Home / วัยรุ่น / เด็กของรามิล / ตอนที่ 2 อดีตแสนเร่าร้อน

Share

ตอนที่ 2 อดีตแสนเร่าร้อน

last update Last Updated: 2025-08-03 13:33:51

             “ที่จริงเธอก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย” ถ้อยคำที่ฉันได้ยินจากปากชายหนุ่มมาครึ่งค่อนชีวิต แต่ทำไมพออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ใจมันถึงได้เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกกันนะ สายตาค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงมายังริมฝีปากหนาของคนบนร่าง ไม่รู้ทำไมร่างกายฉันมันถึงได้ร้อนรุ่มอย่างนี้ “อย่ามองกันอย่างนั้นสิ ความอดทนพี่ก็มีจำกัดนะ”

             “ไม่เห็นต้องอดทนเลยค่ะ” ฉันเคลื่อนสายตากลับมาสบตากับคนพี่ “ปกติพี่ก็มีคู่นอนไม่เลือกหน้าอยู่แล้วนี่”

             “เธอพูดเองนะ” พี่มิลเหยียดยิ้มอย่างได้ใจก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบกับริมฝีปากของฉันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

              เดี๋ยว ๆ เมื่อกี้ฉันประชดเหอะ

              คนพี่บดขยี้ริมฝีปากของฉันอย่างดูดดื่ม ร่างกายที่ร้อนระอุเป็นทุนเดิมจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำเอาอารมณ์ของฉันมันปะทุติดขึ้นมาได้อย่างง่าย ๆ เพียงแค่นี้ฉันก็เคลิบเคลิ้มเสียจนยอมเขยิบขึ้นมาบนเตียงนอนทั้งตัวโดยมีหนุ่มรุ่นพี่เขยิบขึ้นมาตาม

              เราสองคนผลัดกันบดเบียดแลกลิ้นร้อน มือหนาอยู่ไม่สุขรีบรูดซิปชุดกระโปรงที่แผ่นหลังของฉันอย่างชำนาญไม่นานอาภรณ์ของเราสองคน ก็ถูกปลดเปลื้องออกจนหมด พี่มิลไล่ริมฝีปากลงมาประทับที่ลำคอขาว ลมหายใจที่รินรดอยู่ที่ต้นคอและสัมผัสเฉอะแฉะตอกย้ำว่ามันคือเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นนี้มันเป็นเรื่องจริง

              มือขาวกอบกุมยอดประทุมสีหวานจนเต็มมือก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยมันเสียจนร่างกายฉันสะท้านไปด้วยความเสียวกระสัน สมองของฉันมันขาวโพลนไปหมดจนไม่มีเรื่องใดอยู่ในหัว รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ฉันต้องการ เรียวขาของฉันถูกจับชันเข่าขึ้นแล้วอ้าออกเผยให้เห็นของสงวน

              “เจ็บนิดหน่อยนะ” พี่มิลว่าก่อนจะค่อย ๆ จ่อแท่งร้อนไว้ตรงรูสวาทก่อนจะดันมันเข้ามาอย่างช้า ๆ

              ฉันกัดฟันกรอดด้วยรู้สึกเจ็บและคับแน่น สติที่เริ่มขาวโพลนเริ่มกลับมาอีกครั้งจนน้ำตาเล็ดออกมาจากขอบดวงตา

             “ถ้าเจ็บจิกหลังพี่ได้นะ” ฉันไม่รอช้าทำตามที่หนุ่มรุ่นพี่บอก จิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังขาวเนียน พี่มิลเห็นว่าฉันรู้สึกไม่ดีเลยก้มลงมาจูบซับน้ำตาบนเปลือกตาให้อย่างช้า ๆ ในใจฉันมันอุ่นซ่านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “ผ่อนคลายอย่างนั้นแหละ”

              ด้วยคำปลอบใจให้ฉันได้ผ่อนคลายพี่มิลจึงสอดแก่นกายของตัวเองเข้ามาได้จนสุดความรู้สึกแปลกใหม่เข้ามาแทนที่ ข้างในท้องน้อยรู้สึกวาบหวามราวกับมีผีเสื้อบินวนอยู่นับร้อยตัว

              “พี่เริ่มเลยนะคะ” เสียงทุ้มแหบพร่าพาเอาใจสั่นก่อนที่เอวสอบจะเริ่มขยับแรงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ

              ฉันอดไม่ไหวที่จะส่งเสียงครางหวานออกมาด้วยความเสียวกระสัน พี่มิลขยับสะโพกถี่จนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังระงม ในตอนนั้นสมองของฉันโล่งไปหมดมีเพียงความรู้สึกที่นำทาง

              แถมยังรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย

             เสียงลมหายใจหอบดังอยู่ที่ข้างใบหูยิ่งทำเอาฉันรู้สึกวาบหวามไปหมดทั้งตัว ไม่นานนักฉันก็รู้สึกสุขสมไม่ต่างจากพี่มิลที่ปลดปล่อยออกมาข้างในตัวฉัน

             ความอุ่นนั้นเองเริ่มดึงตัวฉันลงมาจากสวรรค์ที่เพิ่งขึ้นไปแตะ แต่ความเหน็ดเหนื่อยก็ทำดวงตากันปรือไปหมดราวกับโลกมันกำลังหมุนวนไปมาก่อนที่ภาพตรงหน้าจะดับวูบไป

             ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดที่แยงตาฉันอยู่จนรบกวนการนอนของฉัน ในหัวมันมึนตึบไปหมดจนแทบจะปรือตาไม่ขึ้น ร่างกายของฉันปวดร้าวไปทั้งตัวอย่างกับเพิ่งไปผ่านศึกหนักมาก็ไม่ปาน

            ความหนักพาดลงที่เอวของฉันจนขยับตัวไม่สะดวก ฉันค่อย ๆ เปิดตาขึ้นมามองต่ำลงไปสิ่งแรกที่เห็นคือแขนล่ำของใครบางคนที่พาดผ่านเอวของฉัน แถมร่างกายของฉันมันก็เปลือยเปล่าไปหมดทุกส่วน

           “เชี่ย” ฉันแทบจะกระโดดออกมาจากเตียงแต่พอขยับนิดเดียวเอวฉันมันก็แทบจะเคล็ด ฉันรีบหันหน้ามามองทางคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ หวั่นใจว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเพราะเสียงตกใจแต่ใบหน้าหล่อเหลายังคงปิดเปลือกตาสนิท

           ลมหายใจของฉันถี่กระชั้นด้วยความตกตะลึง

           “พี่มิล” ความทรงจำในหัวค่อย ๆ แล่นเข้ามาเป็นฉาก ๆ จนฉันต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ

            เมื่อคืนฉันเองก็เมา พี่เขาเองก็เมา คงจำอะไรไม่ได้หรอก

            ฉันรีบยกแขนของคนพี่ขึ้นมาอย่างเบามือแล้ววางหมอนไว้แทนที่ก่อนที่จะรีบสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย

            “เอาเป็นว่าเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีเลยจริง ๆ มันแค่ฝัน แค่ฝันเท่านั้น” เสียงพึมพำหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มพลางชำเลืองมองคนที่นอนอย่างไม่รู้สึกรู้สา บางจังหวะที่พี่เขาขยับตัวฉันก็หวาดผวาเสียจนต้องทำตัวแข็งเป็นหิน

             ยัง... ยังจะมานอนแจ๊บปากอีก

             ทันทีที่ฉันแต่งตัวเสร็จฉันก็รีบคว้ากระเป๋าสะพายข้างของตัวเองแล้วหันหน้ากลับมามองคนที่นอนหลับอยู่

             “ลาก่อนนะพี่ ชาตินี้อย่าเจอกันอีกเลยนะคะ” ฉันรีบบึ่งออกจากห้องของเขาไปเดี๋ยวนั้นแล้วทำเหมือนว่าเมื่อคืนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

             ฉันเดินออกมาจากคอนโดฯ หรูพลางกวาดสายตามองถนนที่ไม่คุ้นเคย แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงเนี่ย ฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู

             นี่มันก็ห่างจากคอนโดฯ ฉันมากเหมือนกันนะ ฉันได้แต่ถอนหายใจแล้วมองหาแท็กซี่ที่ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

             “มน” เสียงทุ้มจากข้างหลังทำเอาฉันถึงกับผวาวาบ

             “พี่มิล” ฉันหับขวับกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าคอนโดฯ

             “เธอลืมของ...” ยังไม่ทันที่พี่มิลจะเดินเข้ามาหาฉันก็รีบสับเท้าวิ่งลงบันได สายตาเหลือบไปเห็นแท็กซี่ที่กำลังมีผู้โดยสารเดินลงมาพอดีก็รีบแทรกตัวขึ้นไปนั่งแล้วปิดประตูลง

              “ออกเลยค่ะพี่”

              “อ้าวเฮ้ย” พี่มิลเดินมาเคาะกระจกรถแต่ก็ไม่ทันเพราะพี่แท็กซี่เหยียบคันเร่งออกไปทันที ฉันได้แต่ถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นทาบอกด้วยความโล่งใจ

              “ทะเลาะกับแฟนมาเหรอลูก”

              “คะ?” ฉันเงยหน้าขึ้นมองป้าคนขับที่มองผ่านกระจกมองหลังมาทางฉัน

              “ป้าเจอมาหลายเคสแล้วทะเลาะกันแล้วแฟนตามมาจะทำร้ายเนี่ย แม่หนูต้องเลิกให้เด็ดขาดนะ เขากล้าทำเราวันนี้เขาก็กล้าทำเราวันหน้าอยู่ดี อย่าไปใจอ่อนให้ผู้ชายแบบนี้นะลูก”

              ฉันได้แต่มองป้าที่ร่ายยาวตักเตือนด้วยความหวังดีเลยพยักหน้ารับพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้ อย่างน้อยวันนี้ก็เจอป้าคนดี ถึงแม้ว่าป้าแกจะเข้าใจผิดไปมากโขอยู่

              “ขอบคุณนะคะป้า แต่เมื่อกี้เขาไม่ใช่แฟนหนูหรอกค่ะ” ฉันหัวเราะแห้ง ๆ

              “อ้าวเหรอ เห็นถือรองเท้าวิ่งตามมาด้วยนึกว่าเขาเอามาตีหนู” ฉันเลิกคิ้วสูงก่อนจะก้มหน้ามองรองเท้าที่ตัวเองสวมใส่มา

              “ตาเถร รองเท้าแตะไอ้พี่มิลปะวะ”

              “ให้ป้าวนรถกลับไปให้ไหม” ฉันรีบยกมือประหนึ่งเป็นปรางห้ามป้าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาด้วยความอับอาย

              “ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูหวังว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่เจอเขาอีกแล้วนะคะ”

              ฉันมายืนอยู่หน้าร้านขายยาใต้คอนโดนฯ ของตัวเองแล้วก็ใจแป้วเดินมาเดินกลับอยู่หลายรอบพลางยกมือขึ้นมาขบกัดบนเล็บนิ้วโป้งเบา ๆ ด้วยความเป็นกังวลจนเล็บยาวกุดสั้นลง

              ไปซื้อร้านอื่นดีปะวะ ถ้าเกิดพ่อมาแล้วเขาเอาไปฟ้องพ่อทำไงอะ แต่ถ้าช้ากว่านี้เดี๋ยวจะไม่ทันการเอานะ

              ฉันถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่สิบของวันก่อนจะเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย ในใจฉันมันเต้นตุบ ๆ คิดเรื่องต่าง ๆ ร้ายดีไปสารพัด

              “เอ่อ คุณลูกค้าคะ”

              “ตาเถรแม่ร่วง” ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อถูกเภสัชกรสาวเดินเข้ามาดึงแขนของฉันไว้แล้วชวนให้เดินเข้ามาในร้าน

              “เห็นเดินหลายรอบแล้ว ไม่กล้าเข้ามาซื้อใช่ไหมล่ะ” หญิงสาวพูดด้วยท่าทางที่เป็นมิตร ฉันได้แต่พยักหน้ารับ

              “นิดหน่อยค่ะ คือหนู...” น้ำเสียงของฉันมันประหม่าเสียจนเธอต้องจับมือฉันเอาไว้เบา ๆ

              “ไม่เป็นไร มีอะไรบอกพี่ได้ เป็นหน้าที่ของพี่ที่ต้องให้คำปรึกษาและเก็บความลับของลูกค้าอยู่แล้ว วางใจได้” เธอว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนฉันรู้สึกอุ่นใจ

              “คือว่าเมื่อคืนหนูมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่งโดยที่ไม่ได้ตั้งใจค่ะ

แล้วน่าจะไม่ได้สวมถุงยาง หนูเลยกลัวว่าตัวเองจะ...” ฉันตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเภสัชกรสาว

              “อย่างแรกพี่ก็ต้องแนะนำให้ทานยาคุมฉุกเฉินก่อน แล้วก็พี่อยากจะแนะนำให้เราไปตรวจพวกโรคติดต่อที่โรงพยาบาลด้วยนะ เดี๋ยวนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ มีอะไรกับคนแปลกหน้าไม่ใช่แค่เรื่องท้องเท่านั้นนะ

แต่เรื่องโรคติดต่อก็น่ากลัวไม่แพ้กันเลยนะ”

               “ค่ะพี่ เมื่อคืนหนูไม่น่าดื่มหนักเลย” ฉันยกมือขึ้นเสยผม เหตุการณ์แบบเมื่อคืนไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริง ๆ

               “อ๋อแล้วก็ทีหน้าทีหลังพกถุงยางไว้บ้างก็ดีนะ เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดแบบนี้อีก มีอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้เข้าใจไหม” หญิงสาวว่า ท่าทางใจดีและอ่อนโยนทำเอาฉันรู้สึกผ่อนคลายจากที่คิดไว้มาก

               “ขอบคุณพี่มากนะคะ ถ้าไม่เจอพี่หนูคงกดดันตายเลย” ฉันยกยิ้มเจื่อน ก่อนที่เภสัชกรสาวจะจัดของใส่ถุงให้ฉัน

               “อ้าวนี่จ้ะ” เธอส่งถุงยามาให้ฉันก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาหาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบ “ส่วนถุงยางพี่แถมให้ฟรีนะเผื่อฉุกเฉิน”

               “ขอบคุณค่ะ” ฉันรับถุงนั้นมาก่อนที่จะสแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันชำระเงินบนโทรศัพท์มือถือก่อนจะเดินออกมาจากร้านขายยาด้วยความโล่งใจ อย่างน้อยก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดแฮะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 2 ครอบครัว

    หลังจากที่ฉันรู้ตัวว่าตัวเองท้องพี่มิลก็ไม่ปล่อยให้ฉันได้ทำงานหนักอีกเลย แถมยังตามใจสุด ๆ ฉันอยากได้อะไร พี่มิลก็จะซื้อให้โดยที่ไม่ต้องขอเลยสักนิด อยากกินอะไรก็ได้กิน จนตอนนี้ฉันมีน้ำมีนวลขึ้นเป็นกอง ไม่เป็นไรลูกคลอดก็คงจะกลับมาเฟิร์มเอง นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ใกล้ถึงวันกำหนดคลอดเต็มที ฉันกับพี่มิลตื่นเต้นเอามาก ๆ ฉันไปอัลตราซาวนด์มา ลูกแข็งแรงมาก แถมยังเป็นเพศชายสมใจอยากอีกต่างหาก “พี่มิลคะ พี่อยากตั้งชื่อลูกว่าอะไรเหรอ” ฉันเอ่ยถามระหว่างที่พี่เขากำลังนั่งลูบท้องของฉันอยู่อย่างอ่อนโยน “พี่อยากให้ลูกชื่อมิ่งขวัญ” พี่มิลพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ทำไมถึงชื่อมิ่งขวัญเหรอคะ” ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “มิ่งขวัญแปลว่าผู้เป็นที่รัก เพราะลูกเกิดจากความรักของเราสองคน และพี่ก็อยากให้ลูกเป็นที่รักของคนอื่น ๆ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมานอนข้าง ๆ กันก่อนจะสวมกอดฉันเอาไว้ “โตมาจะเป็นพวกมากรักเหมือนพ่อไหมเนี่ย” ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงในอ้อมกอดของคนรัก “แต่เป็นชื่อที่เพราะมากจริง ๆ นะคะ” ในคืนนั้นฉันรู้สึกไม่สบายตั

  • เด็กของรามิล   ตอนพิเศษ 1 ชีวิตสมรส

    หลังจากที่พวกเราแต่งงานกัน เวลาก็ล่วงมาถึงสองปีแล้ว พวกเรายังคงใช้ชีวิตหวานชื่นอย่างที่คู่รักหลังแต่งงานทั่วไปควรจะเป็น เวลาว่างก็พากันไปเที่ยวเล่น เติมความหวานในชีวิตให้แก่กันและกัน จนพวกเราได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะมีลูก ฉันอยากมีลูกมาก ๆ ไม่ต่างจากพี่มิลหรอก ฉันอยากมีลูกชายมาก ส่วนพี่มิลบอกว่าจะลูกสาวหรือลูกชายอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น พวกเราเริ่มปรึกษาหมอเรื่องการมีลูก ซื้อหนังสือมาอ่าน เข้าคอร์ส อบรมมากมายเพื่อเตรียมพร้อม และแน่นอนว่าพี่มิลค่อนข้างจะตื่นเต้นจนฉันรู้ตัวอีกทีพี่เขาก็ซื้อบ้านใหม่เพื่อเตรียมห้องให้เจ้าตัวเล็กถึงสองคน ฉันว่าฉันตื่นเต้นมากแล้วนะ แต่พี่มิลตื่นเต้นมากกว่าฉันซะอีก “พ่อกับแม่อยากมีหลานชายหรือหลานสาวคะ” ฉันเอ่ยถามทั้งแม่และลุงภูมิที่กำลังนั่งนับเงินหลังจากที่ร้านปิด ตอนนี้ฉันเรียกลุงภูมิว่าพ่อได้อย่างสนิทใจแล้ว เพราะลุงภูมินั้นรับฉันเป็นลูกบุญธรรมแบบถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนามสกุลฉันก็เปลี่ยนมาใช้ของพี่มิลหลังจากที่แต่งงานกัน ไม่ต้องพูดถึงพ่อแท้ ๆ ตั้งแต่ที่ฉันมาอยู่กับแม่ก็ขาด

  • เด็กของรามิล   บทที่ 25 The End

    หลังจากการฝึกงานอันแสนหนักหนาสิ้นสุดลง ฉันก็หมกตัวอยู่กับการทำโพรเจกต์จบจนตัวเองไม่ได้หลับไม่ได้นอน รวมทั้งไม่ได้เจอพี่มิลด้วย พี่มิลน่ารักกับฉันอยู่เสมอ คอยเอาใจใส่แม้ในวันที่ฉันจะยุ่งปางตายก็ตามจนในที่สุดฉันก็เรียนจบได้โดยสวัสดิภาพ ตอนนี้เลยมานอนแนบตักของพี่มิลเพื่อให้คลายเหนื่อยซะหน่อย “เรียนจบแล้ว แต่งงานกันเลยดีไหมคะ” พี่มิลเอ่ยถามพลางลูบหัวของฉันไปพลาง “พี่มิลไม่อยากใช้ชีวิตดูก่อนเหรอคะ พวกเราไปเที่ยวกันเยอะ ๆ พอมีลูกคงจะเหนื่อยน่าดู แล้วก็พวกเราจะได้เตรียมพร้อมเพื่อเป็นพ่อเป็นแม่ที่ดีไงคะ” ฉันพูดทั้งที่ยังหลับตาพริ้มอยู่บนตักของคนพี่ “พี่ก็ว่างั้นแหละ ทำไงได้มีเมียเด็กก็ต้องตามใจ” ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง “ว่านอนสอนง่ายมากค่ะพี่มิล” เพื่อเป็นรางวัลฉันเลยโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวของคนพี่ฟอดหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะลุกไปหาอะไรมากิน “วันงานปริญญาของเธอ พี่อาจจะไปไม่ได้นะ” มือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดตู้เย็นถึงกับชะงักทันที วันสำคัญทั้งที่แต่กลับไม่ว่างงั้นเหรอ อยากจะงอนน

  • เด็กของรามิล   บทที่ 24 เลี้ยงส่ง

    “ในที่สุดพวกเราก็ได้มาเลี้ยงส่งให้พวกน้อง ๆ ฝึกงานสักที อ้าว ชน” พวกเราทั้งสี่คนชนแก้วกันบนโต๊ะในร้านของรุ่นพี่ในคณะที่กลุ่มของพี่มิลรู้จักมักคุ้นเลยมักจะพามาสังสรรค์บ่อย ๆ “อันที่จริงก็ไม่อยากให้น้องมนไปเลย พอไปแล้วคงจะเหงาแย่” รุ่นพี่คนหนึ่งทำหน้ามู่ทู่ราวระคนกับเศร้าสร้อย “อย่าเศร้าสิคะ หนูจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะ” ฉันว่าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม แน่นอนว่าฉันก็ยังดื่มน้ำหวานอยู่ดี คราวนี้พี่มิลคุมเองทุกแก้วไม่มีสารปนเปื้อนแน่นอน “เออน้องมน ตอนที่เราไปทะเลกันพี่ไม่ค่อยเห็นน้องมนเลย หายไปไหนมาเหรอคะ” แก้วเครื่องดื่มในมือฉันเริ่มสั่นคลอนเพราะใจสั่นที่กระตุกวูบ ฉันเงยหน้าขึ้นมาพลางฝืนยิ้มให้ปกติที่สุด “คือว่า... อ๋อ ๆ มนมีเพื่อนอยู่แถวนั้นพอดีเลยไปหาเพื่อนน่ะค่ะ” ฉันพูดแถไปอย่างนั้นทั้งที่ฉันก็เอาแต่กกตัวอยู่กับพี่มิลในห้องพักนั่นแหละ “ไม่เนียนนะคะลูกสาว” กลายเป็นว่าพวกรุ่นพี่ดันจับพิรุธได้พลางส่งสายตาจับผิดมาทางฉันกันยกใหญ่ “แอบคบกับคนในบริษัทก็บอกค่ะ พวกพี่จะไม่บอกใครสัญญา” ฉันกลืนน้ำลายเอื้อกให

  • เด็กของรามิล   บทที่ 23 แกะของขวัญ NC

    หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่รดากับพ่อก็ขอตัวเพื่อจะกลับบ้าน ส่วนฉันกับพี่มิลก็กลับมาที่คอนโดฯ ของพี่มิลเหตุผลเพราะพี่มิลรอของขวัญวันเกิดจากฉันอยู่ ระหว่างทางกลับบ้านฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบชอบกลยามที่สายตาของคนพี่จ้องมองมา อย่างคาดหวังเยอะได้ไหมใจคอมันไม่ดี พอมาถึงห้องฉันก็บอกให้พี่มิลรอฉันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนแล้วขอจัดแจงอะไรสักพัก ฉันรีบมุ่งตรงมาที่ห้องน้ำก่อนที่จะเปิดน้ำในอ่างแช่น้ำอันใหญ่ในห้องน้ำของพี่มิล หลังจากนั้นก็โรยกลีบกุหลายแล้วจุดเทียนเพิ่มบรรยากาศเสียหน่อย “พี่มิลคะพร้อมแล้วค่ะ” ฉันออกมายืนรอหน้าห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำยิ่งทำให้ชายหนุ่มดวงตาวาววับยิ่งขึ้นไปอีก “จะเล่นอะไรคะเนี่ย” พี่มิลย่างเท้าเดินเข้ามาใกล้ด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์รอยยิ้มบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังชอบใจ “บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิคะ” ฉันว่าก่อนจะดันให้ร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำที่ปิดไฟมือสนิทมีเพียงแสงสว่างรำไรจากแท่งเทียนหอมที่ถูกวางไว้แต่ละจุดในห้องน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก เสียงประตูถูกปิดลงก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิ

  • เด็กของรามิล   บทที่ 22 ของขวัญวันเกิด

    วันนี้เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ฉันมาทำงานอย่างเช่นปกติ เพียงอีกแค่สามวันเท่านั้นที่ฉันจะฝึกงานจบเสียที มิกซ์กลัวว่าฉันจะโดนคุณวิรชาตามราวีอีก เจ้าตัวแสบเลยจะมารับในตอนเย็น ฉันเลยเดินลงมาเพื่อที่จะมองหาน้องชายของตัวเองจะได้กลับบ้านพร้อมกัน “มน” ฉันหันหน้าไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นพี่รดาเดินเข้ามาหา “พี่รดา หายเจ็บแล้วเหรอคะ” ฉันเดินเข้าไปหารุ่นพี่สาวที่กำลังจะเดินสวนทางฉันขึ้นไปยังบริษัท “อื้อ หายแล้ว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย พี่มิลอะเวอร์” หญิงสาวหัวเราะร่วน “พี่รดาหายเจ็บแล้วหนูก็สบายใจ มิกซ์เป็นห่วงพี่มากนะคะ” พี่รดานิ่งเงียบไปก่อนจะเผยยิ้มขึ้นมาถึงแม้ว่ามันจะดูฝืนไปสักหน่อย “พี่ต้องขอโทษแทนแม่พี่อีกครั้งนะ” หญิงสาวเอื้อมมือมากุมมือของฉันเอาไว้พลางเอ่ยคำขอโทษออกมาด้วยใจจริง “หนูยอมหายโกรธเพราะพี่นะคะ” พี่รดายกยิ้มอย่างโล่งใจ “พรุ่งนี้วันเกิดพี่มิล คุณพ่อพี่อยากเจอเธอนะ” ฉันถึงกับรีบหันขวับไปสบตากับพี่รดาด้วยความตกตะลึง “อะไรนะคะ พ่อพี่มิลอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status