอย่างระมัดระวัง ขยับแว่นตาเล็กน้อยเพื่อปรับโฟกัส ดวงตากลมโตสอดส่ายไปทั่วห้อง แต่เธอยังไม่พบกับใครบางคนที่เธอพยายามหลบหน้าและหัวใจของเธอตอนนี้ก็เต้นโครมคราม จนแทบจะระเบิดออกมาข้างนอก เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า… เธอจะต้องเผชิญหน้ากับพีท—เจ้าของรอยจูบและสัมผัสที่ยังทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เสื่อมคลายเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสะกดอารมณ์ แล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะเปิดเอกสารเพื่อเตรียมเริ่มงานแต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นร่างกำยำของชายหนุ่ม ยืนพิงกรอบประตู เขายกยิ้มมุมปากพลางกอดอก สายตาคมมองเธอราวกับอ่านใจออก“ไง…” พีท ทักและลากเสียงเนิบนาบที่ฟังดูสบายๆ ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเธออย่างไม่รีบร้อน ท่าทีของเขาดูผ่อนคลาย ราวกับว่าการพบกันครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ธรรมดา“ทำไมทำหน้าเครียดขนาดนั้นล่ะ? หรือว่า… คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่?”อันนาสะดุ้ง รีบหลบตาพีททันที หน้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-22
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 17 จูบที่เร่าร้อนอีกสักครั้ง (1)

    พีท ยืดแขนเพื่อบิดความเมื่อยล้า สายตาคมเข้มมองมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “สรุปว่าเย็นนี้ไปกินชาบูที่ไหนกันแน่นะ?”อันนา ที่กำลังเก็บของชะงักไปนิดหน่อยก่อนตอบ “โชติบอกว่าร้านชาบู หน้ามอ ร้านเดิมที่เคยไปกินประจำ”พีท เงยหน้ามองหญิงสาวอย่างช้า ๆ ก่อนลากเสียงถาม“ที่เคยไปกินประจำ….ไปกินด้วยกันบ่อยรึไง?” เสียงเขาดูไม่สบอารมณ์มากนักเมื่อได้ยินคำตอบอันนา เงยหน้าขึ้นมองพีทที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าที สีหน้าเขาดูนิ่งขึ้น แต่แววตากลับมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่“ก็… เคยไปกินด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว” เธอขมวดคิ้ว “ทำไมหรอ?”พีท เท้าแขนลงกับโต๊ะ จ้องเธอนิ่ง “ไปกันบ่อยแค่ไหน?”หญิงสาว เริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงและท่าทางของเขา “ก็… หลายครั้งอยู่ ทำไม นายมีปัญหาหรือไง?”พีท พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนยืดตัวขึ้นเต็มความสูง “เปล๊า~ แค่สงสัยว่าไปกันแค่สองคน หรือไปกันหลายคน”อันนา เลิกคิ้ว “บางทีก็หลายคน บางทีก็แค่ฉันกับโชติ”คำตอบนั้นทำให้ พีท ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงเล็กน้อย “แค่เธอกับโชติ?”อันนา เริ่มจับสังเกตได้ว่าเขาดูไม่พอใจ“อืม บางครั้งก็แค่ฉันกับโชติสองคน ทำไมหรอ?”พีท จ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-22

Bab terbaru

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 31 ความจำเป็น

    ตี 5 เมื่อรถไฟมาถึงชานชลา พิษณุโลก….หญิงสาว ลงจากรถไฟ แล้วรีบเหมารถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปยังโรงพยาบาลทันทีณ โรงพยาบาล ประจำจังหวัดอันนา รีบวิ่งไปตามทางเดินของโรงพยาบาล หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความวิตกกังวล กลิ่นยาฆ่าเชื้อและเสียงเครื่องช่วยหายใจแว่วมากระทบโสตประสาท แต่เธอไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอจ้องไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว หวังว่าจะพบแม่และน้องโดยเร็วที่สุดเมื่อมาถึงหน้าห้องผ่าตัด อันนา เห็นแม่ของเธอนั่งกอดน้องชายตัวเล็กไว้แน่น ใบหน้าของแม่ซีดเซียว ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่น้องชายของเธอก็ดูอิดโรยและหวาดหวั่นไม่ต่างกัน“อันนา ลูกแม่…” แม่เงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นเธอ และน้ำตาก็ไหลรินลงมาทันที “พ่อของลูกเจ็บหนัก ต้องผ่าตัดด่วน”หญิงสาว รู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มากดทับอยู่ที่หน้าอก เธอรีบก้าวเข้าไปนั่งข้างแม่ จับมือที่สั่นเทาของแม่ไว้แน่น“แม่…พ่อจะไม่เป็นอะไรคะ” เสียงของเธอสั่นเครือแม่ส่ายหน้าช้า ๆ “หมอบอกว่าพ่อเสียเลือดมาก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน เราต้องรอ…”เธอ ก้มหน้าลงซ่อนน้ำตา เธอรู้สึกหมดหนทางแต่ก็ต้องเข้มแข็งเพื่อแม่และน้อง แม่ลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยน ทั้งสามคนต่า

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 30 อยู่เคียงข้างเสมอ

    เสียงเครื่องบดกาแฟดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ภายในร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟคั่วใหม่ นิดหน่อยกำลังจัดเรียงแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์ ขณะที่พี่ลินกำลังรับออเดอร์จากลูกค้าเมื่อรับออเดอร์เสร็จ พี่ลินก็เดินมาหานิดหน่อย"นี่! นิดหน่อย!" พี่ลินกระซิบ "ไม่เห็นอันนาหลายวันแล้วนะ!"นิดหน่อยชะงักมือที่กำลังหยิบแก้วก่อนจะเงยหน้ามองพี่ลิน "จริงด้วยสิ ชักจะเป็นห่วงนะพี่ลิน"ทันใดนั้น เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านก็ดังขึ้น ตามมาด้วยร่างของอันนา เธอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"อันนา!" พี่ลิน เรียกอย่างตื่นเต้น "หายไปไหนมาเนี่ย?"อันนา หัวเราะเบา ๆ "ขอโทษด้วยนะพี่ลิน และนิดหน่อย พอดีช่วงนี้ติดทำโครงการวิจัยเลยยุ่งมาก ๆ"พี่ลินมองอันนาด้วยสายตาแซว ๆ "ที่แท้ก็ยุ่งอยู่กับเรื่องโครงการวิจัย นึกว่าหายไปไหนกับพ่อเทพบุตร หน้าหล่อคนนั้น""พี่ลินก้อ….ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ!" หญิงสาวรีบหลบสายตาพี่ลิน แล้วรีบเดินไปหลังร้านใส่ชุดกันเปื้อนเพื่อทำงานทำงานไปได้สักพัก พี่ลินสังเกตเห็นว่า อันนา ดูไม่ค่อยสดชื่น จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงว่า"อันนา เป็นอะไรรึเปล่า? ดูเหนื่อย ๆ นะ"อันนา ยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบเสียงแผ่วเ

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 29 เมื่อต้องเจอกับกวิน

    เช้าวันต่อมา...พีท สะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างของห้องนอนอันกว้างขวางของเขา เขายังคงรู้สึกถึงความอ่อนล้าเล็กน้อยจากค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะร่างกาย แต่เป็นเพราะจิตใจที่ไม่ได้หยุดคิดถึงเธอเลยหลังจากนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลุกขึ้นนั่ง ใช้มือเสยผมอย่างลวก ๆ ใบหน้าหล่อเหลามีคราบของความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้หน้าคมของเขาลดความน่ามองลงไปได้เลยเขาเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างความคิดฟุ้งซ่านให้หมดไป แม้จะรู้ดีว่าความคิดถึงนั้นไม่มีทางจางหายง่าย ๆ ก็ตามเมื่อจัดเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อยืดสีขาวด้านในพร้อมใส่เสื้อช็อปวิศวะทับเข้าไป และกางเกงยีนส์ตัวขาดเข่าตัวเก่งของเขา ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้แล้วก้าวออกจากห้องนอนของตัวเอง ลงบันไดไปยังโรงจอดรถ ที่ซึ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขาจอดรออยู่เครื่องยนต์คำรามขึ้นเมื่อ พีท สวมหมวกกันน็อกและเร่งเครื่องเพี่อขับออกจากคฤหาสน์ของครอบครัวลุงมิ่ง รีบวิ่งมาเปิดประตูรั้วใหญ่ให้ทันที เพราะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะออกไปยังมหาวิทยาลัยเขามุ่งตรงไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถนนยามเช้าเต็มไปด้วยรถราที่เคลื่อนตัวไปมา แต่เขาก็ชินกับเ

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 28 ต้องไปอยู่อังกฤษหกเดือน

    เมื่อเขากลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังงาม ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน"คุณพีท นะคุณพีท! หายไปทั้งคืนอีกแล้วนะคะ!" ป้าศรีบ่นด้วยความเป็นห่วง มองชายหนุ่มด้วยสายตาเหนื่อยใจ"นี่คุณพ่อกับคุณแม่กำลังจะกลับมาแล้วนะ ดีนะที่คุณมีนโทรตาม ไม่งั้นคงโดนดุแน่เลย!"พีท ยิ้มแหย ๆ พลางยกมือขึ้นเกาหลังคอ "ผมขอโทษครับป้าศรี พอดีมีเหตุบังเอิญ... ต้องอยู่เป็นเพื่อน….เพื่อนนะครับ"ป้าศรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพึมพำเบา ๆ "เพื่อน หรือสาวที่ไหนอีกล่ะคะ..."ไม่ทันที่ ชายหนุ่ม จะตอบ ป้าศรียังไม่วายส่ายหน้าก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง "คุณพีทคะ สาว ๆ ระวังหน่อยนะคะ คุณ พีท ยิ่งหล่ออยู่ด้วย เดี๋ยวโดนสาว ๆ หลอกเอานะคะ!"เขา หัวเราะออกมาเบา ๆ "โธ่ ป้าศรี ผมไม่ได้ซื่อขนาดนั้นหรอกน่า"ป้าศรีแกล้งถามขึ้นมาอีก "แล้วเพื่อนคนนี้ ทำไมคุณพีทถึงให้ความสำคัญมากขนาดนั้นนะคะ ป้าไม่เคยเห็นคุณพีทไปนอนค้างคืนที่ไหนเลย นอกจากไปบ้านคุณกวิน..."พีท ที่กำลังจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มถึงกับชะงักไปเล็กน้อย"เอ่อ... ก็..." เขา เกาหลังคอ พลางหลบตานิด ๆ "คือ เพื่อนคนนี้ เขา... เอ่อ... ต้องการกำลังใจนิดหน่อย ผมเลยอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ"ป้าศรีเลิกคิ้ว

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 27 เสียดายต้องกลับคฤหาสน์หลังใหญ่

    แต่…..เสียงโทรศัพท์ของ พีท ดังขึ้นขัดจังหวะบรรยากาศ ชายหนุ่มหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ “มีน”เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย "ฮัลโหล? ว่าไงมีน มีอะไรรึเปล่าพี่กำลังจะกลับ?" เขาแสร้งทำเป็นพูดเพื่อไม่ให้น้องสาวต้องเป็นห่วง เขารู้ดีว่าเขาควรกลับได้แล้วเสียงของ มีน ดังมาตามสายอย่างร้อนรน "พี่พีทคะ! พ่อกับแม่จะกลับถึงบ้านเร็วขึ้นนะคะ! ลุงมิ่งไปรับที่สนามบินแล้วคะ!"พีท ขยับร่างสูงใหญ่ พลางเอ่ยถาม "ทำไมพ่อกับแม่กลับไทยเร็วกว่ากำหนดล่ะ?""ท่านบอกว่างานเสร็จเร็วเลยได้กลับไทยเร็วคะ พี่พีทรีบกลับมาเถอะคะ!"เขาถอนหายใจเบาๆ ยกมือขึ้นเสยผม "โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไปเดี๋ยวนี้แหละ" ก่อนจะกดวางสาย แล้วหันกลับมามอง อันนาเธอจ้องเขาอยู่ก่อนแล้วเหมือนจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพีท ยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย "วันนี้สงสัยต้องพักไว้ก่อนล่ะ เสียดายจัง" สายตากรุ้มกริ่มบอกความต้องการที่ชัดเจนของเขา"…นายอยู่ก็กวนใจฉัน…ดีเลยเพราะฉันต้องรีบสรุปข้อสอบให้น้องชายจอมซน" เธอกล่าว แต่ในใจเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากให้เขากลับไปเลย…ไหนเธอบอกว่าเธอไม่สนใจเขาไง อันนา…?เธอเผลอกำปากกาของตัวเองแน่นขึ้น

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 26 ปลุกอารมณ์วาบหวาม

    เขาไม่อยากปล่อยเวลาที่มีค่าไปง่ายๆ เพราะรู้ดีว่าช่วงเวลานี้มันพิเศษแค่ไหนเขาอยากแกล้งเธอ อยากกวนใจเธออีกครั้ง แค่เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ทำไมกันนะ... ทำไมเขาถึงชอบนักเวลาที่เธอเผลอหน้าแดงอย่างเป็นธรรมชาติ อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอดูน่ารักที่สุดหรืออาจเป็นเพราะหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่แพ้กัน…"นาย! ไปแต่งตัวเลยนะ! เดี๋ยวก็ทำงานส่งไม่ทันหรอก!" เสียงของเธอสั่นนิดๆ พลางรีบหันหลังให้ ไม่กล้าสบตากับแผงอกเปลือยเปล่า แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีง่ายๆแขนแข็งแรงโอบรัดจากด้านหลัง ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดข้างหู "วันนี้งานของฉัน...อย่างแรกคือเธอ แล้วค่อยทำงานส่งอาจารย์ละกัน""อ๊ะ!" อันนา อุทานร้องเบาๆ เมื่อเขาช้อนตัวขึ้นจากพื้น แขนแกร่งตวัดรัดแน่นจนเธอขยับไม่ได้ ผ้าขนหนูที่พันกายเขาไว้ล่อแหลมเสียจนใจเต้นรัว"ดะ...เดี๋ยว! ปล่อยนะ!" เธอดิ้นแต่กลับทำให้ตัวเองแนบชิดเขามากขึ้นเขายิ้มขำ ยิ่งเธอต่อต้าน ยิ่งน่าหลงใหล"อย่าดื้อสิอันนา..." เขากระซิบเสียงพร่า "ฉันไม่ปล่อยหรอก"แล้วร่างเธอก็ถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ร่างสูงจะโน้มลงมา...ดวงตาคมเต็มไปด้วยแรงปรารถนา ผ้าขนหนูที่ปิดห่อหุ้ม

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 25 เมื่อป้านวลป้าข้างหอแซว

    "จะหนีไปไหน…แค่คิดว่า…ฉันอยากจะสำรวจมากขึ้น…?" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกอดที่แน่นขึ้นเล็กน้อยเธอ กลืนน้ำลายลงคอ พยายามผลักอกเขาออก แต่กลับสัมผัสได้ถึงผิวอุ่นและแนวกล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่น่าหวั่นใจ"นาย!!!!...ปล่อยนะ" เธอพูดเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอกแต่แทนที่เขาจะปล่อย กลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนเธอรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจมั่นคงของเขาที่แนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ"ทำไมต้องหนีละ?" เขากระซิบเบาๆ ใกล้ใบหู ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัวอันนา เม้มริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมตัวเอง แต่สัมผัสแนบชิดจากร่างกายของเขาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ร่างกายเธอเหมือนจะร้อนขึ้นกว่าเดิมจนแทบทนไม่ไหว..."อยากสัมผัสอีกจัง…เธอตัวหอมมากรู้ไหม" พีท กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหู ราวกับจงใจให้เสียงนั้นก้องอยู่ในความคิดของอันนา กลิ่นกายตอนอาบน้ำใหม่ๆ ของเธอหอมจนชายหนุ่มไม่อยากปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระเธอ แทบหยุดหายใจเมื่อจมูกโด่งของเขาแนบเข้ากับใบหูของเธอ สัมผัสอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรงทำให้ร่างกายเธอสั่นไหว ลมหายใจอุ่นของเขารดราดอยู่บริเวณข้างแก้ม ปลุกความร้อนวูบวาบให้แล่นไปทั่วร่าง"อย่า..." เสียงของเธอแผ่

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 24 นี่ฉันนอนกับนายแล้วหรอ!!!!

    แสงแรกของรุ่งเช้าสาดส่องผ่านม่านบางเบา ทอประกายอ่อนโยนลงบนเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนแนบชิดอยู่ข้างๆ ร่างกายอันกำยำ แขนเรียวบางพาดอยู่บนอกกว้าง ผิวกายเบียดเสียดกันอยู่อันนา ขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ อาการมึนหัวอย่างหนักปรากฏต่อเธอ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของคนข้างกายความจริงที่แล่นเข้ามาในหัวทำให้เธอรีบขยับตัวออกห่าง ร่างกายยังคงอ่อนล้า แต่หัวใจเต้นรัวแทบระเบิดและเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ยังมีร่างของใครบางคนนอนเปลือยอกอยู่ใกล้ๆ เธอดวงหน้าคมเข้มของเขาหลับไหลอยู่แต่ชวนให้น่ามองทุกส่วนของใบหน้านั้นอันนา ทบทวน เธอสะดุ้งตื่นและสำรวจตัวเอง ตัวเธอเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียวห่อหุ้มตัวอยู่ เธอหน้าแดงก่ำ และนึกทบทวนว่าเธอจำอะไรได้บ้างพีท รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเตียงนอน เขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองร่างของหญิงสาวที่กำลังสั่นเทาและกำลังสำรวจร่างกายตัวเอง เขาอมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ อันนา หันมาเจอสายตาคมเข้มที่จ้องมองมาที่เธออยู่พอดี เธอรีบดึงผ้าห่มมาห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิดทันทีชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ตลกในท่าทางของเธอ นี่เธอจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง"นี่…นี่…นาย…นายทำอะไรฉัน

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 23 เพราะฤทธิ์ยาปลุกอารมณ์ของกวิน

    ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status