ทิฟฟานี่รู้จักนิสัยประจำวันของแอเรียนดี แอเรียนจะไม่สามารถกลับไปนอนต่อได้อีกหากเธอได้ตื่นนอนแล้ว “ได้ ฉันจะขึ้นไปดูข้างบนนะคะ”ทิฟฟานี่เคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป แอเรียนประหลาดใจ “ทิฟฟ์? วันนี้เธอไม่ทำงานเหรอ?”ทิฟฟานี่นึกถึงฉากที่เธอเจอที่บ้าน เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ “ลงมาข้างล่างหน่อย ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ ฉันจะไม่ก้าวเข้าไปในห้องของเธอเพราะผู้ของเธอกลัวเชื้อโรค ฉันไม่อยากให้เขารำคาญฉัน”แอเรียนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับโรคกลัวเชื้อโรคของมาร์คเช่นกัน เธอจับมือทิฟฟานี่และเดินไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง “ว่าไง? เธอดูกังวลแต่เช้าเลย”“ฉันไม่ได้กลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านมาพักหนึ่งแล้ว เมื่อเช้านี้ฉันเลยคิดว่าจะไปเยี่ยมเขา” ทิฟฟานี่พูดด้วยสีหน้าที่ขุ่นเคือง “ฉันยังเอาอาหารเช้าและของขวัญไปให้แม่ด้วยเพราะกลัวว่าแม่จะบ่นว่าฉันลืมแม่หลังจากที่เจอผู้ชาย เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? แม่ไม่จำเป็นต้องจู้จี้ฉันอีกต่อไปและฉันไม่คิดว่าแม่จะว่าอะไรฉันถ้าฉันไม่กลับบ้าน เพราะเขามีผู้ชายอยู่ที่บ้าน! ฉันไม่ได้เห็นผู้ชายคนนั้น ฉันเห็นแค่รองเท้าคู่หนึ่งที่ประตู ฉันเลยรู้สึกเศร้านิดหน่อย”แอเรียนผงะเมื่อเธอฟัง “เ
“ไม่มีอะไรที่น่าประทับใจ” ทิฟฟานี่ตอบโดยไม่คิดเลย อาจเป็นเพราะเธอยังคงไม่พอใจที่แม่ของเธอจะแต่งงานอีกครั้ง “เขาดูไม่ดีเลย เขาเก่งแต่พูดเท่านั้น เราเคยเจอกันมาก่อน แต่ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเป็นคนยังไง เขาไม่ใช่พ่อม่าย แต่เป็นผู้ที่หย่าร้าง ต้องมีเหตุผลเบื้องหลังการหย่าใช่ไหม? ฉันไม่ได้จะบอกว่าคนที่หย่าแล้วจะเป็นตัวปัญหา แต่อย่างน้อยฉันต้องเข้าใจว่าการหย่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไม ดูข้อมูลจากนักสืบสิ แกรนท์เพิ่งอย่าได้ไม่ถึงปี ฉันต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วแหละ”แอเรียนยิ้มอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าทิฟฟานี่จะไม่ได้สนิทสนมกับแกรนท์แต่เพียงพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมตัวเอง เธอจะไม่ถอยจนกว่าเธอจะได้สืบบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ถ้าลิเลียนวางแผนที่จะแต่งงานใหม่ พวกเขาจะต้องผ่านอุปสรรคนี้ไปก่อนทิฟฟานี่ลูบท้องที่ป่องเล็กน้อยของเธอขณะที่เธอเคี้ยวของหวานที่แมรี่เสิร์ฟให้ “แอริ ถ้าพูดอย่างมีเหตุผลแล้ว ตามวิธีที่พวกเทรมอนต์ให้อาหารเธอ ตอนนี้เธอน่าจะอ้วนเท่าหมูได้แล้ว ทำไมเธอดูผอมลง? ถ้าฉันทานอาหารที่นี่อีกสักสองสามมื้อ ฉันจะบวมและหนักขึ้น เธอมีอาหารอร่อยเต็มโต๊ะมากมายไปหมดทุกมื้อ ซุปและของหวานแสนอร่อ
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีมือมาวางบนท้องของเธออย่างอ่อนโยน สภาพจิตใจที่อ่อนไหวของเธอทำให้เธอสะดุ้งและตื่นขึ้นทันที เธอลืมตาขึ้นและได้รับการต้อนรับด้วยการจ้องมองอย่างเข้มข้นของมาร์คเมื่อตระหนักว่าพวกเขาอยู่ใกล้กันมากเกินไปเธอจึงผลักตัวเองออกจากเขา “คุณกลับมาทำอะไรที่บ้านเร็วขนาดนี้? ยังไม่บ่ายสามเลย สิ้นปีแล้วที่ออฟฟิศยุ่งไม่ใช่เหรอ?”มาร์คขมวดคิ้วกับปฏิกิริยาของเธอ “เธอไม่อยากเจอฉันเหรอ? ฉันกลับมาบ้านเพราะว่าฉันไม่สามารถหยุดคิดถึงเธอในสำนักงานและฉันซื้อหนังสือที่เธอต้องการมาให้ด้วย ที่ออฟฟิศก็ยุ่งแหละ แต่การได้อยู่กับเธอสำคัญที่สุด ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?”เธอแปลกใจที่แมรี่มอบหมายให้เขาซื้อหนังสือของเธอ เธอส่ายหัว “ไม่… ฉันนอนเพียงพอแล้ว คืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับถ้าฉันนอนต่ออีก ฉันกำลังจะไปเดินเล่น ถ้าคุณเหนื่อยก็พักผ่อนนะ”เมื่อเธอลุกขึ้นมาร์คก็ดึงเธอกลับลงไปเข้าอ้อมกอดเขาอย่างแม่นยำ แขนของเขาโอบเธอไว้แน่น “นอนกับฉันสักพักนะ… ฉันแวะไปเยี่ยมคุณย่าระหว่างทางกลับบ้านด้วย ฉันรู้ว่าเธอเองก็อยากไปด้วย แต่เธอไปไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงไปเยี่ยมคุณย่าแทนเธอ”เขาไม่ได้บอกเธอว่าหญิงชราคนนั้นเป็นอย
มาร์คเงียบไป เขาใช้เวลาสักครู่ก่อนจะพูดอีกครั้งว่า “มันไม่จำเป็น มีแค่แจ็คสันเท่านั้นที่รู้ ในตอนแรกฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเล่าให้คุณย่าฟังแต่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะเก็บการตายของลูกชายของเขาจากเขา อย่าถามเลยแอริ… มีบางสิ่งที่เลวทรามเกินกว่าที่เธอควรจะรู้”แอเรียนไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ เธอรู้ว่าเขาจะไม่บอกเธอ เธอจึงถามว่า “แม้ว่าฉันจะยอมกลับมาหาคุณ คุณคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้จริง ๆ เหรอ? ช่องว่างระหว่างเรานั้น… นั่นมันกว้างเกินไป แม้กระทั่งกับลูก มันยังมีอุปสรรคที่เราไม่สามารถผ่านไปได้”เขาเอื้อมมือออกไปและยกคางของเธอขึ้นพลางมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ เขาจ้องตรงมาที่เธอและพูดว่า “ในเมื่อฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอกลับมาหาฉันแล้วทำไมเราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ล่ะ? เธอจะรักหรือจะเกลียดฉันก็ได้ ฉันจะยอมทุกอย่าง ที่เหลือให้ฉันจัดการเอง ฉันจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ฉันรักเธอและฉันไม่เชื่อว่าเธอไม่ได้รักฉันเลย”เธอสามารถเห็นเงาสะท้อนของเธอในดวงตาของเขาและแสงที่ริบหรี่ คนเราเวลามีความรักตาจะสว่าง มันเป็นความจริง ความรักที่เขามีต่อเธอไม่มีที่สิ้นสุดและอยู่เหนือฤดูกาลต่าง ๆ มากมายอย่างไรก็ตาม
ล่วงเลยเวลามา 19.00 น. ทิฟฟานี่ขับรถของเธอไปจอดใกล้บริเวณที่อยู่อาศัยของเธอและอืดอาดยืดยาดอย่างลังเล ข้อมูลใหม่ที่นักสืบได้ส่งมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ มีบางอย่างผิดปกติกับแกรนท์ แจ็คสันตอนแรกเธอตั้งใจจะเชื่อสัญชาตญาณของแม่หรือทำความรู้จักกับแกรนท์เป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่าง ตาชั่งในใจของเธอเอียงไปทางนักสืบที่เธอไม่เคยพบมาก่อน เธอลังเลว่าจะขึ้นไปชั้นบนหรือไม่เพื่อแนะนำลิเลียนไม่ให้ออกเดทกับแกรนท์ เธอรู้ว่าเมื่อเธอพูดคำเหล่านี้ก็จะเกิดสงครามขึ้นอีก เธอไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของเธอกับลิเลียนกลับไปเป็นเหมือนเดิมหลังจากลังเลอยู่นาน เธอก็พิมพ์ข้อความถึงนักสือบว่า : ข้อมูลของคุณถูกต้องหรือไม่? สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับฉัน มีอะไรผิดปกติกับแกรนท์ แจ็คสัน? คุณช่วยอธิบายให้ละเอียดได้ไหม?คำตอบตามมาในไม่ช้า : 'ตอนนี้คุณนับเป็นลูกค้าเก่าของผมแล้ว คุณควรรู้ดีไม่ใช่เหรอว่าข้อมูลที่ผมให้ถูกต้องหรือไม่? ผมได้ตรวจสอบกรณีนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว และอย่างสุดความสามารถด้วย เพราะเราร่วมงานกันมาบ่อยครั้งแล้ว ผมไม่สามารถให้คำอธิบายโดยละเอียดแก่คุณได้ว่าทำไมแกรนท์
นักสืบส่วนตัวได้ส่งข้อความถึงเธออีกครั้ง มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับแกรนท์ ชายผู้นี้อาจดูเหมือนนักธุรกิจที่มั่งคั่งแต่ในความเป็นจริงเขามีหนี้สินท่วมตัวมานานแล้ว ออฟฟิศของเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากฉากหน้ากับเบื้องหลังที่ว่างเปล่าและเขากำลังประสบปัญหาภาระจากหนี้สินอย่างหนัก รวมทั้งการหย่าร้างของเขาซึ่งก็เกิดจากปัญหาทางการเงินเช่นกัน ไม่นานหลังจากที่หย่าร้างเขาก็ตามจีบลิเลียน แม่ของเธอ เพื่ออะไรกัน? แกรนท์เองก็ไม่เคยโผล่หน้าของเขามาให้การช่วยเหลือสักครั้งในตอนที่ครอบครัวเลนกำลังเจอวิกฤตปัญหาล้มละลาย ตอนนี้มันอาจจะดูเหมือนว่าพวกเขาเกี่ยวพันและสนิทสนมกันอย่างใกล้ชิด แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่ผิวเผินเท่านั้นเธอมีความรู้สึกไม่ดีและไม่สามารถมาคิดถึงเรื่องอาหารการกินได้ เธอรีบขับรถออกไปเพื่อที่จะกลับบ้านตามที่คาดไว้ แกรนท์ยังอยู่ที่บ้านในวันนี้เช่นกัน ลิเลียนที่ไม่เคยชอบการทำอาหารและก็ทำอาหารอะไรไม่เป็นเลยจริง ๆ แต่วันนี้เธอกลับทำอาหารได้ ทิฟฟานี่ถึงขั้นตกใจเป็นอย่างมากและอารมณ์เสียในเวลาเดียวกัน ขนาดตัวเธอเองยังไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารของแม่ของเธอเองเลยด้วยซ้ำด้วยความประหลาดใจก
ทิฟฟานี่ลุกขึ้นยืน “ฉันขอถามอะไรหน่อย แม่รู้จักแกรนท์ดีแค่ไหน?”ลิเลียนเองก็โกรธพอ ๆ กัน “เขารู้จักกับพ่อของเธอมานานหลายปีแล้ว เขายังเคยอุ้มเธอตอนที่เธอยังเป็นทารกด้วย! ฉันจะไม่รู้จักเขาได้อย่างไร? เขาอาจจะไม่ใช่คนหน้าตาดีแต่เขาเป็นคนดี แค่นั้นยังไม่พออีกเหรอ? นอกจากนี้ เขามีภูมิหลังครอบครัวที่ดีด้วย ฉันจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคตของฉัน ฉันจะได้ไม่ต้องพึ่งพาเธอเพื่อความอยู่รอดด้วย!”ทิฟฟานี่โกรธจัดมากขึ้นเมื่อเธอได้ยินลิเลียนปกป้องแกรนท์ “ใช่ เขารู้จักพ่อมาหลายปีแล้ว แต่เพียงผิวเผินเท่านั้นไม่ใช่เหรอ? เขาอัปลักษณ์มากโดยไม่ต้องสงสัยเลย แต่ฉันจะไม่ตัดสินคนที่รูปลักษณ์ แม่ลองดูข้อเท็จจริงบางอย่างบ้าง เขาอยู่ที่ไหนตอนที่ครอบครัวของเราล้มละลายและต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด? เขาไม่เคยมาให้เห็นหน้า แม่ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญไปหน่อยเหรอที่เขามาเคาะประตูบ้านเราตอนนี้? เขาน่ะเหรอ? ผู้ชายที่ดี? แม่ไม่รู้อะไรเลย! แม่รู้ไหมว่าเขาเพิ่งหย่าได้ไม่ถึงครึ่งปี? แม่รู้ไหมว่าทำไมเขาถึงหย่า? เขาบอกแม่ทุกอย่างแล้วเหรอ? เขามาอยู่ที่บ้านเราก่อนที่แม่จะแต่งงานกับเขาและยังนอนค้างคืนด้วย… แม่ไม่คิด
ตอนนี้ทิฟฟานี่ไม่ต้องการรบกวนแอรียนและธัญญ่าก็อยู่กับเอริก ดังนั้นเธอจึงไม่สะดวกที่จะมาพบทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ไม่สามารถกลืนความโกรธของตัวเองได้ในขณะนั้น ตอนนี้เธอต้องการโทรหานักสืบและขอที่อยู่บ้านของแกรนท์ จากนั้นเธอจะทำให้แกรนท์บอกความจริงด้วยตัวเอง โชคไม่ดีที่ลิเลียนทำโทรศัพท์ของทิฟฟานี่พัง ตอนนี้เธอจึงติดต่อใครไม่ได้เธอขับรถวนสองสามรอบและลงเอยที่หน้าบาร์ที่เธอเคยมาเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว ณ จุดนี้ สิ่งที่เธอต้องการทำคือ ดื่มให้เมาเธอเดินเข้าไปในบาร์อย่างสบาย ๆ และนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง จากนั้นเธอก็สั่งเครื่องดื่มจากพนักงานเสิร์ฟ เธอดื่มไปสองสามรอบแล้วก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะส่งไวน์ราคาแพงหนึ่งขวดให้เธอก่อนที่เธอจะทันได้สั่งใหม่อีกรอบ “คุณผู้หญิง สิ่งนี่มาจากคุณสมิธ เขาขอให้บอกคุณว่าให้ดื่มช้าลงหน่อย อย่าดื่มมากเกินไป มันไม่ดีต่อสุขภาพ”คุณสมิธ? ทิฟฟานี่นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร “เขาเป็นใคร? ฉันรู้จักเขาเหรอ?”พนักงานเสิร์ฟก้มลงกระซิบข้างหูทิฟฟานี่ว่า “คุณสมิธเป็นเจ้าของของบาร์นี้ ดื่มให้สนุกนะคะ"เจ้าของบาร์นี้? ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ได้แปลกเกินไปเพราะเธอเคยเป็นลูกค้าประจำและใช้เงินเป็น