로그인“บังเอิญฉันไม่ใช่คนที่ถูกซื้อได้ด้วยแหวนวงเดียวซะด้วยสิ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะต้องแลกกับอะไร อย่าบอกนะว่า ธุรกิจของตระกูลจ้าวทั้งหมดน่ะ เรื่องนั้น ผมคงให้คุณไม่ได้หรอกนะอลิศ” เขายกแก้วน้ำสีม่วงเข้มในมือขึ้นจิบบ้าง
“ช่างเถอะ ผมก็แค่หยั่งเชิงดูเท่านั้นแหละ ถึงยังไง ไม่ช้าก็เร็ว คุณก็ต้องสวมแหวนวงนี้อยู่ดี ถึงตอนนั้น ต่อให้คุณยังไม่อยากวางทุกอย่าง ก็คงต้องวางล่ะนะ เอาล่ะ เลิกพูดเรื่องเครียดๆ แล้วมาทานอาหารกันเถอะ” เขาชวน แล้วตักซุปหูฉลามใส่ในถ้วยเล็กมาวางตรงหน้าเธอ ไม่รู้ว่าอลิศตาฝาดไปหรือเปล่า ที่มองเห็นวี่แววของความเจ้าเล่ห์พาดผ่านดวงตาคู่นั้นของเขาเพียงชั่วแวบก่อนจางหาย
“ได้ข่าวว่า คุณรับพ่อบ้านคนใหม่จากเมืองไทย มาแทนพ่อบ้านคนเก่าที่เพิ่งตายไปใช่ไหม”
“ดูคุณจะขยันให้คนไปรายงานเรื่องของฉันจังนะคะ”
“อย่าประชดผมสิอลิศ ถึงเราจะไม่ได้รักกัน แต่ถึงยังไงผมกับคุณก็กำลังจะนอนเตียงเดียวกันแล้วนะ ผมก็ต้องรู้เรื่องของคุณเอาไว้บ้างสิ อย่าหาว่าผมเรื่องมากเลยนะ ผมว่า คุณไม่ควรจะรับพ่อบ้านส่วนตัวมาเลย คุณน่าจะรับแม่บ้านมากกว่า ให้ผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนหรือสามีอยู่ใกล้ตัวมากๆ แบบนั้น ผมว่ามันไม่ดีเท่าไหร่เลย”
“คุณคิดแทนฉันมากเกินไปไหมหมิงเทียน” พร้อมกับคำพูดนั้น จู่ๆ อลิศก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศ ดูเหมือนจะไร้ผล สำหรับร่างกายที่กำลังร้อนขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ จนเหงื่อซึมเต็มหน้าและร่างกาย ร้ายกว่านั้นก็คือ กลิ่นน้ำหอมจากกายของคนตรงหน้า กำลังทำให้เธอพึงพอใจอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
“ดูเหมือนคุณจะไม่สบายนะ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า หึม” แววตาคู่นั้นของคนตรงหน้า ทอประกายวิบวับ เหมือนเสือร้ายที่กำลังเห็นเหยื่ออันโอชะตรงหน้าไม่มีผิด ร้ายกว่านั้นก็คือ เขากำลังเคลื่อนร่างเข้ามาใกล้ แล้วรั้งร่างเธอให้ลุกขึ้นยืน
อลิศส่ายหน้าช้าๆ ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า ทำไมความต้องการส่วนลึก ถึงอยากจะดึงจ้าวหมิงเทียนเข้ามาจูบ ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา และไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นมาก่อน
“คุณใส่อะไรลงไปในไวน์” เธอข่มความต้องการในส่วนลึกเอาไว้ อย่างไรก็ต้องรู้ความจริงให้ได้ก่อนว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ยาที่ทำให้คุณต้องการผม จนต้องร้องขอชีวิตแค่นั้นเอง”
“จ้าวหมิงเทียน” เธอชี้หน้าเขาด้วยนิ้วมือสั่นระริก
“คุณอยากได้ทุกอย่างถึงขนาดต้องวางยาฉันเลยเหรอ”
“แน่สิ เพราะถ้ารอให้คุณสมยอม ต่อให้เราแต่งงานกันแล้ว ก็คงไม่มีวันนั้น เอาน่า แค่คืนนี้คืนเดียว พอคุณได้รู้จักผมแล้ว ต่อไป คุณอาจจะไม่ต้องพึ่งมันอีกเลยก็ได้”
“ไม่ คุณไม่มีทางสมหวังหรอก” เธอหายใจถี่แรง สัมผัสได้ถึงความปวดหนึบจากยอดปทุมทั้งสองที่กำลังแข็งเป็นไต ต้องการใครสักคนมาบีบขยำโนมเนื้อหยุ่นทั้งสอง เช่นเดียวกับกลางกายสาวฉ่ำชื้นจากน้ำหวานจนแทบทะลักล้นออกมา
“คุณก็รู้ว่า ผมเป็นคนยังไง ผมน่ะ อยากได้อะไรแล้ว ก็ต้องได้” เขาครางแผ่ว ยามรั้งร่างงามเข้ามาแนบกาย ดวงหน้าคมก้มลงมา ซุกไซ้ซอกคอขาวอย่างโหยหา
ส่วนลึกในใจเธออยากจะดึงเขาเข้ามาจูบ แล้วปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นในนี้ใจแทบขาด หากสติสัมปชัญญะที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด ก็เตือนให้เธอยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขา แสร้งเผลอไผลไปกับรสสัมผัสที่เขากำลังจะมอบให้ ก่อนจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดตีเข่าเข้าที่กลางลำตัวของเขาเต็มแรง ทำเอาจ้าวหมิงเทียนที่ไม่ทันตั้งตัวจุกจนตัวงอ ลงไปนั่งกับพื้น
จากนั้นอลิศก็ใช้โอกาสทอง ปราดไปที่ประตู หากคำสั่งประกาศิตของจ้าวหมิงเทียนก็พาบอดี้การ์ตร่างใหญ่สองคนหน้าห้อง เข้ามาล็อคตัวเธอไว้ ดีว่าโจวเยว่และบอดี้การ์ตอีกคนของเธอเข้ามา แล้วเกิดการวางมวยกันขึ้น เธอจึงฉวยจังหวะนั้นเดินโซเซออกมาได้
“เชน พาคุณอลิศออกไป”
คำสั่งเฉียบขาดของโจวเยว่ พาให้เชนไม่ลังเลเลยที่จะฉุดข้อมือเธอให้ออกวิ่งไปยังทางออก ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ เห็นว่าคนของจ้าวหมิงเทียนเข้ามายืนขวางตรงโถงลิฟท์จึงตัดสินใจ พาเธอวิ่งไปทางบันไดหนีไฟ อกใจเต้นโครมคราม เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายคนตามมาด้านหลัง ทำได้เพียงกัดฟันพาเธอวิ่งลงมา พอลงมาถึงชั้นจี ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอ ก็เจอชายชุดดำอีกกลุ่มยืนขวางอยู่ตรงหน้าบันไดหนีไฟ
“ส่งตัวคุณอลิศมา แล้วพวกฉันจะปล่อยแกไป”
เชนละล้าละลัง ลมหายใจหอบแรงสอดประสานกับลมหายใจเธอเป็นหนึ่งเดียว
“ฝันไปเถอะ” เขาเอ่ยออกไปด้วยภาษาอังกฤษ ตัดสินใจคว้าสเปรย์พริกไทยที่พกติดตัวมาฉีดใส่หน้าชายชุดดำกลุ่มนั้น ขณะที่อลิศเป็นฝ่ายวิ่งแซงขึ้นมา แล้วพาเชนวิ่งออกมาทางประตูหลัง ที่เป็นโซนคอนโดอยู่อาศัย
“รู้อย่างนี้แล้ว ลูกยังจะโกรธพ่อกับแม่อยู่หรือเปล่าลูก” พ่อถาม หายใจหอบแรง อกสะท้อนขึ้นลง จนน่ากลัวว่า ลมหายใจเขาจะหมดลงเพียงเท่านี้จริงๆ “พ่อพักผ่อนเถอะนะครับ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” “ไม่ เชน พ่อคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว” “พ่อคิดมาตลอดว่า ไว้ถึงเวลาค่อยบอกลูก เพราะอะไรรู้ไหม เพราะพ่อเองก็รักลูกมาก พ่อไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย พ่ออยากเก็บลูกไว้กับพ่อแม่ที่เมืองไทยไปตลอด ทั้งที่ก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่โชคชะตาก็กลับเล่นตลกกับพ่อจนได้ ตอนพ่อตื่นขึ้นมา ชุลีบอกพ่อว่าลูกไปฮ่องกงกับคุณอลิศแล้ว พ่อก็ทำได้เพียงรอ ทุกครั้งที่พ่อเจ็บปวดจนทนไม่ไหว ไม่อยากจะหายใจอยู่ต่อไปอีกแล้ว พ่อก็ได้แต่ถามตัวเองว่า จะมีโอกาสได้บอกความจริงกับลูกไหม ทำไมพ่อถึงไม่ยอมบอกทุกอย่างตั้งแต่แรกนะ ไม่แน่ว่า หากความจริงทุกอย่างเปิดเผย เชนอาจได้กลับไปมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องมาใช้ชีวิตลำบากลำบน เป็นเบี้ยล่างของเจ้าชินกับชาร์มอย่างที่เป็นอยู่ อีกเรื่อง พ่อยังไม่แน่ใจเลยว่า ครอบครัวของลูกปลอดภัยดีรึยัง จนกระทั่งเมื่อเดือนก่อน ตอนชุลีพาพ่อออกไปเดินเล่น พ่อบังเอิญเห็นข่าวว่าครอบครัวของลูกเปิดตัวธุรกิจโรงแรมและการท่องเที
“พี่ชิน พี่ชาร์ม ผมบอกพี่สองคนแล้วใช่ไหมว่า วันนี้ผมไม่อยากทะเลาะกับพี่ ผมไม่อยากให้แม่กับพ่อที่นอนป่วยอยู่ในนั้นไม่สบายใจ แต่พี่ก็ยังจะชวนทะเลาะ ผมถามจริงๆเถอะนะว่าพี่ต้องการอะไรกันแน่”คำถามของเชนพาให้ชาร์มนิ่งอึ้งไป จริงสินะ เธอต้องการอะไรจากน้องกันแน่ หรือว่าเธอจงเกลียดจงชังเขา แต่มันเรื่องอะไรกันล่ะ ที่ทำให้เธอเกลียดน้องชายตัวเองจนเข้ากระดูก ทั้งที่เชนก็ไม่เคยทำอะไรให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจ ที่ผ่านมาเธอเองก็เหมือนกับชินนั่นแหละ หากขาดเหลืออะไร ก็จะต้องไปหยิบยืมเงินเชน แต่เธอจะเบากว่าชินตรงที่ เธอเป็นปลาที่คอยตอดเล็กตอดน้อย ไม่ได้ขอยืมก้อนใหญ่อย่างชิน แต่ก็นั่นแหละ เธอรู้แค่ว่าต้องปกป้องชิน ก็เลยพลอยเป็นลูกคู่ของพี่ชายไปเท่านั้นละ และก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต จนเรียกสายตาญาติคนไข้ และบรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไปมากกว่านี้ พยาบาลสาวใหญ่คนหนึ่งก็เดินเข้ามาสมทบ“พวกคุณกรุณาอย่ารบกวนคนไข้และญาติคนไข้คนอื่นๆ เ
“ไปคุยกับครูที่สำนักงานนะคะ”“ทำไมต้องไปด้วยล่ะคะ” น้องชาร์มเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นตามประสาเด็กขี้สงสัย“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกลูก เราไปด้วยกันนะคะ” ชุลียิ้มให้เด็กหญิงตัวน้อยแล้วจับจูงมือป้อมให้เดินตามมาด้วยกันครู่ต่อมาทั้งครูผู้ดูแล ผู้มาเยือน และสองเด็กกำพร้าก็มาถึงห้องทำงานของครูผู้ดูแลสถานสงเคราะห์“น้องชิน น้องชาร์ม นี่คุณชาญชัยกับคุณชุลี ท่านทั้งสองต้องการรับหนูไปเป็นลูกบุญธรรมนะคะ หนูไปอยู่บ้านของท่านทั้งสองนะลูกนะ ต่อไปพวกหนูจะมีครอบครัว มีพ่อแม่ มีบ้านใหม่แล้วนะ”“จริงเหรอคะ”“จริงเหรอครับ” เด็กทั้งสองมองผู้อุปการะคนใหม่ด้วยแววตาเป็นประกาย“จ้ะ ไปอยู่กับแม่กับพ่อนะลูก” แล้วชุลีก็รั้งตัวเด็กหญิงตัวน้อยมากอดเอาไว้แนบอก เช่นเดียวกับชาญชัยเองก็โอบกอดน้องชินเอาไว้“ไปอยู่กับพ่อนะลูกชิน พ่อกับแม่จะดูแลลูกทั้งสองเป็นอย่างดี นอกจากลูกแล้วเราจะมีน้องเล็กอีกคนนะ”“ใครคะ” เด็กหญิงตัวน้อยยังคงถามแจ้วๆ “น้องอยู่ที่บ้านจ้ะ น้องชื่อน้องเชน ต่อไปหนูจะมีทั้งพี่ชายและน้องชายนะคะ”“ค่ะแม่” เด็กหญิงตัวน้อยซุกดวงหน้ากลมเล็กลงกับอกแม่ ความอบอุ่นที่โหยหามานานซ่านสู่ห้วงหัวใจนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“แล้วพี่ชาร์มล่ะครับ เขาไม่สะดวกเหมือนกันใช่ไหม”คุณชุลีพยักหน้ารู้ดีว่าลูกสาวคนรองกับลูกชายคนโตเหมือนกันตรงที่ว่าถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็ไม่มีวันที่จะมาหาเธอหรอก นี่ขนาดว่าคุณชาญชัยนอนอยู่ในห้อง ICU วันก่อนชาร์มยังมาหาเธอว่าด้วยเรื่องเงินๆทองๆ บอกว่าตนเองเดือดร้อนอย่างโน้นอย่างนี้แล้วก็ขอเงินเธอไป แต่เชนได้จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลโอนตรงเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว คุณชุลีจึงให้เงินลูกสาวคนรองไปไม่กี่พันเท่านั้น ถึงจะได้เงินแล้วแต่ชาร์มก็ยังคงไม่พอใจ มีท่าทีกระฟัดกระเฟียดกลับไปอยู่ดี “ผมว่าคุณอลิศกับคุณฉีไปหาที่นั่งแถวร้านกาแฟใกล้ๆ ก่อนก็ได้ครับ ไว้ถึงเวลาเยี่ยมไข้แล้ว ผมจะโทรหาเอง” เชนพยักหน้าให้เจ้านายสาวกับฉีเหวินหลงยิ้มๆครู่ต่อมามาเฟียต่างวัยทั้งคู่ก็ผละจากไป คล้อยหลังเจ้านายสาว เชนก็ประคองแม่มานั่งตรงเก้าอี้มุมหนึ่งด้านหน้าห้อง ICU นั่นเอง“แม่ครับ เข้มแข็งไว้นะครับเราจะสู้ไปด้วยกัน” เชนรวบมือทั้งสองข้างของผู้เป็นแม่มากุมเอาไว้“เชน แม่มีอะไรจะถามลูกสักหน่อย”“มีอะไรเหรอครับ” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียดของแม่ทำให้เขาคิดไปว่าแม่คงกังวลกับอาการป่วยของพ่อ และอาจมีเรื่องในใจที่ต้อง
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า เธอเป็นพ่อบ้านส่วนตัวของอลิศไม่ใช่หรือ อีกอย่างตอนที่เธออยู่โรงพยาบาล เธอเองไม่ใช่หรือที่เป็นคนโทรบอกให้ฉันส่งคนไปช่วยเจ้านายของเธอที่กำลังตกอยู่ในอันตรายจากคนของจ้าวเค่อน่ะ” คำพูดนั้นเองที่ทำให้เชนรู้ในทันทีว่า อีกฝ่ายเป็นใคร“คุณฉี่เหวินหลง”“ใช่แล้ว ฉันเอง” พร้อมกับคำพูดนั้นชายสูงวัยก็ล้วงเข้าไปในคอเสื้อ หยิบเอาจี้หยกติดกับสร้อยคอมาส่งให้เชนดูจี้หยกรูปมังกรล้อมกรอบสวยงาม เหนือมังกรทะยานฟ้านั้นสลักคำว่าฉี“คุณจริงๆด้วย”“รู้แล้วก็ขึ้นมาเถอะ” เชนใจเต้นแรง ยามพยักหน้าให้ชายสูงวัย แล้วเปิดประตูก้าวขึ้นมานั่งตรงเบาะหลังด้วยท่าทีนอบน้อม“เธอจะไปไหนล่ะ” ชายสูงวัยยังคงถามต่อ“ผมจะไปหาแม่กับพ่อที่โรงพยาบาลครับ คือพ่อผมไม่สบายมาก นอนโรงพยาบาลมาหลายเดือนแล้ว”“งั
“ ผมไม่ได้คิดเหมือนพี่อีกอย่างเจ้านายก็ดีกับผมมาก ผมคงไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ” ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากสักเท่าไหร่ แต่เขา ก็หวังจะเป็นเด็กเลี้ยงในความลับของเธอตลอดไปไม่คิด จะให้เธอมาเคียงคู่เขาหรอก“ ฟังดูดีจังเลยนะ แม่บอกว่าแกทำงานได้เงินดีทีเดียวเลยใช่ไหมถึงได้ส่งเงินมารักษาพ่อได้ เดือนละเป็นแสนๆ แกนี่โชคดีจริงๆ ขนาดยังเรียนไม่จบปริญญาตรีนะเนี่ยก็หาเงินได้มากมายขนาดนี้แล้ว”“ ครับ แล้วแม่ได้บอกพี่หรือเปล่าว่าเมื่อก่อนแม่ก็ทำงานกับครอบครัวของคุณอลิสด้วยเหมือนกัน” เชนเรียบเคียงถาม อยากรู้เหมือนกันว่า ก่อนหน้าที่เขาจะเกิดมานั้น ชินกับชาร์ม คงจะอยู่กับตายาย แล้วแม่กับพ่อก็คงจะส่งเงินมาให้ใช้ ระหว่างที่สองพี่น้องอยู่เมืองไทยตากับยายก็ต้องเล่าเรื่องนี้ให้ฟังบ้างล่ะ“ ไม่เห็นพูดถึงนะ นี่ตกลงพ่อกับแม่เคยทำงานกับบ้านคุณอลิซเขาจริงๆหรือ” ชินกะหมดคิ้วประหลาดใจจริงจัง น่าแปลกนะ ที่เรื่องเหตุผลที่เขาได้เป็นพ่อบ้านตระกูลลี พี่ชายกับพี่สาวเขากลับรู้ทุกอย่างเพียงผิวเผิน“ อ้าวตอนเด็กๆ ไม่ใช่ว่าพี่กับพี่ชาร์ม อยู่กับตายายร