 เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างทำด้วยกระจกเข้ามากระทบกับแผ่นหลังกว้างชุ่มเหงื่อที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงบนเรือนร่างอรชร จังหวะของเขาไม่ได้ลดลงเลยกลับเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่เจียนทะลุเพดานความรู้สึก เขาเร่งความเร็วและความแรงเพื่อให้ตนไปถึงจุดหมาย
ชีคอัสวาน อับดุลการิมพลิกตัวลงมานอนข้างร่างเล็กที่หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อยอ่อน ทว่าอัสวานกลับไม่ทีท่าว่าจะเหนื่อยสักนิดเดียว เขาปรายตามองกชนิภาหรือโรส หรืออีกชื่อหนึ่งคือนิสรีนเพียงแวบเดียวก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง เขาชักสีหน้าหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาและได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเธอ
“จะร้องไห้หาสวรรค์วิมานอะไร ฉันให้ความสุขเธอแท้ๆ แล้วเมื่อกี้เธอยังครางเสียงสั่นอยู่เลย มาตอนนี้กลับร้องไห้ เธอเป็นไบโพลาร์หรือเปล่าเนี่ย” อัสวานกระชากเสียงพูด จากนั้นก็วาดเท้าลงบนพื้นห้องที่ปูด้วยพรมลายเสือโคร่ง ก้าวเท้าเดินไปยังห้องน้ำไม่สนใจสาวร่างเล็กบนเตียงแม้แต่น้อย เขาเห็นเธอเป็นเพียงนางบำเรอที่ให้ความสุขยามต้องการเท่านั้น
กชนิภาค่อยๆ ยันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เนื่องจากบทรักของอัสวานแต่ละครั้งรุนแรง ตามอารมณ์เคียดแค้นในใจที่ไม่ว่าจะผ่านมาสองปี ความรู้สึกนี้ไม่เคยลดเลือนกลับเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน
เหตุผลของความแค้นในใจชีคอัสวาน เศรษฐีหนุ่มติดอันดับที่สองของประเทศจามาล เขาไม่เพียงแค่เป็นเศรษฐีมีเงิน แต่ยังเป็นลูกชายของผู้ปกครองแคว้นซัสเชียร์หนึ่งในดินแดนของจามาล
คงต้องย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้มกชนิภามาเที่ยวประเทศจามาลพร้อมกับยศวิน อังคณา พี่ชายและพี่สาว และมีเพื่อนยศวินอีกสามคน เป็นชายสองหญิงหนึ่ง
ทั้งหมดพากันตื่นเต้นกับประเทศจามาล ประเทศที่ถูกกล่าวขานว่ามีศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่น สถาปัตยกรรมขึ้นชื่อมากมาย ได้เห็นสิ่งปลูกสร้างอันงดงามที่มีอายุกว่าสองร้อยปี ในส่วนของทะเลทรายกลุ่มเดินทางได้เห็นพีระมิด โอเอซิสที่มีอยู่ด้วยกันหลายที่ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นหมู่บ้านกลางโอเอซิสสถานที่พักตากอากาศของคนเมืองและคนทั่วโลก ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่คณะเดินทางตื่นเต้นคือ การเล่นกระดานโต้ทรายและสกีทราย การเล่นกระดานโต้ทรายก็เหมือนการเล่นกระดานโต้คลื่น เพียงแค่เปลี่ยนจากน้ำเป็นการเล่นบนผืนทราย ส่วนสกีทรายเปลี่ยนจากเล่นบนหิมะมาเล่นบนสันทรายแทน
พวกเขาและเธอเที่ยวในเมืองหลวงของจามาลสองวัน ก่อนเดินทางมายังแคว้นซัสเชียร์ตามคำชวนของโอดิลเพื่อนของยศวิน กชนิภากับอังคณาไม่ชอบโอดิล เพราะรู้นิสัยดีว่าเป็นอย่างไร และสองพี่น้องก็เลี่ยงเข้าใกล้โอดิลตามลำพัง
โอดิลได้จัดเตรียมที่พักให้เพื่อนรักในโรงแรมระดับสี่ดาว ในคืนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างเป็นปกติ ทว่าในคืนที่สองเกิดเรื่องที่ไม่สมควรได้เกิดขึ้น เมื่อโอดิลได้ทำเรื่องชั่วร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย แล้วไม่ได้ทำชั่วเพียงคนเดียว ยังดึงยศวินกับเพื่อนอีกหนึ่งไปร่วมทำชั่วด้วย เรื่องชั่วที่ว่านั้นคือ ดักฉุดสตรีสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังเดินกลับไปขึ้นรถ และกระทำย่ำยีอย่างไร้ความปรานี ทว่ายศวินที่มีจิตใจดีอยู่บ้าง ไม่ขอร่วมการข่มขืน แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามเพื่อน กลับดูต้นทางให้
โอดิล ยศวินและอนันต์ทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่สนใจเรื่องที่พวกตนกระทำ จนกระทั่งก่อนกลับเมืองหลวงหนึ่งวัน มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยชุดโต๊ปสีขาวมาจับกุมตัวโอดิล ยศวินและอนันต์ไปต่อหน้าต่อตากชนิภาและคนที่ร่วมเดินทางไปเที่ยว และพอรู้คำตอบ ทั้งหมดก็เข่าแทบทรุด ไม่คิดว่าคนถูกจับกุมจะกระทำเลวทรามเช่นนี้
ทั้งสามถูกนำตัวไปยังบ้านหลังหนึ่ง ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า คฤหาสน์หลังนี้ปลูกสร้างสไตล์อาหรับ น้องๆ พระราชวังที่พำนักของกษัตริย์ที่ปกครองจามาล แต่ถ้าจะเรียกว่าวังก็ได้เช่นกัน
ด้วยความเป็นห่วงอังคณากับกชนิภาเดินทางตามพี่ชายไปด้วยเพราะยังไม่เชื่อว่า พี่ชายจะร่วมกระทำเรื่องเลวทรามนั้น
ห้องใต้ดินคือสถานที่ที่ชายฉกรรจ์นำตัวโอดิล ยศวินและอนันต์ไปไว้กลางห้อง ส่วนอังคณากับกชนิภาดื้อดึงจะเข้าไปในห้องใต้ดินด้วย ซึ่งก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ ให้เข้าไปดูการไต่สวน แต่กว่าที่จะมีคนมาพิพากษาความผิด ทั้งสามก็โดนทำร้ายจนเลือดตกยางออก
“พอแล้ว หยุดได้แล้ว พี่ชายฉันไม่ไหวแล้วนะ” กชนิภาเข้ามาห้าม กอดร่างยศวินไว้อย่างปกป้อง “พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายพี่ฉัน ตำรวจก็ไม่ใช่ อีกอย่างพวกคุณยังไม่รู้เลยว่า พี่ชายฉันเรื่องชั่วๆ นั่นจริงหรือเปล่า พอมาถึงที่นี่พวกคุณก็ซ้อมเอาซ้อมเอาทำอย่างกับคนป่าเถื่อน บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป”
กชนิภาปกป้องพี่ชายเต็มที่
“แล้วพี่ชายเธอมีสิทธิ์ทำกับโซเฟียอย่างนั้นเหรอ โซเฟียทำผิดอะไรถึงต้องมาพบกับคนชั่วๆ อย่างพี่ชายของเธอ” น้ำเสียงแข็งกระด้าง มาพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธใครมาสักร้อยปี ดวงตาเขามองไปยังสามเดนคนด้วยความเคียดแค้นสุดกำลัง ทุกคนเห็นว่ามีไฟบรรลัยกัลป์ลุกโชนอยู่ในนัยน์ตาเขา มันดูน่าเกรงขาม น่ากลัวและน่าขนลุกมาก “ว่าไงพี่ชายเธอมีสิทธิ์หรือไง”
คนถูกถามสะดุ้งสุดตัวกับน้ำเสียงดังลั่น กชนิภามองชายหนุ่มรูปงามแต่งกายด้วยชุดโต๊ปสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมมิชลาฮ์เย็บด้วยผ้าขนสัตว์สีดำ ตกแต่งบริเวณสาบเสื้อด้วยแถบผ้าปักสีทอง ใบหน้าเขาหล่อเข้มสไตล์ชายอาหรับ แต่มีความโดดเด่นกว่าชายชาวอาหรับที่กชนิภาเคยเห็น เขาดูสง่างามและน่าเกรงขามมาก มากจนเธอนึกขลาดกลัว แต่แม้ว่าจะกลัว กชนิภาก็พูดตอบโต้

Chapter 6เมืองไทย อังคณานั่งทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จิตใจอัดแน่นไปด้วยความสับสน คิดไม่ตกว่าจะจัดการเรื่องกลัดกลุ้มในอกอย่างไรดี สองปีแล้วที่กชนิภาเป็นเชลยสวาทให้ชายหนุ่มผู้มีอิทธิพลสูงคนหนึ่งของประเทศจามาล โดยที่ไม่ได้กระทำความผิดใดใดสักนิดเดียว ส่วนคนที่ผิดหาได้รู้สำนึกไว้ ไม่เคยพูดและถามถึงกชนิภาเลยสักครั้ง มองข้ามความผิดของตัวเองอย่างคนสิ้นไร้ความคิด ไร้หัวใจ ต่างกับอังคณาที่คิดถึงน้องสาวทุกลมหายใจ หากวันนั้นตนไม่หมดสติ เรื่องร้ายคงไม่เกิดขึ้นกับกชนิภา เธอจะให้ยศวินรับโทษกับเรื่องที่ตัวเองกระทำ หาใช่ให้กชนิภารับผิดชอบแทน ซึ่งมันไม่ถูกต้อง ไม่มีความถูกต้องสักนิดเดียว วันที่เธอกับยศวินเดินทางกลับเมืองไทย เธอได้ขออัสวานพบน้องสาวเพื่อกล่าวลา อัสวานยอมให้พี่น้องได้เจอกัน แต่ต้องอยู่ในสายตาเขาและต้องพูดภาษาอังกฤษเพื่อเขาจะได้เข้าใจคำสนทนาของทั้งคู่ทันทีที่อังคณาเห็นสภาพน้องสาว เธอปล่อยโฮออกมาด้วยความสงสาร รอยจ้ำแดงชัดและจางปรากฏรอบลำคอกชนิภา ความที่กชนิภาเป็นคนผิวขาวนวลทำให้อังคณามองเห็นรอยฝ่ามือหลายจุดตรงช่วงแขน คล้ายรอยบีบอย่างไรอย่างนั้น ส่วนยศวินไม่ได้มองหน้า
Chapter 5“งั้นคุณก็ปล่อยพี่ชายฉันสิ” “ปล่อยแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอทำตามข้อตกลงซะก่อน แล้วฉันถึงจะปล่อยตัวพี่ชายเธอ” “คุณกลัวฉันเบี้ยว แล้วคุณไม่คิดเหรอว่าฉันจะกลัวคุณผิดคำพูด” กชนิภาโต้กลับทันควัน“ฉันไม่เดือดร้อนนะ กับการไม่ไว้ใจฉันของเธอ เพราะคนที่ตายไม่ใช่ญาติพี่น้องของฉัน แต่เป็นพี่ชายเธอ” อัสวานยักไหล่พูด ไม่แยแสใครทั้งสิ้น “ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่มีตุกติกหรือเล่นแง่”กชนิภามองชายหนุ่มที่เป็นต่อตนทุกทาง อัสวานเหมือนผู้คุมเกม ไม่มีทางที่เธอจะต่อกรกับเขาได้ “ตกลงค่ะ คุณว่ายังไงฉันว่าตามนั้น” อัสวานกระตุกยิ้ม“ฉันจะให้พี่ชายเธอกับเพื่อนอยู่ที่นี่จนกว่าหน้าที่ของเธอจะเสร็จ แล้วฉันจะปล่อยมันสองตัว” กชนิภามองชายหน้าตาหล่อเข้มทว่าจิตใจโหดเหี้ยมทั้งน้ำตา เธอไม่เคยรู้สึกอดสูและตัวเองไร้ค่าเท่าวันนี้เลย แต่ถึงกระนั้นกชนิภาก็ไม่อาจต่อรองกับบุรุษที่ถือถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะได้เลย กชนิภาเดินตามร่างสูงใหญ่ของอัสวานออกไปจากห้องใต้ดิน เพื่อทำหน้าที่นางบำเรอตามข้อตกลงความแค้นในใจชีคอัสวานมีมากขึ้น เมื่อโซเฟียรับสภาพตัวเองและเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แม้ว่าเขาจะบอกกับเธอว่า ยอมรับเรื่องที่เ
Chapter 4กชนิภาอ้อนวอนอัสวาน ยกมือไหว้ชีคผู้เหี้ยมโหดตามปากพูด อัสวานมองหญิงสาวที่กล้าต่อปากต่อคำกับตนทั้งที่พี่ชายตัวเองผิดด้วยสายตาแข็งกร้าว ก่อนยกมือเป็นสัญญาณให้ลูกน้องหยุดลากตัวชายทั้งสองคน“แลกกับอะไรล่ะ” กชนิภาเงยหน้ามองคนพูด“เงินเหรอคะ คุณต้องการเท่าไหร่ ฉันจะหามาให้คุณค่ะ” อัสวานกระตุกยิ้ม นัยน์ตาประกายความเจ้าเล่ห์“เงินฉันมีเยอะ เยอะจนฉันใช้ไม่ไหว แล้วฉันจะต้องการเงินจากเธอทำไม”“แล้วคุณต้องการอะไร บอกฉันสิคะ ฉันจะรีบหามาให้คุณ ขอแค่คุณอย่าทำอะไรพี่ชายฉัน ฉันยอมทุกอย่าง”“ฉันอยากได้ของที่ฉันไม่มีมากกว่า”“อะไรคะ คุณต้องการอะไร” เมื่อมีโอกาส กชนิภารีบคว้า“ตัวเธอไงล่ะ ถ้าอยากให้พี่ชายเธอรอด เธอต้องเป็นนางบำเรอของฉัน” กชนิภาตกใจอ้าปากค้าง ดวงตาสั่นไหวเสมือนหัวใจที่เต้นเร็วแรง เธอไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ ประโยคที่ทำให้ ร่างกายทุกสัดส่วนแข็งทื่อ อาการตกใจไม่ได้เกิดแค่กชนิภาคนเดียว ยศวินก็ตกใจไม่คิดว่า อัสวานจะยื่นข้อเสนอนี้ “ฮะซีนจัดการ”ของแบบนี้ต้องมีแรงกระตุ้น ฮะซีนรู้คำสั่ง เขาลากตัวยศวินเข้าใกล้กรงจระเข้ ยศวินออกแรงทั้งหมดที่มีดิ้นรนหนี แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก ในที่ส
Chapter 3อัสวานสั่งลูกน้องที่เดินไปยังผนังห้อง ทุกคนที่ไม่ใช่ลูกน้องเจ้าของคำสั่งมองไปยังผนังห้องที่ค่อยๆ เปิดออก ด้านหลังผนังคือกรงสิงโตเพศผู้สองตัวเดินไปเดินมาอยู่ในกรงนั้น ฮาริมเปิดช่องขนาดเท่ากับหน้าต่างรถยนต์ออกกว้าง ลูกน้องอีกสองคนของคนออกคำสั่งช่วยกันนำร่างโอดิลที่พยายามดิ้นรนต่อสู้ มองไปยังกรงสิงโตด้วยความหวาดกลัวจับใจ “อย่า อย่าทำอะไรผม ผมกลัวแล้ว ผมยอมรับผิดแล้ว” โอดิลขืนตัวเต็มที่ไม่ให้ชายทั้งสองพาตนเข้าใกล้กรงสิงโต แต่ดูเหมือนว่าแรงเขานั้นน้อยนิด ไม่อาจสู้แรงทั้งสองได้ เสริมกำลังด้วยฮาริมช่วยยกตัวเขาให้ลอดผ่านช่องนั้นเข้าไปในกรง หัวใจโอดิลสั่นระรัว กลัวจับจิตจับใจ คำพูด คำอ้อนวอนของเขาไม่เป็นผล “ตอนที่มึงทำชั่วกับโซเฟีย กูมั่นใจว่าโซเฟียต้องขอร้องมึง แต่มึงคงไม่ฟัง แล้วนี่คือโทษของมึง” ชีคอัสวานพูดขณะที่ร่างโอดิลตกลงไปในกรงสิงโต สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของอัสวานมองเหยื่อที่คนเลี้ยงดูส่งมาให้ สิงโตทั้งสองตัวคำรามดังลั่น ก้าวเข้ามาหาโอดิลที่พยายามจะปีนช่องนั้นให้ตนเองพ้นจากความตาย ทว่าฮาริมปิดช่องนั้นทันควัน สิงโตทั้งสองตัวเข้าขย้ำร่างกายโอดิลจนเนื้อตัวขาดเ
Chapter 2 “แต่คุณยังไม่รู้แน่ชัดว่า พี่ชายฉันผิดไม่ใช่เหรอ พี่ชายฉันก็บอกว่าไม่ได้ทำ พี่ชายฉันไม่มีวันทำเรื่องชั่วๆ แน่นอน” กชนิภามั่นใจในตัวยศวิน “แต่ถึงพี่ชายฉันกับเพื่อนอีกสองคนจะทำผิด คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับเขาอย่างนี้เพราะคุณไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่ผู้พิพากษาถึงได้มีอำนาจลงโทษใคร คอยดูนะ ฉันจะไปแจ้งตำรวจให้จับคุณกับพวกโทษฐานทำร้ายร่างกาย” เหล่าลูกน้องของอัสวานต่างพากันเสียวสันหลังแทนผู้พูด ไม่เคยมีใครกล้าโต้เถียงหรือพูดจาเช่นนี้กับเจ้านายเขาสักคน มีแต่กลัวจนหัวหด แล้วเธอคงไม่รู้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นมากกว่าผู้พิพากษาหรือตำรวจ อัสวานมองหน้าผู้หญิงปากกล้าที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่อีกใจก็คิดว่า เธอเป็นคนไทยจึงไม่รู้จักเขา ไม่รู้ว่าคนอย่างอัสวานทำอะไรได้บ้าง วันนี้เธอจะได้รู้ว่า เขาเป็นมากกว่าที่เธอคิด “เธอเป็นคนต่างถิ่นถึงไม่รู้ว่าฉันคือใคร ฉันจะบอกเธอเอาบุญก็ได้ว่า ฉันชื่อชีคอัสวาน อับดุลการิมเป็นลูกชายคนเดียวของชีคโมฮัมหมัด อับดุลการิม ผู้ปกครองแคว้นซัสเชียร์แผ่นดินที่เธอเหยียบอยู่ และจะได้เป็นชีคปกครองแคว้นนี้ต่อจากพ่อของฉัน แค่นี้ก็คง
Chapter 1แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างทำด้วยกระจกเข้ามากระทบกับแผ่นหลังกว้างชุ่มเหงื่อที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงบนเรือนร่างอรชร จังหวะของเขาไม่ได้ลดลงเลยกลับเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่เจียนทะลุเพดานความรู้สึก เขาเร่งความเร็วและความแรงเพื่อให้ตนไปถึงจุดหมาย ชีคอัสวาน อับดุลการิมพลิกตัวลงมานอนข้างร่างเล็กที่หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อยอ่อน ทว่าอัสวานกลับไม่ทีท่าว่าจะเหนื่อยสักนิดเดียว เขาปรายตามองกชนิภาหรือโรส หรืออีกชื่อหนึ่งคือนิสรีนเพียงแวบเดียวก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง เขาชักสีหน้าหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาและได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเธอ“จะร้องไห้หาสวรรค์วิมานอะไร ฉันให้ความสุขเธอแท้ๆ แล้วเมื่อกี้เธอยังครางเสียงสั่นอยู่เลย มาตอนนี้กลับร้องไห้ เธอเป็นไบโพลาร์หรือเปล่าเนี่ย” อัสวานกระชากเสียงพูด จากนั้นก็วาดเท้าลงบนพื้นห้องที่ปูด้วยพรมลายเสือโคร่ง ก้าวเท้าเดินไปยังห้องน้ำไม่สนใจสาวร่างเล็กบนเตียงแม้แต่น้อย เขาเห็นเธอเป็นเพียงนางบำเรอที่ให้ความสุขยามต้องการเท่านั้น กชนิภาค่อยๆ ยันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เนื่องจากบทรักของอัสวานแต่ละครั้งรุนแรง ตามอารมณ์เคียดแค้นในใจที่ไม่ว่าจะผ่านมาสองปี ค








