กลางดึกขณะแพรวากำลังเพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับการนอนแช่น้ำในอ่าง เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
ครืด ครืด ครืด
ร่างเล็กระบายลมหายใจพรืดใหญ่ เมื่อถูกขัดจังหวะ มองรายชื่อที่ปรากฏก็ต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจรับสายในที่สุด
"สวัสดีค่ะพี่เปรม"
(โอ้ รอดตายไปทีที่น้องวายังไม่นอน ขอโทษนะที่พี่ต้องรบกวนกลางดึกแบบนี้ แต่ทางท่าที่เวียดนามเพิ่งแจ้งเข้ามา ว่ามีสินค้าภายในตู้ของลูกค้าได้รับความเสียหาย)
"ช่วยอธิบายให้ละเอียดหน่อยค่ะ"
ใบหน้าสวยเริ่มเคร่งเครียด เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบกายและเดินออกไปนั่งคุยยังห้องนั่งเล่นแทน พลางล้วงสมุดบันทึกในกระเป๋ามาจดรายละเอียดไปด้วย
(ผลไม้ของแบรนด์ Fruity Thailand กล่องบรรจุลูกค้าแตก ทำให้พอเปิดตู้มาพวกผลไม้ที่อยู่ด้านล่างถูกทับจนช้ำหมดเลย ส่วนกล่องด้านบนยังปกติดีค่ะ)
เปรมธิดา หัวหน้าฝ่าย AE รีบอธิบาย
"เป็นตู้เดียวเหรอคะ"
(เป็นเหมือนกันหมดทั้ง 3 ตู้เลยค่ะ คาดว่าจะเสียหายประมาณ 1 ใน 3 เลย พี่เครียดมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้)
"ให้ทางเวียดนามถ่ายรูปความเสียหายมาหน่อยค่ะ ขอละเอียดถ่ายทุกมุม ส่วนสินค้าที่ไม่เสียหายให้รถรับไปก่อน พรุ่งนี้เช้าแจ้งลูกค้าด้วยนะคะ แล้วให้ทีมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าประชุมตอน 8 โมงค่ะ"
(โอเคได้ค่ะ)
"วาฝากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดด้วยนะคะ"
(ได้ค่ะๆ ขอบคุณน้องวามากๆเลยนะ)
เปรมธิดาพอจะหายใจได้โล่งขึ้นบ้าง หากไม่มีคนกลางเช่นแพรวามาช่วยสอบสวน เธอก็จะเป็นฝ่ายโดนลูกค้าตำหนิ และอาจต้องรับผิดชอบแทนหากเธอหาสาเหตุไม่เจอ
"ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้"
พอมีปัญหาเข้ามาแบบนี้ หญิงสาวก็หมดอารมณ์จะไปนอนแช่น้ำร้อนต่อแล้ว เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะลุกไปแต่งตัว ต่อสายหาหัวหน้าฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อรวบรวมข้อมูลอีกแรง กว่าที่ร่างเล็กจะได้ล้มตัวนอนก็เกือบตี 1 เข้าไปแล้ว
บริษัท JRV LOGISTICS
พนักงานหลายร้อยคนทยอยเดินเข้าตึกสำนักงานสูงใจกลางกรุง พูดคุยหยอกล้อสนุกสนาน แตกต่างจากบุคคลภายในห้องประชุมที่ต้องมาบริษัทก่อนเวลาเกือบชั่วโมง หัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อถูกลูกค้าโวยวายเรียกร้องให้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดทันทีที่ทราบเรื่อง
"บริษัท Fruity Thailand เป็นลูกค้าเรามา 6 ปี แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหากล่องลังแตกมาก่อนเลย แต่รอบนี้เป็นพร้อมกันหมดผมว่าน่าจะเกิดปัญหาจากความแข็งแรงของกล่องบรรจุภัณฑ์ลูกค้านะครับ"
"ถ้าแบบนั้น ลูกค้าก็เป็นคนผิดสิ จะมาเรียกร้องให้เรารับผิดชอบได้ยังไง"
"พนักงานที่ท่ารถวางของลูกค้าไม่ดีหรือเปล่า"
"อย่ามาโยนความผิดให้ฝ่ายผม ลูกค้าเหมาตู้ ลูกน้องผมมีหน้าที่แค่ขับรถไปที่ล้ง ส่วนการนำขึ้นทางนั้นเป็นคนจัดการเอง"
และตามมาด้วยข้อถกเถียงอีกหลายอย่าง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครอยากเป็นผู้รับผิดชอบ
แพรวา เลขาสาวในชุดเสื้อแขนยาวตัวโคร่งและกระโปรงยาวลายประหลาดไม่ต่างจากทุกวัน นั่งนวดขมับตัวเองด้วยความวิงเวียน วิกผมหยิกฟูและแว่นหนาเตอะช่วยซ่อนสีหน้าหงุดหงิดไว้ได้อย่างดี
เมื่อเสียงโต้เถียงดังราวกับไม่มีวันจบสิ้น ร่างเล็กเริ่มทนไม่ไหวพยายามยกมือขึ้นเพื่อขอจังหวะพูด แต่หญิงสาวแสนจืดชืดกลับไม่เป็นที่สนใจ จนเธออยากจะตบโต๊ะเสียงดัง แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้และแสร้งปัดแก้วน้ำบนโต๊ะแทน
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกหยุดการโต้เถียงและเรียกความสนใจของทุกคนได้ทันที เธอแสร้งส่งยิ้มเก้อเขินก่อนจะลุกขึ้นสรุปการประชุม
"เอาล่ะค่ะ คุยกันแบบนี้คงหาข้อสรุปไม่ได้ ทางทีมที่ท่าเรือช่วยหาหลักฐานดูทีค่ะ ว่าลูกค้ามีการเปลี่ยนกล่องบรรจุภัณฑ์จริงหรือเปล่า เพราะจากภาพมันก็ดูต่างจากเดิมจริงๆ หลังจากได้ข้อมูลแล้วส่งให้ทีมวิศวะคำนวณดูว่าถ้ากล่องบางลงจะมีโอกาสเกิดปัญหาลังแตกแค่ไหน ทาง AE ช่วยประสานงานและสรุปยอดค่าเสียหายทั้งหมดด้วย อีก 2 ชั่วโมงเราค่อยมาคุยกันอีกที ตอนนั้นน่าจะได้ข้อมูลมากพอแล้ว"
ทุกคนพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยกับวิธีของเลขาสาว จนไม่มีใครโต้แย้งอะไรออกมาอีก และรีบไปจัดการหน้าที่ในส่วนของตนเอง
ยังไม่ทันจะเริ่มงาน แพรวาก็รู้สึกเหมือนพลังงานในร่างกายถูกสูบออกไปจนหมด เธอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ร่างเล็กขึ้นลิฟต์มายังชั้นบนสุดและจัดเตรียมเอกสารสำหรับเจ้านายหนุ่มเช่นปกติ เธอเหลือบมองนาฬิกาบนโต๊ะก็รู้สึกแปลกใจที่ยังไม่เห็นประธานหนุ่มเหมือนทุกวัน
แอ๊ดดด~
เสียงเปิดประตูห้องทำงานทำให้หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อหันกลับไปก็พบใบหน้าเฉยชาของบุคคลที่เธอกำลังคิดอยู่เปิดประตูออกมา
แพรวารีบลุกขึ้นโค้งทำความเคารพ โอนิกซ์ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาคมของเขากลับฉายแววหงุดหงิดไม่พอใจจนเธอรู้สึกได้
"เอ่อ คือ..."
"ขอกาแฟ"
อีกฝ่ายแทรกขึ้นมาก่อนและหมุนตัวกลับเข้าห้องทันที ปล่อยให้เลขาสาวมึนงงกับทีท่าของเขา
แพรวาสะบัดหัวเรียกสติ การประชุมเมื่อครู่ทำสมองเธอทำงานอย่างหนัก และยังต้องขบคิดถึงวิธีการรับมือในขั้นต่อไปอีก ก่อนที่หญิงสาวลุกไปชงกาแฟร้อนตามที่ประธานหนุ่มต้องการ
ไม่ใช่ว่าโอนิกซ์ขี้เกียจหรือไม่สนใจบริษัท แต่ประธานหนุ่มไม่ชอบคนโง่ไร้สมอง เขาชอบคนมีความคิด รู้จักรับมือและแก้ไขสถานการณ์ได้ ดังนั้นเมื่อเจอปัญหาแต่ละครั้ง จะต้องมีแนวทางแก้ไขมาเสนอพร้อมกัน และประธานหนุ่มจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะแก้ไขอย่างไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตค่ะ"
"เชิญ"
เมื่อได้ยินเสียงภายในตอบรับแพรวาก็ก้มหน้าเดินตัวลีบเข้ามายังห้องทำงานกว้าง แม้จะไม่ได้มองเขา แต่สายตาเย็นเฉียบของประธานที่มองมาก็ทำให้เธอขนลุกวาบ ราวกับเธอไปทำเรื่องอะไรให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจ
"กาแฟค่ะ" แพรวาค่อยๆ วางแก้วกาแฟหอมกรุ่นบนโต๊ะทำงานช้าๆ แต่วันนี้โอนิกซ์กลับพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เธอจะแจ้งรายงานประจำวัน
"เธอตั้งใจใช่ไหม"
"คะ?"
ร่างเล็กในชุดเสื้อผ้าหลวมโครกเงยหน้าขึ้น มองกลับด้วยความมึนงง
"นัดกินข้าวเมื่อวาน เธอรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าคุณไพศาลพยายามจะจับคู่ฉันกับลูกสาวเขา"
"เอ่อ คือ..."
"ตอบ!"
น้ำเสียงเข้มดุดันบวกกับสายตาภายใต้กรอบแว่นจ้องมาอย่างคาดคั้น ทำให้แพรวาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับไปตรงๆ
"ค่ะ คุณไพศาลขอมาค่ะ ว่าไม่ต้องให้วาเดินทางไปด้วย" ร่างเล็กก้มหน้างุด ตอบเสียงอ่อย
"ใครเป็นเจ้านายเธอกันแน่"
"ขอโทษค่ะ"
"อย่าให้มีครั้งหน้าอีก เธอไม่ได้มีหน้าที่จับคู่ฉันให้ใคร"
"ทราบแล้วค่ะ"
ร่างสูงเงียบไป คว้าแก้วตรงหน้าขึ้นมาจิบ ปล่อยให้ความขมเข้มข้นของกาแฟค่อยๆ แทรกซึมผ่านลิ้นลงสู่ลำคอ
แพรวาลอบมองท่าทีของเจ้านายอีกครั้ง เมื่อเห็นเขาไม่ได้พูดอะไรต่อจึงเริ่มรายงานตารางงานให้ชายหนุ่มฟังตามปกติ และแจ้งเรื่องปัญหาสินค้าเสียหายต่อ
โอนิกซ์นั่งฟังเธอเงียบๆ โดยใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยตามเดิม ไม่แสดงท่าทีหงุดหงิดไม่พอใจแต่อย่างใด เหม่อมองไปทางอื่นราวกับตกอยู่ในห้วงความคิด จนกระทั่งเธออธิบายจบ เขาจึงวางแก้วในมือและหมุนเก้าอี้ทำงานมาทางเธอ เรียวขากำยำใต้กางเกงสแล็คถูกยกขึ้นไขว้ในท่าทีสบายๆ โอนิกซ์วางแขนข้างหนึ่งกับพนัก อีกข้างยกเท้าคาง
"คิดว่าจะจัดการปัญหานี้ยังไง" น้ำเสียงทุ้มราบเรียบไร้อารมณ์ถามขึ้น
"วาคิดว่าจะเสนอให้ช่วยลูกค้ารับผิดชอบค่าเสียหายประมาณ 30% ของทั้งหมดค่ะ"
แพรวาคาดไว้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มต้องถามความเห็น จึงเสนอสิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้ออกไป
"ไหนเธอบอกว่าปัญหาเกิดจากกล่องบรรจุลูกค้าไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องช่วยรับผิดชอบ เธอกำลังทำให้บริษัทเสียเปรียบรู้หรือเปล่า" คำพูดเชิงตำหนิและสายตาเย็นชาของเขา คงทำให้คนอื่นตัวสั่นหวาดกลัวจนต้องขอโทษที่พูดอะไรโง่ๆออกไป แต่ไม่ใช่กับแพรวา
"วาลองประเมินค่าเสียหายลูกค้าแล้วคร่าวๆ ประมาณ 3 แสนกว่าบาท ดังนั้นเราช่วยทางนั้นแค่ 9 หมื่นบาท เพื่อแสดงน้ำใจ ก่อนจะแจกแจงให้ลูกค้าฟังถึงปัญหาว่าทางบริษัทไม่ได้มีส่วนผิด และให้ทางบริษัท Fruity Thailand ไปจัดการแก้ไขปัญหาต่อเอง อีกทั้งอีก 4 เดือนจะมีการเซ็นสัญญาใหม่ ทางเรามีการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งในปีนี้ การแสดงความจริงใจเล็กน้อยน่าจะช่วยให้อีกฝ่ายตัดสินใจต่อสัญญากับเราได้ง่ายขึ้นค่ะ"
"..."
"..."
ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไปหลังจากที่แพรวาอธิบายความคิดเห็นของเธอจบ ร่างเล็กลอบกลืนน้ำลาย รู้ว่าท่าทางเมื่อครู่ของตนเองช่างขัดแย้งกับบุคลิกที่พยายามสร้างขึ้นมาแค่ไหน
ภายในห้องเงียบสนิทมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำเท่านั้น แต่สายตาประเมินอย่างโจ่งแจ้งของประธานหนุ่มที่จ้องเธอไม่วางตา ทำให้แพรวาเริ่มรู้สึกถึงเหงื่อเย็นๆ ที่ซึมตามไรผม
"แล้วรายงานให้ฉันรู้ด้วยว่าลูกค้าว่าไง"
โอนิกซ์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ก่อนจะขยับเก้าอี้กลับไปทางโต๊ะตามเดิม และเริ่มลงมืออ่านเอกสารกองโต
ร่างเล็กยิ้มกว้าง เมื่อความเห็นของเธอได้รับการอนุมัติ รีบโค้งตัวและหมุนกายจากไปเพื่อไปจัดการปัญหาที่คั่งค้างต่อให้เสร็จ
เมื่อเข้าประชุมอีกครั้งทุกอย่างก็ราบรื่นผิดกับเมื่อเช้า และตามที่เธอคาด ลูกค้าได้มีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนการผลิตแต่กลับไม่ได้มาตรฐาน หลังจากเปรมส่งหลักฐานให้อีกฝ่ายดู ทางนั้นก็มีน้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด และยังขอบคุณที่ทางบริษัทจะช่วยเหลือค่าเสียหายทั้งที่ไม่มีความผิด แผนซื้อใจของแพรวาดูเหมือนจะได้ผลดีทีเดียว
หัวหน้าฝ่ายต่างๆ มีสีหน้าดีขึ้น นึกขอบคุณเลขาสาวที่สามารถจัดเตรียมวางแผนรับมือแก้ไขปัญหาได้ดีเช่นนี้ จนเป็นที่ยอมรับกันทั่ว
ช่วงบ่าย แพรวามีเข้าประชุมพร้อมโอนิกซ์อีกเกือบ 2 ชั่วโมง เขาพูดเพียงไม่กี่ประโยคแต่กลับสามารถทำให้เหล่าหัวหน้าอาวุโสของบริษัทหน้าถอดสี จนแพรวาเกือบจะโทรเรียกรถพยาบาลมาสแตนด์บายรอเสียแล้ว
หญิงสาวก้าวยาวๆ เพื่อเร่งเดินให้ทันประธานหนุ่มที่เดินกลับห้องทำงาน พลางหอบเอกสารกองโตแนบอกมาด้วย
ปึก!
แต่แล้วคนตรงหน้าจู่ๆ ก็หยุดกะทันหัน ทำให้เลขาสาวที่รีบเร่งเดินตามชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างเต็มแรง จนล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น แฟ้มเอกสารหล่นกระจาย
โอนิกซ์ถอนหายใจ ส่ายหน้าระอา เหลือบมองความซุ่มซ่ามของเธอด้วยแววตากึ่งสมเพชกึ่งสะใจ ก่อนจะแสดงความมีน้ำใจโดยการพูดว่า
"รีบลุกขึ้นมา แล้วตามฉันเข้ามาในห้อง"
ว่าจบประธานหนุ่มก็หมุนกายเดินจากไปทันที แพรวาได้แต่มองค้อน ก่นด่าความเย็นชาของเขาในใจตามหลังไป พลางก้มเก็บแฟ้มที่หล่นเกลื่อนเพื่อไปจัดวางที่โต๊ะทำงานของเธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา"
เธอถอนหายใจ พยายามตั้งสติเพื่อรับมือกับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง ก่อนจะผลักประตูเข้าไป
"ค่ะ เรียกวามีอะไรเหรอคะ"
"อะนี่"
แพรวามึนงง มองการ์ดสีดำเงาในมือของชายหนุ่มที่ยื่นมาให้อย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมเหรอคะ"
"ถือว่าเป็นโบนัสที่จัดการปัญหาได้ดี อยากได้อะไรก็เอาการ์ดนี่ไปรูดซะ ฉันให้หนึ่งอย่าง"
คำเฉลยของประธานหนุ่มทำดวงตากลมโตใต้แว่นหนาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจและตื้นตัน มือบางสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้นขณะยื่นไปรับบัตรเครดิตใบหรูของอีกฝ่าย
"อะ...อะไร...ก็ได้เหรอคะ" แพรวาย้ำถามอีกครั้งราวกับไม่เชื่อหู
"อืม อะไรก็ได้...เลือกดีๆ คงรู้ว่าฉันไม่ได้ใจดีบ่อยๆ"
"ขอบคุณค่ะ"
หญิงสาวยิ้มกว้างกุมบัตรเครดิตในมือแน่น หัวใจพองโตอย่างประหลาดเมื่อได้รับการยอมรับจากโอนิกซ์ ตลอดเวลาที่เธอทำงานกับเขา แทบไม่เคยได้รับคำชมใดๆ ทั้งที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างมาก แต่เขาก็ทำเพียงพยักหน้ารับ แต่หากทำอะไรผิดพลาด ชายหนุ่มมาดขรึมตรงหน้าก็พร้อมจะเชือดเฉือนด้วยคำพูดเจ็บแสบจนเธอแทบมุดแผ่นดินหนี
โอนิกซ์ชะงักค้างไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเลขาสาวชัดๆ อกซ้ายวูบโหวงแปลกๆ ตาเขาคงเบลอไปเสียแล้วถึงเห็นยัยเฉิ่มน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมาได้ ร่างสูงสะบัดมือเป็นสัญญาณไล่เธอออกไป
"ใช้เสร็จก็เอามาคืนซะ"
"ได้ค่ะ"
แพรวาแทบกระโดดตัวลอยออกจากห้อง ความหงุดหงิดเมื่อครู่ที่เขาเป็นต้นเหตุจนเธอล้มไปกองกับพื้นหายวับไปกับตา
โอนิกซ์ส่ายหัวกับท่าทางเด๋อด๋าของเลขาส่วนตัว ช่างดูไม่ต่างจากเด็กได้ของขวัญ สมองเฉียบคมคาดเดาไปต่างๆ นานา ว่าเธอจะซื้ออะไรหลังจากโดนเขาโขกสับใช้งานมาหลายปี หวังว่าเธอคงจะไม่ซื้อบ้าน งานนี้อาจมีหมดตัว
ประธานหนุ่มรับรู้มาเสมอถึงความทุ่มเทในงานของแพรวา และความ สามารถของเธอก็เป็นที่พอใจเขามาก ไม่เช่นนั้นเงินเดือนของเลขาสาวคงไม่เหยียบ 6 หลักเช่นนี้
เขาเคี่ยวเข็ญกดดันเพื่อให้เธอพัฒนาฝีมือจนสามารถตอบสนองทุกความต้องการของเขาโดยไม่ต้องสั่งด้วยซ้ำ ครั้งนี้จึงมอบรางวัลการทำงานเป็นการตอบแทนเสียหน่อย
ติ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ดังขึ้น ประธานหนุ่มหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนที่ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาจะเผยรอยยิ้มที่นานๆ ครั้ง ถึงจะปรากฏ
'14:53 ยอดหักบัตรเครดิต 249.00'
เลขาของเขาช่างมีอะไรให้ประหลาดใจได้เสมอจริงๆ
เพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์โอนิกซ์ส่งยิ้มพลางยื่นนิ้วมือไปหาลูกน้อยในอ้อมแขน ซึ่งอัศวินก็หัวเราะร่าพยายามยื่นมือมาคว้ากำนิ้วบิดาเอาไว้ เขาพยายามบีบๆ คลายๆ อยู่หลายครั้ง และมักจะส่งเสียงโต้ตอบบ้างเวลาผู้เป็นพ่อพูดคุยด้วยแม้จะยังไม่รู้ความก็ตามไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนเขาถึงอยากพาลูกชายตัวเล็กของตนกลับบ้านไปด้วย อัศวินเลี้ยงง่ายและอารมณ์ดี บางครั้งเขาก็มักจะเพลินกับการหยอกล้อกับลูกจนลืมเวลาไป"เล่นพอยังคะตัวเล็ก หม่ามี๊พาไปอาบน้ำดีกว่า""คิก คิก คิก"อัศวินหัวเราะคิกคักขณะดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองมารดาและยิ้มจนตาหยี"กวนปะป๊านานแล้วนะคะ ไปกัน"โอนิกซ์ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา ประคองทารกให้หญิงสาวรับไปอุ้มต่อ สายตาอบอุ่นสื่อความหมายสบมองกัน แม้ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขมากในทุกช่วงเวลาแพรวาอุ้มอัศวินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ส่วนโอนิกซ์ก็หยิบโน้ตบุ๊กมานั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างต่ออีกนิดหน่อยมุมปากหยักยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังแววออกมาจากห้องน้ำ จนอดใจไม่ไหวต้องวางโน้ตบุ๊กบนตักลงแล้วเดินไปดูสองแม่ลูกแทนแพรวานำอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กมาตั้งไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน
3 เดือนต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ ก้มอ่านเอกสารร่างสัญญาฉบับใหม่ มือขวาควงปากกา มือซ้ายก็ประคองร่างของลูกชายตัวเล็กโยกกล่อมให้หลับภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก ทั้งเปลที่นอน และคอกกั้นบุนวมอย่างดี พร้อมตุ๊กตาของเล่นขนาดต่างๆ จนไม่เหลือคราบห้องของประธานบริษัทแม้แต่น้อยแพรวาเปิดประตูเข้ามา หลังจากคลอดลูกน้อยรูปร่างเธอก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แทบจะดูไม่ออกว่าเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อนใบหน้าสวยดูเปล่งประกายความงามชัดเจน ผิวขาวเนียนตัดกับเส้นผมสีดำสนิทยาวจรดแผ่นหลัง เธอสวมชุดเสื้อสูทสีครีมคู่กับกระโปรงเอวสูงสีเดียวกัน ราศีภรรยาประธานบริษัทจับทุกระเบียบนิ้วมุมปากที่ทาทับด้วยลิปสติกสีนู้ดยกยิ้มขึ้น จรดฝีเท้าเงียบเชียบไม่ให้รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยโอนิกซ์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร สายตาใต้กรอบแว่นดูอ่อนโยนเมื่อมองผู้มาใหม่ วางปากกาในมือลง"นี่เอกสารประชุมอาทิตย์หน้าค่ะ""เหนื่อยไหมครับ""นิกซ์ต่างหาก วินดื้อไหมเอ่ย""เล่นเสร็จ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้"สายตาอ่อนโยนมองใบหน้าหลับใหลของลูกชายที่ถอดแบบมาจากเขาแทบจะพิมพ์เดียวกัน ยก
2 เดือนต่อมาโรงพยาบาลแพรวานั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บนเตียงคนไข้ โอนิกซ์ย้ายเธอมาที่โรงพยาบาลได้สองวันแล้วเพื่อรอวันคลอด ตอนนี้แพรวายังไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไร ต่างจากคนเป็นสามีที่ดูตื่นตัวพร้อมทุกสถานการณ์ เขาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทารกแรกเกิดไว้พร้อมสรรพ รวมถึงจัดการออกแบบตกแต่งห้องนอนรับแขกเก่าที่แพรวาเคยนอนเป็นห้องเด็กอ่อน แม้ลูกยังต้องนอนห้องเดียวกับพวกเขาอีกหลายปีก็ตามท้องเธอโตเสียแทบเดินไม่ไหว จะลุกจะนั่งต้องมีโอนิกซ์คอยช่วยพยุงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ห้องพักของเธอครึกครื้น"พี่วาเอาแอปเปิลไหม คลีปอกให้" คลีโอและลีโอหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมว่าที่คุณแม่ตั้งแต่เช้า"ได้จ้ะ ขอบคุณนะ""ค่า เดี๋ยวคลีไปล้างก่อน"คลีโอเดินไปยังส่วนครัวของห้องพักซึ่งไม่ต่างจากโรงแรมดีๆ มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีแยกโซนสำหรับคนไข้และญาติเวลามาเยี่ยมไว้ด้วย ห้องรับแขกก็กว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนจึงไม่รบกวนการพักผ่อนของคนไข้"ปอกเป็นเหรอไง เอามีดมานี่ พี่ทำเอง" ลีโอที่แทบทนดูไม่ไหว ดึงมีดคมออกจากมือแฟนสาว และดันตัวเธอไปข้างๆ ก่อนจะจัดการแอปเปิลสีแดงด้วยตัวเองชายหนุ่มจัดการป
ย่านใจกลางเมืองเหล่ามาเฟียสี่คน ยืนหน้าเครียดมองประตูร้านขนมหวานด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนที่เป็นคนเสนอความคิด"เอาจริงดิ พาพวกกูมาคุยงานในร้านขนมเนี่ยนะ" ลีออนเอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้"แล้วยังไง""ดูหน้าแต่ละคนก่อน แล้วค่อยถามว่ายังไง""มึงก็รู้กูห่างเมียนานไม่ได้ มันปวดหัวอยากจะอ้วก ถ้าอยากคุยงานก็คุยที่นี่" โอนิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะจูงมือภรรยาสาวที่ท้องโตเข้าไปในร้านเป็นคนแรก"แน่ใจเหรอวะ" ลีออนหันมาขอความเห็นจากเพื่อนที่เหลือ ซึ่งวิคเตอร์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจ ส่วนไคโรและลีโอก็ส่ายหน้าไม่ได้ตอบคำถาม และพาแฟนตัวเองเข้าไปในร้านด้วยเช่นกัน"เชี่ย พวกกูสองคนมาทำห่าอะไรเนี่ย นึกว่านัดเดทคู่""กูยอมให้มึงควงได้วันหนึ่ง แต่ถ้าเริ่มลวนลามกูเมื่อไร กูถีบมึงแน่""ถุย! กูเนี่ยนะ จะลวนลามมึง พูดจาน่าถูกกระสุนฝังหัวจริงๆ""หึ"วิคเตอร์ทำเพียงแค่แค่นหัวเราะ และเดินตามคนอื่นเข้าไปในร้าน สุดท้ายเพื่อนผู้เรื่องมากก็หมดข้อโต้แย้ง ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตามเข้ามาโอนิกซ์แยกโต๊ะระหว่างกลุ่มสาวๆ ในนั่งริมหน้าต่างร้าน ส่วนกลุ่มเขาแยกมาอีกโต๊ะก่อ
คฤหาสน์ตระกูลโอนิกซ์แพรวาคลี่ยิ้มละลายใจ ขณะผลักร่างสูงของผู้เป็นสามีลงบนเตียงกว้างในห้องนอนของเขา โอนิกซ์หอบหายใจเข้าออกหนักหน่วงด้วยความตื่นเต้น เฝ้ามองหญิงสาวค่อยๆ คลานขึ้นมาคร่อมร่างด้วยท่าทางยั่วเย้าชวนคลั่งคอเสื้อเว้าลงมา จนสามารถมองเห็นเนื้อนุ่มคู่สวยใต้ชุดเดรสน้ำเงิน ความกระสันทำช่วงล่างปวดหนึบ ดุนดันเป้ากางเกงขึ้นเป็นลำคนตัวเล็กยกยิ้มอย่างคนมีอำนาจเหนือกว่า มือน้อยลูบไล้ลำกายแข็งขืนผ่านกางเกง เฝ้ามองคนข้างใต้พยายามบดเบียดช่วงล่างเข้าหามือเธอ"จะให้รางวัลอะไรนิกซ์ครับ" เขาถามเสียงกระเส่า ความรู้สึกตื่นตัววูบหวิวทรมานเหมือนตนกำลังโดนทำโทษมากกว่า"รอดูสิคะ ใจร้อนจัง""อ่า เมียขี้ยั่วจัง"มือซุกซนเริ่มทำการปลดตะขอกางเกงพร้อมดึงมันลง โอนิกซ์ก็ยกสะโพกช่วยให้เธอจัดการกับกางเกงเกะกะโดยง่าย ท่อนเอ็นร้อนแข็งแทบชี้หน้า แต่ก็ยังมี บ็อกเซอร์อีกตัวปกปิดเอาไว้แพรวานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขา ใช้มือสัมผัสความใหญ่โตผ่านเนื้อผ้าอย่างยั่วยวนใจเย็น แต่คนที่นอนหอบหายใจกลับจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียเอง รูดชั้นในลง โยนทิ้งออกไปในที่สุดท่อนเอ็นใหญ่ขนาดเท่าข้อมือหญิงสาวปรากฏสู่สาย
หลังมื้ออาหารจบลง งานประมูลสินค้าเพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่เด็กด้อยโอกาสจึงเริ่มขึ้น แขกที่มาร่วมงานทยอยเดินไปยังโซนหน้าเวทีโอนิกซ์โอบเอวภรรยาคนสวยไว้ตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวจนเธอนั่งลงข้างไปรยาเรียบร้อย เขาจึงนั่งขนาบข้าง ไม่นานไฟในห้องจัดเลี้ยงก็ถูกหรี่ลง พร้อมเสียงพิธีกรดำเนินงานดังขึ้น"สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลเพื่อการกุศลครั้งที่ 4 รายได้จากการประมูลทั้งหมด หลักหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสยังพื้นที่ห่างไกล ของที่นำมาร่วมประมูลในวันนี้มีมูลค่ารวมกันเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานในครั้งนี้นะครับ"แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือเสียงดัง ตื่นเต้นที่จะได้ชมของล้ำค่ามากมาย และยังได้โอกาสอวดบารมีและเงินในบัญชีให้คนอื่นรับรู้ด้วย"ของชิ้นแรก เปิดกันมาด้วยแจกันเครื่องลายครามจากราชวงศ์ชิง ของประเทศจีนโบราณ พร้อมใบรับประกัน ขอเปิดการประมูลที่ หนึ่งล้านบาทครับ"เมื่อพิธีกรให้สัญญา ผู้ร่วมงานก็ชูป้ายขานราคากันอย่างสนุกสนาน แพรวาตกใจกับราคาที่สูงลิ่วของของแต่ละอย่าง ความคิดที่อยากจะร่วมงานเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยต้องถูกหยุดไว้ชั่วคร