เมื่อซีเซียวิ่งออกมาทางหน้าบ้านก็เห็นคนเป็นอาแท้ๆเดินเข้าบ้านมาพอดี เธอจึงไม่รอช้ารีบวิ่งให้เร็วกว่าเดิม แล้วเข้าไปกอดอาเตของเธอทันทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายออกมายกใหญ่
"ฮือๆ~ อาเตน้องเซียเจ็บ ฮือๆๆ น้องเซียเจ็บ ฮือๆ~" เธอร้องไห้ฟูมฟายแต่คำเดิมๆประหนึ่งฟ้องคนเป็นอาว่าเธอนั้นเจ็บ โดยที่มือบางข้างหนึ่งกุมแก้มนุ่มข้างที่โดนอีกคนตบ มือบางอีกข้างกอดเอวสอบของคนเป็นอาไว้แน่น ซึ่งความเจ็บที่ใบหน้า เทียบไม่ได้กับความเจ็บที่หัวใจดวงน้อยเลย ตอนนี้มันแตกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
"น้องเซียเจ็บตรงไหน ใครมันกล้ามาทำให้น้องเซียของอาเจ็บบอกอามาครับ หนูไม่ต้องร้องนะเดี๋ยวอาจัดการมันให้เอง" เตชินท์ดันร่างเล็กของหลานสาวออกเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามด้วยความร้อนใจที่ไม่รู้ว่าใครมันมาทำให้หลานสาวคนเดียวของเขาร้องไห้ฟูมฟายหนักขนาดนี้ และยิ่งพอได้เห็นแก้มของหลานสาวแดงก่ำเป็นรอยนิ้วมือชัดเจน เตชินท์ก็โมโหเลือดขึ้นหน้าทันทีแม้จะไม่รู้ว่ารอยฝ่ามือนี้เป็นของใครก็ตาม ทว่าสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนสนิทวิ่งมาทางเขาพอดี เขาจึงเอ่ยถามออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
"ไอศิใครตบหลานกูวะ!"
"ไอเตกูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ" ปากหนาขยับพูดกับเพื่อน แต่สายตามองเด็กสาวที่เอาแต่ฟุบหน้าร้องไห้อยู่ในอกของเพื่อน
"แม่ง! นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงเป็นคนตบน้องเซีย"
พอเห็นศิลาพยักหน้าให้แทนคำตอบ เตชินท์ที่ตอนแรกคิดจะซัดหน้าคนที่มันมาทำร้ายหลานสาวของเขา ทว่าตอนนี้กลับทำอะไรไม่ถูก ทั้งโกรธทั้งโมโหและตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดว่าศิลาจะกล้าทำร้ายหลานสาวของเขาได้ลงคอ ทั้งที่ศิลาออกจะรักหลานสาวของเขายิ่งกว่าอะไรดี แต่ตอนนี้กลับเป็นคนทำร้ายหลานสาวของเขาเสียเอง คำถามมากมายตีกันให้วุ่นในหัวของเตชินท์ เขาจึงพยายามทำใจให้เย็นก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนออกไปด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
"มึงตบน้องเซียทำไม"
"เรามีปากเสียงกัน กูโมโหที่น้องเซียทำตัวก้าวร้าว กูก็เลยเผลอ..."
"ตบหลานกู!" เตชินท์พูดต่อจากเพื่อนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว มองหน้าเพื่อนด้วยความโมโหและผิดหวัง
"ไอเตกูขอโทษ กูเองก็เสียใจที่เผลอทำร้ายน้องเซีย น้องเซียครับอาขะ..." ศิลาพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของตัวเอง การที่เขาทำเด็กสาวเจ็บถึงสองครั้งสองคราซื่งแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาเจ็บมากกว่าเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่า ทว่าไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยขอโทษ เด็กสาวก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"ไม่ต้องมาขอโทษ ฮึ่ๆ เก็บคำขอโทษของอาศิไปเถอะน้องเซียไม่ต้องการ น้องเซียอุตส่าห์รัก ฮือๆๆ ทำไมอาศิถึงตบน้องเซียได้ลงคอ คอยดูเถอะต่อไปนี้น้องเซียจะไม่รักอาศิอีกแล้ว ฮึ่ๆ เตรียมตัวโดนน้องเซียเกลียดได้เลย ฮือๆๆ~" ซีเซียพูดไปร้องไห้ไปไม่หยุดด้วยความเสียใจเป็นอย่างมาก ทว่าเธอก็พูดจริงและคิดจะทำจริงๆอย่างที่ปากพูดไป เพราะเธอเป็นคนรักแรงเกลียดแรง วันนี้เขาทำร้ายเธอถึงสองครั้ง ทั้งผลักทั้งตบ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่คิดจะให้อภัยคนใจร้ายอย่างเขา แม้แต่คำขอโทษของเขาเธอก็ไม่อยากได้ยิน
"น้องเซีย" ศิลาเรียกเด็กสาวน้ำเสียงเบาหวิวเสมือนคนสิ้นหวัง เพราะทั้งคำพูดและเสียงร้องไห้ของเด็กสาว ไหนจะใบหน้าของเธอที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา ปากบางเบะคว่ำตลอดเวลาอย่างน่าสงสาร มันทำให้เขาเจ็บปวดใจเหลือเกิน ยิ่งเด็กสาวบอกจะไม่รักเขา แล้วยังจะเกลียดเขาอีกมันยิ่งทำให้เขาใจเสียไปหมด เขารู้สึกเหมือนใจมันจะขาดเสียให้ได้ ใจแกร่งสั่นระรัวไปหมดแทบจะกระโจนออกมานอกอกด้วยความหวั่นกลัว กลัวใจของเด็กสาวจะเปลี่ยนไปอย่างที่เธอพูดจริงๆ
"มึงกลับไปเถอะ" เตชินท์พูดขึ้นเมื่อเห็นสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย ยิ่งต่างคนต่างพูดด้วยความเสียใจก็มีแต่จะแย่ลง
"กูขอเคลียร์กับน้องเซียก่อนได้ไหมวะ" ปากหนาขยับพูดกับเพื่อนในขณะที่ตาคู่คมเอาแต่มองเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนไม่วางตา ซึ่งตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเลยสักนิด เห็นแบบนั้นใจแกร่งกระตุกวูบแล้ววูบอีก
ด้านเตชินท์เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังคงดึงดันที่จะอยู่ เขาจึงถอนหายใจแรงออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจก่อนจะหันมาพูดกับหลานสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"น้องเซียอยากเคลียร์ให้จบไหมครับ ถ้าน้องเซียไม่อยากคุยอาจะไม่บังคับ"
"น้องเซียเหนื่อย น้องเซียง่วง น้องเซียอยากนอนค่ะอาเต" ซีเซียเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเนือยๆปนสั่นเครือ ตอนนี้อย่าว่าแต่จะพูดกับอีกคนเลย แม้แต่หน้าเขาเธอก็ไม่อยากมอง
ได้ยินเช่นนั้นเตชินท์จึงพยักหน้าให้หลานสาวอย่างเข้าใจก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อน
"มึงได้ยินแล้วใช่ไหม งั้นมึงก็กลับไปได้แล้ว" พูดจบเตชินท์ก็โอบเอวหลานสาวพาเธอเดินเข้าบ้านไป โดยมีสายตาอาลัยอาวรณ์ของศิลามองตามเด็กสาวไม่วางตา จนเธอเดินพ้นสายตาเขาไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงยืนมองอยู่อย่างนั้นไม่ละไปไหน
ส่วนขวัญตาก็ได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่เงียบๆ ทว่าในใจของเธอแสนจะเจ็บปวดสาหัสเหลือเกินที่เห็นแฟนหนุ่มของตัวเองมีความรู้สึกให้เด็กสาวมากมายขนาดนี้ แม้เธอจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าศิลาไม่เคยรักเธอเลยตั้งแต่แรก แต่เธอก็ตกลงยอมคบกับเขาเพราะว่าเธอรักเขาและคิดว่าความดีของเธออาจจะทำให้เขารักเธอได้ในสักวันหนึ่ง ซึ่งเธอก็ได้แต่หวังลมๆแล้งๆมาตลอดทั้งที่รู้ดีว่าในใจของเขามีแต่หลานสาวของเพื่อนเขาอยู่เต็มหัวใจ
จากนั้นศิลาก็ตัดสินใจไปส่งขวัญตาที่คอนโดของเธอ พอส่งขวัญตาเรียบร้อยแล้ว เขาก็วนรถกลับมายังบ้านของเพื่อนอีกครั้ง เพราะเขาอยากเคลียร์กับเด็กสาวให้เข้าใจ ถ้ายังผิดใจกันอยู่แบบนี้กลับบ้านไปเขาคงนอนไม่หลับอย่างแน่นอน
หลายวันผ่านไปหลายวันมานี้มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมาย เรื่องแรกคือศิลาได้ให้พ่อแม่ของเขามาสู่ขอซีเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องที่สองคือได้ฤกษ์งามยามดีในอีกสองเดือนข้างหน้า ซึ่งมันเร็วมากสำหรับซีเซีย ทว่ามันกลับช้าไม่ทันใจศิลาเอาเสียเลย เพราะเขาอยากได้ฤกษ์แต่งงานที่เร็วกว่านี้ แต่งวันนี้พรุ่งนี้เลยยิ่งดี แต่ไม่ว่าจะแต่งเร็วหรือแต่งช้าก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีงามเสมอ...ขณะนี้สองขาเรียวเล็กขาวเนียนไร้ที่ติของซีเซีย กำลังเดินคุยโทรศัพท์ไปมาอยู่บริเวณริมสระว่ายน้ำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะคนปลายสายโทรมาขอความช่วยเหลือจากเธอ ซึ่งคนปลายสายก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย เป็นน้ำพั้นซ์ลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นแหละ"โดนจับขังในห้องสามวันแถมยังโดนคาดโทษอีก ว่าแต่ตาคาดโทษอะไรไว้อะ"(ตาบอกว่าถ้าคิดหนีออกจากห้องแล้วแอบไปเล่นปลากัดอีก ตาจะส่งเราไปอยู่กับแม่หรือไม่ก็จับเราแต่งงานอะ) ด้านน้ำพั้นซ์ที่พูดมาจากปลายสายน้ำเสียงคล้ายคนจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ"ฮะ! จับแต่งงานเลยเหรอ นี่มันเรื่องใหญ่มากเลยนะพั้นซ์ ทำไมครั้งนี้ตาคาดโทษหนักจังอ่ะ ปกติเวลาตาจับได้ว่าพั้นซ์แอบไปเล่นปลากัดอย่างมากก็แค่ตีเองไม่ใช่เหรอ"ซึ่งตอน
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการสอดใส่ มือหนาจับขาเรียวเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นมาพาดบ่าแกร่ง แล้วจับท่อนเอ็นดันเข้าไปในรูรักของเด็กสาวช้าๆ ซึ่งการสอดใส่ในครั้งหลังๆมานี้มันง่ายกว่าครั้งแรกของเด็กสาว เพราะรูรักของเธอเริ่มขยายรับกับขนาดของเขาได้แล้ว แต่กระนั้นภายในของเธอก็ยังคงแน่นตอดท่อนเอ็นของเขาตุบๆ รัดแน่นเสมือนอยากให้มันแหลกคาร่องของเธอเอวสอบเริ่มขยับช้าๆจากเนิบนาบค่อยๆถี่ขึ้นตามกามารมณ์ จากนั้นก็โน้มกายแกร่งลงไปจูบปากบางอย่างเร่าร้อน มือหนาทั้งสองข้างก็ไม่ปล่อยให้อยู่นิ่ง บีบขย้ำเต้านมอวบอิ่มอย่างมันมือพลางบีบบี้สะกิดยอดอกเม็ดเล็กประหนึ่งยอกเย้าเจ้าของมันอย่างนึกหมั่นเขี้ยว ขณะที่เอวสอบก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีไม่มีหยุดพัก จนเสียงหวานครางออกมาไม่ขาดสายด้วยความเสียวซ่าน"โอ๊ย! อาศิขา~ หนูเสียว""อา~ ครางแบบนี้อยากเจ็บตัวเหรอครับ หื้ม""ไม่อยากเจ็บค่ะ อ๊ะ! แต่อยากเสียว"...ในเมื่อเธออยากเสียวเขาก็จัดให้ สิ้นเสียงหวาน ศิลาก็จับขาเรียวเล็กที่พาดบ่าแกร่งออกก่อนจะล้มตัวลงไปนอนตะแคงข้างซ้อนหลังเด็กสาว โดยที่จุดเชื่อมต่อกลางกายไม่ได้หลุดออกจากกัน จากนั้นก็ตะบี้ตะบันกระแทกกระทำใส่ก้นกลมมนไม่ยั้ง มื
เมื่อทั้งคู่เข้ามาในห้อง ซีเซียก็ไม่รอช้าจัดการกดล๊อคประตูห้อง แล้วเริ่มพิสูจน์ความรักของเธอให้คนตัวโตเห็นทันที เธอยื่นมือบางไปจับหัวเข็มขัดของคนตัวโตโดยที่มองสบตาคู่คมของเขาไม่ละสายตา"นะ น้องเซียจะทำอะไรครับ" เสียงทุ้มติดขัดขึ้นมาทันที ขณะที่สายตามองตามมือบางที่กำลังถอดเข็มขัดของตัวเอง ใจแกร่งสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น"หนูก็กำลังพิสูจน์ให้อาศิเห็นไงคะ ว่าหนูรักอาศิมากแค่ไหน" ซีเซียตอบด้วยสีหน้ายั่วยวน ขณะที่ปลดเข็มขัดออกจากกางเกงของเขาเสร็จพอดี แล้วเหวี่ยงมันทิ้งลงไปบนเตียงนอน จากนั้นก็เดินต้อนคนตัวโตไปที่เตียง โดยมองสบตาคู่คมตลอดเวลา เมื่อมาถึงเตียงเธอก็ผลักคนตัวโตลงบนที่นอนเบาๆก่อนจะโน้มตัวลงไปหาเขาแล้วเลื่อนมือบางไปปลดกระดุมกางเกงของเขา ถอดมันออกพร้อมกับกางเกงตัวในอย่างใจเย็นด้วยความร่วมมือจากเจ้าตัว ทว่าตอนนี้ใจแกร่งสั่นระรัวเป็นกลองชุดด้วยความตื่นเต้นจนแทบคลั่งกับทุกการกระทำของเธอและเมื่อร่างกายท่อนล่างของคนตัวโตเปลือยเปล่า มือน้อยก็คว้าท่อนเอ็นลำใหญ่เอาไว้ก่อนจะสาวขึ้นสาวลงเบาๆเพื่อให้มันตื่นตัวเต็มที่ แม้จะรู้สึกประหม่าแต่ก็ทำใจกล้าเพียงเพราะอยากพิสูจน์ความรักของตัวเอง จากนั
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายสงบลง ทั้งสามคนก็พากันมานั่งเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดที่ห้องนั่งเล่น และเป็นเตชินท์ที่พูดเปิดประเด็นขึ้นมา"ตกลงไอศิมันทำอะไรให้น้องเซียของอาเสียใจครับ"ได้ยินเช่นนั้นซีเซียก็หันไปมองคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยแววตาน้อยใจ จนเขารับรู้ได้ก็ทำเอาใจแกร่งกระตุกวูบกับสายตาที่เธอมองมา ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยตอบคนเป็นอาที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวเยื้องกัน"เมื่อเช้ามีคนโทรมาหาอาศิค่ะ ตอนนั้นอาศิอาบน้ำอยู่หนูก็เลยรับสายแทน แล้วอาเตรู้ไหมคะว่าคนที่โทรมาเป็นใคร""ใครครับ" เตชินท์ถามทันทีด้วยสีหน้าอยากรู้เต็มประดา"อาขวัญตาค่ะ อาศิยังติดต่อกับอาขวัญตาอยู่ค่ะอาเต ฮึ่ๆ" พูดจบซีเซียก็สะอื้นออกมาคล้ายจะร้องไห้อีกครั้ง ปากบางเบะคว่ำอย่างน่าสงสาร จนคนเป็นอาต้องรีบเอ่ยปลอบอย่างไว"โอ๋ๆ อย่าร้องนะครับ ดูสิตาบวมหมดแล้วเดี๋ยวไม่สวยเอานะครับ" เตชินท์โอ๋พลางลูบศรีษะของหลานสาวไปด้วย ก่อนที่เสียงของศิลาจะดังขึ้นดึงความสนใจของเขา"น้องเซียกำลังเข้าใจอาผิดนะครับ อากับขวัญตาเลิกกันไปตั้งนานแล้ว ที่ขวัญตาโทรมาเมื่อเช้าอาเองก็ไม่รู้ว่าเธอโทรมาทำไม อาถามได้ไหมครับว่าขวัญตาพูดอะไรกับหนูบ้าง"ซีเซียที่ได
เช้าวันต่อมา~~~~เสียงโทรศัพท์ของศิลาดังขึ้นมา แต่เจ้าตัวดันอาบน้ำอยู่ ซีเซียที่อาบน้ำก่อนและแต่งตัวเสร็จพอดี เธอจึงเดินออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วหยิบโทรศัพท์ของคนรักที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมากดรับสายแทน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ของใครโทรเข้ามาเพราะเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เม็มชื่อไว้ เมื่อกดรับสายซีเซียก็ไม่ได้พูดอะไร เธอรอให้ปลายสายพูดก่อน"ศิ ขวัญโทรมาขอบคุณหนะ ถ้าไม่ได้ศิขวัญก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ขอบคุณนะคะศิ"ได้ยินเช่นนั้นซีเซียถึงกับมือไม้อ่อนแรง ใจดวงน้อยกระตุกวูบทันที เพราะเธอจำได้ว่าเป็นเสียงของใครแถมอีกฝ่ายยังพูดชื่อตัวเองอีก แค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่เธอก็พยายามประคองสติเอาไว้และเลือกที่จะกดตัดสายทิ้ง วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ขณะที่เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นพอดี เธอจึงกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าตาออกไป แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ต้องมารับรู้ว่าคนรักของตัวเองยังติดต่อกับแฟนเก่าของเขาอยู่ก็ตาม แต่เธอก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดด้านศิลาเมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเด็กสาวนั่งหันหลังให้อยู่บนเตียง แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเลยไปยังห้องแต่งตัว
อีกด้านหนึ่งหญิงสาวร่างบางหรืออดีตแฟนสาวของศิลา กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยน้ำตาเพราะกำลังคิดไม่ตกว่าจะหาเงินเกือบครึ่งล้านมาจากไหนเพื่อเป็นค่าผ่าตัดอาการป่วยของแม่เธอ เธอไม่ใช่ลูกคนรวยอะไร ครอบครัวเหลือกันแค่สองคนแม่ลูก เธอทำงานเลี้ยงแม่มาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ตอนนี้เธอเป็นแค่พนักงานบริษัทตัวเล็กๆ เงินเดือนหลักหมื่นแค่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เงินเก็บก็พอมีบ้าง แต่ก็หมดไปกับการรักษาอาการป่วยของแม่ จนตอนนี้แม่เธอต้องเข้าผ่าตัด แต่เธอยังไม่มีเงินค่ารักษา และเมื่อไม่รู้จะหาพึ่งใคร ความหวังเล็กๆจึงแว็บเข้ามาในหัวของเธอ ไม่รอช้าเธอรีบกดโทรออกเบอร์ของคนรักเก่าทันทีและหวังว่าเขาจะยังคงใช้เบอร์เดิมอยู่ แม้จะไม่อยากรบกวนเขาแต่ตอนนี้เธอมืดแปดด้าน ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครมีเงินมากพอให้เธอยืม เพราะงั้นความหวังเดียวของเธอตอนนี้ก็คือ ...เขา ...รอสายไม่นานคนปลายสายก็กดรับ"ศิ ศิใช่ไหม นี่ขวัญเองนะ" ไม่รอให้ปลายสายพูดก่อนขวัญตารีบพูดขึ้นทันที น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบแก้มตลอดเวลา(อืม มีอะไร)เสียงเรียบนิ่งของคนปล