“ใครเหรอครับหัวหน้า เด็กฝึกคนใหม่ของหัวหน้าเหรอ” เซนเอ่ยถามทันทีที่เตชินเดินเข้ามาภายในห้องทำงาน หลังจากที่เขาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสีดำและกางเกงโทนสีเดียวกัน
“เธอเป็นคนที่นี่ พวกเราจะทำงานสะดวกขึ้นถ้าหากมีคนในท้องที่ทำงานด้วย” เตชินตอบกลับไป ขณะที่สายตาของเด็กฝึกทั้งสามคนต่างก็จ้องมองมาอย่างจับผิด “ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น”
คำพูดของหัวหน้าทำให้เด็กฝึกหันหน้าหนีไปคนละทิศคนละทางทันที พวกเขาพากันแอบยิ้มแหยเตชินเล็กน้อย
“หัวหน้าครับผมได้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณนี้” ซานพูดพร้อมชี้ไปที่ภาพแผนที่ ซึ่งปักด้วยหมุดสีเขียว
“ที่สนามเด็กเล่นมีอะไร”
“บริเวณหลังสนามเด็กเล่นมีการขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดิน แต่ที่บริเวณตรงนี้รกชันไปด้วยหญ้าที่ขึ้นสูง จึงยากที่มองเห็นมันในตอนแรก”
พื้นที่ที่ถูกปักด้วยหมุดสีเขียวถูกเปลี่ยนเป็นหมุดสีแดงด้วยฝีมือของเตชิน
“ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้พวกเราจะไปสำรวจที่นั่นกัน”
“ครับหัวหน้า” เซนและซานพูดขึ้นพร้อมกัน ยกเว้นนาวินที่ดูกำลังจะวุ่นวายอยู่กับอะไรบางอย่าง ทำให้เตชินหันไปมองด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก
“ไอ้วิน” ไม่มีการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด หากว่านาวินกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือตรงหน้า “ไอ้วิน!!”
“คะ...ครับหัวหน้า” เสียงเรียกที่ดุดันของเตชินทำให้นาวินรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมขานรับด้วยความตกใจ
“มัวทำอะไรอยู่”
“เอ่อ...”
“คุยอะไรกับยัยเคส” เตชินพูดออกมาอย่างรู้ทัน เพราะนาวินคือเด็กฝึกคนล่าสุดที่เขาเพิ่งดึงตัวเข้ามาในองค์กรเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ดูท่าทางจะสนิทสนมกับคาริสาเพื่อนสาวของเขาเป็นพิเศษ
“ปะ...เปล่าครับหัวหน้า”
“มีพิรุธ เอามือถือมาดู” นาวินทำหน้าเจื่อนก่อนจะยื่นโทรศัพท์ในมือให้กับหัวหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก
บรึ๊น...บรื๊นนนนนนน!
เสียงรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคันวิ่งแล่นออกมาตามท้องถนนทุรกันดาร ซึ่งเป็นถนนเส้นเดียวกันกับที่มะปรางเดินอยู่ เธอหันไปมองยังต้นทางของเสียง ด้วยสีหน้ารำคาญก็ไม่ปาน หากว่ามีกลุ่มเดียวที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับชุมชน และหาเรื่องสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่องไปทั่ว
มะปรางเท้าเอวพลางจิ๊ปากอย่างเอือมระอา เมื่อรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคันวิ่งวนรอบตัวเธอ กว่าทุกอย่างจะสงบลงก็ทำเอาเธอเวียนหัวจนแทบจะอาเจียน
“เอาเหล้าสาโทกูไปซ่อนไว้ที่ไหน” กวินพูดหลังจากที่ดับเครื่องรถจักรยานยนต์จนสนิท ใบหน้าของเขายังคงบวมปูดและเต็มไปด้วยรอยช้ำ หากว่าที่เป็นแบบนั้นสาเหตุก็มาจากมะปรางส่วนหนึ่ง
“พูดเรื่องอะไร” คนโดนถามแสร้งทำลอยหน้าลอยตา เธอไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอีกฝ่ายที่มีพรรคพวกเยอะกว่าเธอเลยสักนิด
“กูมีมึงเป็นคู่แข่งทางธุรกิจเหล้าเถื่อนคนเดียว ถ้าไม่ใช่มึงแล้วใครมันเป็นคนทำ ชั่วเสมอต้นเสมอปลายไม่มีใครทำได้นอกจากมึง อีมะปราง!”
“ฉันจะถือว่าเป็นคำชมนะ ส่วนเหล้าสาโทของแกถ้าอยากรู้ว่าอยู่ที่ไหนก็ไปถามผู้ใหญ่ผินดูสิ”
“นี่มึงเอาเรื่องที่กูต้มเหล้าเถื่อนไปฟ้องพ่อกูเหรอ”
“ไม่ได้ฟ้อง แค่วานให้ไอ้เติร์คเอาไปขายต่อ ให้พ่อง!!” มะปรางพูดไปตามความเป็นจริง ก่อนจะอ้าปากพูดแบบไม่มีเสียงในสองพยางค์สุดท้ายทีละคำ หญิงสาวหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างรู้สึกสะใจ ไม่ว่าจะศึกครั้งไหนเธอก็อยู่เหนือกวินเสมอ
“อีมะปราง!” กวินตะโกนคำหยาบคายออกมาด้วยความฉุนขาด เขาก้าวขาลงจากรถหวังจะไปเอาเรื่องกับอีกฝ่าย แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรที่ไม่ชอบมาพากล
วี๊ว๊อ...วี๊ว๊อ...วี๊ว๊ออออออ!!!
“เชี่ย!! พ่อมา” กวินพูดพร้อมหันหลังกลับไปขึ้นรถแล้วรีบบิดรถหนีอย่างเร็ว รวมทั้งสมุนคนอื่น ๆ ก็เร่งรถออกไปตามกัน
มะปรางที่ยังยืนอยู่ที่เดิมส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เปิดเสียงสัญญาณไซเรนของรถตำรวจออกมาจากกระเป๋ากางเกง เธอกดปิดเสียงนั้นทิ้งหลังจากที่กวินและพวกของเขาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจนลับตา
“โง่เสมอต้นเสมอปลายทั้งลูกพี่ทั้งลูกน้อง”
@บ้านของมะปราง
“ไปไหนมา!” เสียงดุดันของคนเป็นแม่ดังมาจากหลังบ้าน ทำเอาสีหน้าของคนที่เพิ่งอารมณ์ดีอย่างมะปรางเปลี่ยนสีไปในทันที
“แม่...”
“ไม่ต้องมาทำเสียงออดเสียงอ้อน ไปไหนมาตั้งแต่เช้าเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้”
“ปรางก็แค่ออกไปเดินเล่นแล้วก็เจอพวก...ไอ้กวิน”
“ไอ้กวิน! ไอ้กวินมันทำอะไรลูก”
“มันมาเอาคืนปรางที่ฉันปรางชนะน็อคมันเมื่อคืน”
“แล้วมันทำอะไรลูกแม่ มันทำตรงไหน...” แม่มะลิพูดด้วยความตกใจพร้อมตรวจดูร่างกายลูกสาวให้แน่ใจว่าไม่มีรอยอะไรมาขีดข่วน
“คนอย่างมันจะไปทำอะไรปรางได้ ปรางลูกสาวแม่มะลิซะอย่าง” มะปรางพูดกล่าวเยินยอคนเป็นแม่ให้อารมณ์ดีตามนิสัย โดยที่แม่มะลิก็แสดงสีหน้าออกมาด้วยความปลาบปลื้มใจจนลืมไปหมดสิ้นแล้วว่าจะทำโทษลูกสาวที่ออกไปเที่ยวเถลไถล “แม่ไม่ต้องห่วงปรางเลยนะ ไม่มีใครทำอะไรปรางได้หรอก”
“นี่แน่...มันน่านัก! แม่มีลูกสาวคนเดียวไม่ให้แม่ห่วงลูกแล้วจะให้แม่ไปห่วงใคร” แม่มะลิเอื้อมมือหวังจะตีแขนลูกสาว แต่ลูกตัวดีก็ดันหลบทัน ก่อนพรั่งพรูความรู้สึกของตัวเองออกมาด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า
“รู้แล้ว ๆ กอด ๆ นะแม่นะ” มะปรางเดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่ พร้อมกับโยกตัวไปมาเบา ๆ ตามประสาแม่ลูก
“เรามีกันแค่สองคนแม่ลูกนะ อย่าทำให้แม่ห่วงบ่อย คนยิ่งเครียดง่ายอยู่”
“เครียดเพราะเป็นห่วงปราง หรือเครียดเพราะกลัวว่าหวยจะออกไม่ตรงกับที่ซื้อ โอ๊ย!”
มะปรางส่งเสียงร้องออกมาดังลั่น เมื่อถูกมะเหงกของคนเป็นแม่เขกลงบนหัวอย่างแรง เธอลูบผมตัวเองปอย ๆ ด้วยความรู้สึกเจ็บ
“ทำเป็นรู้ดี ก็เครียดพอ ๆ กันนั่นแหละ”
แม่มะลิพูดพร้อมยกแขนขึ้นมากอดอก มะปรางอมยิ้มก่อนจะเดินไปสวมกอดคนเป็นแม่อีกครั้ง
แม้ว่าเธอจะเคยทำผิดพลาดในอดีต ก็มีแต่แม่มะลิคนนี้ที่ให้อภัยและให้โอกาสเธอมาตลอด ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะยังทำตัวเกเรเถลไถลไปบ้าง แต่เธอก็ไม่เคยลืมว่ามีคนที่บ้านรอเธออยู่ เธอมีความสุขทุกครั้งที่มีแม่มะลิคอยดุคอยด่า คอยตีคอยจู้จี้จุกจิกไม่เว้นแต่ละวัน
คนที่ทำผิดบ้างถูกบ้างอย่างเธอ รักแม่มะลิคนนี้ที่สุด
สองปีต่อมา...“วันนี้พ่อกับแม่เธอไม่อยู่บ้าน พวกเราก็เลยมาอยู่เล่นเป็นเพื่อน”คามินเอ่ยพูดขณะที่ปรินทร์ทำหน้าบูดบึ้ง เนื่องจากถูกคนเป็นแม่บังคับให้มาเป็นเพื่อนเล่นของเชอรีน แทนที่เขาจะได้ไปเล่นยิงปืนที่ชอบกับพี่ชาย ต้องจำใจมาอยู่กับเชอรีนเป็นเพื่อนคามินคามิน วงศ์วริศ หรือ คามิน ลูกชายคนโตของคาริสากับแดเนียลปรินทร์ เอกอัครกุล หรือ ปรินทร์ ลูกชายคนเล็กของเรติกากับปีแสง“อ่ะนี่ขนมช่อม่วง ย่าทวดฉันเป็นคนทำเอง แม่เคสให้เอามาฝากเธอ”คามินยื่นขนมที่ถือติดมือมาด้วยให้กับเชอรีน ก่อนป้าเพ็ญจะมารับช่วงต่ออยากรู้งาน“มาค่ะ เดี๋ยวป้าเอาขนมไปจัดจานมาเสิร์ฟนะคะ”เชอรีนกอดอกพลางมองคามินกับปรินทร์สลับกันไปมา พูดกี่ครั้งก็ไม่เคยจำเลย“ก่อนอื่นนะ พวกนายต้องเรียกฉันว่าพี่เชอ เพราะว่าฉันเกิดก่อนพวกนาย”“เกิดก่อนอะไรก็เกิดปีเดียวกัน”ปรินทร์รีบโต้แย้ง ถ้าให้เขาเรียกเธอว่าพี่เชอคงจะกระดากปากที่สุด“แต่ฉันเกิดก่อนพวกนายตั้งหลายเดือนเลยนะ โดยเฉพาะนายปรินทร์ ฉันเกิดก่อนนายตั้งสามเดือนกว่า ร
หกปีต่อมา...“ยินดีกับบัณฑิตคนใหม่ด้วยนะครับ”เตชินกล่าวพร้อมยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ให้กับภรรยาคนเก่ง ที่บัดนี้เป็นบัญฑิตจบใหม่ป้ายแดงไปเรียบร้อยแล้วหลังจากที่คลอดเชอรีนได้ปีกว่า ๆ มะปรางก็ตัดสินใจเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ โดยมีเตชินให้การสนับสนุนเต็มที่เรื่องลูกเธอก็ไม่เป็นกังวลหรือเป็นห่วงมากนัก เพราะมีคุณย่ากับคุณยายของน้องเชอรีนอย่างแม่นารินกับแม่มะลิคอยประคบประหงมดูแลอย่างใกล้ชิดมะปรางตั้งใจเรียน ตั้งใจสอบ ตั้งใจทำเกรด จนได้เกียรตินิยมอันอับหนึ่งคณะครุศาสตร์ ต่อจากนี้ไป เธอก็จะนำความรู้ที่เรียนมา ไปสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียน นอกจากหลักสูตรในรายวิชาคณิตศาสตร์แล้ว ประสบการณ์ชีวิตของเธอก็นับเป็นอีกหลักสูตรหนึ่งที่สามารถสอดแทรกเข้าไปในการเรียนการสอนได้ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเรียนรู้“คุณแม่ของน้องเชอเก่งที่สุด” เชอรีนวัยห้าขวบย่างเข้าหกขวบเดินเตาะแตะเข้ามาแสดงความยินดี เธอยื่นพวงมาลัยพวงเล็ก ๆ ที่ไม่ได้สวยงามอะไรมากนักให้กับคนเป็นแม่พร้อมฉีกยิ้มจนตาหยี“น้องเชอหัดทำเองเ
หลายเดือนต่อมา...“อึบ! อื้ออออ!!!”มะปรางพรั่งพรูลมหายใจออกมาจากทางปาก มือเรียวเล็กกำมือเตชินสามีของเธอไว้แน่น ขณะที่หมอกับพยาบาลต่างส่งเสียงเชียร์ให้เบ่งอีก เบ่งอีก!“อีกนิดเดียวนะคะคุณแม่ ใกล้แล้วค่ะ”“อีกนิดเดียวนะครับเด็กดี”เตชินพูดให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด มะปรางพยักหน้าพร้อมสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ก่อนจะออกแรงเบ่งอีกครั้ง โดยก้มหน้าคางชิดอกและกลั้นหายใจเบ่งยาว ๆ ท่ามกลางแรงเชียร์ที่ล้นหลามอุ๊แว~ อุ๊แว~เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงดีอกดีใจของหมอและเหล่าพยาบาลที่ช่วยกันทำคลอดนานเกือบชั่วโมงน้ำตาของมะปรางไหลออกมาทันทีที่ได้ยินลูกน้อยร้อง มันคือความเจ็บปวดที่มีความสุขที่สุดฉับ!เลือดกระเซ็นอาบคมกรรไกรหลังจากที่ตัดสายสะดือ บ่งบอกว่าสองชีวิตได้แยกจากแล้ว รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏอยู่บนใบหน้าของเตชินและมะปราง ในที่สุดวันที่เขาและเธอรอคอยมาตลอดก็มาถึงเที่ยงคืนสิบห้านาที เด็กหญิงชลธิมา สกุลเกียรติ ได้ออกมาลืมตาดูโลกเป็นวินาทีแรกสองวันต่อมา...
สองเดือนต่อมา...หลังจากที่มีการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นเวลาเกือบสองเดือน ทุกอย่างก็คลี่คลายและจบลงด้วยดี หากว่าจำเลยทั้งห้าคนยอมจำนนต่อหลักฐานทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงที่ถกเถียงกันในกลุ่มผู้ร่วมกระบวนการ เอกสารสัญญาทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายเจษฎา หลักฐานฉ้อโกงของคุณรัศมี คลิปจากกล้องวงจรปิดตอนที่ผู้อำนวยการชูวิทย์ค้ายาให้กับนักเรียนชายในโรงเรียน การติดสินบนของกำนันดำรง การปลอมแปลงเอกสารวิชาชีพของหมอยอดศักดิ์ จำเลยทั้งห้าคน มีส่วนหนุนหลังไมเคิลมาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีพยานปากสำคัญที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งห้าคนรู้เห็นเป็นใจในการหายตัวไปของชาวบ้านและตำรวจหลายนาย ซึ่งก็คือคุณตาของเติร์ดที่เป็นหูเป็นตาให้กับทางการ“เซน!!” เติร์ดตะโกนเรียกเซนเสียงดัง เมื่อเห็นว่าเซนกำลังจะเดินออกจากรั้วโรงเรียน หากว่าเซนเพียงแค่มายื่นเอกสารย้ายโรงเรียนกลางคัน เพื่อไม่ให้คนอื่นในโรงเรียนสงสัยในตัวเขา ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ ก่อนจะเมินเฉยด้วยการเปลี่ยนทิศทางการเดิน“เซน เซนกูขอโทษ กูขอโทษนะที่ด่ามึงวันนั้น” เติร์ดรีบวิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าของเซนด้วยสีหน้าสำนึกผิด เขาอยากขอบคุ
“เฮีย!!” มะปรางตะโกนเรียกเตชิน หากว่าลงมาจากบนบ้านแล้วไม่เจอเขา ก่อนจะเห็นกระดาษโน้ตติดไว้บนฝาชี‘เฮียไปทำธุระแป๊บหนึ่งนะครับ เดี๋ยวช่วงเที่ยง ๆ เฮียมารับ’“ไปไหนของเขาอีกนะ” มะปรางส่ายหน้าไปมาน้อย ๆ ก่อนเสียงมือถือที่วางอยู่ข้าง ๆ ฝาชีจะดังขึ้น หากว่ามันคือโทรศัพท์มือถือของเธอเองครื๊ด...ครื๊ด!“แล้วเมื่อวานก็ไม่ยอมคืนมือถือให้เรา” มะปรางจิ๊ปากพูดอย่างเอือมระอาก่อนจะกดรับสายอย่างไม่รอช้า เมื่อเห็นว่าปลายสายคือเจ๊แก้ว“ว่าไงเจ๊”‘เจ๊มีเรื่องสำคัญมากจะบอก มาหาเจ๊ที่ผับได้ไหม’“เรื่องอะไรเจ๊พูดตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”‘เรื่องนี้สำคัญมาก เจ๊จะรอนะ’พูดจบปลายสายก็ตัดทิ้งทันที โดยที่มะปรางก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ปกติเจ๊แก้วจะไม่ค่อยให้เธอยุ่งเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ และถ้าไม่มีธุระเร่งด่วนอะไรเจ๊แก้วจะไม่มีทางโทรมาหาเด็ดขาด“เจ๊แก้วเรียกให้ปรางมาหา” มะปรางพูดกับคนที่ดูแลร้าน หากว่าช่วงกลางวันร้านเจ้แก้วจะไม่มีคนเลย นอกจากคนดูแลร้าน“เจ๊แก้วน่าจะอยู่ชั้นสองในห้องทำงานชั้นในสุด น่าจะเข้าไปได้เลยนะครับถ้าหากว่านัดไว้แล้ว”
หลังจากเคลียร์ทุกอย่างที่โรงพักเสร็จเรียบร้อย เตชินก็รีบมาหามะปรางโดยเร็ว เขาซื้ออาหารมื้อเย็นและของกินเล่นติดไม้ติดมือมาด้วย หวังว่าคืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายที่เขาและเธอจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง“มะปราง!” เตชินอุทานเรียกชื่อเด็กสาวด้วยความตกใจ หากว่าข้าวของภายในบ้านถูกรื้อจนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เขารีบเอาของกินที่ถือพะรุงพะรังอยู่ในมือไปวางบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะตามหาเธอจนทั่วบ้าน ซึ่งก็ไม่มีวี่แววของเธอเลยชายหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก หากว่าตอนที่เขาเข้ามา ประตูบ้านก็ยังถูกล็อกไว้อย่างหนาแน่น ถ้าโดนบุกรุกมันก็ต้องมีรอยงัดแงะให้เห็น เตชินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูภาพในกล้องที่เขาแอบติดไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้านก่อนที่เขาจะออกไปปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงสายของวันนี้ จึงเห็นว่ามะปรางเป็นคนทำลายข้าวของทั้งหมด แถมยังเอาตัวเองไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าอีก“ตัวแสบ!” เตชินกัดฟันพูดชายหนุ่มเดินไปยังในทิศทางของตู้เสื้อผ้า แล้วเปิดมันออก จึงเห็นว่ามีเด็กตัวแสบแอบไปหลบอยู่ในนั้นจริง ๆ“เฮีย!!”มะปรางตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเขาจะหาทางเธอเจอได้รวดเร็วขนาดนี้ ก