ในขณะที่พวกเขาพาเอริคไปโรงพยาบาล มันเลยสามทุ่มมาแล้ว การให้น้ำเกลือ กระเพราะอักเสบของเอริคไม่ได้ปวดมากแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไร้เรี่ยวแรง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาร์คและแจ็คสันเผชิญกับสถานการณ์นี้ พวกเขาอยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นตลก “นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อกินข้าวกับพวกฉันเหรอ? นายต้องมีของให้พวกฉันนะ”เอริคตัวซีดเซียวดูเฉื่อยชาแม้แต่ในขณะที่เขาหัวเราะ “ฉันชอบที่จะรีดไถนาย นายจะให้เงินฉันหนึ่งล้านใช่ไหม? ฉันสบายดี อาจต้องนอนโรงพยาบาลไม่กี่วัน ช่วยฉันหน่อย หาใครสักคนมาดูแลฉันที ฉันจะจ่ายค่าผู้ดูแลเองฉันไม่ได้บังคับขู่เข็ญพวกนายนะ”แอเรียนและทิฟฟานี่คิดถึงบางคนที่น่าจะเข้ากันได้ ตอนที่พวกเขาได้ยินว่าเอริคต้องการคนดูแลแลกเปลี่ยนกันมองหา พวกเธอรู้สึกว่ากำลังมองหาคนเดียวกันแน่ ๆ แอเรียนเสนอว่า “ฉันมีลูกน้องที่ขยันขันแข็งทำงานที่ร้าน เธอมีประสบการณ์การดูแลมาก่อน คุณอยากให้ฉันแนะนำให้รู้จักกับเธอไหม? แค่รับเธอเป็นคนดูแลทั่วไป เธอเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมาก จะได้ไม่ต้องลำบาก คุณว่าไง?”เอริคส่ายหัว “ไม่มีปัญหา ให้เธอมาเลย ฉันไม่เหมือนคนไร้ความสามารถสักหน่อย ฉันแค่ต้องการความสะดวกสบาย ดังนั้นฉันจะได
มาร์คขับรถช้าลง ราวกลับเขาไม่อยากส่งเธอให้ถึงบ้านเร็ว ๆ “ฉันบอกเธอไปก่อนหน้านี้แล้ว ฉันจะไม่ยอมหมดหวังในตัวเธอ” แอเรียนหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน “เลิกล้อเล่นได้แล้ว ฉันเคยบอกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ฉันอยากหนีไปจากคุณตั้งนานแล้ว และในที่สุด ตอนนี้ฉันก็สมปรารถนาแล้ว ทำไมฉันต้องกระโดดเข้ากองไฟอีกล่ะ? ฉันยอมรับว่าคุณเปลี่ยนให้ฉันเป็นฉันตอนนี้โดยไม่มีคุณ ฉันคงไม่ได้เป็นตัวเองอย่างทุกวันนี้ คุณได้มอบสิ่งที่ฉันไม่เคยได้รับจากคนอื่น แต่ลึก ๆ แล้ว คุณก็ทำให้ฉันเจ็บปวด อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณมีสิทธิ์พูดแบบนี้ได้ คุณเป็นสาเหตุการตายของพ่อฉัน แกล้งทำว่ามีความเมตตาพาฉันไปอยู่ ด้วยหรือแม้แต่แต่งงานกับฉัน แล้วยังไง? เพื่อความสบายใจเหรอ? คุณได้มันไป แล้วฉันล่ะ? แล้วพ่อของฉันล่ะ? นอกจากได้ชื่อว่าเป็นคนชั่วแล้ว พ่อฉันก็ไม่เหลืออะไรทิ้งไว้เลย ฉันจะยกโทษให้คุณได้ยังไง?” พายุแห่งอารมณ์โกรธเกรี้ยวในตาเขาในความมืด เสียงพูดของเขาเจือไปด้วยความเจ็บปวดและความอดกลั้น “ในสายตาของเธอ ฉันไม่น่าให้อภัยเลยเหรอ? เปลี่ยนแปลงไม่ได้เหรอ? “ใช่” แอเรียนตอบอย่างไม่ลังเล มาร์คไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ดูเหมือนว่าแอเรียนจะอารมณ์ดีตั้งแต่เธอได้รับกุหลาบมาในมือ “นี่มันไม่เช้าแล้วนะ เธอแค่มาสายนิดเดียวเอง ไปหาทำสิ่งที่เธอต้องทำได้แล้ว ธัญญ่าน่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วแหละ” เนื่องจากช่อดอกไม้ได้จัดแยกออกจากกันไป ทิฟฟานี่เลยไม่ทันสังเกตเห็นว่ามันเคยเป็นช่อดอกไม้มาก่อน เธอคิดว่าแอเรียนตั้งใจซื้อดอกไม้มาจัดร้านเฉย ๆ “ฉันรู้… ว่าเธอเป็นคนรอบคอบ ใช่ไหม? ดอกไม้ดูสวยนะ แต่แค่ไม่กี่ดอกวางไว้แต่ละโต๊ะ พวกมันคงอยู่ได้มากสุดแค่สามวัน นั่นมันแพงมากเลยนะ เธอโอเคกับมันเหรอ?”แอเรียนยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไรเลย เธอไม่ต้องจ่ายอะไรเลยให้ดอกไม้พวกนี้ นอกจากนั้นกุหลาบที่เหลือจากการแยกช่อไปจัดตามโต๊ะต่าง ๆ แล้ว ก็จะนำไปใส่แจกันวางไว้ที่เคาน์เตอร์ด้วยทันใดนั้น เธอพลันนึกถึงคำพูดมาร์ค “เจอกันพรุ่งนี้” จากเมื่อคืน วันนี้เขาจะมาได้ยังไง? เขาจะมาจริง ๆ เหรอ? มีร่างนึงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วที่ประตูหมุน แอเรียนกลับสู่ความจริง นั่นคือแม่สามีของนายา นายาคือคนที่กำลังทำความสะอาด เธอดูตกใจเล็กน้อยในขณะเดียวกันนั้นก็รีบเดินเข้าไปกระซิบ “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้?”แม่สามีของนายาพูดออกมาอย่างเสียงดัง “ฉันมาที่นี่เพราะต้อ
หญิงสูงอายุซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธจัด กล่าวหาทุกคนว่าผิดเหมือนกัน “สัตว์พันธุ์เดียวกันย่อมสังสรรร่วมกัน พวกเธอทุกคนช่างน่ารังเกียจ!”ทิฟฟานี่สาบแช่งในระหว่างที่จ้องไปที่เธอ “คุณกำลังด่าใคร? อยากมีเรื่องเหรอ? ยัยแก่! นี่ถ้าไม่ใช่เพราะนายา ฉันจะตบให้ฉาดใหญ่เลย!”นายาร้องไห้ออกมาด้วยอารมณ์โกรธกับตาที่แดงก่ำ เธอหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรออก ดูเหมือนเธอกำลังโทรหาสามีของเธอ “คุณอยู่ที่ไหน? แม่ของคุณกำลังก่อเรื่องในร้านที่ฉันทำงาน คุณจัดการเรื่องนี้ไหม? อย่าบอกฉันว่าคุณยุ่งและมาไม่ได้ ถ้าวันนี้คุณไม่มา เราหย่ากันที่นี่ ตอนนี้เลย ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”เห็นว่านายาแสดงความไม่พอใจลูกชายเขา หญิงสูงอายุเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ของเธอ “เธอกล้าตำหนิเขาต่อหน้าฉันได้ยังไง? แม่เธอไม่ได้สอนเหรอมาดีสินะ? ไร้มารยาท จริง ๆ นังเด็กเหลือขอ!”ระหว่างที่ยื้อแย่งกันนั้นโทรศัพท์ของนายาตกลงพื้นและถูกเหยียบจนหน้าจอแตกละเอียดแอเรียน ทิฟฟานี่ และพนักงานคนอื่น ๆ เข้ามาดึงพวกเขาแยกออกจากกัน เมื่อพวกเขาทำสำเร็จ ทิฟฟานี้กดให้หญิงสูงอายุนั่งลงบนเก้าอี้ “อย่าขยับนะ ฉันไม่เคยเจอคนแก่ที่ไหนที่น่ารำคาญและทะนงตนเท่าคุณมาก่อนในชี
ทิฟฟานี่ย้ายป้าย “ปิด” ที่ห้อยไว้ตรงประตูออก “อย่าพูดงั้นเลย พวกเราก็เพื่อนกันทั้งนั้น และเพื่อนไม่มีทางรู้สึกแบบนั้น สามีของเธอเป็นคนที่มีเหตุมีผล แต่ยายแก่นั่นไม่ใช่เลย ถ้าเธออยากเก็บลูกชายเธอไว้คนเดียว งั้นเธอก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกชายเธอแต่งงานเลย ยิ่งเห็นว่าเธอโดนระรานมันทำให้ฉันอยากจะปะทะสักที! เธอควรต้องพูดกับสามีเธอเกี่ยวกับการย้ายออกไปกับลูกของเธอได้แล้วนะ คนสูงอายุทั้งสองคนนั้นยังดูสุขภาพแข็งแรงดี ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลอะไรเลยจนกว่าพวกเขาจะแก่เกินกว่าไปไหนมาไหนเองไม่ได้”นายาถอนหายใจอย่างโล่งราวกับเพิ่งยกภูเขาออกจากอก “ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น ฉันคงไม่ได้ตัดสินใจทำมันเพราะเกรงว่าสามีของฉันจะเป็นมลทิน มันดีที่หญิงสูงอายุสร้างความวุ่นวายในวันนี้ อย่างน้อย ตอนนี้ฉันก็มีคำอธิบายถึงเหตุผลในการย้ายออกแล้ว พูดตามตรงนะ ชีวิตแต่งงานของฉันมันดีมาก ฉันแค่เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ จากพิษของพ่อแม่สามีของฉันแค่นั้น”เมื่อนายาออกไปรับลูกที่โรงเรียนในตอนบ่าย ทิฟฟานี่โผล่ไปที่ครัว อยู่ดี ๆ เธอก็ถามแอเรียนอย่างกังวลว่า “เธอคิดว่าฉันจะมีปัญหากับแม่ของแจ็คสันไหมถ้าฉันแต่งงานกับเขาจริง ๆ ในวันข้างหน้า
เมื่อเขาเข้ามาในรถ เขาก็เห็นว่าแอเรียนเลือกที่นั่งข้างคนขับในครั้งนี้ เขาไม่ได้รีบร้อนขับออกไป เพียงแค่เปิดแอร์แรงสุดและพยายามเริ่มบทสนทนา บางทีแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตว่าเขาระมัดระวังตัวขนาดไหน“เธอสามารถหลับได้ตั้งแต่หัวค่ำเลยเหรอ?”แอเรียนยิ้มให้เขาเล็กน้อย “ฉันคงเหนื่อยมากพอหลังจากทำความสะอาดบ้านและอาบน้ำ ที่จริงแล้ว ตอนนี้ฉันก็เริ่มง่วงแล้วแหละ ฉันค่อนข้างเหนื่อยมากในทุกวัน คุณใช้สมองหาเงินแต่ฉันใช้แรงหาเงิน”มาร์คนิ่งไปชั่วขณะ “ที่จริงแล้วเธอก็ใช้สมองทำงานได้เช่นกันนะ…”แอเรียนพยายามพูดติดตลกกับเขา “ใช้สมองในการเป็นคุณนายเทรมอนต์และคอยให้คุณเลี้ยงดูฉันเหรอ? แน่นอนว่าคุณล้อเล่น คุณรู้ว่าฉันไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น มาร์ค ฉันคิดว่า แจ็คสันและทิฟฟี่อาจจะแต่งงานกัน ยิ่งทำให้คุณมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขา ฉันมั่นใจว่า เราอาจจะได้เจอกันบ่อยขึ้น ฉันไม่สามารถเกลียดคุณถึงจุดที่เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้บนโลกใบนี้ แต่ฉันไม่สามารถเป็นคุณนายเทรมอนต์ได้เหมือนกัน ดังนั้น... คุณอยากทบกวนเรื่องหย่าดูหน่อยไหม? มันคงไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่จะคงความเป็นเพื่อนไว้” ในตอนนี้ ในที่สุดมาร์คก็เข้าใจ
ความเงียบของเขาทำให้แอเรียนถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ทำไมคุณถึงไม่พูด ? หรือว่ากำลังโกหกอยู่? คุณโกหก! ข้าวปั้นตายได้ยังไง? มันจากไปแล้ว ทำไมคุณถึงไม่บอกความจริงกับฉัน?” มาร์คพ่นบุหรี่และเงยหน้าขึ้นมอง “ฉันไม่ได้โกหก เฮนรี่โทรหาฉันหลังจากเธอลงจากรถ เธอโทรหาเขาได้เลยก็ได้ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ฉันไม่มีเหตุผลจะต้องหลอกเธอ ฉันยอมรับว่า ฉันผิดที่ไม่ได้ดูแลมันให้ดี” แอเรียนยืนพิงกำแพงด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเหมือนเด็กน้อยที่สูญเสียของรัก มีเพียงการร้องไห้ที่ช่วยลบเลือนความรู้สึกได้ “คุณไม่ชอบมันตั้งแต่แรก คุณเกลียดมันจะตาย! มันเป็นความผิดของคุณที่ไม่ยอมให้ฉันพามันไป! ทำไมคุณต้องกีดกันทุกอย่างที่ฉันชอบ ? มันเป็นแค่แมว! มันอาจจะเป็นแมวที่น่ารังเกียจในสายตาคุณ แต่มันสำคัญกับฉัน!” เธอไม่ได้สังเกตว่ามาร์ค ผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ต่อหน้าเธอมานานแล้วจุดบุหรี่ทันทีที่เขาเข้ามา เธอคิดมาตลอดว่ามาร์คไม่เคยชอบข้าวปั้นแต่เธอไม่ได้สังเกตว่าเขากำลังจุดบุหรี่เพื่อลบเลือนความเจ็บปวดและความขุ่นเคืองในหัวใจของเขา มาร์คก้มหน้าต่ำลงและยังคงเงียบสนิทจนกระทั่งแอเรียนเดินมาข้างหน้าและขว้างหมอนที่อยู่บนโซฟาไปที่อกของเขา
ดิคไม่เคยรู้ถึงความคิดของเอลลี่ที่มีต่อแอเรียน เขาไม่กล้าตั้งข้อสังเกตใด ๆ เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย เอลลี่ดูแคลนดิคมากขึ้นไปอีกที่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดความคิดของเขาออกมาและเดินออกไปพร้อมกับแก้วน้ำในมือ ในออฟฟิส มาร์คโทรหาพ่อบ้านเฮนรี่ และบอกเขาเกี่ยวกับการจัดการงานศพของข้าวปั้น เขาไม่ต้องการให้เรื่องนี้สร้างปัญหาระหว่างเขากับแอเรียนไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงพยายาม อย่างที่สุดในการทำอะไรก็ตามที่เขาจะทำได้ ในอพาร์ทเม้น แอเรียนได้ยินเสียงเคาะประตูทันทีที่เธอตื่นนอนก่อนนาฬิกาจะปลุก ความทรงจำของเธอเลือนราง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอกลับมาที่ห้องนอนได้อย่างไร เมื่อเธอเดินผ่านห้องนั่งเล่น เธอสังเกตเห็นผ้าห่มผืนบางที่ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อยบนโซฟา แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีการใช้ แต่เธอก็รู้ได้ว่าเมื่อคืนมาร์คไม่ได้กลับ เธอเปิดประตูออกมา ก็เห็นช่อดอกไม้ที่ใหญ่มากจนบังคนส่งของที่อยู่ข้างหลังเกือบครึ่งตัว กลิ่นหอมของดอกไม้พลันเตะจมูกเธอทันที เธออึ้งไปชั่วขณะ มาร์คกำลังพยายามจะทำอะไร? ทำไมเขาส่งดอกไม้มาให้เธอทุกวัน? “คุณผู้หญิงครับ ช่อดอกไม้ของคุณครับ รบกวนเซ็นตรงนี้หา