ทันใดนั้นทิฟฟานี่ก็พุ่งตัวขึ้นราวกับว่าถูกทำให้ตกใจ ส่งผลให้ทั้งคู่มองหน้ากับพลางกุมหน้าผากตนเองด้วยความเจ็บปวด แจ็คสันไม่คาดคิดว่าทิฟฟานี่จะประมาททั้ง ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่และรีบพุ่งตัวขึ้นมาอย่างนั้นจนหน้าผากของเขากระแทกกับหน้าผากของเธอ เขาไม่ทันได้มีโอกาสที่จะหลบเธอด้วยซ้ำทิฟฟานี่เกือบจะน้ำตาซึมจากความเจ็บปวด “คุณทำอะไรของคุณเนี่ย? โอ๊ย เจ็บ…”เขาทั้งไร้เดียงสาและทำตัวไม่ถูก “คุณคิดอะไรของคุณ? ผมแค่ขึ้นมาปลุกคุณไปทานข้าว คุณลุกเบากว่านี้ไม่ได้เหรอ? ทั้งชีวิตผม ผมไม่เคยเจอผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ประมาทเท่าคุณมาก่อนเลย เอาล่ะ ลุกได้แล้ว ไม่อย่างนั้นกับข้าวจะเย็นก่อน”ทิฟฟานี่เหม่อลอยก่อนที่จะกลับมาได้สติอีกครั้ง “ฉันฝันว่าเราเลิกกันอีกแล้ว แต่แล้วฉันก็ได้ยินคุณเรียกฉันไปทานข้าว ฉันเลยจำได้ว่าเราแต่งงานกันแล้วและจะไม่มีวันเลิกกันอีก แต่ตอนนั้นฉันยังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ ฉันเลยแยกไม่ออกว่าอันไหนความฝัน อันไหนความจริง ฉันแค่อยากรู้ว่าอันไหนความจริงให้เร็วที่สุด แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณอยู่ใกล้ฉันขนาดนั้น ฉันเลยชนคุณเต็ม ๆ เลย แต่คุณก็ยังล้อฉันที่ฉันสมองช้า”แจ็คสันอมยิ้มขณะที่ยื่นมือออกไปลูบห
ทิฟฟานี่เชิญพวกเขาเข้าไปในบ้าน “คุณแม่ คุณพ่อ มาทำอะไรดึกดื่นอากาศเย็น ๆ แบบนี้คะ? ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อผ้าให้หนากว่านี้หน่อย เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะคะ”ซัมเมอร์สำรวจทุกซอกทุกมุมของบ้านขณะที่เธอเดินเข้าไป ในที่สุดสายตาของเธอก็จบลงที่โต๊ะอาหาร “ฉันเป็นห่วงเธอก็เลยต้องมาดูสักหน่อยน่ะสิ และอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด แจ็คสันเพิ่งจะได้ทำมื้อเย็นให้เธอทาน เอาจริง ๆ เขาไม่เคยช่วยทำให้ฉันเลิกเป็นห่วงได้เลย ฉันว่าเธอย้ายไปอยู่บ้านฉันยังจะดีกว่า แบบนั้นฉันจะสบายใจขึ้นเยอะเลย”แจ็คสันหูชาจากคำบ่นของเธอ แน่นอนว่าสีหน้าของเขาจะต้องเปลี่ยนไปด้วย “เธอเพิ่งจะตื่นเองครับแม่ ผมไม่ได้ปล่อยให้เธอหิวสักหน่อย หยุดเป็นห่วงพร่ำเพรื่อได้แล้วครับ ผมรักเธอมากกว่าที่แม่รักเธออีก”“ใช่แล้วซัมเมอร์” แอตติคัสแทรกขึ้น “คุณไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องครอบครัวพวกเขาขนาดนี้ ตอนแจ็คสันยังเล็กคุณไม่เห็นจะเป็นห่วงเขามากขนาดนี้เลย… อีกอย่าง มันไม่เหมาะสมที่จะมาดึกดื่นป่านนี้…”นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอตติคัสถึงได้ดูกระอักกระอ่วนขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาได้ทำให้ซัมเมอร์ไม่พอใจ “ใช่ ตอนที่แจ็คสันเด็กฉันอาจจะไม่ได้เป็นห
แจ็คสันมองทิฟฟานี่ด้วยความใจเย็น นิ้วมือที่เรียวยาวของเขาเคาะโต๊ะราวกับว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง ทันใดนั้นซัมเมอร์ก็ตวาดขึ้นมา“แกจะปล่อยให้ทิฟฟานี่ล้างจานได้อย่างไร? นั่นมันเป็นหน้าที่ของแม่บ้านซึ่งก็ไม่ได้แพงอะไรมากมายด้วย เลิกไร้สาระแล้วอ้างว่าไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามายุ่งเกี่ยวในบ้านสักทีได้ไหม? ข้ออ้างทั้งนั้น แกควรจะเปลี่ยนความคิดของแกแล้วไปจ้างแม่บ้านมาได้แล้วนะแจ็ค!”ทิฟฟานี่คาดไม่ถึงว่าซัมเมอร์จะตอบสนองรุนแรงขนาดนี้แจ็คสันรีบเดินไปหยิบถ้วยที่เธอถืออยู่ในมือและกล่าวว่า “เห็นไหม? นี่คุณตั้งใจหาเรื่องให้แม่ดุผมหรืออะไร? ปกติก็ไม่เห็นคุณจะอยากทำงานบ้านอะไร แต่พอแม่ผมอยู่ คุณกลับอยากทำอย่างนั้นเหรอ? เดี๋ยวผมทำเอง คุณไปพักเถอะ ผมไม่อยากเห็นคนแปลกหน้ามายุ่งกับบ้านผม”ทิฟฟานี่กุมมือตนเองด้วยความที่ทำตัวไม่ถูกพลางพึมพำว่า “โทษที…”ซัมเมอร์ดูเหมือนจะพอใจเมื่อเห็นแจ็คสันเดินเข้าไปในครัว “มานี่มาทิฟฟานี่ เรามาคุยกันเถอะ”ทิฟฟานี่ยิ้มขณะที่เธอเดินไปหาซัมเมอร์และนั่งลงข้าง ๆ หล่อนที่โซฟาก่อนที่จะอธิบายว่า “จริง ๆ แจ็คสันเป็นคนทำงานบ้านเองทั้งหมดนะคะ ตั้งแต่ก่อนที่เราจะแต่งงานกันอีก ห
ผู้ชายอย่างแจ็คสันที่ปกติก็มีอารมณ์อยู่แล้วหรือจะสามารถปฏิเสธการยั่วยวนได้เมื่อแม้แต่เธอเองยังไม่สามารถเลย? ทิฟฟานี่ไม่เชื่อว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้ชายที่สามารถหักห้ามอารมณ์ตนเองได้เมื่อกำลังถูกผู้หญิงยั่วยวน เธอขอตายดีกว่าให้แจ็คสันไปกับผู้หญิงคนอื่นทั้ง ๆ ที่พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกัน! ปกติแล้วแจ็คสันจะเมินเฉยต่อความพยายามของเธอ แต่ไม่ใช่วันนี้ วันนี้เป็นวันที่เธอสามารถขอเขาได้ตรง ๆ และเธอจะไม่พลาดโอกาสนั้นแน่นอนแจ็คสันวางเธอลงบนเตียงและลุกขึ้นพร้อมที่จะจากไป ทิฟฟานี่รีบคว้าแขนเสื้อของเขาและถามว่า “คุณจะไปไหน? เมื่อตอนบ่ายเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่เอาน่า นี่มันวันแต่งงานของเรานะ! คุณช่วยตามใจฉันสักวันไม่ได้เหรอ? การใช้ชีวิตแบบอยู่เฉย ๆ และต้องระวังตลอดมันยากนะ…”แจ็คสันหัวเราะและกล่าวว่า “ก็ได้ ๆ! ผมแค่จะไปอาบน้ำ คุณคิดอะไรของคุณเนี่ย? เดี๋ยวผมมาครับ เพราะฉะนั้น คุณก็เป็นเด็กดีและรอผมหน่อยนะ”เธอจึงปล่อยมือจากแขนเสื้อของเขาและพึมพำว่า “นี่คุณรอบคอบขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เมื่อคำพึมพำของทิฟฟานี่เข้าหูของแจ็คสัน เขาก็หันกลับมาและจ้องเธอ “คุณว่าไงนะ?”ทิฟฟานี่หัวเราะคิกคัก “เปล่า
เมื่อเสร็จกิจทิฟฟานี่ก็ชูมือของแจ็คสันขึ้นในอากาศและพูดว่า “ตอนนี้คุณถูกผูกมัดกับฉันด้วยแหวนวงนี้ ดังนั้นคุณจึงถูกห้ามไม่ให้มองผู้หญิงคนอื่นแม้แต่แวบเดียว”เขาสวมกอดเธอจากด้านหลังและกำมือเธอไว้แน่น “ผมมีคุณแล้วผมยังจะต้องมองคนอื่นอีกเหรอ? ผมเลิกมองไปตั้งนานแล้ว นอนเถอะ พรุ่งนี้ผมจะพาไปตรวจร่างกาย”ทิฟฟานี่หันหน้าและจุ๊บหน้าผากเขา “ฉันรู้สึกได้ว่าลูกดิ้นด้วย”เขาตกใจเล็กน้อยเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เธอบอกว่าเธอรู้สึกได้ว่าลูกดิ้น “เมื่อไหร่?”เธอกล่าวอย่างเขินอาย “ตอนที่เรา… เมื่อกี้”เขาหัวเราะคิกคักและวางมือลงบนท้องเธอ “ไม่เกี่ยวอะไรกับพ่อนะ แม่ของลูกต่างหากที่ ‘ต้องการ’”วันรุ่งขึ้นที่คฤหาสน์เทรมอนต์อุณหภูมิที่เริ่มลดลงเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงทำให้สมอร์มีน้ำมูกและไอไม่หยุดจนแอเรียนกำลังพิจารณาว่าจะหยุดงานหนึ่งวันและพาสมอร์ไปโรงพยาบาล แต่เธอก็กังวลว่ามันจะทำให้หัวหน้ามองเธอไม่ดีเนื่องจากเธอเองเพิ่งจะเริ่มทำงานมาร์คเดาว่าเธอกำลังคิดอะไรจากสีหน้าที่หมดหนทางของเธอและพูดว่า “เธอไปทำงานเลย เดี๋ยวฉันพาสมอร์ไปโรงพยาบาลเอง เช้านี้ฉันไม่ได้มีอะไรสำคัญอยู่แล้ว”แอเรียนเขินเล็กน้อย “สำ
เมื่อไปถึงที่แผนกสูตินรีเวชทิฟฟานี่ก็หิวมากจนเธอไม่สบายตัว “ฉันหิวมาก แต่คุณหมอห้ามไว้ว่าไม่ให้ทานอาหารเช้าก่อนมาตรวจร่างกายอีก”แจ็คสันตอบเธออย่างนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพอตรวจร่างกายเสร็จผมจะพาไปหาอะไรทาน”ตอนนั้นทิฟฟานี่ยังไม่รู้ตัวว่าเธอถูกห้ามไม่ให้ทานอาหารมาเพราะว่าเธอต้องถูกเก็บเลือด ทำได้ดีมากแจ็คสัน ทิฟฟานี่หน้าซีดและเริ่มตื่นตระหนกเมื่อเธอเห็นพยาบาลเก็บเลือดของเธอทีละหลอดแจ็คสันใช้สำลีกดทับจุดที่เธอถูกเข็มทิ่มด้วยความระมัดระวังขณะที่พูดว่า “เดี๋ยวก็เสร้จแล้ว แค่อีกนิดเดียว คุณดูไม่เหมือนคนที่เลือดน้อยเลย เพราะฉะนั้นเลิกทำให้ผมกลัวได้แล้ว”เธอจ้องเขาด้วยสายตาที่โกรธเคือง “ฉันไม่ได้เลือดจางหรือเวียนหัว ฉันตื่นตระหนก!”ทันใดนั้นแจ็คสันก็มองเห็นรูปร่างของคนสองคนที่ทางเดินจากหางตาของเขา หนึ่งในนั้นคือธัญญ่า เห็นได้ชัดว่าอีกคนเป็นผู้ชาย แต่เขาหันหลัง แจ็คสันจึงไม่สามารถมองเห็นหน้าเขาทิฟฟานี่เห็นพวกเขาทันที “นั่นธัญญ่ากับเจตต์เหรอ? นี่มันอะไรกัน? ทำไมพวกเขาสองคนถึงมาที่นี่ด้วยกัน? ธัญญ่ามาที่สูตินรีเวชเหรอ?”แจ็คสันที่ไม่สนใจพวกเขาแต่อย่างใดตอบว่า “ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี
ธัญญ่าดูเหมือนจะไม่ได้โกหก แต่แจ็คสันปฏิเสธที่จะเชื่อว่าอเลฮานโดรไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องสีหน้าของธัญญ่าซีดจากความตื่นตระหนก ร่างกายของเธอสั่นเครือเบา ๆ เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้เด็ดขาด แต่เธอไม่คิดว่าเธอจะเจอกับทิฟฟานี่และแจ็คสันที่นี่ หากเธอไม่สามารถโน้มน้าวพวกเขาให้เชื่อเธอได้เธอและเจตต์จะต้องไม่จบดีแน่ ทิฟฟานี่มองเข้าไปในตาของธัญญ่าและพูดด้วยความจริงจัง “มองฉันสิ ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอกำลังพูดความจริงใช่ไหม? ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยเหรอ? มีใครสั่งให้เธอทำแบบนี้หรือเปล่า? เธอทำเองทั้งหมดเลยเหรอ? ระหว่างเธอกับเจตต์นี้เรื่องจริงหรือเปล่า?”“ฉันพูดความจริงค่ะ” ธัญญ่าตอบอย่างหนักแน่น “เรื่องเจตต์กับฉันเป็นเรื่องจริง เราจดทะเบียนกันแล้วด้วย”ทิฟฟานี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดี ถ้าอย่างนั้นปล่อยเรื่องของอดีตไว้ในอดีตเถอะ ฉันจะไม่เซ้าซี้เธอแล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันจะไม่ให้อภัยเธออยู่ดี” จากนั้นเธอก็หมุนตัวและนำแจ็คสันออกไปอย่างไรก็ตาม ธัญญ่าไม่ได้สบายใจขึ้นเลย เธอหันไปหาเจตต์และถามอย่างตื่นตระหนก “พวกเราจะทำยังไงกันดี? ถ้าพวกเขาสงสัยและสืบเรื่องจริงจนได้ล่ะ
เจนิซยิ้มเคอะเขินเล็กน้อย “ไม่ได้สนิทขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่เคยดูลูกชายให้เขา ฉันคงไม่มีวันนี้หากไม่ได้คุณเทรมอนต์เป็นผู้สนับสนุน เอาล่ะ กลับไปทำงานกันเถอะ ฉันยังต้องรอให้เขาอนุมัติฉันก่อน”ผู้คนรอบข้างพึมพำกันว่า “เธอจะกังวลทำไม? เธอเริ่มต้นได้ดีขนาดนี้ก็ต้องถูกอนุมัติอยู่แล้วสิ คนอื่นต่างหากที่ต้องกังวลน่ะ”ในขณะนั้นหัวหน้าก็มองมาทางพวกเขา “คุยอะไรกันในเวลาทำงาน? ถ้าพวกเธออยากคุยกันก็กลับบ้านไป!”นอกจากเจนิซคนอื่นต่างก็ไม่กล้าตอบโต้และจึงกลับไปทำงานของตน เจนิซมองหัวหน้าตนเองด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ เธอและยายแก่คนนั้นไม่ลงรอยกันมาสักพักแล้ว!หัวหน้าเองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่าย ๆ เช่นกัน “ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าอย่างไรเจนิซ? เธอมีปัญหากับฉันเหรอ? ที่นี่ไม่ใช่บริษัทของเธอนะ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องฟังคำสั่งของหัวหน้า ถ้าเธออยากเป็นเจ้าหญิงก็กลับไปเป็นที่บ้านเลย!”เจนิซค่อย ๆ เปิดถ้วยโยเกิร์ตและยั่วยุหัวหน้า “ไม่มีบริษัทไหนมีกฎห้ามไม่ให้พนักงานคุยกัน เพราะฉะนั้นคำสั่งของคุณมันไม่มีเหตุผล คุณทำตัวเหมือนกับว่าเป็นเจ้าของบริษัทเอง นี่ไม่ใช่วิถีที่หัวหน้าควรจะปฏิบัติกับลูกน้อง ถูกไหมคะ?”ใบหน้