“ก็ได้ ฉันจะพูด ฉันต้องการวิลล่าบนเนินเขาซาน เพเลกรีโน่และเงินสด 15 ล้านดอลลาร์ นี่คือเงื่อนไขของฉัน เงื่อนไขนี้ไม่สามารถต่อรองได้”มันเป็นเนื้อหาในการสนทนาของเธอกับมาร์คเมื่อสามวันก่อน ที่ถูกตัดให้เหลือสองสามประโยค เพียงพอที่จะทำให้เรื่องง่ายขึ้น เพียงพอที่จะกำหนดได้ชัดเจนว่าเธอเป็นคนขุดทองที่ชั่วร้าย!การตั้งครรภ์นอกสมรสของเธอก็ถูกเปิดเผยและกลายเป็นเรื่องไก่และวัวโดยชาวเน็ต ชาวเน็ตบางคนได้เผยแพร่หมายเลขโทรศัพท์และหมายเลขประจำตัวของเธอด้วยตอนนี้โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นจากคนที่โทรมาสแปม ทำให้เธอต้องปิดเครื่องไว้ตอนนี้เธอต้องซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมเพราะกลัวเกินกว่าจะก้าวออกไป! ก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอไปพบมาร์ค เธอได้ระมัดระวังคำพูดของเธอมากเพราะเธอกลัวว่าบทสนทนาจะถูกบันทึกไว้ น่าเสียดายที่ความกังวลใจของเธอในกระบวนการนี้คือการล่มสลายของเธอ ...ในขณะนี้ แอตติคัสเผชิญกับการสัมภาษณ์จากสื่อต่าง ๆ อย่างสงบ โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อพิพาทของเขากับเธอ นักเรียนคนก่อน ๆ ของแอตติคัสก็ก้าวออกมาเป็นพยานด้วย เมื่อเธอดูฉากนี้ต่อหน้าเธอทางโทรทัศน์ เธอก็กรีดร้องเหมือนคนบ้าว่า “ฉันไปทำอะไรให้? แอตติคัส เว
เบอร์นาเด็ตต์นั่งลงข้างเตียงอย่างทรุดโทรม ผมของเธอยุ่งเหยิงและสายตาของเธอที่มีต่อแอตติคัสนั้นก็ซับซ้อน สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร เธอคิดว่าเขาจะมาคนเดียว แต่ตอนนี้ซัมเมอร์ดันมาด้วย เธอไม่อาจเปิดเผยรายละเอียดที่ทนไม่ได้ดังกล่าวให้โลกรู้ได้ นี่คือศักดิ์ศรีขั้นสุดท้ายของเธอ “ไม่มีอะไร ฉันแพ้แล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา เด็กคนนั้นไม่ใช่ของคุณ นั่นคือทั้งหมด”ซัมเมอร์มองเบอร์นาเด็ตต์อย่างรังเกียจ เธอคิดว่าเธอจะได้ยินการเปิดเผยข้อมูลใหม่จากเบอร์นาเด็ตต์ เธอไม่ได้คาดว่าจะได้ยินสิ่งนี้ “เธอมันไร้ค่า เรากลับกันเถอะ โชคดีนะคุณเลกรานด์”ในท้ายที่สุด เบอร์นาเด็ตต์ก็ไม่ได้รับบ้านหรือเงินของมาร์คไว้ นอกจากความพินาศอย่างสมบูรณ์แล้ว เธอก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการเอารัดเอาเปรียบของเธอเลย คำขอสุดท้ายของเธอคือขอให้มาร์คกำจัดการสนทนาทางอินเทอร์เน็ตและมอบความสงบสุขให้กับเธอ เธอไม่มีปัญญาที่จะเล่นกับผู้ชายคนนี้การแบ่งแยกครั้งใหญ่ที่ไม่อาจแก้ไขได้นี้ได้แยกแจ็คสันและแอตติคัสออกจากกัน ซัมเมอร์ไม่ได้ขอให้แจ็คสันไปทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์เวสต์เหมือนทุกสัปดาห์อีกต่อไป ถ้าพ่อกับลูกต้องมาเจอกัน พวกเขาจ
เธอหรี่ตาและสำรวจเขา เขาเคยสั่งเธอ แต่ตอนนี้บทบาทถูกผลิกแล้ว เธอรู้สึกอยากทรมานเขาทันที “เอาสิ อย่าลืมเติมเกลือด้วยล่ะ เกลือจะละเอียดกว่า น้ำตาลจะหยาบกว่า อย่าสลับกันล่ะ คุณต้องล้างผักด้วยนะ”มาร์ครู้สึกหมดหนทาง “ฉันผิดพลาดเพียงครั้งเดียวแหละน่า” ใช่ บะหมี่ชามล่าสุดที่เขาทำในคอนโดของเธอนั้นล้มเหลว มันควรจะง่ายกว่ามากในตอนนี้เพราะเขาเคยผ่านมันมาแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาจะทำมันให้ดีเมื่อถึงเวลาที่เขาเสิร์ฟบะหมี่ลงบนโต๊ะ แอเรียนก็ได้กลิ่นของความอร่อยเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเธอกำลังหิวโหย แต่มันรสชาติดีเกินคาดด้วยเมื่อเขาเห็นว่าเธอจดจ่อกับอาหารของเธอเพียงใด เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “อร่อยขนาดนั้นเลยหรือ?”“พอได้” เธอตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นเขาพูดไม่ออก ผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถสรรเสริญเขาอย่างจริงใจได้เลยหรือ? พอได้เหรอ? เธอหมายความว่าอย่างไร? ถ้ามันอร่อยก็บอกมาเลย ถ้าไม่ก็แค่พูดมันออกมา นั่นมันคือการประเมินแบบไหน? หลังจากหยุดชั่วครู่เขาก็หยิบกาแฟแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน “ฉันจะดูบัญชีเสร็จเร็ว ๆ นี้ คืนนี้ฉันทำงานล่วงเวลาเพื่อเธอเลยนะ”แอเรียนตัวแข็งทื่อ "มันดึกแล้ว ทำไมคุณถึงตรวจสอบบัญชีให้ฉัน
การที่เขากอดเธอจากด้านหลังแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอยอมจำนนเพื่อหนีจากตำแหน่งนี้โดยเร็ว "ก็ได้"เขายิ้มและปล่อยแขนออกจากรอบเอวของเธอเมื่อกลับไปที่ห้องนอน ทั้งคู่ก็นอนลงเคียงข้างกันแต่ดูเหมือนต่างคนต่างนอนไม่หลับ แอเรียนได้นอนทุกเวลาที่เธอต้องการ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันเธอจึงไม่ง่วงเลย แต่มาร์คนอนไม่หลับเพราะเธออยู่ข้าง ๆ เขา“เธออยากได้ลูกผู้ชายหรือผู้หญิง?” จู่ ๆ เขาก็ถามความมืดนั้น“ได้หมด” แอเรียนตอบทันที “ตราบใดที่เด็กเกิดมาอย่างปลอดภัยฉันก็ไม่สนว่าเขาจะเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง นี่จะเป็นลูกคนเดียวที่ฉันสามารถมีได้ในชีวิตนี้ ฉันเลือกไม่ได้หรอก” เธอชะงักครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วคุณล่ะ?”เขาหันไปด้านข้างและเผชิญหน้ากับเธอ จากนั้นก็วางมือของเขาลงบนท้องของเธอเบา ๆ “ฉันด้วย ฉันรักเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง ตราบใดที่เขาเป็นลูกของเธอ”แอเรียนอธิบายไม่ถูกว่าเธอรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินดังนั้น เธอคุ้นเคยกับท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเขามากเกินไป แม้ว่าตอนนี้เขาจะมอบความอ่อนโยนทั้งหมดให้กับเธอแต่เธอก็ไม่สามารถชินกับมันได้ ท้ายที่สุดเธอต้องเผชิญกับอารมณ์ที่
หลังจากที่หายตกใจแล้วแมรี่ก็ยิ้มอย่างรู้เท่าทัน “ใช่ ใช่ ใช่ นายท่านทำอาหารมื้อเย็นให้เธอเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เธอต้องทน ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนผู้ชายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายท่านได้ขอให้เธอหลีกเลี่ยงการเดินเล่นสวนวันนี้เนื่องจากหิมะอาจตก เขากลัวว่าเธอจะป่วยเอา ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการป่วยระหว่างตั้งครรภ์ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอไม่ควรกินยาตอนนี้ ตอนนี้นายท่านมีเธอและลูกน้อยที่อยู่ในท้องเธอ ครอบครัวของเธอก็สมบูรณ์แล้ว เราตั้งตารอวันนี้มาตั้งนาน”แอเรียนยังคงนิ่งเงียบขณะที่เธอจ้องไปที่ความสุขบนใบหน้าของแมรี่ เธอกลัวที่จะพูดทำลายความหวังของแมรี่ ทุกอย่างระหว่างเธอกับมาร์คดูปกติดีแค่เพียงผิวเผิน เพื่อเปรียบเทียบ ระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นกว้างใหญ่พอ ๆ กับเกรต ริฟต์ แวลลีย์ แม้มันจะถูกกู้กลับคืนมามันจะมีอะไรเหมือนเดิมหรือเปล่า? มันจะไม่มีช่องว่างได้อย่างไร?วันนี้ทาบิธาตื่นเช้าอย่างน่าประหลาด โดยปกติเธอจะนอนจนถึงสิบโมงเช้าในสภาพอากาศเช่นนี้ หญิงชราดูเหมือนจะอารมณ์ดีแต่อาการไอของเธอยังคงไม่ลดลง “แอเรียน ฉันอยากไปบ้านคุณป้าของเธอ”แอเรียนประหลาดใจ “คุณแน่ใจว่าอยากไปใช่ไหมคุณย่า?” ก่อนหน้า
แอเรียนก้มศีรษะลงอย่างเงียบ ๆ เธอไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำของหญิงชรา ความรู้สึกของมาร์คที่มีต่อเธออาจไม่ใช่ความโชคดีก็ได้ มันรู้สึกเหมือนโชคร้ายมากกว่า หญิงชราพูดดังนั้นเพียงเพราะเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในอดีต ถ้าเขารู้ เขาคงไม่แนะนำให้เดินหน้าต่อไป มาร์คเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังความคับข้องใจทั้งหมดของเธอจู่ ๆ รถก็กระตุก อารมณ์ของหญิงชราวูบวาบทันที “เฮ้ คนขับ ระวังหน่อยสิ! อย่าฆ่าเราด้วยการขับรถสั่นไปมาของคุณนะ! คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณช่างเป็นคนขับรถที่แย่มาก!”บอดี้การ์ดของตระกูลเทรมอนต์อยู่หลังพวงมาลัยนั้น เขาขอโทษอย่างล้นเหลือหลังจากที่ถูกทาบิธาดุว่า “ผมขอโทษครับ ผมจะระวังให้มากกว่านี้…”“ไม่เป็นไร” แอเรียนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ขับให้ช้าลงหน่อยก็พอ เราไม่ได้รีบร้อน”ไม่นานหลังจากนั้นรถก็จอดตรงหน้าที่อยู่ที่โซอี้ให้ไว้กับทาบิธา ที่อยู่อาศัยของโซอี้ในเมืองหลวงอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์เทรมอนต์ ราวกับว่าตั้งใจ แน่นอนว่าค่าเช่าน่าจะสูงสำหรับพื้นที่ดี ๆ แบบนี้ แม้แต่ย่านที่เก่าแก่และไม่มีใครสังเกตเห็นก็ยังต้องเสียค่าเช่าที่แพงเกินไป แอเรียนรู้สึกกังวลขณะที่เธอจ้องมองไปที่ย่านนั้น “คุณย่า…
โซอี้และสามีของเธอเอาใจใส่ทาขิธามาก คนหนึ่งรีบช่วยพยุงตัวทาบิธาขณะที่อีกคนถือกระเป๋าของเธอให้ โซอี้มองดูแอเรียนจากไปและถามว่า “แม่คะ แอเรียนได้มาส่งแม่ที่นี่หรือเปล่า? ทำไมเธอถึงไม่เข้ามานั่งข้างในก่อนล่ะ? เธอรังเกียจเราที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แบบนี้เหรอ?”หญิงชรามีสีหน้าที่ซีดเผือดขณะที่เขาตอบว่า “ใช่ แอริทนอยู่ในที่แบบนี้ไม่ได้หรอก ฉันไม่ต้องการโดนดูถูก แม้ว่าเธอจะมีเจตนาที่ดี อย่าทำให้ฉันอายเลย”เมื่อได้ยินเช่นนี้สามีของโซอี้ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “แม่ เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมเราจะคุยกันไม่ได้? แม่พูดแบบนั้นได้อย่างไร? อีกไม่นานก็จะปีใหม่แล้ว เราจะทำธุรกิจในเมืองหลวงนี้ ดังนั้นเราจึงวางแผนที่จะอยู่ที่นี่สักพัก เด็ก ๆ จะปิดเทอมในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นทั้งครอบครัวจะอยู่ที่นี่ เราอาจจะใช้เวลาปีใหม่ในคฤหาสน์ใหญ่ของหลานสาวของเราด้วย”โซอี้เห็นด้วย “ถูกต้อง ยิ่งมากคนยิ่งสนุก”หญิงชรายิ้มเยาะ “อย่าเรียกเขาว่าหลานสาวของเธอเหมือนว่าเธอเป็นมิตรกัน ฉันไม่มีปัญญาให้โชคแบบนั้นได้หรอก เธอเป็นแค่ญาติห่าง ๆ หยุดเพ้อฝันได้แล้ว ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่ จะสามารถเดินเข้าไปเป็นเทร
หญิงชราโกรธมากจนหน้าซีดเผือด “พี่ชายของเธอตายไปนานหลายปีแล้วแต่เธอก็ยังยืนกรานที่จะดูดเลือดจากเขา เธอเห็นเขาเป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอหรือไง? เธอยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? ถ้าฉันรู้เรื่องนี้ฉันคงเลือกที่จะมีลูกคนเดียวตลอดชีวิตแทนที่จะรับคนที่ไร้หัวใจอย่างเธอมาเลี้ยง! ฉันเลี้ยงหมายังจะดีกว่า!”โซอี้ไม่เห็นความผิดในการกระทำของตัวเอง ในมุมมองของเธอ เธอเป็นคนที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด เธอร้องไห้ออกมา “ในที่สุดแม่ก็พูดมันออกมา แม่ไม่เคยปฏิบัติกับฉันเหมือนลูกของตัวเองเลย แม่รับเลี้ยงฉันเพียงเพื่อจะได้มีคนดูแลศพแม่ใช่ไหมล่ะ? นั่นเป็นข้อตกลงทางธุรกิจไม่ใช่ความรัก! แม่คิดว่าฉันไม่มีหัวใจ ฉันใจร้าย แต่แม่นั้นแหละที่เป็นหญิงชราที่ใจร้ายที่สุด! ถ้าพี่ใหญ่ของฉันไม่มีลูก ฉันยอมรับว่าฉันต้องดูแลแม่ แต่เขามีแอเรียน ทำไมฉันจึงจะทวงหนี้นี้ไม่ได้? ลองย้อนกลับไปนับหมื่นก้าวแล้วสมมติว่าเธอยากจน ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดีแต่ชีวิตของเธอดีกว่าพวกเรามาก ทำไมแม่ถึงลำเอียงกับเธอมากนัก? แม่กำลังกล่าวหาว่าฉันดูดเลือดจากคนที่ตายไปแล้ว ถ้างั้นฉันก็คงมากกว่าความตายสำหรับแม่ ทำไมฉันจึงควรพิจารณาความรู้สึกใด ๆ ฉันไม่