เข้าสู่ระบบเธอถูกเพลิงพิศวาสของเขาแผดเผา ส่วนเขา... กลับติดบ่วงราคีสวาทที่ตั้งใจมอบให้เธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ดูเพิ่มเติมเอี๊ยด!!! เสียงเบรกรถดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เพราะล้อรถยนต์เบียดอัดกับถนนเต็มกำลัง คนขับถึงกับสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะเปิดประตูลงมาด้วยความโมโหเตรียมใส่อารมณ์เต็มที่ เนื่องจากเพิ่งมีปากเสียงกับมารดามาหยกๆ
“เดินยังไงแม่คุณ ไม่เห็นรถหรือไง อยากตายมากนักใช่ไหม” คนปากร้ายมองคู่กรณีอย่างหาเรื่องเต็มที่ ก่อนจะหรี่ตามองอย่างครุ่นคิด แล้วลูบคางไปมาเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้
“คุณนั่นแหละบ้า ขับรถยังไง ตาบอดหรือ มองไม่เห็นคนหรือไง เลี้ยวออกมาเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่ชนคนอื่นตาย รถก็คงพลิกคว่ำ ใบขับขี่ที่มีอยู่น่ะ ซื้อมาหรือเปล่า” ปิ่นแก้วเงยหน้าขึ้นตอบโต้คนตรงหน้า รัชภาคย์เห็นหน้าคนที่เงยหน้าขึ้นมาเต็มตาแล้วถึงกับอึ้ง สวย น่ารัก ตาโต จมูก ปาก คิ้วคางเหมาะเจาะ สวยกว่ารูปที่มารดาให้ดูเสียอีก
ผู้หญิงคนนี้นี่เอง!!! คนที่มารดาเอ็นดูนักหนา นี่น่ะเหรอลูกสาวเพื่อน ที่บอกว่าจะให้มาเป็นเลขาฯ ของเขา คงไม่ได้แค่มาเป็นเลขาฯ อย่างเดียว คิดจะมาอ่อยเขาด้วยล่ะมั้ง ก็สวยอยู่หรอก เขาเล่นด้วยสักพักก็คงเบื่อเหมือนผู้หญิงคนก่อนๆ
“คนอะไรไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย แทนที่จะมาช่วย ผู้ชายเดี๋ยวนี้ นิสัยเป็นแบบนี้กันหมดหรือไงกัน” ปิ่นแก้วบ่นอุบ พยายามลุกขึ้นอย่างทุกลักทุเล เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะดีที่หลบทัน แค่รู้สึกเจ็บสะโพกเนื่องจากล้มลงไปเมื่อครู่
“สำออยหรือเปล่า อยากเรียกร้องเงินว่างั้นเถอะ ถึงเดินมาให้รถชน จะได้เรียกค่าทำขวัญให้หนัก” รัชภาคย์กะว่าจะพูดดีๆ แล้วเชียว แต่เธอมองเหมือนรังเกียจ เขาเลยเปลี่ยนใจ นี่เธอทำเป็นไม่รู้จักเขาได้แนบเนียนไปหรือเปล่า ทั้งๆ ที่เธอควรจะรู้จักเขาดีทีเดียวเชียว ในเมื่อมารดาเพิ่งจะสาธยายเรื่องของเธอให้ฟังอยู่หยกๆ เขาแค่เบื่อกับการที่มารดาจะหาผู้หญิงให้ เขาคงไม่รักผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว นอกจากราชาวดี แม้เธอจะไม่ได้รักเขาอีกแต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นเธอมีความสุข แค่นั้นก็พอใจแล้ว ส่วนผู้หญิงคนอื่น ไม่มีใครมาแทนที่ราชาวดีได้เลย แต่ละคนหวังแค่เงิน ไม่มีความจริงใจให้เลยสักคนเดียว
“เอ๊ะ! ปล่อยนะ” เธอสะบัดมือเขาออก แต่รัชภาคย์ไม่ยอมปล่อย นอกจากจะปากร้ายแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังไว้ใจไม่ได้อีกด้วย ปากว่ามือถึง หาเรื่องจะลวนลามเธอท่าเดียว
“อ้าว... อยากให้ฉันช่วยไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง... ฉันช่วยประคองเธอแล้ว อะไรของเธออีกล่ะ” เขาทำเสียงดุใส่ เมื่อเห็นเธอสะบัดหนี ไม่ชอบให้ใครมาทำกิริยารังเกียจหรือเมินใส่แบบนี้ ถ้าจะเมิน เขาเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายเมิน ไม่ใช่คนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งเป็นเพศที่น่ารำคาญที่สุดในสามโลก ยกเว้นผู้หญิงที่เขารักเท่านั้น
“โรคจิต อยากจะแต๊ะอั๋งฉันล่ะสิ แล้วนี่มองอะไร อย่ามองนะ” ปิ่นแก้วรวบคอเสื้อเอาไว้ทันทีเมื่อเขาลากสายตาผ่านไปที่หน้าอกของเธอ ผู้ชายชีกอ โรคจิต วิปริต จิตทราม ทำไมถึงได้โชคร้ายมาเจออีตานี่ด้วยนะ
“อ้าว... ก็ฉันสูงกว่า ไม่ให้ก้มคุยกับเธอแล้วจะให้เงยหน้าหรือไง หน้าฉันมันก็จ๊ะเอ๋กับอกแบนๆ ไข่ดาวของเธอเข้าพอดิบพอดี” เขาพูดกวนโมโห ใครบอกว่าอกเธอแบนเป็นไข่ดาวกันเล่า อวบอึ๋มน่าขย้ำจะตายไป แต่เธออยากจะปากดีกับเขา เขาไม่มีวันชมให้เธอเหลิงหรอก
“กรี๊ด... ผู้ชายบ้า ปากร้าย ปากจัด อกฉันไม่ใช่ไข่ดาวนะ” เธอกรีดร้อง เกลียดคำพูดดูถูกของเขาที่สุด มือจิกเสื้อตัวเองแน่น มองเขาตาเขียวปั๊ด
“จริงเหรอ... ไหนลองจับดูหน่อยสิ ทดสอบว่าไม่ใช่ไข่ดาวจริงๆ อย่างที่เธออวดอ้าง” เขาทำตาวาว มองหน้าอกเธอไม่วาง ยายเลขาฯ ที่คุณแม่หาให้เขา ยั่วขึ้นเสียด้วยสิ แค่พูดนิดหน่อยก็อารมณ์ขึ้น นี่ถ้าอยู่บนเตียงจะอารมณ์ขึ้นขนาดไหนกันนะ เขาเผลอลูบคางไปมาอย่างครุ่นคิด
“ก็จับสิ เฮ้ย! ไม่ใช่ ไอ้บ้า ไอ้ลามก ไอ้ทะลึ่ง!” เธอผลักเขาออกห่าง มองตาเขียว อายจนหน้าแดงที่เผลอพูดผิดพูดถูกให้เขาหัวเราะเอาได้
รัชภาคย์หัวเราะลงลูกคอตาวาวเจ้าเล่ห์ ชอบใจที่ได้แกล้งคนปากดี แม้จริงๆ แล้วตอนที่เขาเข้าใกล้และสัมผัสเธอ เธอจะนุ่มนิ่มและกลิ่นกายหอมกรุ่นเพียงใด แต่เขาก็ใจแข็งเอาไว้ ผู้หญิงก็ชอบยั่วยวนทำให้ตัวเองน่าปรารถนาไปแบบนั้นเอง เขาไม่หลงกลง่ายๆ หรอก
“เอามาเลย ค่าที่คุณขับรถเฉี่ยวฉัน” เธอแบมือออกไปตรงหน้าเขา เรื่องอะไรจะเจ็บตัวฟรีๆ ถึงแม้ว่าอีกไม่กี่วันจะต้องไปทำงาน แต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ทำงานนี่นา
รัชภาคย์ที่ยิ้มเจ้าเล่ห์แต่แรกหุบยิ้มทันที ผู้หญิงก็เห็นแก่เงินเหมือนๆ กันหมด เขาหรี่ตามอง กวาดสายตาขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดเท้า ปิ่นแก้วถลึงตาใส่ ถอยหนีเมื่อเห็นสายตาจาบจ้วงนั้น
“อยากได้เงินจนเอาตัวเองมาให้รถเฉี่ยว มุขตื้นๆ กระจอกๆ แบบนี้เลิกหากินได้แล้ว ฉันไม่ให้ มีอะไรไหม” เขาตอบหน้าตาย ดูสิว่าเธอจะมาไม้ไหน เมื่อกี้มารดาเพิ่งแจ้งกับเขาว่าเธอจะมารายงานตัวอีกสองสามวันข้างหน้า เขาเลยปฏิเสธมารดาเสียงแข็ง ไม่รับเธอมาเป็นเลขาฯ เด็ดขาด เพราะคาดเดาแผนการของมารดาออกตั้งแต่ท่านอ้าปากพูดแล้ว
“หน้าตาไม่ดีแล้วยังนิสัยไม่ดีอีก ถ้าไม่ให้... ฉันจะไปแจ้งความ” พอเธอพูดแบบนั้น เขาก็ระเบิดหัวเราะออกมา ก่อนจะหยุดหัวเราะแล้วมองเธออย่างดูถูก
“เชิญตามสบายเถอะแม่คุณ ฉันก็จะบอกว่าเธอแกล้งเดินมาให้รถชน เพื่อจะเรียกร้องเงิน” เขากอดอกมอง เหยียดหยามเธอเต็มที่ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอได้งานจากแม่ของเขาแล้ว แต่เขาอยากพูดให้เธอเจ็บใจเล่น ไปทำงานจริงๆ เมื่อไรจะแกล้งให้หนำใจเลยคอยดู จะทำให้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ลาออกแทบไม่ทันเลยไม่เชื่อก็ลองดูสิ
“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้เป็นมิจฉาชีพนะ แต่คุณขับรถเร็วเฉี่ยวฉันจริงๆ ฉันไม่ได้แกล้ง” เธอแทบเต้นเมื่อโดนกล่าวหา
“หน้าตาก็สวย เอาแบบนี้ไหม ไปขึ้นเตียงกับฉัน รับรองว่าได้มากกว่าค่ารถเฉี่ยวนี่อีก” เขายื่นข้อเสนอ ไหนๆ มารดาก็ส่งเธอมาเป็นเลขาฯ ของเขาแล้ว พ่วงด้วยตำแหน่งนางบำเรออีกตำแหน่ง จะตอนนี้หรือตอนไหน มันก็ไม่ต่างกันหรอก
“ไม่มีทางเสียหรอก คนสารเลว คิดอะไรต่ำๆ” เธอสวนกลับ มองเขาเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“งั้นก็ตามใจ เสนอเงินให้เยอะกว่าไม่เอา ดูรูปร่างหน้าตาแล้วก็คงผ่านมาเยอะ” เขายักไหล่ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“ไอ้ผู้ชายงี่เง่า ดูถูกฉันแบบนี้ได้ยังไง” เธอโมโหเดินไปด้านหลังเขา เอากระเป๋าฟาดเข้าไปเต็มแรง ใจจริงอยากจะฟาดให้โดนหัว แต่พลาดไปโดนหลังแทนเพราะเขาตัวสูงกว่าเธอมาก
“โอ๊ย! ยายผู้หญิงบ้า เป็นอะไรของเธอนี่ กล้าทำร้ายฉันอย่างนั้นเหรอ อยากตายนักหรือไงห้ะ” เขาหันมารวบร่างเธอเอาไว้ หญิงสาวตาโตดิ้นหนีอุตลุด
“ปล่อยนะ ปล่อยสิไอ้บ้า!”
“ไม่ปล่อย ฉันรู้แล้ว นี่เป็นการเรียกร้องความสนใจของเธอ อยากให้ฉันหิ้วขึ้นรถแล้วพาเข้าม่านรูดใช่ไหม” เขารวบเธอเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“ไอ้เลว ไอ้บ้า ไม่ใช่นะ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย!” เธอดิ้นสุดแรง แต่ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งกอดรัดจนหายใจไม่ออก
“เธอเดินเข้ามาเองนะ เดี๋ยวฉันจะสงเคราะห์ให้ สวยๆ แบบเธอจะจัดหนักจัดเต็มให้เลยเอาไหม ได้ยินขนาดนี้ดีใจจนเนื้อเต้นใช่ไหมที่ฉันทุ่มสุดตัว อ้าว... ดิ้นเข้าไป นมเธอจะชนหน้าฉันแล้วเห็นไหม” เขาแกล้งว่า ยายนี่แหย่นิดแหย่หน่อยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ปล่อยนะ ไอ้บ้า ไอ้ลามก ฉันจะร้องให้คนช่วย” เธอพูดเสียงหอบ หน้าแดงก่ำด้วยความโมโห
“ร้องไปเลย แต่ร้องใต้ร่างฉันนะ” เขากระชากเน็กไทที่สวมอยู่ออกมามัดข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมามัดปากต่อ ก่อนจะเปิดประตูหลัง จับเธอยัดเข้าไปในรถ
นานๆ จะเจอผู้หญิงแบบเธอสักที ที่ผ่านๆ มามีแต่ผู้หญิงมาเสนอให้ จนน่าเบื่อและน่ารำคาญ“ฉันจะกลับบ้าน” ปิ่นแก้วบอกเขาเสียงแข็ง เธอจะอยู่ให้เขารังแกอีกหรือไง มันบ้าบอสิ้นดี“ถ้าเธอมีปัญญาออกจากห้องฉัน ก็ไปสิ ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะ” เขาพูดอย่างไม่แคร์ปิ่นแก้วเม้มปากแน่นอย่างเจ็บใจ เธอทำท่าจะไปคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ แต่อยากจะร้องไห้เพราะมันขาดวิ่น สภาพไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้ว แล้วทีนี้เธอจะสวมอะไรออกไปล่ะนี่“คุณทำได้ยังไง” เธอทำหน้าเหมือนอยากจะทำร้องไห้“ฉันทำอะไร” เขาแกล้งทำเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด“คุณฉีกเสื้อผ้าฉัน แล้วฉันจะสวมอะไรล่ะทีนี้” เธออยากจะฆ่าเขานัก“ใครอนุญาตให้เธอกลับบ้านกันเล่า” เขาเท้าสะเอวมองเธออย่างคุกคาม ที่พูดไปเมื่อกี้นี้มันไม่เข้าไปในสมองของเธอเลยหรือไงกันนะ“ฉันไม่ให้เธอไป” ปิ่นแก้วได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะตั้งสติ พูดจาดีๆ กับเขา เพราะดูแล้วเขาไม่ชอบให้ใครขัดใจ“ฉันขอยืมเสื้อผ้าคุณได้ไหม” เธอทิ้งประเด็นที่เขาบอกว่าไม่ให้ออกจากห้องนี้ไป และขอร้องเขาแทน“ฉันคิดค่ายืม คิดแพงเสียด้วยสิ เธอยินดีจ่ายหรือเปล่าล่ะ” คำถามของเขา สายตาของเขาทำให้เธอขนลุกซู่ เขามันเจ้าเล่ห์ ร้า
“คนบ้า ปล่อยนะ อื้อ...” รัชภาคย์ขยำสะโพกของเธอเต็มแรง จับยกขึ้นให้ริมฝีปากร้อนได้ซอกซอนเข้าสู่กลีบกายสาว ปลายลิ้นตวัดลามเลียอย่างกระหาย สอดแทรกเข้าออกในโพรงนุ่มอันแสนคับแคบ ปิ่นแก้วครางไปด่าไปจนระทวย เขาใช้ลิ้นชำนาญการปลุกเร้าให้เธอสุขสมในเวลาอันรวดเร็วเสียงดูดกลืนน้ำหวานจากซอกกายสาวทำให้ปิ่นแก้วหน้าแดงจัด กระถดสะโพกหนีเมื่อเห็นเขาผละห่างจากส่วนนั้น เธอส่ายหน้าเมื่อเขาแยกขาเธอออกอีกครั้ง“ไม่ไหวแล้ว” เขาพูดได้แค่นั้น รีบแทรกกายเข้ามาตรงหว่างขาของเธอ ประคองแก่นกายใหญ่โตเสียดสีกับกลีบผกากรองแสนสวย ปิ่นแก้วดิ้นหนีแต่ติดที่เขาล็อกสะโพกเอาไว้“กรี๊ด!!! คนบ้า เจ็บนะ ไอ้เลว”“เฮ้ย!” รัชภาคย์ร้องอย่างตกใจเมื่อเขาเสียบกายเข้าไปในร่างเธอพรวดเดียว แต่ความกระชับที่ตอดรัด และเยื่อพรหมจรรย์ที่ขาดสะบั้นทำให้เขาคาดไม่ถึง“ฮือๆๆ คนเลว ถอยออกไปนะ” เธอร้องด้วยความเจ็บ“ถอยไม่ได้แล้วล่ะคนสวย เอาเป็นว่าฉันจะเพิ่มเงินให้เธออีก หรือจะเอาเป็นรายเดือนดี อยู่กับฉันรับรองไม่ต้องทำงานงกๆ เป็นเลขาฯ ก็สบายไปทั้งชาติ” รัชภาคย์เสนอสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้เธอ เกิดมาก็เพิ่งนอนกับผู้หญิงบริสุทธิ์เป็นคนแรก ส่วนมากพวก
“ก็ถอยไปสิ” เธอขู่ฟ่อ มองอย่างระแวดระวัง เขามันเป็นพวกไว้ใจไม่ได้ ให้ตายเถอะ!“ไม่คิดว่าคนที่คุณแม่ส่งมาจะร้ายกาจขนาดนี้” เขาเริ่มหัวเสีย จะเล่นตัวอะไรกันนักกันหนา นี่เล่นทำลายข้าวของในห้องเขาอย่างบ้าคลั่ง แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่ใช่คนของใครหรืออะไรทั้งนั้น ไปเปิดประตูห้องสิ เร็วๆ เลย ไม่งั้นฉันฟาดแน่” เธอยื่นคำขาดเสียงเฉียบ ยังไงก็ต้องหนีออกไปจากห้องนี้ให้ได้“ได้ๆ วางลงแล้วกัน อันนั้นแพง” รัชภาคย์มองแจกันเขม็ง แม่นี่คงไม่ฟาดลงมาจริงๆ หรอกใช่ไหม นั่นมันของรักของหวงเขาเลยนะ“ก็ไปเปิดประตูก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะคืนให้คุณ” หญิงสาวยื่นคำขาด เห็นหนทางเอาตัวรอดเมื่อเขาหวงแจกันใบนี้จับใจ ถึงจะรวยขนาดไหน แต่ของแพงๆ แบบนี้เขาคงไม่อยากให้ตกแตกเสียหายอย่างแน่นอน ก็อย่างที่เขาพูด เธอทำงานอีกกี่ชาติก็คงไม่มีปัญญาซื้อให้เขาใหม่ ขนาดที่ซุกหัวนอนเธอยังต้องพึ่งคนอื่น แม่ก็ป่วยหนัก น้องก็ยังเรียนหนังสือไม่จบ“เร็วสิ” เธอมองอย่างระแวดระวัง“เชิญเลย เอาแจกันวางไว้ตรงนั้นด้วย” เขาชี้ไปยังแจกันที่เธอถืออยู่“ไม่! ฉันจะวางมันไว้หน้าประตู คุณค่อยมาหยิบไปเอง ฉันไม่ไว้ใจคุณ
“อ่อยอะ ไอ้อ้า...” เธอดิ้นรนแต่หนีไม่รอดเพราะโดนมัดปากมัดมือไพล่หลังเอาไว้ ได้แต่ร้องด่าเขาไปแบบนั้น เพราะไร้หนทางหนีออกไปจากรถได้เนื่องจากเขาล็อกรถอย่างแน่นหนา“เอาน่า... เดี๋ยวฉันสนองให้ถึงใจเลย รับรองว่าได้เงินก้อนใหญ่แน่ๆ” รัชภาคย์พูดแล้วหัวเราะน่ากลัว ตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดที่มารดากดดันเขาเรื่องแต่งงาน ผู้หญิงแต่ละคนที่มารดาหาให้ ไม่เกินอาทิตย์ทั้งนั้น พอได้เงินก็จากไปแต่โดยดี เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว ท่านยังไม่เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงพวกนั้นอีกว่าหิวเงินแค่ไหน ยังจะหาผู้หญิงมาให้เขาอีก ทั้งๆ ที่เขาไม่ต้องการใครทั้งนั้น“เธอโชคร้ายเองนะ ที่หาเรื่องมากระตุกหนวดเสืออย่างฉัน ฉันกำลังหงุดหงิด อารมณ์เสีย เธอก็ดันจะมาแบล็กเมล์เรียกเงิน ทั้งๆ ที่เธอเดินมาให้รถฉันเฉี่ยวเอง” เขายังไม่ยอมรับความผิด“อือๆๆ ไอ้อ้า...” ปิ่นแก้วส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน ด่าเขาไม่เป็นภาษาเพราะโดนมัดปากเอาไว้“เก็บเสียงไว้ร้องครางใต้ร่างฉันจะดีกว่า...” เขาเหยียบคันเร่งจนมิด จนคนที่กลัวความเร็วถึงกับหน้าซีดตัวสั่น เธอหลับตาปี๋ ก่อนที่เขาจะเบรกรถจนหัวทิ่ม ลงไปลากเธอออกจากรถเมื่อถึงที่หมาย“อือๆๆ” เธอดิ้นรนแต่เขาก็ไม่