แอเรียนมองดูเวลาและตระหนักว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสิบโมงเช้า พวกเธอสามารถไปช้อปปิ้งและรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันได้ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและตกลงที่จะไปกับทิฟฟานี่ “เอาสิ ไปทานข้าวกลางวันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่หลังจากที่เราช้อปปิ้งกันเสร็จนะ หลังจากที่ทานอาหารหลายมื้อในร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย ฉันก็ยังคงรู้สึกว่าร้านที่แจ็คสันก่อตั้งขึ้นนั้นยังอร่อยที่สุดอยู่ดี”เมื่อพวกเธอไปถึงที่ห้างสรรพสินค้า ทิฟฟานี่ก็ติดนิสัยแย่ ๆ ของเธออีกครั้ง เธอไม่สามารถจากไปได้ทุกครั้งที่เห็นกระเป๋า เธอยังคงลังเลเล็กน้อยในครั้งแรกที่ใช้บัตรเครดิต ทว่าหลังจากที่ลองไปครั้งเดียว เธอก็เริ่มที่จะสูญเสียการควบคุมตัวเอง แอเรียนถูกบังคับให้ต้องลากเธอออกไป “เธอซื้อเกินพอแล้วนะ เธอจะไม่สามารถแบกของพวกนี้กลับไปได้หมด ถ้าเธอซื้อมากเกินไป ฉันว่าแจ็คสันไม่น่าให้บัตรเครดิตเธอเลย เขาจะต้องเสียใจในไม่ช้าก็เร็ว!”ทิฟฟานี่มองดูของที่เธอซื้อมาในมือตัวเอง ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่พอใจ “ฉันไม่ได้ใช้เงินไปเยอะซะหน่อย ถูกไหม? เขาดูใจดีมากเมื่อเขาให้บัตรเครดิตฉันเมื่อคืนนี้ เขาบอกว่าฉันสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ ไม่ต้องห
ทิฟฟานี่เดินเข้าหาเจนิซและมองดูป้ายชื่อที่หน้าอกของเธอด้วยความระมัดระวัง “ใช่ เธอชื่อเจนิซ เบลล์ เธอเป็นแค่เด็กฝึกงานและยังไม่ได้เป็นพนักงานอย่างเป็นทางการ มาร์ค คุณนี่เก่งจริง ๆ เลยนะ! คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภรรยาของคุณชอบเครื่องประดับแบบไหน คุณก็เลยต้องขอให้คนอื่นมาเลือกให้คุณ จริงเหรอ?”แอเรียนมองไปที่มาร์คขณะที่รอคำตอบของเขามาร์คเริ่มประหม่าเมื่อถูกแอเรียนจ้องแบบนั้น ฝ่ามือของเขาเริ่มเหงื่อออก “ฉัน… นั่น… เป็นความจริง แอริ ในเมื่อเธออยู่ที่นี่แล้ว ทำไมเธอไม่เลือกอันที่เธอชอบเองเลยล่ะ?”แอเรียนไม่มีอารมณ์ที่จะเลือกเครื่องประดับในขณะนี้ เธอจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “เงินคือทุกอย่าง ถ้าคุณไม่รู้ว่าฉันชอบอะไร ก็แค่ให้เงินฉันเพื่อที่ฉันจะได้ไปซื้อมันเอง คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันด้วย คุณคงจะว่างสินะถึงได้มีเวลามาที่นี่และเลือกเครื่องประดับ แต่ฉันเหนื่อย ดังนั้นฉันจะให้คุณพาสมอร์กลับไปที่บริษัทด้วยเนื่องจากคราวที่แล้วคุณดูแลเขาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว”เจนิซถูกดึงดูดโดยสมอร์ “ได้เลยค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ? เวลาที่คุณเทรมอนต์ยุ่ง ดิฉันสามารถช่วยดูแลคุณสมอร์ได้เช่นกัน คุณสมอร์… ยังจำฉันได้ไ
แอเรียนและทิฟฟานี่อารมณ์ดีขึ้นมากหลังจากที่พวกเธอออกมาจากห้างสรรพสินค้า ทั้งคู่ไปทานอาหารที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ตามที่วางแผนไว้ จากนั้นพวกเธอก็พากันไปร้านเสริมสวย แอเรียนหงุดหงิดมากเมื่อตอนที่เห็นเจนิซยืนอยู่ข้างมาร์ค แม้ว่าพวกเขาจะนอนร่วมเตียงเดียวกันทุกคืนและทุกอย่างดูเหมือนว่าจะไปได้ดี ใครจะไปรู้ว่าสักวันหนึ่งมาร์คจะมีชู้หรือไม่เมื่อเธอกลายเป็นหญิงชราที่เหี่ยวย่นเธอไม่ได้คิดว่าชีวิตหลังแต่งงานของเธอยุ่งเหยิง เพียงแต่ว่าในขณะนั้นความมั่นใจของเธอถูกรุกราน ในช่วงอายุของเธอ เธอควรจะได้ประกอบอาชีพ แต่เธอกลับแต่งงานและมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย เธอไม่สามารถยอมแพ้ในตัวเองและอยู่ในเรือนกระจกที่มาร์คสร้างขึ้นเพื่อเธอและปล่อยให้ตัวเองเสื่อมโทรมลงเรื่อย ๆ ได้ เธอไม่ต้องการชีวิตแบบนั้นกลับมาที่สำนักงาน แอริสโตเติลได้เรียนรู้ที่จะพลิกตัวแล้วและตอนนี้เขาก็เต็มไปด้วยพลัง มาร์คไม่กล้าทิ้งเขาไว้บนโซฟาตามลำพังระหว่างที่ตัวเองทำงาน ดังนั้นมาร์คจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องอุ้มเขาไว้ ทว่าน่าเสียดายที่เด็กน้อยปฏิเสธที่จะประพฤติตน เขาจะเล่นกับคอมพิวเตอร์หรือปากกาของมาร์คตลอด ไม่เว้นแต่สัญญาต่าง
หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ แอเรียนและทิฟฟานี่ก็รีบไปที่โรงพยาบาล แอเรียนมีความรู้สึกว่าชีวิตของเอริกกำลังจะถึงจุดจบ มาถึงจุดนี้การเข้าโรงพยาบาลก็เทียบเท่ากับการเข้าประตูนรกอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีใครสามารถบอกได้แน่นอนว่าเขาจะสามารถผ่านสิ่งนี้ไปได้หรือไม่เมื่อทั้งกลุ่มพบกันที่โรงพยาบาล เอริกก็ยังคงอยู่ในห้องฉุกเฉิน แอเรียนชำเลืองมองเจนิซ ซึ่งอุ้มแอริสโตเติลอยู่ เพียงครั้งเดียว เจนิซตระหนักว่ามันไม่เหมาะสมที่เธอจะอุ้มสมอร์ไว้ เธอจึงเดินเข้าไปหาแอเรียนและพูดว่า “คุณนายเทรมอนต์ ดิฉันจะส่งคุณสมอร์คืนให้คุณนะคะ ดิฉันต้องกลับไปที่สำนักงานก่อน”แอเรียนรับแอริสโตเติลขณะที่เม้มริมฝีปากแล้วตอบว่า “อืม ขอบคุณ”เธอไม่สบายใจ มาร์คควรจะขอให้เดวี่มาด้วยก็ได้ เขาไม่เห็นต้องพาเจนิซมาด้วยเลย เว้นแต่เจนิซจะอยู่กับเขาก่อนที่เขาจะได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับเอริก...แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเอริก แอเรียนไม่สามารถทะเลาะกับมาร์คในเวลาแบบนี้ได้ ทุกคนต่างกำลังอารมณ์ไม่ดี ในเวลาแบบนี้บางสิ่งบางอย่างก็ต้องเก็บไว้ก่อนขั้นตอนการรักษาฉุกเฉินยังคงดำเนินต่อไป พวกนาธาเนียลค้นพบเรื่องนี้จนได้และได้รีบพากันมาที่โ
วิกกี้สะอื้นไห้ อาจด้วยความจริงใจหรือเหตุผลอื่น ๆ “หยุดพูดแบบนั้นสักทีเถอะ เธอกำลังพูดถึง 'ส่วน' ไหนของเธอ? ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเงิน 30,000 ดอลลาร์นั้น นี่เธอเห็นฉันเป็นอะไร? ขอทานเหรอ? ฉันรักเขาจริง ๆ แต่นี่คือสิ่งที่ฉันได้รับอย่างนั้นเหรอ? แน่นอนว่าฉันจะต้องอารมณ์เสียสิ ฉันแค่อยากจะถามเขาว่าทำไม? ฉันแค่บอกครอบครัวของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการให้ครอบครัวนี้ได้กลับมารวมกันในช่วงเวลาสุดท้ายของเขาอีกครั้ง ฉันผิดเหรอ? เลิกดูถูกฉันซะทีเถอะ”ดวงตาของแอเรียนเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเศร้า เธอรู้สึกเศร้าแทนเอริก สิ่งสุดท้ายที่เอริกต้องการคือให้พวกนาธาเนียลค้นพบเกี่ยวกับความตายที่ใกล้จะมาถึงของเขา แต่วิกกี้ก็พาคณะละครสัตว์ทั้งหมดนี้มาอยู่ดี เพื่อที่เธอจะได้รับส่วนแบ่งเมื่อพวกนาธาเนียลแบ่งทรัพย์สินของเอริก!แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ “วิกกี้ ฉันจะไม่เถียงกับเธอหรอก ฉันไม่ต้องการก่อเหตุ ไม่ใช่ในขณะที่ชีวิตของเอริกกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เธอควรจะทำตัวให้ดีเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้เธอเสียใจแน่!”วิกกี้มองดูพวกนาธาเนียลและตระหนักว่าไม่มีใครมีท่าทีว่าจะพูดอะไรเพื่อปกป้องเธอเลย เธอกลัว
“ถ้าฉันอยู่ด้วยน่ะเหรอ? ไม่ต้องห่วงเลย จะไม่มีใครได้เข้ามาเว้นแต่นายจะอนุญาต” แจ็คสันพูดด้วยความเย็นชาเอริกส่ายหัว "ไม่เป็นไร ปล่อยพี่สาวฉันเข้ามา เธอเป็นคนเดียวในครอบครัวนาธาเนียลที่มีมนุษยธรรม”แอเรียนผงกศีรษะให้แจ็คสันเรียกพี่สาวของเอริกเข้ามา แจ็คสันเข้าใจและเปิดประตู พวกนาธาเนียลกำลังรับประทานอาหารอยู่และดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับความอัปยศในโรงพยาบาล เมื่อประตูเปิดออกพวกเขาก็เตร่เข้ามาเหมือนแมลงวันที่กำลังบินไปตอมไก่เน่าแจ็คสันขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ สายตาของเขากวาดไปมารอบ ๆ ทุกคนขณะที่ตัวเขายืนนิ่งเงียบ จากนั้นเขาก็เห็นว่าพี่สาวของเอริกเป็นคนเดียวที่ยังคงนิ่งและเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับประทานอาหารกับพวกเขา เอริกพูดถูก พี่สาวของเขาเป็นคนเดียวในครอบครัวที่มีมนุษยธรรมจริง ๆ“พี่สาวครับ เอริกขอให้คุณเข้าไปข้างใน” เขาเรียกเธอว่า "พี่สาว" เพราะเห็นแก่เอริกพี่สาวของเอริกตกตะลึง "อ้อ… โอเค"เอริกยิ้มให้พี่สาวของเขาเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้อง “สวัสดีครับพี่สาว”พี่สาวของเขายกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาที่หางตาและยิ้มกลับมาให้เขา “ฉันขอโทษนะ ฉันดูแลนายได้ไม่ดีเลย ฉันละเลยนายตั้งแต่ที่ฉั
เสียงฝีเท้าของพี่สาวของเอริกหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน เธอจ้องไปที่ญาติ ๆ ของเธอด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื้อหูของตัวเอง "พวกคุณทำอะไรของพวกคุณ? ฮะ? คุณพ่อ ลูกชายของคุณตายแล้วนะ พี่ใหญ่ น้องชายของพี่ตายแล้ว! เขาติดค้างอะไรพวกคุณเหรอ? ไม่มีเลย! สิ่งของเหล่านั้นทั้งหมดเป็นของเขาคนเดียว พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับมันจากเขาแม้ว่าเขาจะนำพวกมันลงหลุมศพไปด้วยก็ตาม! บางคนนี่น่าเกลียดจนน่าสะอิดสะเอียนจริง ๆ! การเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงชะมัด!”พี่ชายสองคนของครอบครัวนาธาเนียลยังคงยึดมั่นในความหวังที่จะได้รับทรัพย์สินของเอริก มีเพียงคุณนาธาเนียลเท่านั้นที่พิจารณาเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ “พวกนายทุกคนหุบปาก! ลืมมันเถอะ พวกเราไม่ควรจะมาที่นี่ตั้งแต่แรก ปล่อยให้เขาได้ไปอย่างสงบเถอะ…”วิกกี้สามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นเธอก็ตระหนักว่าเอริกตายแล้ว เธอหดตัวบนม้านั่งจากความซึม ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ผู้ชายที่เคยหัวเราะ พูดคุย ทานอาหารและนอนกับเธอเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ตายไปแล้วจริง ๆ… เขาจากโลกนี้ไปแล้วทันใดนั้นเธอก็ตระหนักว่าเธอทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เธอไม่เคย
พวกเขากำลังจะโต้กลับ แต่เมื่อเห็นแจ็คสันเดินออกมาจากวอร์ด พวกเขาจึงรีบจากไปด้วยความกลัว วิกกี้ลุกจากที่นั่ง “เธอหาเรื่องทะเลาะพอแล้วหรือยัง? ฉันจะกลับแล้วเหมือนกัน… ในเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะพบฉัน ฉันก็จะไม่เข้าไปพบเขา…”ความโกรธของแอเรียนเกือบจะลดลงเมื่อเธอตบคน ๆ นั้น เธอไม่ได้สาธยายกับมันนานเพราะตอนนี้วิกกี้ก็ไม่ได้ทำตัวน่ารังเกียจนัก “เอริกสัญญาว่าจะให้เงินเธอ 30,000 ดอลลาร์แทนความเมตตาที่เขามีต่อเธอไม่ว่าเธอจะเคยทำอะไรเขาไว้บ้างก็ตาม เอาหมายเลขบัญชีธนาคารของเธอมา ฉันจะโอนเงินให้เธอในภายหลัง”วิกกี้ส่ายหัว "ไม่จำเป็น สิ่งที่ฉันต้องการจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งเหล่านั้น”แอเรียนไม่ได้ยืนกราน “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เธอ ถ้าเธอไม่ต้องการมัน ฉันก็จะเอามันไปบริจาค ปล่อยมันไปนั้นแหละดีแล้ว”ทิฟฟานี่กำลังตั้งครรภ์ มาร์คจึงขอให้แจ็คสันไปส่งเธอกลับบ้านก่อน แอเรียนก็ต้องดูแลสมอร์ ดังนั้นเธอจึงถูกส่งกลับบ้านพร้อมกับทิฟฟานี่ด้วย มาร์คอยู่ในโรงพยาบาลต่อคนเดียวเพราะเขายังมีสิ่งที่ต้องจัดการเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเอริกเมื่อต้องมองดูเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลโดยปราศจากลมหายใ