ณ ภาคเหนือของประเทศไทย
จังหวัดเชียงใหม่
“ที่นี่ ส้มรสชาติหวานดีนะคะ รับมาจากไหนหรือค่ะ” เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยชม เมื่อชิมน้ำส้มคั้น และเค้กส้มจากร้านที่เธอมานั่งอยู่ในขณะนี้ เธอรับบทเป็นนางร้าย แต่เธอชอบทุกอย่างที่เป็นส้มนะ
ศิริพัชชา นนทวัฒนากุล หรือ พัชชา ดาราสาวน้องใหม่ในวัย 23 ปี เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว และคนเล็กของบ้าน แถมยังเป็นลูกสาวโปรดิวเซอร์ผู้จัดละครอีกด้วย พึ่งจบการศึกษามาหมาด ๆ เธอจึงกลับมาใช้ชีวิตที่ประเทศบ้านเกิดเหมือนเดิม และอยากมาคอยช่วยงานครอบครัว เพราะเธอชอบเมืองไทยมากกว่าต่างแดน
แต่ถูกพ่อของเธอที่เป็นประธานบริษัทและโปรดิวเซอร์ยักษ์ใหญ่ ส่งตัวมาฝึกงานด้านการแสดง แทนที่จะให้ฝึกงานช่วยพี่ชายที่บริษัทแบบสบาย แต่เธอต้องยอม เพราะมีข้อตกลงกันระหว่างสองพ่อลูกไว้ว่า หากเธอทำงานด้านนี้ผ่านในเรื่องแรก พ่อจะมอบคอนโดมีเนียมสุดหรู และรถยนต์คันหรูหลายล้านเพื่อให้เป็นรางวัล ต้อนรับการกลับมาอยู่บ้านเกิดอย่างถาวรของเธออีกด้วย
“อ่อ...ไร่อยู่ใกล้ ๆ นี่แหละค่ะ ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่แปรรูปจากส้มก็มีนะคะ ลูกค้าอยากลองดูไหมคะ” แม่ค้าสาวกล่าวแนะนำขึ้นมาทันที เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของที่นี่
“ถ้าอย่างนั้น น้ำส้มคั้นที่นี่ก็รับมาที่เดียวกันหมดเลยหรือค่ะ” ศิริพัชชาถามขึ้นมาทันทีอย่างอยากรู้ เพราะเริ่มที่จะสนใจ ปนความอยากรู้อยากเห็นของเธออีกด้วย เพราะการที่ไปอยู่ต่างประเทศนาน ๆ ทำให้เธออยากรู้อะไรมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ
“ใช่แล้วคะ ส้มที่นี่ปลอดสารด้วยน่ะค่ะ ทุกอย่างมาจากไร่เธียรวัฒน์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นักหรอกคะ แถมสถานที่ก็น่าอยู่ เป็นธรรมชาติสุด ๆ เลยล่ะคะ แถมมีโรงงานผลิตภัณฑ์แปลรูปจากส้มอยู่ในไร่อีกด้วยนะ” พนักงานสาวพรรณนาออกมา ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข เมื่อนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหล่าของเจ้าของไร่ส้ม ที่เธอเอ่ยถึง
“ไร่เธียรวัฒน์? น่าสนใจจังเลยค่ะ พัชชาอยากไปเที่ยวบ้างจัง แล้วต้องไปยังไงไปแบบไหนหรือค่ะ” หญิงสาวถามขึ้นมาด้วยความสนใจ แถมตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงในสิ่งที่เธอจินตนาการ
เธอเคยเห็นแต่ในทีวี และตามสื่อต่าง ๆ ทางโซเชียลมีเดียว เกี่ยวกับไร่สวนผลไม้ต่าง ๆ นา ๆ ชนิด และแต่ละอย่าง แต่ละพื้นที่ก็แตกต่างออกไป ตามสภาพพื้นที่และภูมิอากาศของพื้นที่นั้น ๆ อีกด้วย ไร่องุ่นเธอก็พึ่งไปเห็นมาแล้ว เพราะพึ่งจะถ่ายทำละครจบไปหมาด ๆ และตอนนี้เธออยากไปเห็นอะไรใหม่ ๆ ที่ไร่ส้มบ้าง
“มีรถรับจ้าง หรือรถของคนที่ไร่แล่นเข้าออกเป็นประจำอยู่ค่ะ หากว่ารู้จักกับเจ้าของไร่ก็จะง่ายหน่อย แล้วคุณเป็นคนที่ไหนหรือค่ะ ผิวพรรณหน้าตาสวยเหมือนดาราเลยคะ” พนักงานสาวเอ่ยบอกออกไปตามตรง เมื่อลูกค้าสาวถาม และเธอก็ถามเธอกลับไปด้วย เพราะสังเกตดูลูกค้าสาวคนนี้ท่าจะสนใจมากเป็นพิเศษ ผิวพรรณหน้าตาก็น่าจะเป็นสาวเมืองกรุง แต่ทำไมชอบสถานที่แบบนี้นักก็ไม่รู้
“พัชชาเป็นแค่นักแสดงรับเชิญค่ะ ยังไม่เคยมีผลงานหรอก” เธอเอ่ยบอกอย่างถ่อมตน เพราะเธอก็เป็นแค่นักแสดงสมทบจริง ๆ แถมเป็นตัวร้ายอีกด้วย
“หน้าตาคุณสวยเป็นนางเอกได้สบายเลยนะคะ ทำไมถึงได้เป็นแค่นักแสดงรับเชิญ” พนักงานสาวจึงถามเธอกลับไปอีกครั้ง เมื่อทราบว่าลูกค้าสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม ผิวพรรณดีเปล่งปรังคนนี้เป็นใคร
“อาจจะยังใหม่อยู่มั้งค่ะ” เธอยิ้มแห้ง ๆ ให้กับพนักงานสาวอย่างถ่อมตน
ณ ไร่เธียรวัฒน์🍊
“โอ้โห่...จึ้งมากแม่ บรรยากาศโคตรดีเลย” เธอตาลุกวาวเป็นประกายขึ้นมาทันที พร้อมกับพูดคนเดียว ตลอดที่นั่งรถเข้ามาในอาณาเขตของไร่
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวเท้าลงจากที่ขับมาส่งเธอไร่อันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ค่ะพี่ชาย...” เสียงตอบรับพี่ชายอย่างออดอ้อน เมื่อรับสายจากคนที่โมรฯมา
[ยัยน้อง เห็นทีมงานกลับมากันหมดแล้ว แล้วเราไปเถลไถลที่ไหนต่อ ยังไม่กลับมาอีก]
“น้องขอใช้ชีวิตแบบลั้นลาบ้างนะคะพี่ชาย พอถึงวันเปิดกล้องเรื่องใหม่น้องกลับไปทันแน่นอน น้องสาวพี่ไม่ทิ้งงานอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้น้องขอใช่ชีวิตแบบอิสระ คืนความสุขให้ตัวเองก่อนน่ะ”
[โอเคครับ ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ มีอะไรโทรฯหาพี่ได้ตลอดเลยน่ะ หรือจะให้พี่ไปรับกลับก็ได้]
“ไม่ต้องเป็นห่วงน้องนะคะ...”
เธอวางสายจากการสนทนา ของพี่ชายคนโตที่โทรฯมาถามข่าว เพราะไม่เห็นเธอกลับบ้านตั้งแต่ที่รู้ว่ากองถ่ายทำถ่ายเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มกล่าวทักทายขึ้นมาทันที เมื่อเห็นรถรีสอร์ทข้าง ๆ ไร่ขับออกไป โดยมีหญิงสาวรูปงามลงมาจากรถด้วย
ธาวิน ชายหนุ่มวัย 20 ปลาย ๆ เป็นลูกน้องสนิทของเขจ้าของไร่แห่งนี้ ที่สามารถตัดสินใจ หรือทำในสิ่งที่เจ้าไร่มอบหมายได้แทบทุกอย่าง จนได้รีบตำแหน่งผู้ช่วยคนสนิทและเป็นผู้จัดการไร่ของสถานที่แห่งนี้อีกด้วย เพราะธาวินเอง ถือว่าเป็นลูกชายที่พ่อของเจ้าของไร่อุปการะเลี้ยงดูมาพร้อมกับลูกเชายอย่างเธียรวัฒน์ ชายหนุ่มกำพร้าตั้งแต่อายุยังเล็ก ๆ
“สวัสดีค่ะ ฉันมาหาเจ้าของไร่ค่ะ” ศิริพัชชากล่าวทักทายกลับ พร้อมกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มจนตาแทบเป็นสระอี
“ไม่ทราบว่า ได้นัดล่วงหน้าไว้หรือเปล่าครับ” ธาวินถามกลับไปทันที เมื่อรู้ว่าหญิงสาวผู้งามคนนี้ มาหาเจ้านายหนุ่มของเขา
ธาวินยเริ่มชินชา กับสาวสวยที่มาหาเจ้านายหนุ่มของเขาแล้ว เพราะล้วนแล้วมาหามีแค่เรื่องเดียว แต่หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ กลับมาแปลก ปกติทุกคนที่มาจะไม่เคยถามไถ่อะไรเขามาก มีแต่บุกไปหาเจ้านายหนุ่มเลย และเขาก็ต้องกั้นท่าให้ตลอด
“เอ่อ...ไม่ค่ะ”
“จะติดต่อกับคุณเธียรวัฒน์ในเรื่องอะไรครับ”
“คือพัชชา...มีธุระด่วนกับเจ้าของที่นี่ค่ะ” หญิงสาวแก้ต่างหน้าออกไป เพราะไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนมาอ้างดี แถมเธอก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าของที่นี่อีกด้วย
“ถ้าอย่างนั้น ก็เชิญนั่งรอที่ด้านในสำนักงานก่อนดีกว่าครับ คุณเธียรวัฒน์ยังออกไปตรวจงานในสวนอยู่ สักพักก็คงจะกลับเข้ามา” ธาวินจึงเอ่ยชวนเธอเข้าไปนั่งด้านในสำนักงานของเจ้านายหนุ่มทันที
“ขอบคุณค่ะ คุณเอ่อ?”
“ธาวินครับ เรียกวิน เฉย ๆ ก็พอ เป็นคนสนิทของคุณเธียรเองครับ”
“ขอบคุณค่ะ พี่วิน” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณพร้อมกับเปลี่ยนสรรพนามเรียกทันที เพราะดูแล้ว ชายหนุ่มน่าจะอายุมากกว่าเธอ
แค่เราที่เคียงข้างกันก็สุขใจแล้ว(จบ) สามเดือนต่อมา“เป็นยังไงบ้างครับ...” เธียรวัฒน์ถามหญิงสาวผู้เป็นภรรยาขึ้น เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับที่ตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไหร่“ยังไม่ได้ตรวจเลยคะ” เธอเอ่ยตอบ พร้อมกับชูที่ตรวจครรภ์ในมือที่ถืออยู่ให้เขาดู เพราะเธอก็ยังไม่ได้แกะออกจากกล่องเลยด้วยซ้ำ“ทำไมละครับ” เขาได้แต่เลิกคิ้วถาม อย่างแปลกใจ“ประจำเดือนมาก่อนคะ เลยไม่ได้ตรวจ” หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มเจื่อน ๆ ส่งไปให้เขา“เฮ้อ!” เธียรวัฒน์ถอนหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด อย่างหมดหวังทันที ก่อนที่จะเข้าไปประคองหญิงสาว แล้วพาเธอเดินออกมานั่งที่โซฟาแทน“พี่เธียร ถ้าพัชมีลูกให้พี่อีกไม่ได้ละคะ พี่...” เธอพูดขึ้นมาอย่างตัดเพ้อ เมื่อนั่งลงข้าง ๆ ที่โซฟากันกับเขา“พูดอะไรออกมาครับ วิธีแบบธรรมชาติไม่ท้อง ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีอื่นนะ เราค่อยไปพึ่งหมอเอาก็ได้นี้ครับ สมัยนี้หมอเก่งจะตาย น้องพัชไม่ต้องไปกดดันตัวเองหรอก” เธียรวัฒน์พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน ที่เธอจะตัดเพ้อยาวไปมากกว่านี้เขาดึงเธอเข้ามากอดแนบอกแกร่ง ก่อนที่จะลูบศีรษะของเธอเพื่อปลอบประโลม แล้วเอ่ยขึ้นมาปลอบ
ไม่คาดหวัง ก็ไม่ผิดหวังหนึ่งเดือนต่อมากรุงเทพมหานครวันนี้เธียรวัฒน์และศิริพัชชาเดินทางมาร่วมงานแต่งของสิทธิวัฒน์กับมัทนา ที่จัดถูกขึ้นภายในโรงแรมชุดสุดหรู และภายในงาน ก็ยังมีสื่อมวลชน และนักข่าวมากหน้าหลายตาจากหลายสำนัก เข้ามาร่วมในงานนี้อีกด้วยแถมเธอก็ยังเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่ถูกสื่อจับตามองจากสื่อมวลชนทั้งหลาย แต่เธอก็ขอปฏิเสธ และไม่ขอให้การสัมภาษณ์ใด ๆ เพราะเธอเองก็ยังไม่ค่อยคุ้นชินในการออกสื่อ และตอบคำถามของนักข่าวด้วย เธอทำได้เพียงแค่โพสต์ภาพของเธอและเธียรวัฒน์ลงบนโซเชียลมีเดียของเธอและเขาเพียงเท่านั้นซึ่งงานแต่งของเธอกับเธียรวัฒน์ก็ได้ฤกษ์เป็นอีกหนึ่งปีข้างหน้า เพราะปีนี้เธอขอให้พี่ชายได้จัดงานวิวาห์ไปก่อน เพราะเธอก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรมาก แต่ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนี่สิ ใจร้อนอยากจัดงานในเร็ววัน แถมขยันปั๊มลูกอีก แต่เธอก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์ได้อีกครั้งเลย“พัชชา ไม่กลับไปค้างที่บ้านพ่อกับแม่หรือลูก” สุพัชชาถามลูกสาวขึ้นมา เมื่อพิธีการต่าง ๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว และทุกคนรวมถึงแขกเหรื่อก็ทยอยกันกลับออกไปแล้วเป็นบางส่วน“คืนนี้ผมขออนุญาตคุณแม่พาน้องพัช ไปค้างที่คอนโดแทนละกันครับ
เซอร์ไพรส์วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน และจะเป็นวันสุดท้ายที่ศิริพัชชาจะทำงานในวงการนี้อีกแล้วด้วย เพราะต่อจากนี้ จะไม่มีศิริพัชชาอยู่ในวงการบันเทิงแล้ว“พี่วัฒน์ พี่มัท มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วมาได้ยังไง” ศิริพัชชายิงคำถามขึ้นมาทันที เมื่อเธอพึ่งจะลงมาจากชั้นบน และเห็นพี่ชายกับผู้จัดการส่วนตัวสาวของเธอ นั่งอยู่กับเธียรวัฒน์แล้ววันนี้เธอก็มีคิวถ่ายในช่วงบ่าย และตอนเย็นก็มีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองปิดกล้องต่อเลย เธอจึงนอนตื่นสาย แถมเมื่อคืนก็แทบจะไม่ได้นอน เพราะเธียรวัฒน์สอนบทรักให้เธอกว่าจะจบก็เกือบเช้าแล้ว“พี่นั่งเครื่องมาสิครับยัยน้อง” สิทธิวัฒน์เอ่ยตอบน้องสาวสายตากวาดมองสำรวจดูน้องสาวเขาตอนนี้ สภาพจิตใจคงจะดีขึ้นมากแล้ว ดูจากหน้าตาที่ดูสดใสแถมร่างกายเธอเหมือนจะดูมีน้ำมีนวลขึ้นมากว่าเก่า“แล้วนายจะขับรถกลับไหวเหรอไอ้วัฒน์...คุณมัทก็กำลังท้องอยู่ด้วย ระยาทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ” เธียรวัฒน์ถามขึ้นมา เพราะตอนกลับสิทธิวัฒน์ต้องขับรถกลับเอง ก็เขาเป็นคนเอารถเพื่อนมาเอง“ไหวสิ เหนื่อยก็แค่แวะพัก อยากพามัทไปเที่ยวบ้าง อุตส่าห์เคลียร์งานมาได้ ก็พาเมียมาฮันนีมูนเสียเลย” สิทธิวัฒน์เอ่ยตอบออกไปแบบ
ความพยายามสองร่างที่เปลือยเปล่า ยังคงคลอเคลียกันอยู่บนเตียงกว้าง ทามกลางแสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงที่สาดส่องแสงสว่างเพียงเท่านั้น“พะ พัชก็อึดอัดคะพี่เธียร พัชขอทำเองได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยขอเขาขึ้นมา ด้วยสายตาที่มองเขาอย่างอ้อนวอนช่างน่าสงสาร“น้องพัช” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเรียกขึ้นมา พร้อมกับส่งสายตาพินิจมองเธอ เพราะแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ที่ได้ยินคำพูดหื่นห่ามออกมาจากปากของเธอเธอเป็นเด็กนักเรียนนอก ที่ไปอาศัยอยู่ต่างประเทศอยู่ 5-6 ปี และสิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยลืมวัฒนธรรมไทยคือ วาจากริยาอ่อนน้อมถ่อมตน คำหยาบเธอแทบจะไม่เคยหลุดออกมาจากปากให้ใครได้ยิน แม่แต่คำพูดหื่นห้ามเมื่อครู่ ที่ร้องขอคนตัวโต ที่ขึ้นชื่อว่าสามี เธียรวัฒน์ก็พึ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเมื่อได้ยินคำเอ่ยขอจากปากของเธอ คนตัวโตที่คร่อมร่างบางอยู่ในขณะนี้ ก็จับพลิกตัวของเธอขึ้นมาอยู่ด้านบนร่างตัวของเขาแทนทันที โดยที่ร่างกายยังคงสอดอยู่เป็นหนึ่งเดียวกันไม่ยอมหลุด“ทำเลยครับเมียจ๋า เอาพี่ให้เสร็จไปเลย” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยบอกทันที โดยสายตาที่มองดูเธออย่างเจ้าเล่ห์ เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำเช่นไรต่อ เธอจะกล้าทำอย่างที่เอ่ยขอหรือไม่ แล
ภารกิจปั๊มลูกทางด้านของพระเอกหนุ่มอย่างชนาวิชญฺ์เอง เมื่อถ่ายเสร็จแล้ว ก็เดินออกมานั่งลงที่ประจำของตัวเอง โดยที่มีผู้จัดการส่วนตัวสาวของเขานั่งอยู่แล้ว“สามีพัชชาเขาเป็นใครกันหรือพี่ปลา” ชนาวิชญ์เอ่ยถามผู้จัดการส่วนตัวของเขาขึ้น เมื่ออยู่กันตามลำพังเพียงสองคน“เห็นว่าเป็นเจ้าของไร่ใกล้ ๆ นี่แหละ ไร่ส้มเธียรวัฒน์ และยังเป็นเพื่อนกับคุณสิทธิวัฒน์ด้วยนะ” ปาณิศา ผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่มเอ่ยบอกมาไปตามตรง เท่าที่เธอทราบมา เพราะเธอเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านี้เลยวัน ๆ เธอยุ่งอยู่แต่กับพระเอกหนุ่มอย่างชนาวิชญ์เกือบทุก 24 ชั่วโมง เธอไม่มีเวลาไปรับรู้เรื่องของคนอื่นหรอกนับตั้งแต่วันที่เธอได้รับหน้าที่ให้ดูแลชนาวิชญ์ เธอก็แทบจะไม่มีสังคมกับเพื่อนฝูงเลย เพราะงานที่เพิ่มขึ้น แถมเธอยังต้องคอยตามควบคุมพฤติกรรมของพระเอกหนุ่มคนนี้อีก“เฮ้อ...” พระเอกหนุ่มได้แต่ถอนหายใจยาว อย่างแก้เซ็ง“ตัดใจเสียเถอะวิชญ์ พัชชาเขามีเจ้าของแล้วนะ ส่วนนายก็ตั้งใจทำงานของนายไป ฉันเชื่อนะว่าสักวันนายจะเจอคนที่เหมาะสมกับนาย คนที่ใช่ เมื่อถึงเวลาก็จะมาหาเราเองแหละ” ปาณิศาได้แต่เอ่ยบอกให้พระเอกหนุ่มตัดใจจากนางเอกสาว
ตามเฝ้าเมื่อวันเวลาเดินทางมาถึงหนึ่งเดือนเต็มแล้ว ที่ศิริพัชชามาพักฟื้นสภาพจิตใจอยู่ที่ไร่แห่งนี้ ในฐานะภรรยาของเจ้าของไร่และวันนี้ศิริพัชชาก็ต้องกลับไปถ่ายละครต่อ กับคิวของเธอให้จบ โดยเป็นสถานที่ที่ต่างจังหวัดพอดี ซึ่งสถานที่ก็อยู่ใกล้ ๆ กันกับไร่เขาอีกด้วย“ถ้าพี่เบื่อ พี่ก็กลับไร่ไปก่อนก็ได้นะคะพี่เธียร แล้วพี่ค่อยมารับพัชตอนเย็นทีเดียวเลย” ศิริพัชชาเอ่ยบอก เมื่อเธียรวัฒน์ที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่งไม่สบอารมณ์อยู่วันนี้เขาไม่ได้แค่มาส่งเธอที่กองเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมานั่งเฝ้าเธออีกด้วย ไม่ยอมออกห่างเธอเลย จนกระทั่งจะถึงเวลาที่เธอต้องไปเข้าฉากแล้ว“ไม่กลับครับ พี่จะนั่งให้กำลังใจเมียอยู่ที่นี่แหละ” เขาปิดจอโทรศัพท์ลง แล้วหันมาเอ่ยปฏิเสธเธอออกไป เพราะเขาจะรอจนกว่าเธอจะทำงานเสร็จ แล้วค่อยกลับพร้อมกันการมาถ่ายละครต่อในครั้งนี้ มัทนาไม่ได้เดินทางมาดูแลเธอด้วย เพราะหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์อยู่ สามีอย่างสิทธิวัฒน์จึงไม่อนุญาตให้มา แต่จะพาเธอมาในวันเลี้ยงปิดกล้องทีเดียวเลย“แต่สัญญานะคะ ว่าจะไม่โมโหโกรธตอนพัชกำลังทำงาน” ศิริพัชชาเอ่ยถามเขาขึ้นมาเพราะฉากที่ยังถ่ายไม่เสร็จก็จะเป็นฉากจบของพระ