แอเรียนแซวเล่น “อาจจะเป็นเธอก็ได้ที่ได้แต่งงานกับเขา เธอจะได้กินและใช้จ่ายได้เต็มที่”ทิฟฟานี่หัวเราะ เสียงหัวเราะเธอฟังดูร้ายกาจนิดหน่อย “ฮ่าฮ่า… ตอนนี้กระเพาะฉันติดอาหารเขาไปแล้ว ฉันคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากจะเก็บเขาไว้ตลอดชีวิตเลย ดูสิ เขาทั้งสูง รวย และทำอาหารเป็นด้วย -- ผู้ชายแบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก? และบางทีฉันก็ฝันเห็นเขา… ฮิฮิ… โป๊ เขาแต่งตัวเทห์มาก เขาต้องหุ่นดีแน่ ๆ เมื่อเขาถอดเสื้อผ้าออกมา! โชคดีที่ฉันหลงเสน่ห์เขาเพียงเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นนะฉันกินเขาไปนานแล้ว!”แอเรียนขนลุก “โอ๊ย… เธอนี่นะ โอเค พอแล้ว ๆ ไปกินข้าวเถอะ”หลังจากที่ทิฟฟานี่วางสาย เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเธอในขณะที่เธอยังคงยิ้มเป็นนัย ๆ จากการคุยโทรศัพธ์ พอเธอหันไปดูเธอก็พบว่าแจ็คสันกำลังจ้องมองเธอด้วยความตะลึง เธอรู้สึกราวกับว่าเส้นเลือดในสมองกำลังจะแตก เขาได้ยินทุกอย่างเลย!“เอ่อ… ฉันแค่ล้อเล่นนะ…” เธอตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกที่อายจนอยากจะมุดดินหนี“เอ่อ… ผมก็แค่เดินผ่านพอดี ทานอาหารให้อร่อยล่ะ ผมจะ… กลับไปที่ห้องทำงานผมแล้ว” แจ็คสันคงจะตกใจกับคำพูดที่ชัดเจนของเธอจนเขาต้องใช้เวลา
ไบรอันอึกอัก “ครับ นายท่าน ผมจะไปส่งนายท่านเดี๋ยวนี้”ไบรอันขับรถไปที่ที่พักของแอเรียน พอไปถึงไบรอันก็ช่วยพยุงมาร์คที่เมามากขึ้นไปที่ห้องของแอเรียน ไบรอันไม่กล้าเคาะประตูหนักเกินไปจึงเรียกเบา ๆ “นายหญิง นายท่านมาหา…”ไม่มีเสียงตอบรับจากในห้อง มาร์คจึงเคาะประตูดัง ๆ “เปิดประตู!” ไบรอันตกใจและรีบหยุดการกระทำของมาร์ค แอเรียนกำลังท้องอยู่ เธอคงจะไม่อาจรับมือกับความกลัวแบบนี้กลางค่ำกลางคืนได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเพราะสิ่งนี้มันจะสายเกินไปที่จะรู้สึกผิดในภายหลัง!แอเรียนตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตู เธอสอดดูที่ตาแมวก่อน เธอถอนหายใจเมื่อเห็นไบรอันกับมาร์ค ; เธอเปิดประตู ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร มาร์คก็โซเซมาหาเธอและกอดเธอไว้อย่างแน่นพร้อมกับพึมพัมอะไรบางอย่างที่ไม่อาจจับใจความได้“ผมไปก่อนนะ ฝากนายท่านด้วย” ไบรอันพูดเมื่อเห็นเช่นนั้นแอเรียนไม่ทันได้ตอบโต้ด้วยซ้ำก่อนที่ไบรอันจะปิดประตูแล้วหนีไป เธอเห็นได้ชัดว่ามาร์คเมามาก ด้วยความกังวล เธอจึงใช้มือนึงพยุงท้องตนเองและช่วยพยุงมาร์คอีกมือนึง “ช้า ๆ… ตามฉันมา…”ในตัวมาร์คยังมีเศษเสี้ยวของสติหลงเหลืออยู่ เขาจึงไม่ได้ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดของตัวเขา
แอเรียนล้มเลิกที่จะขัดขืน ไม่ว่าเธอจะพยายามเท่าไหร่ มาร์คจะไม่ยอมจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการ...การเคลื่อนไหวของมาร์คน่ากลัวพอ ๆ กับเสียงฟ้าร้องที่ทำให้หูหนวกได้ ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงท่ามกลางเสียงสะอื้นของแอเรียนฝนหยุดตกในช่วงกลางคืนของวันนั้น ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นยามเช้าส่องแสงกระทบละอองฝน ทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก แอเรียนรู้สึกหวาดกลัวตลอดทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้นอนเลย เธอตรวจให้แน่ใจว่าลูกของเธอยังสบายดี แต่เธอก็ยังคงไม่พอใจในตัวมาร์คเธอไม่ได้เงียบในขณะที่เธอล้างหน้าแปรงฟัน ความเหนื่อยล้าและอาการแพ้ท้องทำให้พลังงานที่เหลืออยู่ของเธอหมดลงอย่างมากจนเธอไม่เหลือแรงแม้แต่จะก้มลงหยิบถ้วยที่ตกลงพื้น เธอไม่มีอาการแพ้ท้องมาก่อน แต่ดูหลังจากที่มาร์คมาสิ เธอคิดว่าเขาต้องมีผลกับเธอแน่ ๆ …ในที่สุดมาร์คก็ตื่นขึ้นเนื่องจากแอเรียนที่ส่งเสียงดัง เมื่อมองไปที่สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเขาก็เข้าสู่ความงุนงงชั่วขณะ ชิ้นส่วนความทรงจำของคืนที่แล้วผ่านเข้ามาฉายซ้ำในความคิดของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามที่จะจำให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความทรงจำของเขาปฏิเสธที่จะกลับมาอย่างครบถ้วน แน่นอนว่าเขาจำสิ่งที่เขาพูดไม่ได้
แอเรียนถามอย่างสบายๆ “ใครส่งมาหรอ?”หญิงสาวตอบตามคำถาม “เขาแจ้งว่าชื่อไบรอันค่ะ”ไบรอันเหรอ แอเรียนปวดหัวเล็กน้อย วิธีการพูดของมาร์คตอนพูดกับเธอนั้นไม่ได้น่ารักเท่าไหร่นัก เธอไม่คิดว่าเขาจะขอให้ไบรอันมาส่งอาหารเช้าให้เธอด้วย แต่ถ้าเขาไม่ได้สั่ง ไบรอันคงจะไม่กล้าทำด้วยตนเองเป็นแน่ เธอเดาไม่ออกว่ามาร์คกำลังคิดอะไรอยู่อากาศนั้นร้อนมากขึ้นทุกวัน และอายุอาหารก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เธอคงทานคนเดียวไม่หมด คิดได้เช่นนั้นเธอจึงแจ้งไปว่า “ฉันเอาแค่นี้ ที่เหลือก็เอาไปแบ่งกันนะ ยังไงฉันก็คงทานไม่หมดแน่ ๆ”หญิงสาวหน้าแผนกต้อนรับทำตามที่เธอบอกอย่างดีอกดีใจและเก็บของดี ๆ ไว้ให้เอริกโดยเฉพาะ ตอนที่เอริกเห็นป้ายบนกล่องอาหารเขาก็กระเดาะลิ้น “สงสัยจะคืนดีกันแล้ว ดูนี่สิ ส่งอาหารมาถึงที่ออฟฟิศด้วย…”“คุณนาธานเนียล ว่าอะไรนะคะ?” สาวแพนกต้อนรับถามด้วยความงุนงงเอริกส่ายหัว “ไม่มีอะไร กลับไปทำงานได้”เมื่อทำงานเสร็จสำหรับวันนั้นแล้ว แอเรียนไม่ได้ให้ทิฟฟานี่มารับ เธอเลิกงานเร็วกว่าปกติ เวลาจึงไม่ตรงกัน เลยไม่อยากทำให้วุ่นวายเมื่อแอเรียนเปิดประตูเข้าห้องเธอ เธอก็รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ปกติข้าวปั้นจะต
เขามองไปที่เธอด้วยความสนใจในขณะที่เธอกำลังอุ้มข้าวปั้น มาร์ครู้สึกได้ถึงความน้อยใจของตนเอง มันดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่แอเรียนทำตัวไร้หัวใจใส่ แม้ขนาดเจ้าแมวน้อยยังได้รับความรักมากกว่ามาร์คมากแอเรียนไม่ค่อยกล้าที่จะขึ้นรถไปกับมาร์คเพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนกลัวเชื้อโรคและเป็นห่วงว่าขนของเจ้าแมวน้อยจะไปร่วงในรถ “ความจริงแล้วคุณไม่ต้องรีบมาก็ได้... วันนี้การให้น้ำเกลือก็ได้เสร็จไปแล้ว มันก็แค่ ฉันให้ยามันเองที่บ้านคนเดียวไม่ได้... และพรุ่งนี้ก็ต้องมาให้น้ำเกลือใหม่อีกรอบด้วย”มาร์คกระโดดออกจากรถและเอากระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงที่แอเรียนใส่ข้าวปั้นมาในตอนแรกและโยนมันเข้าไปในรถ “ฉันไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระของเธอหรอกนะ ขึ้นรถมา”แอเรียนตกใจ เธอเป็นห่วงว่าหากข้าวปั้นอยู่ข้างในนั้นจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เขาโยนกระเป๋าแมวแบบนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าเถียง อากาศวันนี้ร้อนและแห้งมาก ทำให้คนอารมณ์เสียได้ง่าย คนอย่างเขาไม่แปลกหรอกที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวพอกลับไปถึงที่พักมาร์คก็จัดการถอดเสื้อสูทของเขาและวางมันไว้บนโซฟาทันทีที่เขาเดินเข้าห้องพัก จากนั้นเขาก็จัดการพับแขนเสื้อตนเองขึ้น “มา”แอเรียนไ
แอเรียนไม่ได้ปิดประตูห้องนอนตอนที่เธอหลับ ที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะว่าแอร์ในห้องจะได้ช่วยทำให้อากาศในห้องนั่งเล่นเย็นไปด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นมาร์คจะนอนไม่หลับความเหนื่อยจากสองวันที่ผ่านมานั้นทำให้แอเรียนหลับสนิทได้ตลอดคืนจนถึงเช้าของวันถัดมา ถ้าเธอไม่ตื่นเพราะต้องเข้าห้องน้ำ เธอคงไม่ลุกจากเตียงแน่ ๆ เธอเดินเข้าห้องน้ำอย่างหมดแรง และเธอก็ต้องตกใจที่มาร์คกำลังใช้ห้องน้ำอยู่ แถมไม่ได้ปิดประตูอีกเสียด้วย ถึงแม้เขาจะยืนหันหลังให้แต่แอเรียนก็ได้ยินเสียงชัดเจนอยู่ดีเธอปิดตาตามสัญชาตญานแล้วรีบหันหลัง “รบกวนคุณช่วยปิดประตูเวลาเข้าห้องน้ำด้วยได้ไหม?”“ไม่ได้สิ อากาศร้อนจะตาย” มาร์คดูไม่ได้ตกใจอะไร แถมอารมณ์ไม่ค่อยดีจากการนอนน้อยด้วยความร้อนในห้องน้ำจะฆ่าเขาในเวลาที่ฉี่อย่างนั้นเหรอไง? แอเรียนพูดไม่ออกในขณะเดียวกันเธอก็ภาวนาให้เขาทำธุระตัวเองเร็วขึ้น เมื่อมีเด็กทารกอยู่ในครรภ์เธอไม่สามารถอั้นฉี่ไว้ได้นานนัก… ก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ เธอไม่เคยรู้สึกถึงความเร่งด่วนขนาดนี้มาก่อนเมื่อมาร์คทำธุระเสร็จ เธอก็รีบผลักเขาออกไปอย่างไม่สบอารมณ์โดยไม่คิดว่าเขาจะเปิดประตูเข้ามาแล้วถามว่า “สำหรับอาหารเช้ามีอะไร
แอเรียนหยิกทิฟฟานี่เล็กน้อยเพื่อส่งสัญญานให้เธอหยุดพล่ามเสียที ในที่สุดเธอก็หยุดและสังเกตุสีหน้าท่าทางของมาร์คสายตาของมาร์คเกาะติดอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดแม่กระทั่งในขณะที่เขาบอกพวกเธอว่า “ไม่เป็นไร เอารถคันนั้นไปเลย ผมไม่ชินกับรุ่นนั้นอยู่แล้ว”ทิฟฟานี่ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะเจอโชคก่อนใหญ่หล่นทับ “จริงเหรอ แต่จริง ๆ ฉันไม้ได้ต้องใช้รถนะ แถมมันก็ใหม่มาก ฉันเพิ่งขับได้ไม่กี่วันเอง แล้วถ้าคุณต้องการที่จะให้ฉันจริง ๆ ฉันเอาไปขายได้ไหม? ฉันจนเหลือเกิน คนจนไม่สมควรมีรถหรอกนะ...”แต่เนื่องจากมาร์คได้ตัดสินใจที่จะให้รถอยู่แล้ว เขาถึงไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวหรือสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับรถคันนั้น “ก็แล้วแต่คุณเลย”ทิฟฟานี่ตอบไปอย่างเข้าอกเข้าใจว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันเอาไปใช้ก่อน แม่ยังรอให้ฉันกลับไปรับใช้อยู่ พวกคุณกลับไปด้วยกันเลย แอเรียนยังมีตัวน้อยอยู่ในท้อง อย่าลืมให้เธอทานข้าวให้ตรงเวลา ถ้าเธอไม่ทานอาหารตามเวลาเจ้าตัวน้อยจะหิวไปด้วย โอ้! และอย่าลืมว่าเธอมีตรวจครรภ์ด้วยนะ ไปกับเธอละ!”แอเรียนไม่คิดว่าทิฟฟานี่จะพูด ‘เขี่ย’ เธอแบบนั้น มาร์คกำลังตั้งใจทำงานและเธอก็ไม่มีอะไรทำเลย มันเป็นส
ดีเหรอ? แอเรียนรู้สึกกระวนกระวายใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามาร์คกลืนน้ำลายตัวเองหลังจากที่สัญญากับเธอว่าเขาจะไม่ติดต่อกับแอรี่ มันก็ดีกว่าไม่คิดอะไรเลย เธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดอะไรได้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจ ทว่าก็เป็นเธอที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับวิลและถูกมาร์คจับได้ เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลยมาร์ครู้สึกหงุดหงิดกับคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นภายนอก “เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันไม่ได้พูดเพราะใครต่อใคร ไม่ต้องไปมาหาฉันที่บริษัท ฉันบอกเธอแล้วว่าเราไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว เธอคิดว่าฉันพูดเล่นอย่างนั้นเหรอ?”แอรี่คิดว่าเธอชนะแล้ว เขาไม่ได้พูดว่าไม่ต้องติดต่อเขาอีกแล้ว ทว่าเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รังเกลียดการที่ได้เจอกับเธอหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับแอเรียนและวิล พวกเขาสบายดี สิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ไม่ควรถูกเมินเฉยไม่ใช่หรือ? เธอไม่เต็มใจที่จะต้องเผชิญหน้ากับความจริงแบบนี้ “พี่มาร์คที่รัก... อย่าเป็นแบบนี้สิคะ! ฉันจะเป็นคนดี ฉันจะไม่รบกวนคุณถ้าคุณไม่มาหาฉัน...”มาร์คไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเดินไปที่รถของเขาซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ไบรอันลงมาเปิดประตูให้กับเขาขณะที่แอเรียนเดินตามไปอย่างปกติสายตาของแอรี่จ้องมองไปที