"น้องเซียเป็นอะไร ใครทำอะไรหนูทำไมถึงได้ร้องไห้แบบนี้"
ด้านซีเซียเมื่อวิ่งออกมาจากห้องรับแขกก็สวนเข้ากับขวัญตาที่เดินมาทางเธอพอดี ซีเซียจึงหยุดชะงักเมื่อขวัญตาเอ่ยถาม แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดไม่ตอบอะไรออกไป แล้วเตรียมจะเดินหนีเพราะกลัวอีกคนจะวิ่งตามมาทัน ทว่าก็ไม่ทันที่เธอจะได้เดินไปขวัญตาก็คว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยถามเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง
"น้องเซียเป็นอะไร บอกอาขวัญได้นะ"
"ปล่อย! อย่ามายุ่งกับหนู! เพราะอาขวัญนั่นแหละอาศิถึงไม่รักหนู!" ซีเซียสะบัดแขนออกอย่างแรงแล้วตวาดใส่ขวัญตาเสียงดังอย่างคนพาล ซึ่งการกระทำที่ก้าวร้าวของเธอตกอยู่ในสายตาคมกริบของศิลาที่วิ่งมาทันได้เห็นความก้าวร้าวของเธอเข้าพอดี
"ใจเย็นๆก่อนนะ มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน" ขวัญตาพยายามพูดกล่อมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและพยายามคว้าแขนเด็กสาวเอาไว้เพราะอยากให้เธอใจเย็นๆ แม้จะไม่รู้ว่าเด็กสาวเป็นอะไรก็ตามถึงได้ดูโมโหและโกรธเธอมากขนาดนี้
ด้านซีเซียตอนนี้หูดับไม่ฟังอะไรทั้งนั้น และด้วยความโมโหบวกกับรำคาญอีกฝ่ายที่เอาแต่จับแขนดึงรั้งเธอไม่ยอมปล่อย เธอจึงสะบัดแขนออกจากมือของขวัญตาอย่างแรง
เพี้ยะ!
ทว่าซีเซียก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสะบัดแขนแรงจนทำให้หลังมือไปโดนใบหน้าสวยของขวัญตาเข้าเต็มแรง เธอจึงตกใจชะงักนิ่งไปกับการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจของตัวเอง
ด้านศิลาที่มองอยู่ก็ตกใจไม่ต่างกันกับการกระทำของเด็กสาว ทว่าเขาก็ไม่มัวรอช้ารีบเข้าไปประคองขวัญตาก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไรรึเปล่าขวัญ"
ขวัญตาส่ายหน้าให้แทนคำตอบว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไร
"นะ หนูไม่ได้ตั้งใจนะ" ซีเซียพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือสีหน้ารู้สึกผิด เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆและกลัวว่าคนตัวโตจะเข้าใจเธอผิดคิดว่าเธอตั้งใจตบหน้าแฟนสาวของเขา
"น้องเซียทำเกินไปแล้วนะ ขอโทษอาขวัญตาเดี๋ยวนี้" ศิลาออกคำสั่งน้ำเสียงแข็ง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันยุ่ง จ้องมองเขม่นเด็กสาวอย่างไม่ละสายตา เขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่เด็กสาวมีนิสัยก้าวร้าวทำร้ายคนอื่นไปทั่วแบบนี้ ต่อให้เธอไม่ได้ตั้งใจอย่างที่เธอพูด แต่ทั้งคำพูดทั้งท่าทางก้าวร้าวของเธอที่แสดงออกมาเมื่อครู่มันทำให้เขารู้สึกไม่ชอบและดูไม่น่ารักเอาเสียเลย
"อาศิพูดแบบนี้แสดงว่าอาศิไม่เชื่อน้องเซียเหรอ น้องเซียบอกไปแล้วว่าน้องเซียไม่ได้ตั้งใจ ก็อาขวัญอยากมายุ่งกับน้องเซียก่อนทำไมล่ะ ถ้าอาขวัญไม่มาวุ่นวายกับน้องเซียก่อนอาขวัญก็คงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้" ซีเซียพูดออกไปด้วยความรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมากที่คนตัวโตดูเหมือนจะไม่เชื่อเธอ และพาลว่าขวัญตาด้วยความรู้สึกอิจฉาอยู่ลึกๆที่มีอาศิของเธอคอยปกป้องขนาดนี้
"น้องเซีย! ชักจะก้าวร้าวเกินไปแล้วนะ! อาบอกให้ขอโทษอาขวัญตาเดี๋ยวนี้!" ศิลาตวาดใส่เด็กสาวเสียงดังด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว จนเด็กสาวสะดุ้งตกใจ เพราะเขาไม่เคยเสียงดังใส่เธอแบบนี้มาก่อนเลย ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกน้อยใจและยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ที่เขาเอาแต่ปกป้องแฟนสาวของเขาโดยไม่เชื่อคำพูดของเธอเลย เธอจึงตวาดกลับไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเช่นเดียวกัน
"น้องเซียไม่ผิด! น้องเซียไม่ขอโทษ! อาขวัญอยากเสือกมะ..."
เพี้ยะ!
ซีเซียไม่ทันจะได้พูดจบประโยค ฝ่ามือหนาก็ฟาดลงมาบนแก้มนุ่มของเธอเต็มแรง จนใบหน้าหันไปตามแรงตบของมือหนา
ด้านศิลาที่บันดาลโทสะทำร้ายเด็กสาวโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ใจแกร่งก็หล่นวูบทันที มือหนาที่เผลอตบหน้าเด็กสาวคนที่เขารักดั่งดวงใจก็สั่นไปหมดและยังคงค้างอยู่กลางอากาศอย่างนั้น จนเด็กสาวค่อยๆหันหน้ากลับมา เขาจึงลดมือที่สั่นเทาลง มองเด็กสาวด้วยสายตาสั่นไหว ทว่าพอเห็นแววตาผิดหวังของเธอที่มองมา ไหนจะแก้มนุ่มๆของเธอที่ตอนนี้แดงก่ำเป็นรอยฝ่ามือของเขา ใจแกร่งก็กระตุกวูบแล้ววูบอีกจนเขารู้สึกใจเสียไปหมด
ด้านขวัญตาที่กำลังตกใจกับการกระทำของแฟนหนุ่มก็ได้แต่เงียบเพราะพูดอะไรไม่ออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำร้ายเด็กสาวขนาดนี้
.....ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
ด้านซีเซียได้แต่ยืนมองคนตัวโตตรงหน้าที่เธอรักนักรักหนาด้วยความรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่วันนี้เขาทำร้ายเธอได้ลงคอ ตอนนี้เธอรู้สึกจุกอกไปหมด พูดอะไรไม่ออกเลย แม้ตอนนี้น้ำตาจะไหลอาบแก้มทั้งสองข้างไม่ขาดสาย ทว่ากลับไม่มีเสียงสะอื้นไห้ดังเล็ดรอดออกมาสักแอะเดียว ความรู้สึกเสียใจและผิดหวังในตัวคนที่เธอรักมันจุกมันแน่นอกมันหนักอึ้งไปหมดจนเธอแทบจะรับกับความรู้สึกแย่ๆนี้ไม่ไหวอยู่แล้ว
เมื่อเหตุการณ์ตอนนี้ตกอยู่ในความเงียบ มีแค่สายตาสองคู่ที่จ้องมองกันและกันไม่ละไปไหน ทว่าอยู่ๆเสียงทุ้มก็เอ่ยออกมา
"น้องเซีย อาขะ..."
พรึ่บ!
ไม่ทันที่ศิลาจะได้เอ่ยคำว่าขอโทษ เด็กสาวก็วิ่งออกไปทางหน้าบ้านเสียก่อน ศิลาจึงไม่รอช้ารีบวิ่งตามเด็กสาวไปติดๆ พลางตะโกนเรียกเด็กสาวไม่หยุด
"น้องเซียหยุดก่อน! อาไม่ได้ตั้งใจ! หนูฟังอาก่อนนะครับ!"
ด้านเตชินท์ที่พาหลานสาวเข้านอนจนเห็นว่าหลานสาวหลับสนิทแล้ว เขาจึงออกจากห้องของเธอ ทว่าพอเปิดประตูออกมาจากห้องก็เห็นเพื่อนสนิทยืนอยู่หน้าห้อง คิ้วหนาจึงขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่ที่เห็นเพื่อนตัวดียังอยู่ เขาจึงถอนหายใจแรงออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนออกไปกึ่งประชด"มึงยังไม่กลับอีกเหรอวะ""กูไปส่งขวัญตาที่คอนโดแล้ว แต่กูไม่สบายใจกูเลยอยากกลับมาเคลียร์กับน้องเซียให้รู้เรื่องก่อน กูโคตรรู้สึกแย่เลยว่ะไอเต น้องเซียจะเกลียดกูจริงไหมวะ กูกลัวว่ะ ถ้าน้องเซียไม่รักกูเหมือนเดิมกูจะทำยังไงดีวะ"ศิลาพูดร่ายยาวออกมาด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จนเตชินท์ถึงกับถอนหายใจออกมาอีกครั้งและส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เขาเองก็ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงเหมือนกัน แต่กระนั้นก็ไม่คิดจะช่วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะศิลาทำร้ายหลานสาวสุดที่รักของเขาที่เขาคอยเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่ตะบันหน้าให้ก็นับว่าเขาใจเย็นมากแล้ว"กูไม่ใช่น้องเซีย มึงมาถามกูแล้วกูจะรู้ไหม ตอนนี้มึงกลับไปก่อนเถอะ น้องเซียหลับไปแล้ว""คืนนี้กูว่าจะนอนที่นี่ว่ะ ถ้ายังไม่ได้เคลียร์กับน้องเซียกลับบ้านไปกูคงนอนไม่หลับแน่" ศิล
เมื่อซีเซียวิ่งออกมาทางหน้าบ้านก็เห็นคนเป็นอาแท้ๆเดินเข้าบ้านมาพอดี เธอจึงไม่รอช้ารีบวิ่งให้เร็วกว่าเดิม แล้วเข้าไปกอดอาเตของเธอทันทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายออกมายกใหญ่"ฮือๆ~ อาเตน้องเซียเจ็บ ฮือๆๆ น้องเซียเจ็บ ฮือๆ~" เธอร้องไห้ฟูมฟายแต่คำเดิมๆประหนึ่งฟ้องคนเป็นอาว่าเธอนั้นเจ็บ โดยที่มือบางข้างหนึ่งกุมแก้มนุ่มข้างที่โดนอีกคนตบ มือบางอีกข้างกอดเอวสอบของคนเป็นอาไว้แน่น ซึ่งความเจ็บที่ใบหน้า เทียบไม่ได้กับความเจ็บที่หัวใจดวงน้อยเลย ตอนนี้มันแตกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว"น้องเซียเจ็บตรงไหน ใครมันกล้ามาทำให้น้องเซียของอาเจ็บบอกอามาครับ หนูไม่ต้องร้องนะเดี๋ยวอาจัดการมันให้เอง" เตชินท์ดันร่างเล็กของหลานสาวออกเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามด้วยความร้อนใจที่ไม่รู้ว่าใครมันมาทำให้หลานสาวคนเดียวของเขาร้องไห้ฟูมฟายหนักขนาดนี้ และยิ่งพอได้เห็นแก้มของหลานสาวแดงก่ำเป็นรอยนิ้วมือชัดเจน เตชินท์ก็โมโหเลือดขึ้นหน้าทันทีแม้จะไม่รู้ว่ารอยฝ่ามือนี้เป็นของใครก็ตาม ทว่าสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทวิ่งมาทางเขาพอดี เขาจึงเอ่ยถามออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง"ไอศิใครตบหลานกูวะ!""ไอเตกูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ" ปากห
"น้องเซียเป็นอะไร ใครทำอะไรหนูทำไมถึงได้ร้องไห้แบบนี้"ด้านซีเซียเมื่อวิ่งออกมาจากห้องรับแขกก็สวนเข้ากับขวัญตาที่เดินมาทางเธอพอดี ซีเซียจึงหยุดชะงักเมื่อขวัญตาเอ่ยถาม แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดไม่ตอบอะไรออกไป แล้วเตรียมจะเดินหนีเพราะกลัวอีกคนจะวิ่งตามมาทัน ทว่าก็ไม่ทันที่เธอจะได้เดินไปขวัญตาก็คว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยถามเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง"น้องเซียเป็นอะไร บอกอาขวัญได้นะ""ปล่อย! อย่ามายุ่งกับหนู! เพราะอาขวัญนั่นแหละอาศิถึงไม่รักหนู!" ซีเซียสะบัดแขนออกอย่างแรงแล้วตวาดใส่ขวัญตาเสียงดังอย่างคนพาล ซึ่งการกระทำที่ก้าวร้าวของเธอตกอยู่ในสายตาคมกริบของศิลาที่วิ่งมาทันได้เห็นความก้าวร้าวของเธอเข้าพอดี"ใจเย็นๆก่อนนะ มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน" ขวัญตาพยายามพูดกล่อมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและพยายามคว้าแขนเด็กสาวเอาไว้เพราะอยากให้เธอใจเย็นๆ แม้จะไม่รู้ว่าเด็กสาวเป็นอะไรก็ตามถึงได้ดูโมโหและโกรธเธอมากขนาดนี้ด้านซีเซียตอนนี้หูดับไม่ฟังอะไรทั้งนั้น และด้วยความโมโหบวกกับรำคาญอีกฝ่ายที่เอาแต่จับแขนดึงรั้งเธอไม่ยอมปล่อย เธอจึงสะบัดแขนออกจากมือของขวัญตาอย่างแรงเพี้ยะ!ทว่าซีเซียก็ไม่
ด้านเตชินท์ก็ได้แต่นั่งมองเหตุการณ์ทุกอย่างเงียบๆ เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา แม้ว่าตัวเขาจะรับรู้ทุกอย่างดีอยู่แก่ใจ รู้แม้กระทั่งเหตุผลที่ศิลาคบกับขวัญตาก็เป็นเพราะหลานสาวของเขา แม้เขาจะเตือนเพื่อนอยู่หลายครั้งว่าให้ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง ไม่ใช่หลอกตัวเองอยู่แบบนี้ แต่ศิลาก็ไม่ฟังยังดื้อดึงเลือกที่จะดึงขวัญตาเข้ามาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีต่อหลานสาวของเขา ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจเพื่อนตัวดีของเขาเลยสักนิดว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แค่บอกชอบหลานสาวของเขาไปก็สิ้นเรื่อง อีกอย่างเขาเองก็ไม่ได้ขัดขวางถ้าเพื่อนจะรักจะชอบหลานสาวของเขา ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจในตัวศิลาแถมยังนึกหมั่นไส้อยู่ลึกๆที่เพื่อนตัวดีไม่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองสักที ...ทว่าอยู่ๆโทรศัพท์ของเขาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกลางโซฟาตรงหน้าเขาก็ดังขึ้น เขาจึงละความสนใจจากเพื่อนสนิทและให้ความสนใจกับโทรศัพท์แทน เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายและคุยได้นิดหน่อย เตชินท์ก็ลุกขึ้นเดินออกไป ในขณะที่คุยโทรศัพท์กับคนปลายสายอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ลืมหันมาส่งซิกให้เพื่อนว่าเขาจะออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกด้านศิลาที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าให้เพื่อนแ
ขณะนี้ภายในรถคันหรูมีแต่ความเงียบ ศิลาที่ลอบมองเด็กสาวทางกระจกมองหลังก็เอ่ยถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งเหม่อมองข้างทางตลอดเวลา"น้องเซียเป็นอะไรรึเปล่าครับ"ซีเซียที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบนสายตามามองคนตัวโตเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆให้แทนคำตอบ แล้วเบนสายตากลับไปมองข้างทางต่อ"หนูเซียอาจจะหิวมั้งคะศิ พึ่งกลับจากโรงเรียนคงยังไม่ได้กินอะไร" ขวัญตาที่นั่งฟังอยู่ตรงเบาะรถฝั่งตรงข้ามคนขับก็เอ่ยพูดกับแฟนหนุ่มก่อนจะชะโงกหน้าไปมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอ แล้วยิ้มให้เด็กสาวแม้ว่าเด็กสาวจะไม่สนใจเธอเลยก็ตาม"น้องเซียหิวไหมครับ เดี๋ยวอาแวะร้านอาหารแถวนี้ให้" เมื่อแฟนสาวพูดจบศิลาก็เอ่ยถามเด็กสาวทันทีโดยที่ดวงตาคู่คมมองเด็กสาวทางกระจกมองหลังสลับกับมองถนนเบื้องหน้าตลอดเวลา"ไม่ค่ะ" ซีเซียตอบขณะที่ดวงตาคู่สวยยังคงมองเหม่อข้างทางอยู่อย่างนั้น"ถ้าหิวเมื่อไหร่ก็บอกอานะครับ" ศิลาเอ่ยบอกแค่นั้นก่อนจะตั้งใจขับรถต่อ เขาไม่อยากเล้าหลือเด็กสาวไปมากกว่านี้เพราะกลัวเธอจะรำคาญเอา แม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกๆกับพฤติกรรมของเธอตอนนี้ก็ตาม"ค่ะ"สิ้นเสียงตอบรับสั้นๆของเด็กสาวศิลาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เห็นเธอเงียบ
เมื่อเห็นว่าแฟนสาวเดินออกไปจากห้องแล้ว ศิลาจึงหันมาพูดกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"อาไม่ได้อยากจะดุน้องเซียเลยนะครับ แต่น้องเซียโตเป็นสาวแล้ว ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆเหมือนเมื่อก่อน อีกอย่างอาเป็นผู้ชายและอาก็มีแฟนแล้ว น้องเซียจะมากอดมาหอมหรือถึงเนื้อถึงตัวกับอาเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะครับ เพราะมันไม่เหมาะสม""น้องเซียไม่สน น้องเซียอยากอยู่ใกล้ๆอาศิแบบนี้"พรึ่บ!พูดจบซีเซียก็หย่อนก้นกลมมนนั่งลงบนตักแกร่งทันทีพร้อมกับยกแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างคล้องลำคอหนาเอาไว้อย่างออดอ้อนฮึม~ด้านศิลาถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ ทว่าเขาก็ไม่ได้ผลักใสเด็กสาวแต่อย่างใด แถมยังยกแขนแกร่งทั้งสองข้างกอดเอวบางเอาไว้หลวมๆ"น้องเซียรักอาไหมครับ" เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองเด็กสาวด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู"รักค่ะ น้องเซียรักอาศิที่สุดเลย แล้วก็รักอาเตด้วย"คำตอบของเด็กสาวทำให้ศิลาระบายยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู เขารู้ดีว่าเด็กสาวรักเขาแล้วก็รักเพื่อนของเขาที่เป็นอาแท้ๆของเธอด้วย ทว่าเขากลับไม่แน่ใจเลยว่าความรักที่เด็กสาวมอบให้เขามันเป็นรักแบบไหนกันแน่ รักแบบผู้ชายคนหนึ่งหรือรักแบบเคารพนับถือ ข้อนี้เขาเองก็ไม่แน่ใ