Share

เด็กของรามิล
เด็กของรามิล
Автор: เธียรนรา

ตอนที่ 1 ปฐมบท

last update Последнее обновление: 2025-08-03 13:26:47

             ในเช้าแสนสดใสของนักศึกษาฝึกประสบการณ์จะมีอะไรไปมากกว่าการได้นั่งจิบกาแฟก่อนมาทำงานอีก เฮ้อ อากาศในตอนเช้า นั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นจากระเบียงคอนโดฯ มันจะมีอะไรดีไปกว่าการได้นอนเต็มอิ่มทั้งคืน

             “พี่มน ยาสีฟันหมด” น้องชายตัวดีชะโงกหน้าออกมาเรียกชื่อฉัน ใช่ ฉันเอง มน หรือกชมน นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ปีสี่ กำลังฝึกงานอยู่ในบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง ชีวิตของฉันกำลังจะไปได้ดี

             “พี่ก็วางไว้หลังสบู่ไงมิกซ์” มิกซ์น้องชายต่างพ่อพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความงัวเงีย ที่จริงพวกเราก็ไม่ได้มีโอกาสมาอยู่ด้วยกันแบบสองคนพี่น้องหรอก แต่ว่าวันนี้มันมีเรียนเช้าเลยมาขอนอนคอนโดฯ ฉันคืนหนึ่งเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยกว่า

             พ่อแม่ของฉันเลิกกันไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปมีใหม่แต่พ่อของฉันก็เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นเลยไม่มีลูกใหม่ หน้าที่การดูแลเลยเป็นของพ่อ พ่อเลยสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ฉันไปยุ่งกับแม่เด็ดขาด แต่สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น ฉันแอบคิดว่าแม่ส่งเจ้าน้องชายตัวยุ่งนี่มาสอดแนมฉันมากกว่า

             “พี่ไปทำงานก่อนนะ ไม่อยากเข้างานสาย” ฉันวางอาหารเช้าที่ทำเผื่อน้องชายตัวแสบไว้บนโต๊ะอาหาร มิกซ์เดินเช็ดผมหมาดออกมาจากห้องนอนแล้วก้มลงมองขนมปังปิ้งบนโต๊ะ

             “ขอบคุณค้าบ พี่มนน่ารักที่สุด” มันกางแขนกว้างหวังจะเดินเข้ามากอด

             “หยุดค่ะ หัวก็เปียกเดี๋ยวพี่เปียกไปด้วย” มิกซ์ทำหน้ามุ่ย

             “อ๋อ” มันทำท่าเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก “แม่ฝากเงินเดือนนี้มาให้นะพี่”

             ฉันก้มลงมองเงินในมือของน้องชาย ที่จริงฉันไม่ได้อยากได้เงินจากแม่เลยสักบาท

             “เอาเหอะน่าพี่มน” มิกซ์จับมือฉันแล้วยัดเงินจำนวนหนึ่งใส่มาในมือ “รับไว้เหอะพี่ แม่จะได้สบายใจอะ”

             “ฝากขอบคุณแม่ด้วยนะ บอกแม่ด้วยว่าไม่ต้องฝากให้เยอะก็ได้ให้แม่เก็บไว้ใช้”

             “แม่เขาอยากให้พี่ก็รับไปเถอะ เขารักพี่จะตาย” ฉันเก็บเงินใส่กระเป๋าสตางค์ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบออกมาหนึ่งพันบาทแล้วยื่นไปให้น้องชาย “ให้ผมเหรอ”

             ดวงตากลมของชายหนุ่มเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือมารอรับ ฉันรีบชักกลับคืน “ใช้ประหยัดหน่อยนะ แล้วตอนเย็นก็ซื้อกับข้าวมาให้พี่ก่อนกลับบ้านด้วย”

            “ได้เลยครับพี่สาวสุดสวยของผม เดี๋ยวน้องจะจัดอาหารอย่างดีให้เลย”

            “จ้า” ฉันลากเสียงยาวก่อนจะยื่นเงินให้น้องชายแล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อไปทำงานในตอนเช้า การจราจรในเมืองหลวงค่อนข้างจะติดขัด ฉันเลยเลือกที่จะเดินเท้ามาเรื่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดที่กินเวลาแถมน่าเบื่อ สูบเวลาพลังงานชีวิตไปจนแทบจะไม่เหลือ กว่าจะถึงบริษัทคงจะล้ากันพอดี

            ฉันมาฝึกงานที่นี่เป็นวันที่สามแล้ว อยู่ในแผนก IT หรือ information technology แต่ส่วนมากก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่วิ่งเอกสารให้พวกพี่เขาแค่นั้นเอง

            หน้าที่ฉันก็ไม่ใช่เลยสักนิด แต่ต้องมาวิ่งวุ่นถ่ายเอกสารให้อย่างกับคนใช้ก็ไม่ปาน เป็นการฝึกงานที่ไม่มีความสุขเอาซะเลย แต่บ่นไปก็เท่านั้นอะ ถ้าอยากประเมินจบไว ๆ ก็ทำตัวให้ผู้ใหญ่เขาเอ็นดูไว้ก่อนแล้วกัน

             “น้องมนจ๊ะ คือว่าพี่อยากให้เราเอาเอกสารไปให้หัวหน้าแผนกเซ็นทีได้ไหมจ๊ะ พอดีว่าพี่ยุ้งยุ่งอะจ้ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารก่อนจะฝืนยิ้มส่งไปให้

             “ได้ค่ะพี่ฝน” ฉันรับเอกสารกองนั้นมาก่อนจะเดินไปที่โต๊ะของหัวหน้าแผนก

             “เอกสารค่ะ” ชายวัยกลางคนขยับกรอบแว่นตาก่อนจะหยิบเอกสารไปอ่าน สายตาภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมกวาดตามองแล้วขมวดคิ้ว

             “อันนี้พี่ไม่ต้องเซ็นนะ เอาไปให้ผู้จัดการเซ็นโน่น” เขายื่นเอกสารคืนกลับมาให้ฉัน ฉันได้แต่ยิ้มแหย ๆ แล้วเดินออกไปยังโต๊ะของผู้จัดการที่กำลังจัดนู่นจัดนี่จนหัวหมุน

             “เอกสารค่ะ” ฉันยิ้มแล้ววางเอกสารไว้บนโต๊ะ หญิงสาวก้มหน้าลงมาอ่านก่อนจะหยิบปากกามาเซ็นให้ฉันรีบเก็บเอกสารคืนแล้วหมุนตัวจะเดินออกไป

             “เอ่อหนูจ๊ะเดี๋ยวสิ” ฝีเท้าของฉันชะงักกึกจนต้องหันกลับมามองอย่างช้า ๆ

            “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันยิ้มเจื่อน

            “พี่ฝากเอาเอกสารไปให้หัวหน้ากรรมการชั้นบนหน่อยสิ ตอนบ่ายมีประชุมต้องใช้ด่วนด้วย ช่วยพี่หน่อยนะ”

            ฉันถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ทันทีที่กดปิดลิฟต์จะมีนักศึกษาฝึกประสบการณ์สักกี่คนกันที่จะได้ขึ้นไปในชั้นผู้บริหาร แต่ฉันก็ไม่ได้อยากขึ้นมาเลยจริง ๆ นะ

             เพราะว่ามันมีเขาอยู่ไง

             ฉันชะเง้อคอมองหาเลขาฯ สาวที่เดิมทีควรจะนั่งอยู่หน้าห้อง แต่กลับไม่เจอใครเลยตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปเคาะบานประตู

             “ขออนุญาตนะคะ”

             “เชิญครับ” เสียงตอบรับดังเข้ามาจากในห้อง ฉันได้แต่เอื้อมมือไปจับที่จับบานประตูในใจรู้สึกสั่นเทิ้มเล็กน้อยแล้วกลั้นใจดันบานประตูเข้าไป

             “อุ๊ย ทำไมเป็นนักศึกษาล่ะคะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เก้าอี้ทำงานของชายหนุ่ม หัวหน้ากรรมการผู้บริหารของบริษัท พี่รามิล 

             “สงสัยคนอื่นไม่ว่างมั้ง เอาเอกสารมาวางบนโต๊ะได้เลยครับ” ฉันก้าวเท้าเดินเข้าไปก่อนจะวางเอกสารไว้บนโต๊ะ

             “เอกสารการประชุมค่ะ คุณรามิล” ฉันหลบสายตาของชายหนุ่มที่จ้องมองมาก่อนจะถอยหลัง “ขอตัวก่อนนะคะ”

             ฉันรีบก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องของทำงานของพี่รามิลในทันที ก่อนที่จะรีบเลี้ยวเข้าห้องน้ำไปสงบสติอารมณ์ในห้องห้องหนึ่ง ฉันยกมือขึ้นมาทาบหน้าอกที่เต้นสั่นระรัวยามที่ต้องจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหนุ่มรุ่นพี่ ความรู้สึกที่ห่างหายไปนานเริ่มพรั่งพรูกับเข้ามาจนชาไปทั้งตัว

             “พี่รามิล ยังไม่เปลี่ยนไปเลยสินะ”

             ย้อนกลับไปในอดีตในตอนที่ฉันยังคงเป็นนักศึกษาน้องใหม่ปีหนึ่ง ฉันและเพื่อน ๆ ได้ไปร่วมงานเลี้ยงเปิดร้านใหม่ของรุ่นพี่ในคณะ ฉัน วิ หรือเทวิกา เพื่อนสาวแสนหวาน และนิดา หรือฐานิดา เพื่อนสาวสุดโก๊ะ พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม ในตอนนั้นนิดาเป็นแฟนกับพี่คิณ

หรืออคิราห์ รุ่นพี่ปีสี่ คณะเดียวกันและยังเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับพี่รามิล ที่ประกอบไปด้วย พี่คิณ หนุ่มหล่อมาดเย็นชาสุดฮอต พี่มิล รามิล ชายหนุ่มเจ้าชู้แพรวพราว พี่กร ภากร หนุ่มขี้เล่นสายเปย์ พี่ต้น ต้นคิด หนุ่มเนิร์ดของกลุ่ม และ พี่ธิดา ปิยธิดา ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม รุ่นพี่สาวที่

พวกเราสนิทด้วยที่สุด

             ในตอนนั้นทั้งกลุ่มของฉันและกลุ่มของพวกรุ่นพี่สนิทกันมาก ๆ เพราะพี่คิณและนิดาคบกัน และในตอนนั้นเองที่ฉันไปเห็นสิ่งหนึ่งเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

             ฉันเดินคลำกำแพงมาเพราะความเมาทำเอาพื้นเอนเอียงไปมาเสียจนเดินไม่ไหว สายตาพร่ามัวกวาดตามองแสงไฟวิบวับรอบตัวด้วยความมึนงงก่อนจะมาถึงหน้าห้องน้ำ

             “มึงจะเอายังไงกับกูฮะ ไอ้ต้น มึงหลบหน้ากูทำไม” น้ำเสียงฟังดูไม่สบอารมณ์นักทำเอาฉันต้องชะโงกหน้ามายังห้องน้ำชายที่มีชายหนุ่มสองคนกำลังยืนประจันหน้ากัน

             “กูก็กลับมาเป็นเพื่อนมึงแล้วไง มึงจะเอาไงกับกูอีก” ชายหนุ่มขยับกรอบแว่นของตัวเองพลางขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มที่ตัวสูงกว่าเล็กน้อย

นั่นมันพี่ต้นไม่ใช่เหรอ แล้วก็อีกคน พี่กร

             “กูไม่ได้อยากได้แบบนี้” พี่กรพูดด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

            “แล้วมึงจะเอาไงกันแน่” พี่ต้นขมวดคิ้วเป็นปม

            “เออ กูยอมแล้ว กูชอบมึง” ดวงตาของฉันเบิกกว้างเมื่อเห็นรุ่นพี่หนุ่มกระชากเพื่อนสนิทของตัวเองเข้าไปประกบริมฝีปาก พี่ต้นถอยหลังจนติดกับขอบอ่างล้างหน้า แต่ยังไม่ทันจะได้รู้เรื่องอะไรมือหนาก็เข้ามาปิดริมฝีปากฉันแล้วดึงออกมาจากสถานการณ์ตรงหน้า

            “อื้อ ๆ” ฉันดิ้นขลุกขลิกอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนก่อนที่จะหลุดออกมา

            “นี่เธอนี่นะทำไมถึงได้ชอบสอด...”

            “แหวะ” ยังไม่ทันที่คนคนนั้นจะได้พูดจบฉันก็เผลอสำรอกออกมาจากความมึนหัวพุ่งใส่เสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าเข้าเต็ม ๆ “โทษที ๆ”

             ก็คนจะไปอ้วกตั้งแต่แรกทำไมไม่ให้อ้วกเล่า ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองร่างที่สูงกว่าก่อนจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก “พี่มิล”

             ฉันนั่งมึนงงอยู่ในห้องที่แปลกตา บนเตียงของใครก็ไม่รู้ หลังจากที่พี่มิลบอกว่าฉันควรจะกลับบ้านแล้วหิ้วฉันขึ้นรถเพื่อจะมาส่งแต่ฉันก็บอกวกไปวนมาเพราะจำทางกลับบ้านมาได้เลยมาจบที่นั่งจ๋องอยู่บนเตียงของคนพี่ เสียงเปิดฝักบัวในห้องน้ำบ่งบอกว่าพี่เขากำลังอาบน้ำอยู่จากซากที่ฉันสำรอกออกมา

             ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วยกมือขึ้นกุมขมับ หัวมันหนักอึ้งไปหมดเสียจนอยากจะหล่นวูบลงไปเสียให้ได้

            “จำทางกลับบ้านได้หรือยังพี่จะได้ไปส่ง” ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำโดยร่างสูงมีเพียงผ้าขนหนูพันปิดบังท่อนล่าง ท่อนบนเปลือยเปล่าจนเผยให้เห็นมัดกล้ามล่ำผิวขาวเนียนละเอียดอย่างกับไม่เคยออกไปโดนแดดประเทศไทย

            “งือ” ฉันครางอื้ออึงในลำคอพลางส่ายหน้าไปมา “เดี๋ยวฉันหาทางกลับบ้านเอง”

             ฉันลุกขึ้นอย่างโซซัดโซเซขึ้นมาจากเตียงแล้วหยิบกระเป๋าสะพายข้างหวังจะเดินออกไปแต่หัวหนักอึ้งก็ทำเอาเซหลาดีที่หนุ่มรุ่นพี่รับไว้ได้ทัน

             “ทำเป็นเก่ง เดินตรงยังไม่ได้เลย” สองมือของฉันดันพี่มิลให้ออกห่างก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลา สองคิ้วย่นลงมาที่กลางหน้าผาก

             “เดินไปเดินมาก็คงจะถึงบ้านเองแหละ” ฉันใช้มือยันตามผนังห้องก่อนจะถูกมือหนาดึงข้อมือเอาไว้

             “นี่ ไม่ชอบหน้าพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ” พี่มิลเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก่อนหน้านี้ฉันแสดงตัวชัดเจนตลอดว่าไม่ชอบหน้าพี่มิลเอามาก ๆ จนใคร ๆ สงสัยว่าเพราะอะไรกัน

              “ก็แค่ไม่ชอบอะ” ฉันช้อนสายตาขึ้นมามองอีกครั้ง “ไม่ชอบคนเจ้าชู้”

              “นี่รู้ได้ไงว่าพี่เจ้าชู้อะ” พี่มิลหัวเราะในลำคอ

              “ดูก็รู้แล้ว” ฉันสลัดมือออกจากการเกาะกุมของหนุ่มรุ่นพี่ก่อนตัวเองจะเสียหลักหงายหลัง

              “เอ๊ย” รุ่นพี่หนุ่มร้องด้วยความตกใจรีบคว้าเอวฉันเอาไว้ก่อนที่แผ่นหลังของฉันจะกระแทกลงบนเตียงนุ่มแล้วมีร่างสูงล่วงลงมาทาบทับ

บนร่าง

              “โอ๊ย” ฉันร้องเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้ามามองคนที่คร่อมอยู่บนร่าง สายตาของฉันสบเข้ากับดวงตาคมของพี่มิลที่จ้องมา

              “ที่จริงเราก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย” ถ้อยคำที่เธอได้ยินจากปากชายหนุ่มมาครึ่งค่อนชีวิต แต่ทำไมพออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ใจมันถึงได้เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกกันนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 2 ครอบครัว

    หลังจากที่ฉันรู้ตัวว่าตัวเองท้องพี่มิลก็ไม่ปล่อยให้ฉันได้ทำงานหนักอีกเลย แถมยังตามใจสุด ๆ ฉันอยากได้อะไร พี่มิลก็จะซื้อให้โดยที่ไม่ต้องขอเลยสักนิด อยากกินอะไรก็ได้กิน จนตอนนี้ฉันมีน้ำมีนวลขึ้นเป็นกอง ไม่เป็นไรลูกคลอดก็คงจะกลับมาเฟิร์มเอง นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ใกล้ถึงวันกำหนดคลอดเต็มที ฉันกับพี่มิลตื่นเต้นเอามาก ๆ ฉันไปอัลตราซาวนด์มา ลูกแข็งแรงมาก แถมยังเป็นเพศชายสมใจอยากอีกต่างหาก “พี่มิลคะ พี่อยากตั้งชื่อลูกว่าอะไรเหรอ” ฉันเอ่ยถามระหว่างที่พี่เขากำลังนั่งลูบท้องของฉันอยู่อย่างอ่อนโยน “พี่อยากให้ลูกชื่อมิ่งขวัญ” พี่มิลพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ทำไมถึงชื่อมิ่งขวัญเหรอคะ” ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “มิ่งขวัญแปลว่าผู้เป็นที่รัก เพราะลูกเกิดจากความรักของเราสองคน และพี่ก็อยากให้ลูกเป็นที่รักของคนอื่น ๆ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมานอนข้าง ๆ กันก่อนจะสวมกอดฉันเอาไว้ “โตมาจะเป็นพวกมากรักเหมือนพ่อไหมเนี่ย” ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงในอ้อมกอดของคนรัก “แต่เป็นชื่อที่เพราะมากจริง ๆ นะคะ” ในคืนนั้นฉันรู้สึกไม่สบายตั

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 1 ชีวิตสมรส

    หลังจากที่พวกเราแต่งงานกัน เวลาก็ล่วงมาถึงสองปีแล้ว พวกเรายังคงใช้ชีวิตหวานชื่นอย่างที่คู่รักหลังแต่งงานทั่วไปควรจะเป็น เวลาว่างก็พากันไปเที่ยวเล่น เติมความหวานในชีวิตให้แก่กันและกัน จนพวกเราได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะมีลูก ฉันอยากมีลูกมาก ๆ ไม่ต่างจากพี่มิลหรอก ฉันอยากมีลูกชายมาก ส่วนพี่มิลบอกว่าจะลูกสาวหรือลูกชายอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น พวกเราเริ่มปรึกษาหมอเรื่องการมีลูก ซื้อหนังสือมาอ่าน เข้าคอร์ส อบรมมากมายเพื่อเตรียมพร้อม และแน่นอนว่าพี่มิลค่อนข้างจะตื่นเต้นจนฉันรู้ตัวอีกทีพี่เขาก็ซื้อบ้านใหม่เพื่อเตรียมห้องให้เจ้าตัวเล็กถึงสองคน ฉันว่าฉันตื่นเต้นมากแล้วนะ แต่พี่มิลตื่นเต้นมากกว่าฉันซะอีก “พ่อกับแม่อยากมีหลานชายหรือหลานสาวคะ” ฉันเอ่ยถามทั้งแม่และลุงภูมิที่กำลังนั่งนับเงินหลังจากที่ร้านปิด ตอนนี้ฉันเรียกลุงภูมิว่าพ่อได้อย่างสนิทใจแล้ว เพราะลุงภูมินั้นรับฉันเป็นลูกบุญธรรมแบบถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนามสกุลฉันก็เปลี่ยนมาใช้ของพี่มิลหลังจากที่แต่งงานกัน ไม่ต้องพูดถึงพ่อแท้ ๆ ตั้งแต่ที่ฉันมาอยู่กับแม่ก็ขาด

  • เด็กของรามิล   บทที่ 25 The End

    หลังจากการฝึกงานอันแสนหนักหนาสิ้นสุดลง ฉันก็หมกตัวอยู่กับการทำโพรเจกต์จบจนตัวเองไม่ได้หลับไม่ได้นอน รวมทั้งไม่ได้เจอพี่มิลด้วย พี่มิลน่ารักกับฉันอยู่เสมอ คอยเอาใจใส่แม้ในวันที่ฉันจะยุ่งปางตายก็ตามจนในที่สุดฉันก็เรียนจบได้โดยสวัสดิภาพ ตอนนี้เลยมานอนแนบตักของพี่มิลเพื่อให้คลายเหนื่อยซะหน่อย “เรียนจบแล้ว แต่งงานกันเลยดีไหมคะ” พี่มิลเอ่ยถามพลางลูบหัวของฉันไปพลาง “พี่มิลไม่อยากใช้ชีวิตดูก่อนเหรอคะ พวกเราไปเที่ยวกันเยอะ ๆ พอมีลูกคงจะเหนื่อยน่าดู แล้วก็พวกเราจะได้เตรียมพร้อมเพื่อเป็นพ่อเป็นแม่ที่ดีไงคะ” ฉันพูดทั้งที่ยังหลับตาพริ้มอยู่บนตักของคนพี่ “พี่ก็ว่างั้นแหละ ทำไงได้มีเมียเด็กก็ต้องตามใจ” ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง “ว่านอนสอนง่ายมากค่ะพี่มิล” เพื่อเป็นรางวัลฉันเลยโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวของคนพี่ฟอดหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะลุกไปหาอะไรมากิน “วันงานปริญญาของเธอ พี่อาจจะไปไม่ได้นะ” มือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดตู้เย็นถึงกับชะงักทันที วันสำคัญทั้งที่แต่กลับไม่ว่างงั้นเหรอ อยากจะงอนน

  • เด็กของรามิล   บทที่ 24 เลี้ยงส่ง

    “ในที่สุดพวกเราก็ได้มาเลี้ยงส่งให้พวกน้อง ๆ ฝึกงานสักที อ้าว ชน” พวกเราทั้งสี่คนชนแก้วกันบนโต๊ะในร้านของรุ่นพี่ในคณะที่กลุ่มของพี่มิลรู้จักมักคุ้นเลยมักจะพามาสังสรรค์บ่อย ๆ “อันที่จริงก็ไม่อยากให้น้องมนไปเลย พอไปแล้วคงจะเหงาแย่” รุ่นพี่คนหนึ่งทำหน้ามู่ทู่ราวระคนกับเศร้าสร้อย “อย่าเศร้าสิคะ หนูจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะ” ฉันว่าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม แน่นอนว่าฉันก็ยังดื่มน้ำหวานอยู่ดี คราวนี้พี่มิลคุมเองทุกแก้วไม่มีสารปนเปื้อนแน่นอน “เออน้องมน ตอนที่เราไปทะเลกันพี่ไม่ค่อยเห็นน้องมนเลย หายไปไหนมาเหรอคะ” แก้วเครื่องดื่มในมือฉันเริ่มสั่นคลอนเพราะใจสั่นที่กระตุกวูบ ฉันเงยหน้าขึ้นมาพลางฝืนยิ้มให้ปกติที่สุด “คือว่า... อ๋อ ๆ มนมีเพื่อนอยู่แถวนั้นพอดีเลยไปหาเพื่อนน่ะค่ะ” ฉันพูดแถไปอย่างนั้นทั้งที่ฉันก็เอาแต่กกตัวอยู่กับพี่มิลในห้องพักนั่นแหละ “ไม่เนียนนะคะลูกสาว” กลายเป็นว่าพวกรุ่นพี่ดันจับพิรุธได้พลางส่งสายตาจับผิดมาทางฉันกันยกใหญ่ “แอบคบกับคนในบริษัทก็บอกค่ะ พวกพี่จะไม่บอกใครสัญญา” ฉันกลืนน้ำลายเอื้อกให

  • เด็กของรามิล   บทที่ 23 แกะของขวัญ NC

    หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่รดากับพ่อก็ขอตัวเพื่อจะกลับบ้าน ส่วนฉันกับพี่มิลก็กลับมาที่คอนโดฯ ของพี่มิลเหตุผลเพราะพี่มิลรอของขวัญวันเกิดจากฉันอยู่ ระหว่างทางกลับบ้านฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบชอบกลยามที่สายตาของคนพี่จ้องมองมา อย่างคาดหวังเยอะได้ไหมใจคอมันไม่ดี พอมาถึงห้องฉันก็บอกให้พี่มิลรอฉันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนแล้วขอจัดแจงอะไรสักพัก ฉันรีบมุ่งตรงมาที่ห้องน้ำก่อนที่จะเปิดน้ำในอ่างแช่น้ำอันใหญ่ในห้องน้ำของพี่มิล หลังจากนั้นก็โรยกลีบกุหลายแล้วจุดเทียนเพิ่มบรรยากาศเสียหน่อย “พี่มิลคะพร้อมแล้วค่ะ” ฉันออกมายืนรอหน้าห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำยิ่งทำให้ชายหนุ่มดวงตาวาววับยิ่งขึ้นไปอีก “จะเล่นอะไรคะเนี่ย” พี่มิลย่างเท้าเดินเข้ามาใกล้ด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์รอยยิ้มบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังชอบใจ “บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ” ฉันว่าก่อนจะดันให้ร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำที่ปิดไฟมือสนิทมีเพียงแสงสว่างรำไรจากแท่งเทียนหอมที่ถูกวางไว้แต่ละจุดในห้องน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก เสียงประตูถูกปิดลงก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิ

  • เด็กของรามิล   บทที่ 22 ของขวัญวันเกิด

    วันนี้เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ฉันมาทำงานอย่างเช่นปกติ เพียงอีกแค่สามวันเท่านั้นที่ฉันจะฝึกงานจบเสียที มิกซ์กลัวว่าฉันจะโดนคุณวิรชาตามราวีอีก เจ้าตัวแสบเลยจะมารับในตอนเย็น ฉันเลยเดินลงมาเพื่อที่จะมองหาน้องชายของตัวเองจะได้กลับบ้านพร้อมกัน “มน” ฉันหันหน้าไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นพี่รดาเดินเข้ามาหา “พี่รดา หายเจ็บแล้วเหรอคะ” ฉันเดินเข้าไปหารุ่นพี่สาวที่กำลังจะเดินสวนทางฉันขึ้นไปยังบริษัท “อื้อ หายแล้ว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย พี่มิลอะเวอร์” หญิงสาวหัวเราะร่วน “พี่รดาหายเจ็บแล้วหนูก็สบายใจ มิกซ์เป็นห่วงพี่มากนะคะ” พี่รดานิ่งเงียบไปก่อนจะเผยยิ้มขึ้นมาถึงแม้ว่ามันจะดูฝืนไปสักหน่อย “พี่ต้องขอโทษแทนแม่พี่อีกครั้งนะ” หญิงสาวเอื้อมมือมากุมมือของฉันเอาไว้พลางเอ่ยคำขอโทษออกมาด้วยใจจริง “หนูยอมหายโกรธเพราะพี่นะคะ” พี่รดายกยิ้มอย่างโล่งใจ “พรุ่งนี้วันเกิดพี่มิล คุณพ่อพี่อยากเจอเธอนะ” ฉันถึงกับรีบหันขวับไปสบตากับพี่รดาด้วยความตกตะลึง “อะไรนะคะ พ่อพี่มิลอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status