ログインความเจ้าชู้และความเห็นแก่ตัวทำให้เขานั้นได้เสียสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต และกว่าเขานั้นจะคิดได้ทุกอย่างมันก็สายไปเสียแล้ว ในวันนั้นวันที่รมิตาได้มาบอกว่ากำลังตั้งท้อง เขาเลือกที่จะปฏิเสธเธอกับลูกในท้อง เหตุผลเพียงเพราะไม่อยากเสียแฟนสาวไป และเรื่องไม่จบง่ายๆถ้าทางฝั่งแฟนสาวรู้เรื่องนี้ ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอให้กับรมิตาว่า จะขอส่งเสียเลี้ยงดูเธอกับลูก เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่รู้ตัวว่าโดนหลอก ชายหนุ่มคนที่เคยบอกว่ารักเธอแท้จริงแล้วเขามีคนรักอยู่แล้ว และยังมาบอกอีกว่าแค่รักสนุก ไม่ได้คิดอะไร ถึงแม้ว่าเขาจะแสดงความรับผิดชอบโดยการจะส่งเสียเลี้ยงดู แต่เธอมีศักดิ์ศรีมากพอจึงเลือกปฏิเสธข้อเสนอแล้วเลือกเดินออกจากชีวิตผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ตั้งแต่นั้นชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป จากที่เป็นนักศึกษาเรียนดีได้รับทุนการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัย ชีวิตของเธอคือเรียนหนังสือแล้วทำงานส่งตัวเองเรียนเพราะทางบ้านค่อนข้างยากจน จากเดิมที่เคยลำบากอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งลำบากขึ้นไปอีกเพราะยังมีอีกชีวิตหนึ่งที่ต้องดูแล
もっと見るบรรยากาศในร้านกาแฟยามบ่ายค่อนข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องชงกาแฟดังแผ่วๆ หญิงสาวคนหนึ่งนั่งก้มหน้า กวนช้อนในแก้วไปมาเหมือนมีเรื่องในใจ จนเพื่อนสนิทที่นั่งตรงข้ามเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“มิ้ง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมพักนี้เธอดูแปลกๆ เหมือนคนแพ้ท้องเลย” มือที่ถือช้อนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบส่ายหน้า “เปล่านะ ฉันเครียดเรื่องงานนิดหน่อย” “งานที่แกทำประจำอ่ะหรอ” “ใช่ๆ” “แล้วมันทำไมอ่ะ มีอะไรแกบอกฉันได้นะ” ริมฝีปากเม้มแน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะถอนหายใจ “คือฉันลาออกแล้ว ตอนนี้ก็กำลังหางานใหม่ ยังหาไม่ได้เลย” “เอางี้ไหม ฉันจะลองกลับไปถามพี่ชายให้ช่วยหาพื้นที่ให้เช่าสำหรับขายของ” “มันแพงอ่ะดิ แล้วฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะขายอะไร” “ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น เอาเป็นว่าแกกลับไปให้ได้ก่อนว่าจะขายอะไร ถ้าคิดออกแล้วมาบอกฉัน” แววตาที่เศร้าหมองเปลี่ยนเป็นประกายอุ่นวาบ “ขอบใจมากเลยนะ นิว แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลย” “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องเล็กน้อย” “นิว…” “หือ.. แกเรียกชื่อฉันทำไม?” ริมฝีปากสั่นน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยเบา “เรามีความจริงบางอย่างจะบอกแก” “ความจริง?” “คือ…เราท้อง” “ห๊า แกท้อง!” “เบาๆ สิ แกจะเสียงดังทำไม” สายตาอีกฝ่ายเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ “ว่าแล้ววว แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ไหนแกเล่ามาให้ละเอียดเลยนะ ใครเป็นพ่อของเด็ก เพราะฉันไม่เคยเห็นว่าแกจะมีแฟนกับเขา” เสียงแผ่วลง ราวกับเล่าเรื่องที่เก็บงำมานาน “คืออย่างงี้นะ สามเดือนที่แล้ว แกจำได้ไหมที่ฉันบอกว่าเจ้าของร้านจะจัดงานเลี้ยงให้กับพนักงาน” “อ่ะๆ จำได้” “วันนั้นมีเพื่อนของเจ้าของร้านมาร่วมกินงานเลี้ยงด้วย” “แกหมายถึงพ่อของเด็กอ่ะหรอ” “ใช่…คืนนั้นฝนตกหนักมาก เขากับเจ้าของร้านอาสาไปส่งพนักงานที่กลับเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นก็มีฉันด้วย หลังจากที่ไปส่งครบทุกคนแล้วเหลือแค่ฉันกับเขา ระหว่างนั้นเขาขอไลน์ ตอนนั้นฉันเองก็รู้สึกดีกับเขา เลยให้ไลน์เขาไป ตั้งแต่นั้นมาเราก็คุยกัน จนกระทั่งเขาชวนไปเที่ยว ไปดูหนัง” น้ำเสียงสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ “มีอยู่คืนนึงเขาขอมาที่ห้อง ด้วยความที่ฉันเห็นว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความสุภาพบุรุษ จึงยอม วันนั้นเขาขอมีอะไรด้วย ฉันบอกเขาไปว่าฉันไม่เคยและยังไม่พร้อม แต่เขาบอกว่าเขารักฉัน เพราะคำว่ารัก ฉันเลยมอบกายมอบใจให้เขา วันนั้นเราไม่ได้ป้องกัน แต่โชคดีที่ฉันไม่ท้อง ตลอดระยะเวลาที่เรามีอะไรกัน ฉันอาศัยวิธีนับวันปลอดภัย แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะพลาด…แกรู้ไหมว่าวันที่ฉันไปบอกกับเขาว่าท้อง เขาตอบกลับฉันว่ายังไง?” เสียงสะอื้นค่อยๆ ดังขึ้น น้ำตาร่วงหล่นจนผู้คนรอบๆ เริ่มเหลียวมอง เพื่อนตรงหน้าต้องรีบก้มกระซิบปลอบ “ใจเย็นแก ถ้าแกยังไม่พร้อมที่จะบอกฉันตอนนี้ก็ไม่เป็นไรนะ” “ไม่เป็นไร…ฉันไม่เป็นอะไร” “จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง แกร้องไห้ดังขนาดนี้ คนอื่นเขามองเราอยู่ไม่เห็นหรือไง” หญิงสาวสูดหายใจลึก พยายามตั้งสติ ก่อนพูดทั้งน้ำตา “แกพาฉันไปหาไอ้ผู้ชายสารเลวนั่นที ฉันจะเป็นคนจัดการมัน” เพื่อนสาวที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดถึงกับโกรธแทนขึ้นมา “ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ต่อไปนี้ฉันจะดูแลลูกเอง” “ลำพังตัวแกคนเดียวทุกวันนี้ก็ลำบากมากพอแล้ว แกยอมให้ผู้ชายแบบนั้นมาเอาเปรียบแกหรอ ฉันว่าแกรับเงินจากเขาก็ไม่เสียหายอะไรนะ อย่างน้อยๆ แกกับลูกก็จะได้ไม่ลำบาก” “แล้วแกดูสิ่งที่เขาทำกับฉันสิ เขาโกหกฉัน เขาเห็นฉันเป็นแค่ของเล่น ยังไงซะฉันก็ไม่รับเงินสกปรกนั่นเด็ดขาด” “ตามใจ…ยังไงๆ ฉันอยากให้แกรู้ไว้นะ ว่าฉันจะอยู่ข้างแกเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” สองร่างโอบกอดกันแน่น เพื่อถ่ายทอดกำลังใจให้กันและกัน ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่มองมาอย่างไม่เข้าใจ แต่สำหรับทั้งคู่แล้ว เวลานี้มีเพียงกันและกันเท่านั้นที่สำคัญที่สุดเมื่อลูกทุกคนนอนหลับกันแล้วเขาและเธอก็พากันอาบน้ำเตรียมเข้านอน เธอนั้นออกมาจากห้องน้ำก่อนแล้วนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดเรือนร่างไว้ เธอนั่งตรงปลายเตียงแล้วจ้องมองสามีที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวไว้ ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นตอนนี้คือร่างกำยำของสามีนั้นเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะตามตัว ส่วนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนจ้องอยู่ เขาเดินตรงไปยังหน้ากระจกบานใหญ่แล้วใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมต่อ เมื่อผมแห้งแล้วเขาหันหน้าไปทางเตียงแล้วพบกับเธอที่นั่งจ้องเขาด้วยท่าทางเย้ายวน น้องชายของเขาค่อยๆขยายใหญ่แล้วชี้ตั้งขึ้นไปทางเธอ เธอขยับตัวไปข้างหลังแล้วยกขาที่ห้อยอยู่ขึ้นมาไว้บนที่นอนจากนั้นก็ชันเข่าขึ้นแล้วค่อยๆอ้าขาเป็นรูปตัวเอ็มเธอกวักนิ้วเรียกสามีด้วยสีหน้ายั่วยวน เขาเดินไปหาเธอด้วยสีหน้าหื่นจัดแล้วกลืนน้ำลายลงคอจนเห็นลูกกระเดือกที่คอขยับ เมื่อถึงปลายเตียงเขาคุกเข่าลงแล้วซุกใบหน้าเข้าหากลีบกุหลาบทันที กลิ่นแชมพูหอมๆกระตุ้นให้เธอมีความต้องการทางอารมณ์เพิ่มขึ้น เขาสอดใส่นิ้วทั้งสามเข้าไปในคราเดียวและมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันสามารถเข้าไปได้นั่นเป็นเพราะช่องทางรัก
2ปีต่อมา พวกเขาพาลูกๆทั้งสี่คนมาฉลองงานวันเกิดของลูกชายคนเล็กบนดาดฟ้าใจกลางเมือง " แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู.... " เป่าเค้กสิน้องพอร์ช ในระหว่างที่ทุกกำลังกินเค้กกันอยู่นั้นเจ้าของวันเกิดกลับไม่สนใจเค้กก้อนโตตรงหน้า เด็กชายซุกหน้าตรงหน้าอกผู้เป็นแม่แล้วพยายามล้วงมือเข้าไปข้างในเสื้อเธอ" น้องพอร์ชอย่าทำแบบนี้สิคับ คนเยอะ" มี้กินๆ" กินเค้กไปก่อนสิคับ กลับไปในรถเดี๋ยวหม่ามี้ให้กินนม" แงๆเมื่อโดนขัดใจเด็กชายเริ่มงอแง" น้องพอร์ช ขอหม่ามี้กินข้าวก่อนได้ไหมคับ จู่ๆลูกชายเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีล้วงเอาหน้าอกเธอออกมาข้างนอกจนได้" ว้ายย! ตายแล้ว เขารีบหาผ้ามาคุมให้กับเธอส่วนลูกชายเธอก็เอาเต้าเข้าปากจนได้ เธอทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องให้นมลูกชายในที่สาธารณะ ส่วนเขาก็จ้องลูกชายเชิงตำหนิและรู้สึกหวงถ้ามีผู้ชายคนอื่นเห็นเธอตอนให้นมลูก " หม่ามี้ถ้ากลับไปที่รถน้องพราวของกินด้วยนะคะ" น้องพราวกินเค้กไปแล้วขนมก็กินแล้วนี่ก็กินข้าวยังจะกินนมหม่ามี้อีกหรอคะ " น้องพราวขอกินนิดเดียวค่ะ " หม่ามี้จะให้กินก็ต่อเมื่อน้องพราวกินผักในจานนั่นให้หมดก่อน " น้องพราวไม่ชอบกินผักน
เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องคลอดเขาก็พาลูกๆทั้งสามคนนั่งรออยู่ข้างนอก" อุแว้ๆๆ" เด็กๆหม่ามี้คลอดแล้ว " เย้ น้องพราวจะได้เป็นพี่แล้ว" คุณหมอครับลูกกับเมียผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ" ปลอดภัยทั้งคู่ครับ คุณหมอยินด้วยนะครับคุณพ่อลูกดก " ดกอะไรกันหมอ แค่สี่คนเอง " เยอะอยู่นะครับ แล้วจะทำหมันเลยไหมครับเนี่ย" ไม่ครับเผื่ออนาคตอยากมีเพิ่มอีกสักคนสองคน" นี่แซวหมอเล่นใช่ไหมครับ" ไม่ได้แซวครับ ผมพูดจริงๆ " ยอมแล้วครับ55" ขอบมากๆนะครับคุณหมอ" ครับ งั้นคุณหมอขอตัวก่อนนะครับ เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องพักฟื้น เขาและลูกๆทั้งสามก็ตามไปเยี่ยมเธอทันที" หม่ามี้ ขอน้องพราวดูหน้าน้องหน่อยค่ะ" น้องกำลังกินนมอยู่ค่ะ " แดดดี้ขาอุ้มน้องพราวขึ้นหน่อยค่ะ " ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวก็ได้เห็น " แต่น้องพราวอยากเห็นตอนนี้ " ถ้าแดดดี้อุ้มแล้วต้องสัญญานะว่าจะลดน้ำหนัก " ค่ะ " อุ้มลูกวางไว้บนเตียงนี่แหละจะได้ไม่หนักคุณ" กินเยอะแล้วเห็นไหม ลำบากแดดดี้เลย " หม่ามี้ขาทำไมน้องกินนมเก่งจัง" ตอนน้องพราวเกิดใหม่ๆก็กินนมเก่งเหมือนกันค่ะ " แดดดี้ก็กินนมเก่งไม่แพ้น้องเลย
" หม่ามี้ขาขอน้องพราวจับน้องหน่อยได้ไหมคะ " ได้สิคะ " น้องแพรวขอจับด้วยคนค่ะ " หม่ามี้น้องดิ้นด้วย " สงสัยน้องอยากออกมาคุยด้วย " แล้วน้องชื่ออะไรคะ" น้องยังไม่มีชื่อเลยค่ะ " น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ " ผู้ชายค่ะ " คุณแม่ขาน้องพราวอยากเจอน้องแล้วเมื่อไหร่น้องจะออกมาคะ" อีกแค่อาทิตย์เดียวค่ะ " น้องพราวขอคุยกับน้องได้ไหมคะ" ได้สิคะ" ฮัลโหล นี่พี่พราวนะน้องอยู่ในนี้เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม๊ " สบายดีกั๊บ แล้วพี่ๆอยู่ข้างนอกสนุกไหมกั๊บ" ไม่ใช่เสียงน้อง เสียงหม่ามี้" ก็น้องสั่งให้หม่ามี้พูดแบบนี้ไงคะ" พี่ๆสนุกมากเลยค่ะ ข้างนอกมีของกินอร่อยๆเยอะแยะเลย น้องต้องชอบแน่ๆ " พี่พราวอย่ากินเยอะนะกั๊บ ตัวอ้วนเท่าลูกหมูแล้ว" น้องเห็นพี่พราวด้วยหรอ " ผมแค่ได้กลิ่นช็อกโกแลตในปากพี่พราวเฉยๆกั๊บ พี่พราวกินขนมเยอะมันไม่ดีนะกั๊บรู้ไหม๊ " หม่ามี้น้องว่าให้น้องพราว " ก็น้องพราวกินช็อคโกแลตบ่อยนี่ น้องเหม็น" น้องพราวกินนิดเดียวเองนะคะหม่ามี้ " ใครแอบกินช็อคโกแลตพี่ น้องพราวใช่ไหม" ป่าวสักหน่อยพี่แพรวต่างหาก " พี่แพรวไม่ได้กินของพี่ธาม พี





