ไร่เธียรวัฒน์(ไร่ส้ม)🍊
เธียรวัฒน์ อธิวัฒน์โภคิน หรือ เธียร ชายหนุ่มเจ้าของไร่ส้ม ในวัยเพียง 32 ปี เป็นลูกคนเล็กของ ธนา และ ดารัตน์ มีพี่น้องสองคน ซึ่งเขาเป็นลูกคนเล็ก และมีพี่สาวหนึ่งคนที่อายุห่างกัน 3 ปี โฉมงามมีนามว่า เธียรดา ซึ่งแต่งงานมีครอบครัวออกไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระแวกเดียวกัน ปัจจุบันประกอบธุรกิจส่วนตัว ผลิตเครื่องดื่มและอาหารแปรรูปจากส้มของเขานั้นเอง
ส่วนบิดามารดา ทั้งคู่เกษียณแล้ว จึงมาช่วยดูแลลูก ๆ ที่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่นี่กันหมด แต่เขาจะแยกตัวออกมาสร้างบ้านอยู่ที่ท้ายไร่คนเดียว เพราะชอบความเป็นส่วนตัว และมารดาของเขาคอยจู้จี้จุกจิกให้เขารีบ ๆ แต่งงาน จะได้มีหลานมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะลูกของพี่สาวตอนนี้ก็เข้าโรงเรียนแล้ว ตามประสาคนแก่ก็บอกว่าเหงานั้นแหล่ะ
“ตาเธียร! แม่มีเพื่อนเก่าที่อยู่กรุงเทพฯ อยู่คนหนึ่งซึ่งมีลูกสาวพึ่งเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ หากว่าลูก...” ดารัตน์ แม่ของเขาพูดขึ้นมาทันที ที่มาหาลูกชายถึงที่บ้านของเขา
เพราะตั้งแต่ลูกชายเรียนจบมา ก็ไม่เคยเห็นลูกชายจะคบใครสักคน มีแค่แต่สาวสวย ๆ ที่วิ่งเข้าหา แต่ทำไมลูกชายกลับไม่สนใจเลย จนตอนนี้อายุปาไป 32 แล้ว ก็ยังครองโสดอยู่ พ่อแม่ก็แก่ชราขึ้นมาทุกปี จนลูกสาวคนโตอย่าง เธียรดาลูกโตจนเข้าโรงเรียนแล้ว แต่ลูกชายกลับไร้วี่แววทายาทสืบสกุล
“ผมไม่สนใจใครทั้งนั้นแหละครับ แม่ของลูกผม ผมต้องเป็นคนเลือกเองเท่านั้น และอีกอย่าง ผมก็ไม่ชอบสาวเมืองกรุงด้วย” เธียรวัฒน์พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน ก่อนที่แม่เขาจะทันได้พูดจบประโยค
ตั้งแต่เขา อายุเข้าเลขสาม แม่ก็คอยแต่จะแนะนำสาว ๆ ให้เขาตลอด บางคนถึงขั้นนัดบอร์ดให้เลย แต่เขาไม่สนใจกลับเทสาว ๆ คนที่แม่พยายามหาให้ทุกคน คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตและแม่ของลูกเขา เขาต้องเป็นคนเลือกเองเท่านั้น และคน ๆ นั้น จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขาที่นี่ได้ และคอยซับพอร์ตเคียงข้างกัน เข้าใจในหน้าที่ของเขา รักเขาด้วยจากใจจริง ไม่ใช่แค่เงินตราและหน้าตาทางสังคม
“ทำไมล่ะเธียร!? เมื่อก่อนลูกเองก็เป็นหนุ่มเมืองกรุงนี้น่า ลืมกำพืดตัวเองแล้วหรือ” ดารัตน์ยอมใจในความช่างเลือกมากของลูกชายเธอเลยจริง ๆ
เมื่อก่อนตัวเองก็เป็นเด็กหนุ่มที่เกิดและโตที่เมืองกรุงเหมือนกัน ลืมกำพืดของตัวเองหรือไง แถมยังมีอคติกับเมืองกรุงอีก จนพ่อแม่และพี่สาวต้องทิ้งเมืองกรุงย้ายตามเขามาด้วย
“สาวเมืองกรุง จะมาช่วยผมทำไร่ ทำสวน ทำงานตากแดดได้อย่างไรครับแม่” เขาหาเหตุผลอ้างขึ้นมากับแม่เขาในทันที ใครจะยอมเอาผิวสวย ๆ มาตากแดดร้อนตามท้องไร่แบบเขาได้ ยิ่งแต่สาวเมืองกรุงยิ่งแต่แล้วไปใหญ่เลย ตัดออกจากความคิดเป็นอันดับแรกไปเลย
“แล้วสาวตามผับ ตามบาร์ แกคิดว่าเขาจะมาช่วยแกทำงานแบบนี้ได้งั้นเหรอ นอกจากคอยแต่ผลาญเงินของแกแค่นั้นแหล่ะ” ดารัตน์เปรียบเปรยขึ้นมาทันที เพราะรู้นิสัยลูกชายที่กินไม่เลือก แถมชอบซื้อบริการสาวกลางคืนอีก เธอละกลัวว่าจะพลาดท่าพวกผู้หญิงพวกนั้นเข้าสักวัน
“ผมก็ไม่ได้คิดจะเอาพวกผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นคู่ชีวิต หรือแม่ของลูกอยู่แล้วนี้ครับ ก็แค่สนุกกันแค่นั้น วิน ๆ กันทั้งสองฝ่าย” เขายืนยันคำขาดกับแม่ทันที
เพราะก็รู้อยู่ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เข้าหาเขา ต่างก็รู้ว่าเขามีเงิน เข้ามาถวายตัวเพราะเงินทั้งนั้นแหล่ะ ส่วนคนที่จู้จี้จุกจิก เขาจะไม่ยุ่งด้วย และพวกสาวบริสุทธิ์นั้นด้วย เพราะกลัวผลจะตามมาเหมือนกัน
“แล้วแกชอบแบบไหน? แบบนี้ก็ไม่เอา แบบนั้นก็ไม่เอา หรือว่า ข้าราชการ! นักร้อง! นางแบบ! ดารา?” ดารัตน์ยกตัวอย่างขึ้นมาเปรียบเปรยทันที เผื่อจะเป็นตัวเลือกให้ลูกชายบ้างไม่มากก็น้อยแหละ
“พอ ๆ ข้อสุดท้ายยิ่งแต่แล้วไปใหญ่เลย” เธียรวัฒน์รีบปรามแม่ของเขาทันที ก่อนที่จะยกเอามาทั้งโลก
ช่างกล้ายกตัวอย่างมาให้เลือกเสียเหลือเกิน แถมเอาแต่ช้อยที่ไม่อยู่ในมันสมองเลยมาให้เลือก เขาละยอมใจแม่เขาจริง จ้างคนมาแต่งงาน หรืออุ้มบุญดีไหม จะได้จบ ๆ ไปเลย
“ระวังเถอะ เกลียดอะไร จะได้แบบนั้น...ฉันจะคอยดู!!!” ดารัตน์ทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะกลับออกไปจากบ้านของลูกชาย
และก่อนที่จะกลับเข้าบ้านของตัวเอง ก็ต้องแวะเข้าไปทางบ้านและโรงงานของลูกสาวต่อ ก่อนที่จะกลับบ้านหลังใหญ่โตของเขาที่ลูกชายสร้างไว้ให้ตั้งแต่ซื้อที่ดินผืนนี้
กรุงเทพมหานคร
บ้านนนทวัฒนากุล
“กองถ่ายเขายังถ่ายไม่เสร็จหรือครับแม่ ทำไมไม่เห็นยัยน้องกลับมาบ้านสักที” เสียงชายหนุ่มถามผู้เป็นแม่ออกมา เมื่อไม่เห็นน้องสาวสุดที่รักอยู่บ้านหลายวัน
ตั้งแต่ทราบว่าผู้เป็นพ่อส่งน้องสาวไปทำงานด้านการแสดง แทนที่จะให้มานั่งตากแอร์ในออฟฟิศ
สิทธิวัฒน์ นนทวัฒนากุล หรือ วัฒน์ ชายหนุ่มวัย 32 ปี บุตรชายคนโตของโปรดิวเซอร์ยักษ์ใหญ่และผู้จัดละครอย่าง อธิวัฒน์ และ สุพัชชา
“ไม่รู้สิ ถามพ่อแกดู ว่าทำอะไรกับน้องแกบ้าง” สุพัชชาตอบปัด ๆ ลูกชายคนโตไป แล้วโยนไปทางสามีทันที
“พ่อก็แค่ดัดนิสัยนิด ๆ หน่อย ๆ” อธิวัฒน์ ตอบลูกชายคนโตออกไปตามตรง
“นิดหน่อยอะไรล่ะ ลูกพึ่งจะกลับมาเองน่ะ แทนที่จะให้แกช่วยงานในบริษัทแอร์เย็น ๆ แต่กลับส่งลูกตัวเองไปเป็นนักแสดง แถมยังให้แกเล่นเป็นตัวร้ายอีก” สุพัชชาตำหนิสามีออกมาทันที
เพราะลูกสาวคนเล็กของบ้าน และเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวที่พึ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แทนที่ผู้เป็นพ่อจะให้ช่วยงานที่บริษัท กลับส่งลูกสาวออกไปเป็นนักแสดง แถมมีแต่ถ่ายนอกสถานที่ทั้งนั้น
“ผมก็คิดว่า บทนี้เหมาะกับแกดี แต่ทีมงานก็โทรมารายงาน ว่าราบรื่นดีนี้คุณ พัชชาไม่มีปัญญาอะไร แถมตอนนี้ไปโลดแล่น เที่ยวฉ่ำเลยไม่ยอมกลับมาพร้อมทีมงาน” อธิวัฒน์ ตอบออกมาตามตรง
เพราะไม่มีใครเหมาะกับบทคุณหนูขี้วีนเอาแต่ใจตัวเองเท่ากับลูกสาวตนแล้วในเวลานี้ แถมลูกสาวก็ไม่ทำให้ผู้เป็นพ่อผิดหวังด้วย ตีบทแตกกระจุย
แต่เขาไม่บอกกับลูกเมียหรอก ว่าทำไมถึงส่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ทายาทหนึ่งในลูกสาวโปรดิวเซอร์ไปเป็นนักแสดง เพราะเขามีข้อแรกเปลี่ยน ที่มีแค่เขาและลูกสาวเท่านั้นที่รู้ ๆ กัน
อธิวัฒน์ และ สุพัชชา มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน คนโตคือ สิทธิวัฒน์ หนุ่มโสดวัย 32 ปี ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทฯ
ส่วนลูกชายคนรองอย่าง อภิวัฒน์ หนุ่มโสดวัย 28 ปี นักศึกษาแพทย์ยังคงศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะต้องเรียนเฉพาะทางโดยตรง
และลูกสาวคนเล็กที่พึ่งกลับมาหมาด ๆ อย่าง ศิริพัชชา หญิงสาวในวัยเพียง 23 ปี ลูกสาวเพียงคนเดียว ที่ถูกปกป้องและตามใจจากพี่ชายทั้งสองตลอดมา
ไม่มีเหตุผลอื่นวันนี้ตอนเย็นเธียรวัฒน์ต้องเดินทางไปร่วมงานมงคลสมรสของเพื่อน ซึ่งก็คือ คิน อคิราห์ เจ้าของไร่องุ่น ที่อยู่อำเภอใกล้ ๆ กันนั้นเอง แต่ศิริพัชชากับได้ยินว่าเขาจะไปงานแต่งเจ้าของไร่อคิราห์มาจากปากของดารัตน์ เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอกับเขาก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลย เขาเพียงตามออกมาส่งเธอที่รีสอร์ท แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันต่อ และเธอก็ไม่ได้เข้าไปหาเขาที่บ้านอีกเลย แต่วันนี้กลับมาหาดารัตน์ที่บ้านหลังใหญ่แทนและตอนนี้เธอเพียงแค่อยากจะขอติดรถไปที่ไร่นั่นด้วย เธอจึงยอมมาคุยกับเขาอีกครั้ง เพียงเพื่อจะขอติดรถไปด้วย เพราะเธอก็เคยถ่ายละครที่นั้น และรู้จักกับทางพี่สาวเจ้าสาวเป็นการส่วนตัว เพราะเคยร่วมงานด้วยกันเธียรวัฒน์พึ่งจะมาทราบเพียงไม่กี่วันมานี้เองว่า หญิงสาวทำงานในวงการบันเทิง และเป็นนักแสดง เพราะละครเรื่องที่ถ่ายพึ่งจบไปกำลังออกอากาศอยู่ และเขาบังเอิญเดินมาทันได้เห็นพอดีและทำให้เขาตีตัวออกห่างจากเธอทันทีในตอนนั้น เพราะเขามีอคติกับคนในวงการบันเทิง ยิ่งแต่รู้ว่าเธอคือนักแสดงอีก ยิ่งแต่โกรธเพราะเขาเริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธอ แถมผู้เป็นแม่ยังจะเป็นชักแม่สื่อให้เขาจีบเธอด้วย“ได้ข่าวว่า
ตัวตนที่แท้จริงไร่เธียรวัฒน์🍊เช้าวันนี้ธาวินขับรถไปรับหญิงสาวเองถึงที่ ที่หญิงสาวพักอยู่ นั่นก็คือรีสอร์ทติดกับไร่เธียรวัฒน์นั้นเอง ตามคำสั่งของเธียรวัฒน์ ตั้งแต่เช้าตรู่ศิริพัชชาลงจากรถเมื่อรถจอดที่หน้าบ้านของหนุ่มเจ้าของไร่ กลับต้องทำหน้าแปลกใจ เมื่อพบกับหญิงสาวที่มีอายุรุ่นราวคราวแม่ ยืนรออยู่ที่หน้าบ้านของหนุ่มเจ้าของไร่อย่างเธียร“เอ่อ...”“ป้ารัตน์ เป็นแม่ของพี่เธียรครับ” ธาวินจึงเป็นฝ่ายเอ่ยบอกแทน“สวัสดีคะ” หญิงสาวเอ่ยทักทาย พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ บนใยหน้าที่มีเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยแต่งเติมอยู่“สวัสดีจ๊ะ แม่หนูสวยเหมือนดาราในละครที่พึ่งโฆษณาไปเลย” ดารัตน์ไหว้ตอบรับ และเอ่ยชมขึ้นมาทันที ที่เจอหน้าหญิงสาวชัด ๆ เป็นครั้งแรก แถมยังแซวเธอออกไปอีก เพราะเมื่อคืนพึ่งจะเห็นคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับหญิงสาวผู้นี้มาก ซึ่งเป็นนักแสดงน้องใหม่ ที่ละครกำลังจะออกอากาศเร็ว ๆ นี้“เอ่อ...”“ผมว่าน่าจะใช่น่ะป้ารัตน์....” ธาวินเสริมขึ้นมาบ้าง เพราะเห็นผ่าน ๆ มาเหมือนกัน ในตอนค่ำที่โรงอาหาร ตอนพวกคนงานเปิดทีวีดู และเขาก็มั่นใจเลยว่าเธอคือนักแสดงแน่นอน เพราะชื
ชอบก็จีบตกเย็น“ตาเธียร แม่เห็นรถของรีสอร์ทข้าง ๆ เข้ามาที่ไร่เราสองวันแล้ว มีใครมาหาลูกเหรอ” ดารัตน์ ยิงคำถามขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาในบ้านพักส่วนตัวของลูกชายในช่วงเย็น เพราะสังเกตเห็นรถของรีสอร์ทข้าง ๆ ที่ติดกับไร่ เข้าออกายในไร่มาสองวันแล้ว“แค่เด็กนอก ที่อยากเห็นอะไรแปลก ๆ ก็แค่นั่นเองครับ...” เธียรวัฒน์ตอบแบบปัด ๆ ไป โดยไม่แสดงทีท่าอะไรออกมา“เด็ก! เด็กที่ไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง นี่แกแอบเลี้ยงเด็กไว้หรือตาเธียร” ดารัตน์ ตาลุกวาวขึ้นทันที ที่ได้ยินคำว่าเด็ก ทำให้คิดอะไรไปไกลมากกว่าที่เห็น“เปล่าครับแม่ ผมจะแอบไปเลี้ยงเด็กที่ไหนกัน ลำพังงานที่ไร่ก็ยุ่งมากพอแล้ว นาน ๆ ทีกว่าผมจะมีเวลาว่างนัดกับเพื่อน ๆ และใกล้จะถึงงานแต่งไอ้คินแล้วด้วย ผมต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จ เวลานอนทบจะไม่มีอยู่แล้ว....” เธียรวัฒน์รีบปฏิเสธผู้เป็นแม่ทันที แล้วหาสารพัดเหตุผลมาอ้างต่อ ให้แม่ฟังทันที“ก็แกบอกว่าเด็ก”“เธอเป็นคนกรุงเทพ แค่อยากมาชมไร่ส้มของผมก็แค่นั้นเองครับ เธอพักอยู่ที่รีสอร์ทนั่น เลยให้รถของทางรีสอร์ทมาส่งยังไงละครับ” เขาตอบแม่ออกไปตามตรง เท่าที่รู้จากหญิงสาวมา เพราะเขาก็ไม่ได้ถามอะไรเธอมาก นอกเ
เป็นเมียหรือไง“นายมึงพาใครมาด้วยวะไอ้วิน” กีตาร์ ซึ่งเป็นคนงานที่ค่อนข้างสนิทกับธาวิน เพราะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เธียรวัฒน์เริ่มธุรกิจใหม่ ๆ ถามชายหนุ่มขึ้นมาทันที ที่เห็นรถมอเตอร์ไซคพ่วงข้างของเจ้านายหนุ่มขี่มาทางนี้ แต่แปลกที่ข้าง ๆ มีหญิงสาวนั่งมาด้วย“อยากรู้ก็ไปถามพี่เธียรดูเองสิ” ธาวินเอ่ยตอบออกไปด้วยใบหน้านิ่งเรียบ“สวยขาวมากเลยว่ะ ขนาดมองไกล ๆ ก็รู้เลยว่าคงจะสวยมากแน่ ๆ” กีตาร์เอ่ยชมขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่จ้องมองแบบไม่กระพริบเลย เพราะมองด้วยตาเปล่า ถึงแม้จะไกลมากแต่ก็รู้ว่าคือผู้หญิง“มึงอย่าแม้แต่จะคิดน่ะ ถ้าไม่อยากโดนพี่เธียรเจาะกะบาลเอา” ธาวินจ้องโทษเอาไว้ทันที เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะคิดอะไรเกินไปมากกว่านี้เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเดือดร้อน ธาวินถึงไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมาตามตรงว่าหญิงสาวผู้นี้น่าจะมีความสำคัญมากพอสมควร เจ้านายหนุ่มถึงกล้าให้อยู่ใกล้ขนาดนี้ แถมยังสละเสื้อแขนยาวของตัวเองให้เธอสวมใส่อีกด้วยเพราะธาวินเองก็อยู่ด้วยกันกับเธียรวัฒน์มาตั้งแต่เล็ก ๆ เจ้านายหนุ่มของเขาไม่เคยเอาของใช้ส่วนตัวให้ใครได้แตะต้องเลย นอกเสียจากว่าจะให้ขาดไปเลย และไม่รับคืนด้วย หากว่าให้ไปแล้ว“เมี
ตามติดชีวิต“มาทำไมแต่เช้า” เธียรวัฒน์พูดขึ้นมา เมื่อกำลังจะเดินออกไปตรวจงาน เหมือนเช่นทุกวันในตอนเช้า แต่กลับพบหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสีหวาน พร้อมกับหมวกใบโตเพื่อเป็นเกราะบังแสงแดด“...” ธาวินหันไปมองหน้าเจ้านายหนุ่ม แต่กลับไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาสักคำ พร้อมกับมองสำรวจไปที่หญิงสาวที่กำลังเดินมา“หึ ใส่หมวกมา แต่ไม่สวมเสื้อแขนยาว ไม่รู้ว่าเข้าสวนมันจะระคายเคืองคันหรือยังไง เดี๋ยวก็ผืนขึ้นหรอก...”ธาวินเอาแต่ส่ายหน้าให้กับเจ้านายหนุ่มเบา ๆ ตอนแรกบ่นว่าไม่อยากดูแล แต่พอมาตอนนี้พูดอย่างกับเป็นห่วงเธอ แต่ก็แปลกใจอยู่บ้าง ที่ครั้งนี้เธียรวัฒน์ยอมให้หญิงสาวคนนี้เข้าใกล้ แถมเจ้าตัวพร้อมที่จะบริการเจ้าหล่อนอีกด้วย“ทำไมพี่เธียรไม่เอาร่มไปกางให้น้องเขาเลยละครับ ถ้ากลัวว่าน้องเขาจะร้อน” ธาวินเอ่ยแซวเจ้านายหนุ่มขึ้นมาทันที“เสือก! มีอะไรทำก็รีบ ๆ ไปให้ไกลตีนกู” เธียรวัฒน์ตวัดสายตามองธาวินอย่างคาดโทษเอาไว้ทันที และรีบไล่ชายหนุ่มออกไป“พอเห็นสาวสวย ๆ หน่อย ไอ้วินคนนี้ก็หมดประโยชน์เลยน่ะ” ธาวินบ่นอุบอิบเบา ๆ แต่ตั้งใจให้เจ้านายหนุ่มได้ยิน“เงินเดือนมึง เดือนนี้คงไม่อยากได้สินะ”“โธ่!...พี่เธียร” ธาวินร้อง
หาข้ออ้าง“พี่เธียรครับ วันนี้มีคนมารอพบพี่อีกแล้วครับ” ธาวินรายงานบอกทันที ที่เห็นหนุ่มเจ้าของไร่เดินกลับมาด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก เพราะวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวกว่าทุกวันเดิมทีธาวินจะเรียกเขาว่าคุณ แต่เพราะดูห่างเหินมากเกินไป และอยู่บ้านชายคาเดียวกัน แถมโตตามกันมา เขาเลยให้เรียกว่าพี่ จะได้ดูสนิทกัน“คงไม่พ้นเรื่องเดิม ๆ สินะ” เธียรวัฒน์พูดขึ้น พร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องเดิม ๆ เขาก็เดาได้ทันที เพราะแต่ละวันจะมีแต่หญิงสาวเข้ามาหาเขาไม่เว้นในแต่ละวันอยู่แล้ว บ้างก็มาเสรอตัวให้ถึงที่ แต่เขาจะปฏิเสธคนที่เข้ามาทุกราย เพราะไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวายตามมาทีหลัง และคนที่เขาพร้อมปรนเปรอในที่แห่งนี้ หญิงคนนั้นต้องเป็นแม่ของลูกเขาเท่านั้น“แต่คนนี้มาแปลกมากกว่าคนอื่น ๆ ครับ” ธาวินพูดพร้อมกับเอานิ้วแตะที่ปลายคาง เหมือนใช้ความคิดอะไรบางอย่าง“แปลก? แปลกยังไงว่ะ!?” เธียรวัฒน์เลิกคิ้วหันมาถามทางธาวินขึ้นมาทันที เมื่อลูกน้องคนสนิทรายงาย“พี่ไปเจอเองก็น่าจะรู้ครับ ตอนนี้ผมให้น้องเขานั่งรอข้างในออฟฟิศของพี่แล้ว” ธาวินเลี่ยงที่จะตอบออกไปตามตรง จึงได้แต่บอกให้เจ้านายเจ้า