LOGIN“แต่คุณยังไม่รู้แน่ชัดว่า พี่ชายฉันผิดไม่ใช่เหรอ พี่ชายฉันก็บอกว่าไม่ได้ทำ พี่ชายฉันไม่มีวันทำเรื่องชั่วๆ แน่นอน” กชนิภามั่นใจในตัวยศวิน “แต่ถึงพี่ชายฉันกับเพื่อนอีกสองคนจะทำผิด คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับเขาอย่างนี้เพราะคุณไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่ผู้พิพากษาถึงได้มีอำนาจลงโทษใคร คอยดูนะ ฉันจะไปแจ้งตำรวจให้จับคุณกับพวกโทษฐานทำร้ายร่างกาย”
เหล่าลูกน้องของอัสวานต่างพากันเสียวสันหลังแทนผู้พูด ไม่เคยมีใครกล้าโต้เถียงหรือพูดจาเช่นนี้กับเจ้านายเขาสักคน มีแต่กลัวจนหัวหด แล้วเธอคงไม่รู้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นมากกว่าผู้พิพากษาหรือตำรวจ
อัสวานมองหน้าผู้หญิงปากกล้าที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่อีกใจก็คิดว่า เธอเป็นคนไทยจึงไม่รู้จักเขา ไม่รู้ว่าคนอย่างอัสวานทำอะไรได้บ้าง วันนี้เธอจะได้รู้ว่า เขาเป็นมากกว่าที่เธอคิด
“เธอเป็นคนต่างถิ่นถึงไม่รู้ว่าฉันคือใคร ฉันจะบอกเธอเอาบุญก็ได้ว่า ฉันชื่อชีคอัสวาน อับดุลการิมเป็นลูกชายคนเดียวของชีคโมฮัมหมัด อับดุลการิม ผู้ปกครองแคว้นซัสเชียร์แผ่นดินที่เธอเหยียบอยู่ และจะได้เป็นชีคปกครองแคว้นนี้ต่อจากพ่อของฉัน แค่นี้ก็คงมากพอที่ทำให้เธอรู้ว่า ฉันอยู่เหนือกฎหมาย เหยียบอยู่บนกฎหมู่ที่ฉันจะทำอะไรกับใครก็ได้ โดยเฉพาะคนชั่วช้าเลวทรามอย่างพี่ชายเธอกับเพื่อน” กชนิภาตกใจอีกทำนบที่รู้ความจริงว่า ชายน้ำเสียงเข้มห้วนคือใคร ทำให้เธอรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตของพี่ชายรวมทั้งตัวเธอเองด้วย “คนอย่างฉันถ้าไม่มั่นใจว่าพวกมันทำชั่วจริงก็ไม่มีวันทำแบบนี้ แต่ฉันรู้ไง รู้หมดทุกอย่าง โซเฟียเป็นคนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉัน บอกฉันด้วยว่าใครคือคนทำ แล้วฉันก็มีหลักฐานว่าพวกมันทำจริงๆ จากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพตอนที่มันลากโซเฟียเข้าไปในห้องแล้วปู้ยี้ปู้ยำ เธออยากเห็นภาพตอนนั้นไหม ตอนที่พวกพี่ชายเธอลากโซเฟียเข้าห้อง ถ้าอยากเห็นฉันจะเปิดให้ดู”
น้ำเสียงช่างน่าเกรงขาม มีความโกรธาในเนื้อเสียง แววตาอัสวานดุดันเคียดแค้น คำพูดและเสียงร้องไห้และทีท่าหวาดกลัวของโซเฟีย เป็นภาพจำที่ไม่มีวัน ราวกับว่าฝังอยู่ในความรู้สึกของเขาก็ว่าได้ และการกระทำของชายทั้งสาม เสมือนกับย่ำยีศักดิ์ศรีของโซเฟีย รวมถึงตัวเขาในฐานะคู่หมั้น
เหมือนมีก้อนแข็งๆ อุดอยู่ตรงลำคอกชนิภา เธอไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้แม้ว่าจะมีคำพูดมากมายที่อยากเอ่ย อยากโต้เถียง แต่ด้วยท่าทางมั่นใจของเขา และยศวินก็ไร้คำพูดแก้ต่าง ทั้งที่อุปนิสัยของพี่ชาย หากไม่ทำผิดจะไม่ยอมรับความผิดที่ตนไม่ได้ทำเด็ดขาด ทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่า ยศวินกับเพื่อนอีกสองคนกระทำความผิดจริง
“ในเมื่อคุณมีหลักฐาน ทำไมไม่ให้ตำรวจจัดการล่ะ คุณทำแบบนี้ก็ไม่ถูก มาตัดสินความผิดของคนอื่นตามอำเภอใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนที่ถูกกระทำจะเป็นคนสำคัญของคุณก็ตาม” ใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจหนึ่งก็คิดค้านเขา
“ก็เพราะกฎหมายที่จะลงโทษมันสามตัว ไม่ทำให้ฉันสะใจไงล่ะ วิธีของฉันจะทำให้พวกมันหลาบจำ” อัสวานเน้นเสียงพูด แววตายังไม่ลดความร้อนแรงแห่งโทสะ “กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง บอกกูมาว่า พวกมึงสามตัวทำระยำกับโซเฟียจริงไหม ตอบให้ผู้หญิงคนนี้ได้ยินชัดๆ สิว่า มึงสามตัวทำผิดจริง”
อัสวานไม่พูดเปล่า ยังรับปืนจากลูกน้องที่ส่งมาให้ ก่อนเล็งไปที่โอดิลที่เขารู้ประวัติมันอย่างดี ภาษาที่เขาพูดคือภาษาสากล ที่คนส่วนใหญ่ในจามาลพูดได้ เนื่องจากค้าขายกับชาวต่างชาติที่ใช้ภาษานี้ “เริ่มจากที่มึง ไอ้โอดิล ไอ้ชาติชั่ว”
โอดิลรู้จักชายคนนี้ดีว่าคือใคร เขาคือทายาทเพียงคนเดียวของชีคโมฮัมหมัด อับดุลการิม ผู้ปกครองแคว้นซัสเชียร์ อัสวานผู้ถูกกล่าวขานว่าโหดเหี้ยม เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ เขาปราบกองโจรนอกรีดหลายต่อหลายกลุ่ม เป็นที่รักของคนในหมู่บ้านกลางทะเลทราย รวมถึงคนในซัสเชียร์ที่ให้ความเคารพและยำเกรงไม่ต่างจากคนเป็นพ่อ แล้วถ้าหากเขารู้ว่า ผู้หญิงที่ตนข่มขืนคือคู่หมั้นของอัสวาน เขาจะไม่แตะต้องเธอแม้แต่ปลายก้อย และเมื่อถูกข่มขู่เช่นนี้โอดิลถึงกับกลัวขึ้นสมอง รักตัวกลัวตายขึ้นมาทันใด
“อย่าครับ อย่ายิงผม ผมสารภาพแล้วครับ” ก่อนหน้านี้โอดิลยังปฏิเสธเสียงแข็งเพราะไม่รู้ว่า หญิงสาวที่ตนย่ำยีคือใคร ทว่าตอนนี้กลับลนลาน ตัวสั่นยามมองปืนตรงหน้า แล้วยิ่งสั่นมากขึ้นเมื่อมองเห็นหน้าคนถือปืน
“มึงรีบพูดมา ก่อนที่กูจะจงใจทำปืนลั่นใส่ตัวมึง แล้วไม่ใช่แค่นัดเดียวนะ กูจะยิงมึงหมดแม็กเลย” อัสวานขู่ที่พร้อมทำจริงได้ทุกเวลา
“ผมทำเองครับ ผมกับไอ้นันข่มขืนผู้หญิงคนนั้น ส่วนไอ้ยศคอยดูต้นทางครับ”
โอดิลยอมคายความจริง แล้วความจริงจากปากโอดิลเรียกความตกใจให้กับกชนิภาและอังคณามาก เพราะพาดพิงถึงยศวิน
“ได้ยินเต็มสองหูหรือยังว่า พี่ชายเธอมันชั่ว มันทำผิดจริง” อัสวานพูดกับสาวหน้าหวานปากกล้า ที่ตอนนี้เงียบเสียง มีความหวั่นเกรงในแววตา ก้มหน้ามองยศวินที่น้ำตาไหลออกมา วินาทีนั้นเธอรู้ได้ทันทีว่า พี่ชายกำลังสำนึกผิดในเรื่องที่ทำ กชนิภาร้องไห้ เสียใจกับการกระทำของยศวิน การศึกษาสูงไม่ได้ดึงสติยศวินให้มีความคิดความอ่านเหนือคนอื่น เขาขาดสติทำในเรื่องที่ไม่ควรทำ “ฮาริมจัดการเชือดไก่ให้ลิงดู”
พิศวาสทาสเสน่หา Chapter 28“ใครคือน้องสาวของไอ้ราฟัล”“เธอชื่อยาบีน่าครับ ตอนนี้รออยู่ที่กระโจมในกองโจร” ด้วยความรักตัวกลัวตาย จึงเอ่ยปากบอกทุกอย่าง อาซาร์ได้ยินชื่อของยาบีน่าแล้ว ถึงกับลมออกหูความโกรธเข้าครอบงำถึงขั้นรุนแรง ทั้งหมดนี้เป็นแผนของยาบีน่าอย่างนั้นหรือ อดีตนางในฮาเร็มของเขาหวังจะแก้แค้นที่ตัวเขาเลือกสร้อยระย้ามาเป็นคู่ชีวิต แทนที่จะเลือกเธอเป็นคนแรก“แล้วไอ้ราฟัลล่ะมันอยู่ที่กระโจมด้วยหรือเปล่า”“ไม่ ไม่ครับตอนนี้ที่ราฟัลกำลังซุ่มรอจังหวะปล้นวังของท่านซีดอยู่ ตามแผนครับ” อาซาร์กระตุกยิ้มเหี้ยม ปล้นวังของเขาอย่างนั้นหรือ ไม่ง่ายไปหน่อยมั้ง แต่เรื่องนั้นเขาไม่เป็นห่วง เพราะเตรียมการเอาไว้แล้ว แต่ตอนนี้เรื่องของสร้อยระย้าสำคัญกว่า“โขคหินที่พวกเจ้าบอกว่าบังกายให้ชีคคาตอนที่เกิดพายุอยู่ที่ไหน” ชีคหนุ่มถามเสียงเข้ม“อยู่ทางทิศตะวันออกครับ ห่างจากจุดนี้ประมาณสามกิโลเมตรครับ” เขากระตุกยิ้มอย่างน่าหลัว หลังจากที่ได้ยินคำตอบ“ขอบใจสำหรับคำตอบสุดท้ายของเจ้า...ปัง” สิ้นเสียงของอาซาร์ กระสุนได้วิ่งออกจากรังเพลิง ไปยังปลายกระบอกปืน และวิ่งตรงเข้าสู่สมองของอีกฝ่าย ทะลุจากกลางหน้าผากออก
พิศวาสทาสเสน่หา Chapter 27ยามราตรีปกคลุมไปทั่วทะเลทราย ทำให้หัวใจของชีคหนุ่มรุ่มร้อนมากขึ้น เขาต้องเสียเวลาหยุดรถกลางผืนทรายที่แล่นด้วยความเร็วสูง เพื่อรอให้พายุผ่านพ้นไปก่อน การเดินทางจึงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะรถและทุกสิ่งไม่สามารถวิ่งผ่านยามพายุซัดสาดได้พายุทะเลทรายไม่ใช่สิ่งที่อาซาร์กลัวเลยแม้แต่นิดเดียว พายุร้ายแรงกว่านี้ รุนแรงกว่านี้เขาเคยเจอมาหมดแล้ว แต่ที่เขากลัวคือสร้อยระย้า หญิงสาวที่เขารักไม่เคยได้สัมผัสกับผืนทรายและพายุอันร้ายแรงแบบนี้ เธอจะทนรับกับเหตุการณ์ได้มากขนาดไหน พวกโจรที่ลักพาตัวเธอไป จะดูแลหญิงสาวระหว่างที่เกิดพายุดีมากน้อยแค่ไหน ข้อนี้เองที่เขากังวล เพราะมั่นใจว่ากองโจรที่จับตัวคนรักไปนั้น ต้องเจอพายุลูกเดียวกับเขาแน่นอน“อีกนานมั้ยกว่าจะถึงพิกัดที่พวกมันบอก” อาซาร์เอ่ยถาม“อีกประมาณสิบห้ากิโลเมตรครับ” มาคาเป็นคนเอ่ยตอบ คนที่ได้ฟังถึงกับหงุดหงิด แค่สิบห้ากิโลเมตรไม่ใช่ระยะทางที่ไกลเลยแม้แต่น้อย บางทีเขาอาจจะไปถึงกองโจรก่อนพวกนั้นก็ได้ เพราะเขาเดินทางไปด้วยรถยนต์ แต่พวกโจรคงมีพาหนะเป็นม้า ซึ่งช้ากว่าเขามาก แต่ต้องมาเสียเวลาเพราะพายุนี่สิ ที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาเ
พิศวาสทาสเสน่หา Chapter 26ชายหนุ่มพูดเสียงเข้ม ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนของวัง ไปห้องลับที่อยู่ภายในห้องทำงานหยิบอาวุธปืนคู่กายมาสองกระบอก จากนั้นเขาเดินมาสมทบกับบอดี้การ์ดที่ติดอาวุธครบมือที่รออยู่ด้านล่าง ทันเวลาที่ชื่อหนุ่มกำหนดไว้พอดีราฟัลหลังจากที่เข้าไปโปะยาสลบกับสร้อยระย้าเรียบร้อยแล้ว เขาให้ลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่งพาร่างไม่ได้สติ ของชีคคาไปที่กองโจรกลางทะเลทรายทันที ส่วนเขามาซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ วังของอาซาร์ ตั้งแต่บังเลพลขับประจำวังวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปด้านใน จนกระทั่งสิบห้านาทีต่อมา การเคลื่อนไหวของอาซาร์ก็เริ่มขึ้นหัวหน้ากองโจรมองดูรถยนต์ประสิทธิภาพสูงที่ผลิตออกมา เพื่อตะลุยทะเลทรายโดยเฉพาะหลายคันที่แล่นออกมาจากวังราวกับจะเหาะ เขากระตุกยิ้มเมื่อแผนการที่วางไว้ ราบรื่นไม่มีอะไรติดขัด และเป็นไปอย่างที่คาดคิดไว้ทุกอย่าง เขาจะรอให้จังหวะและโอกาสเหมาะกว่านี้ พอถึงเวลานั้นเขาจะเข้าไปกวาดทรัพย์สินทุกอย่างที่อยู่ในวังมาเป็นของเขาให้หมด ไม่คิดสะกิดใจเลยว่า คนอย่างอาซาร์ไม่เคยคิดอะไรตื้นๆยาบีน่ามองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีเนื่องจากเวลานี้ ใกล้พลบค่ำ ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวด้วยแสงอันร
พิศวาสทาสเสน่หา Chapter 25“ได้ค่ะ ระวังตัวด้วยนะคะ ได้ยินมาว่ากองโจรกำลังเคลื่อนไหว” สร้อยระย้าพอจะรู้มาบ้างว่า กองโจรที่อยู่กลางทะเลทราย กำลังเคลื่อนไหวเข้ามาในเมืองหลวงของทาชเมียร์ สองสามวันมานี้อาซาร์ต้องทำงานหนักขึ้นและเหนื่อยขึ้น บางวันอดหลับอดนอนก็มี“รู้จ้า...ระวังตัวอยู่แล้ว นางซินเองก็ต้องระวังตัวเหมือนกันนะ” เขาไม่ห่วงตัวเองมากนัก แต่คนที่เขาห่วงมากที่สุดมีอยู่สองชีวิต คือมารดาและสร้อยระย้า เพราะฉะนั้นความปลอดภัยของทั้งสองจึงต้องมากกว่าเขาสองเท่า“กระรอกไปก่อนนะคะ...” หญิงสาวโบกมืออกล่าชายหนุ่ม หลังจากที่ตัวเองเข้าไปนั่งในรถซีลีมูนกันกระสุน ยานพาหนะที่เขาสั่งตรงมาให้เธอโดยเฉพาะ อาซาร์ยืนมองรถคันหรูที่เคลื่อนตัวออกจากประตูวัง หัวใจของเขาแกว่งอย่างไรบอกไม่ถูก มองท้ายรถที่เลี้ยวออกไปยังท้องถนนด้วยความรู้สึกโหยหา คล้ายกับว่าจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาและเธอห่างกันยาบีน่ายืนอยู่ท่ามกลางเปลวแดดร้อนแรงกลางทะเลทรายร้อนระอุ หญิงสาวคิดไม่ซื่อกำลังยืนสนทนากับหัวหน้ากองโจรผู้เก่งกาจ ราฟัล ลูกพี่ลูกน้องของยาบีน่า“ตกลงตามแผน ก่อนค่ำเธอจะได้ตัวของว่าที่ชีคคาของไอ้อาซาร์แน่นอน”“ขอให้เป็
พิศวาสทาสเสน่หา Chapter 24ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนละเอียด มือข้างหนึ่งลูกมาจับที่เค้าทรวงขนาดพอเหมาะคลึงเคล้าอย่าแผ่วเบา ไม่สร้างความเจ็บแต่ทว่าสร้างความกระสันซ่านให้กับเธอมากกว่า ฝ่ามือเล็กจึงลูบไล้ไปตามแผ่นหลังแข็งแกร่งของเขาเช่นกัน จนความร้อนได้กระจายเข้าไปในร่างของทั้งสองแผ่นหลังบางถูกดันชิดกับกำแพงกระเบื้องเนื้อดีลวดลายวิจิตร เขาย่อตัวพร้อมกับเลื่อนริมฝีปากไปตามลำคอขบเม้มที่เนินอกอย่างอดใจไม่อยู่ ก่อนจะครอบกลืนความสวยงามของปลายกันเข้าไปในอุ้งปากที่แสนร้อน พลิ้วโบกปลายลิ้นไปที่ปลายกันไปมาเร็วรี่จนเธอปิดตัวร้องครางครวญ ด้วยความซ่านเสียว เต้าทรวงอีกข้างที่ว่างเว้นจากเรียวปากหนาถูกฟอนเฟ้นรอเวลาให้ปากของเขามาดื่มกินความเสียวสะท้านไม่ได้หยุดนิ่งเพียงเท่านี้ มันยิ่งเพิ่มระดับมากยิ่งขึ้น เมื่อเขานั่งคุกเข่าลงที่พื้น ยกเรียวขาของเธอข้างหนึ่งหาดที่ขอบอ่างล้างหน้า เพื่อที่เขาจะได้สำรวจความหวานจากดอกไม้ช่อโต มือเล็กขยุ้มเส้นผมของอาซาร์จนยุ่งเหยิง ปากเผยอร้องครางสุดเสียง ราวกับว่ากำลังจะขาดใจ เนื่องจากปลายลิ้นหนากำลังสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องของเธออย่างหนัก ด้วยการละเลงลิ้นอยู
พิศวาสทาสเสน่หา Chapter 23“จะถูกเฉดหัวออกไปจากวังอยู่รอมร่อแล้วยังปากดีอีกนังลีณา” นาบีย่าหันมาต่อว่าเสียงเกรี้ยวกราด“ลีณาไม่กลัวหรอก เพราะลีณาคิดว่า ลีณาไม่โดนไล่ออกไปจากวังนี้อยู่แล้ว ถึงโดนลีณาก็แค่กลับบ้านต่างกับป้าทั้งสองคนที่อาจจะต้องระเห็จไปอยู่ที่อื่น จะไปขายของเก่าดูท่าทางมันจะเก่าคร่ำครึ สึกหรอจนขายไม่ออกแน่ๆ” ลีณาพูดจบก็เดินสะบัดหน้า หนีสองสาวที่แทบจะกรีดร้องออกมา กับวาจาดูถูกดูแคลนของเด็กเมื่อวันซืน ลีณาด่าสองสาวทีไรเจ็บได้ไปถึงหัวใจทุกที ระหว่างที่ลีน่าจะเห็นออกไปนั้นไมซอเราะห์หญิงรับใช้เดินเข้ามาหาสามสาวพอดี"ท่านชีคเรียกให้ไปพบที่ห้องโถงค่ะ” นางในฮาเร็มทั้งสามพอจะรู้สาเหตุที่ชีคหนุ่มเรียกไปพบ แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ หลังจากที่สามสาวงามนั่งประจำที่ อาซาร์จึงบอกเรื่องที่ตนตั้งใจไว้“ที่ฉันเรียกให้พวกเธอมาพบในวันนี้ ฉันคิดว่าพวกเธอคงจะรู้ว่าเรื่องอะไร ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะ ฉันจะให้เงินพวกเธอไปตั้งตัวจำนวนหนึ่ง และฉันคิดว่ามันมากพอที่พวกเธอจะสร้างตัวได้ ฉันให้เวลาพวกเธอสามวัน พอหลังจากวันที่ฉันกำหนดฉันจะต้องไม่เห็นเธออยู่ที่นี่ ส่วนเธอลีณาฉันอนุญาตให้เธออยู่ที่นี่ได้ ในฐา







