"แล้วหนูจะได้อยู่กับเฮียอีกตอนไหนเหรอคะ" "เอาไว้ถ้าฉันต้องการเธอเมื่อไหร่แล้วจะเรียก" ขยับใบหน้าเข้าใกล้จูบลงบนศีรษะของเธอเบาๆ ดวงตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากร้ายกาจ "ปิดปากของเธอให้สนิท อย่าให้ใครรู้เรื่องของเราเด็ดขาด" ".." "ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคนอื่นเมื่อไหร่ เธอได้จบเห่แน่" รีบก้าวขาลงจากเตียง วิ่งเข้าไปสวมกอดเขาไว้แน่นจากทางด้านหลัง "เฮียมีแค่ชาคนเดียวได้ไหม" "แล้วทำไมฉันต้องทำแบบที่เธอบอก คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้น?" "เปล่าค่ะ หนูไม่ได้สำคัญตัว" "งั้นก็ลองบอกเหตุผลมา เผื่อฉันจะเก็บไปพิจารณา" "ถ้าเฮียอยากให้หนูทำอะไร หนูจะทำให้เฮียทุกอย่าง" "คิดว่าตัวเองมีดีขนาดไหน?" "ที่ชายอมเพราะชารักเฮียนะ สนใจหนูบ้างได้มั้ย" "หวังสูงเกินไปหรือเปล่า ฉันมีอะไรกับเธอมันก็เป็นแค่เรื่องสนุก" ".."
View More-2F BRA-
ร่างสูงคมคายพ่นควันบุหรี่ออกทางจมูกและริมฝีปากจนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนสีหน้าดูเคร่งเครียด มือซ้ายยกโทรศัพท์แนบหู ส่วนมืออีกข้างคอยชี้นิ้วสั่งพนักงานในร้าน
‘แฟรงก์ บุรินทร์ภัทร’ หนุ่มหล่อวัย28ปี ดีกรีเจ้าของคลับชื่อดังมากกว่า5สาขาทั่วกรุงเทพอยู่ในชุดลำลองสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนขายาวขาดเข่าสีซีด
ทรงผมมัลเล็ตสีควันบุหรี่ถูกจัดทรงให้เป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว ส่วนข้อมือสวมใส่นาฬิกาแบรนด์ดังราคาหลักหลายล้านที่ขโมยน้องชายฝาแฝดมา
ใบหน้าราวกับเทพเจ้าปั้นคิ้วเข้มหนารับกับดวงตาเฉี่ยวคม ทำให้ดูโดดเด่นกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนที่อยู่แถวนั้นได้ไม่ยาก
‘จะโทรจิกอะไรนักหนา บอกว่าทำงานอยู่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง’
‘น่ารำคาญชะมัด แค่นี้แหละ’
ติ๊ด…ชายหนุ่มรีบกดตัดสายทิ้งด้วยความหงุดหงิด เธอคือผู้หญิงที่เข้ามาติดพันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
“หงุดหงิดกับสาวคนไหนอีกล่ะเฮีย” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยแซวผู้เป็นเจ้านายด้วยความสนิทสนม
เฮียแฟรงก์ของเขาเรียกว่าหล่อสะบัด ฐานะก็ดี หน้าตาก็หล่อเหลาเต็มพิกัด ทำให้มีสาวสวยมาติดพันมากมาย
“มึงจำยัยวิกกี้ได้มั้ย” แค่นึกเห็นหน้าก็ปวดหัว นอกจากเรื่องบนเตียงก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่เข้ากันได้
“จำได้ครับ คนนี้เฮียเพิ่งคบได้ไม่นานเองไม่ใช่เหรอ”
“คบห่าอะไร กูแค่หลอกเอา” แฟรงก์ถอนหายใจหนัก ยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ วิกกี้เป็นลูกคุณหนู เรียนจบปริญญาจากเมืองนอก ก็แค่เอาไว้ควงเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจัง “วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่เดินตามกูต้อยๆ น่ารำคาญชะมัดเลย”
“ยังไม่ชินอีกเหรอเฮีย”
“ถ้าเธอมาตามหากูที่นี่อย่าให้เข้ามาในร้านเด็ดขาด ถ้าเกิดว่ามึงปล่อยให้เธอเข้ามาได้กูนี่แหละจะไล่มึงออก”
“รับทราบครับเฮีย”
ชายหนุ่มออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะบังเอิญหันไปสบตากับใครบางคนที่ยืนแอบมองเขาอยู่ในมุมมืด
“ลิชา!”
“…..” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ รีบหันไปมองยังคนที่มาใหม่
‘อลิชา เดชาพงศ์’ หรือเรียกสั้นๆ ว่าลิชา อายุ20ปี เป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาที่ไม่ได้ดูโดดเด่น แต่งกายเข้าขั้นว่าเฉิ่มเชย มัดผมรวบยาวเป็นหางม้า สวมแว่นสายตาใส่เสื้อพนักงานและกางเกงสุภาพสีดำ
“มายืนทำอะไรตรงนี้”
“เราเอาของมาเก็บน่ะ”
“เสร็จแล้วก็รีบไปทำงานต่อ วันนี้ลูกค้าเยอะมาก” ฟ้าใสเป็นคนหน้าตาดีแต่งตัวเก่ง รู้จักเข้าสังคมและคบกับลิชาเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปี “แกมัวแต่ยืนมองอะไร”
“ปะ…เปล่าสักหน่อย”
“ฉันเห็นนะ ว่าแกแอบมองเฮียแฟรงก์”
พอถูกจับได้ถึงกลับรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ลิชาแอบชอบเจ้านายมาแรมปี รู้ตัวว่าไม่มีวันเป็นไปได้ เธอและเขาอยู่ต่างกันเกินไป เลยได้แต่เฝ้ามองแอบชอบเขาไปวันๆ
“ไม่ใช่…ไม่ได้มองสักหน่อย”
“ฉันรู้ว่าแกน่ะชอบเฮียแฟรงก์” ฟ้าใสหรี่สายตามองเพื่อนรักอย่างจับผิด ลิชาชอบคนเดียวที่ไหน เธอเองก็ชอบเฮียแฟรงก์เหมือนกัน ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้นใครไม่ชอบก็แปลกแล้ว
“ปะ…เปล่า”
“ไม่ชอบก็ดีแล้ว ส่องกระจกดูสภาพตัวเองด้วย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ถึงแกจะชอบให้ตายยังไงเฮียแฟรงก์ก็ไม่มีวันสนใจแกหรอก ตัดใจเถอะ”
“อืม เรารู้ตัวเองดี”
“…..”
“ลูกค้าร้านมึงแน่นขนาดนี้ แบบนี้ก็รวยตายเลยดิ” ไคโรวาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบของร้าน
ธุรกิจของเพื่อนรักกำลังไปได้ดี ไอ้แฟรงก์มันถึงได้หายหน้าไม่โผล่หัวมาให้เห็น จนเขาต้องมาดูให้เห็นกับตาว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือตายห่าไปแล้ว
“ขอรวยอย่างเดียวพอ ส่วนเรื่องตายกูยกให้มึง” แฟรงก์บอกปัดอย่างนึกรำคาญ ไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่พวกมันมาหา
“ปากมึงนี่ยังหมาเหมือนเดิมเลยนะ”
“กูจะถือว่าเป็นคำชม”
“สาวร้านมึงคนไหนเด็ด ไปเรียกมาให้กูหน่อย” ไคโรหันไปกระซิบถามก่อนจะยกยิ้มมองหน้ากันอย่างรู้ใจ
“ถามแบบนี้ดีกว่าว่าคนไหนยังไม่เสร็จมันบ้าง” เจย์เดนพูดอย่างรู้ทัน ตัวท็อปเด็ดๆ ของร้านไม่น่าจะหลุดจากมือไอ้แฟรงก์ไปได้ “ว่างๆ ก็ไปตรวจโรคบ้างนะ เดี๋ยวนี้จะเป็นเอดส์ตายไปซะก่อน”
“ขอให้พ่อมึงเป็นก่อนกูก็แล้วกัน ได้ข่าวว่ายังแอบแม่มึงไปลงอ่างอยู่เลยนิ”
เจย์เดนฟึดฟัดเพราะรู้ว่าสู้มันไม่ไหว ไอ้แฟรงก์มันปากหมาเกินไป เถียงกลับไปมีแต่จะโดนมันด่ากลับมา “หยอกแค่นี้ทำเป็นโมโห”
“ประตูอยู่ทางนั้น ถ้าพวกมึงจะมาเพื่อกวนส้นตีน เชิญไสหัวออกไปครับ”
“ใจเย็นเพื่อนรัก พวกกูคิดถึงมึงเลยแวะมาหา” ไคโรโผกอดคอเพื่อนชายไว้แน่น อุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกล ยังไงวันนี้ต้องได้เมาหัวทิ่ม
“…..”
“น้อง! น้อง!” ลิชาหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมองยังโต๊ะลูกค้าสาวสวยโซนวีไอพี เธอไม่มีตำแหน่งตายตัว บางวันก็ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ บางวันก็ช่วยงานหลังร้าน แล้วแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้างาน
“เรียกหนูเหรอคะ?”
“เรียกน้องนั่นแหละ”
“มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าคะ”
“ไปขอเบอร์เจ้าของร้านให้หน่อยสิ คนที่หล่อๆ นั่งอยู่โต๊ะนั้นอ่ะ” ชี้ไปทางแฟรงก์ที่นั่งถัดไปไม่ไกล
เรียกว่าออร่าความหล่อกระแทกเข้าตาของพวกเธอเต็มๆ แถมชื่อเสียงของเจ้าของร้านยังการันตีว่าเด็ดจนอยากลองด้วยตัวเอง
“คะ?” ลิชาเอียงหูฟังเผื่อบางทีอาจจะได้ยินผิดไป
“พี่บอกว่าไปขอเบอร์เจ้าของร้านให้หน่อย”
“เอ่อ…”
“เดี๋ยวพี่ให้ทิป”
ยังไม่ทันได้ตอบตกลง เงินแบงก์พันถูกยัดเยียดใส่มือแบบงงๆ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะมันมากกว่าค่าแรงของเธอทั้งวันเสียอีก
“ใช้อะไรก็ไปทำสิ มัวยืนงงอะไร”
ลิชารวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหากลุ่มของชายหนุ่มที่นั่งอยู่เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนแสบแก้วหู ยังไม่เท่าเสียงหัวใจของเธอที่กำลังเต้นแรงในตอนนี้
“เฮียแฟรงก์คะ”
“…..”
“เฮียแฟรงก์!”
สายตาของคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะต่างจับจ้องมองมาทางเธอแบบพร้อมเพรียงกัน แฟรงก์ค่อยๆ หันกลับไปมอง ก่อนจะไล่สายตาสำรวจคนที่มาใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
เธอสวมชุดพนักงาน ที่หน้าอกข้างซ้ายมีป้ายชื่อว่า ‘ลิชา’
“มีอะไร?”
“ลูกค้าโต๊ะนั้นให้มาขอเบอร์เฮียค่ะ”
“มาพูดใกล้ๆ จะเอาอะไร”
“…..” ลิชาเดินเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวังก่อนจะนั่งคุกเข่าลงบนพื้น ส่วนเจ้านายของเธอนั่งอยู่บนโซฟา
หัวใจดวงน้อยเต้นแรง ริมฝีปากบางแห้งผากเมื่อชายหนุ่มโน้มตัวลงมากระซิบถามข้างใบหู จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมประจำตัว “ฉันถามว่าจะเอาอะไร?”
“ละ…ลูกค้าให้หนูมาขอเบอร์เฮียค่ะ”
“ไม่ให้ ไปบอกพวกนั้นว่าฉันมีเมียแล้ว”
คนตัวเล็กกำมือแน่น รู้สึกจุกอยู่ที่ลำคอ แม้จะไม่ได้คาดหวัง แต่ภายในใจลึกๆ ยังคงรู้สึก ได้แค่ฝืนยิ้มอย่างใสซื่อไม่ได้ตอบกลับอะไร
“ช่วยดิลยัยนี่ให้หน่อย กูจะเอา” ไคโรสะกิดบอกเพื่อนชายก่อนจะยกยิ้มมุมปากยียวน
“คนอื่นก็มี ทำไมต้องคนนี้” แฟรงก์หันขวับไปกระซิบถามต่อ หลังจากได้ยินประโยคนั้น
“กูชอบนะ ดูซื่อดี น่าจะไม่ค่อยเป็นงาน”
“เอาคนอื่นดิ เดี๋ยวกูจัดการให้”
“ก็กูจะเอาคนนี้”
“มึงพูดไม่รู้เรื่องหรือไง กูบอกว่าใครก็ได้ที่ไม่ใช่คนนี้” ตบหัวเพื่อนชายอย่างแรงจนหัวทิ่มด้วยความหงุดหงิด
“เอ้า! ไอ้เวรนี่ มึงจะเก็บไว้แดกเองหรือไง”
แฟรงก์เบือนหน้าหันหนีเลือกที่จะสงบคำไม่ต่อล้อต่อเถียง มองไปทางคนตัวเล็กที่นั่งทำตาใสไม่รู้เรื่องราว “รกหูรกตา อย่ามานั่งทำตัวเกะกะแถวนี้ จะไปไหนก็ไป”
FAHKIN PART บรี๊น…เสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าท่อดังบิดคันเร่งสนั่นจนควันขโมงไปทั่วบริเวณ เจ๊ติ๋มชะเง้อคอมองตามคอยสอดส่อง ในถือตะหลิวเตรียมจะเขวี้ยงใส่ไอ้พวกเด็กแว๊นที่ชอบมาเบิ้ลรถแถวนี้ เสียงท่อดังจนหมาข้างบ้านตกใจเห่าร้องประสานกันระงมสร้างความรำคาญใจให้แก่คนที่อยู่แถวนั้น “ขับรถรีบไปตายที่ไหนวะ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่…” “พ่อกับแม่ผมไปดีแล้วป้า ทิ้งลูกเต้าไว้ให้คนอื่นเลี้ยง” แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคเสียงที่คุ้นเคยทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร “ที่แท้เป็นฟาคินนี่เอง ป้าก็นึกว่าใคร” ฟาคินขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคู่ใจมาหาจีบสาวที่แอบชอบมานาน “พี่รี่อยู่ไหม” “นังรี่มันอยู่ในครัว เดี๋ยวป้าไปตามมันให้” จากขุ่นเคืองแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีหลังจากเห็นลูกชายมหาเศรษฐีมาตามจีบลูกสาวทุกวี่ทุกวัน “รีบไปรีบมาเลยนะ ฝากบอกลูกสาวป้าด้วยว่าผมคิดถึง” ตึกตัก เสียงหัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงทุกครั้งยามได้เห็นหน้า หมาเด็กกับพี่คนสวยน่าจะเป็นฉายาที่เหมาะสมกับเขาที่สุด “มีอะไรหรือเปล่า” “ไปนั่งรถเ
4ปีผ่านไปPHARAOH PART “เฮียเป็นไร ทำไมไม่ยอมคุยกับน่าน” น่านฟ้าที่อยู่ในอาการมึนเมา หยุดยืนอยู่ที่ปลายเตียงด้วยท่าทางโอนเอนทรงตัวแทบไม่ไหว จ้องมองชายหนุ่มที่นอนคลุมโปงส่งเสียงสะอึกสะอื้น “ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปให้พ้น” “งอนอะไรอีก” “ไม่ต้องมายุ่ง อยากอยู่คนเดียว” เพราะเธอออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมรุ่นเลยกลับบ้านช้าผิดเวลาไปนิดหน่อย “น่านบอกแล้วไงว่ามินนี่เป็นแค่รุ่นน้อง ไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วไปกินข้าวด้วยกันทำไม ฉันโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ” “ก็แบตมันหมด น่านเคยบอกไปแล้ว ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง” “คนเจ้าชู้แบบเธอมันไว้ใจไม่ได้ ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก เราเลิกกัน!” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างงุนงงพลางถอนหายใจหนักๆ “พองอนทีไรบอกเลิกน่านตลอดเลย” “…..” “ถ้าน่านไปจริงอย่ามาง้อแล้วกัน” น่านฟ้าแสร้งพูดขึ้นเสียงดัง จงใจให้แฟนหนุ่มได้ยิน แล้วมันก็ได้ผลเป็นอย่างดีเมื่อคนตัวโตหยุดการเคลื่อนไหวราวกับรอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นต
หลายวันต่อมา ร่างสูงคมคายของบุรินทร์ทอดสายตามองผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่ที่ไกลจนสุดสายตา แสงท้องฟ้ากลายเป็นสีทองอร่ามในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าเมื่อถึงเวลาของมัน สายลมและเสียงเกลียวคลื่นที่ดังกระทบเข้าฝั่งให้ความรู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้ยิน “มี่ตามหาตั้งนาน หลบมายืนอยู่ตรงนี้นี่เอง” เดมี่เดินเข้าไปสวมกอดสามีจากทางด้านหลัง ภาพเบื้องหน้ามีลูกทั้งห้าคนที่กำลังส่งรอยยิ้มพูดคุยอย่างสนุกสนาน “ดูพวกเขาเล่นกัน” ฟาคินนั่งก่อประสาททรายโดยมีฟรังค์และฟาโรห์นอนอาบแดดอยู่ข้างกัน ส่วนฟรานเป็นคนขับเจสกีมีฟาเรนนั่งซ้อนท้ายส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วบริเวณ “มี่ไม่เคยเห็นพวกเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย” “แล้วเธอมีความสุขไหม” “ความสุขของมี่ก็คือแด๊ดดี้ไง” “ฉันคงเป็นพ่อที่แย่ ขอโทษที่ไม่มีเวลาให้เธอกับลูก” ถึงแม้จะมีเงินมากมายแต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้ก็คือเวลา บุรินทร์ใช้เวลาทุ่มเทให้กับธุรกิจของตัวเอง เขาทำงานอย่างหนักก่อนจะวางมือเพื่อให้ลูกได้ดูแลสืบสานต่อ “มี่รู้ว่าแด๊ดดี้ทำเพื่อพวกเรา มี
แกร๊ก…บานประตูห้องนอนถูกเปิดออกในยามวิกาล ดวงตาคู่สวยทอดสายตามองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของสามี ริมฝีปากสีคล้ำคาบมวนบุหรี่พ่นควันจนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ “ดึกแล้วนะ ทำไมยังไม่นอน” ร่างเล็กเดินเข้าไปหาด้วยความระมัดระวัง วางใบหน้าสะสวยซบลงบนแผ่นหลังกว้างของสามีที่เต็มไปด้วยรอยสักน่าเกรงขาม บุรินทร์หันกลับมาเผชิญหน้า ก้มลงมองภรรยาคนสวยที่มีความสูงแค่ระดับแผงอกของเขาเพียงเท่านั้น “ลูกหลับแล้วเหรอ” “มี่ส่งเข้านอนครบทุกคนแล้วค่ะ” “แล้วฟาคินเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายดีขึ้นหรือยัง” “อาการดีขึ้นแล้วค่ะ คงเป็นเพราะได้ยาดีจากแด๊ดดี้แน่เลย” “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เด็กนั่นกลัวเข็มจะตายไป” บุรินทร์หัวเราะเบาๆ ในลำคอ ใช้ฝ่ามือหนาบีบเข้าที่ปลายคางของคนตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วบรรจงจูบที่ริมฝีปากอิ่มสวยเบาๆ “วันนี้เด็กดีสวยมาก สวยทุกวันเลยรู้มั้ย” “แด๊ดดี้ก็หล่อมากเหมือนกัน หล่อที่สุดในสายตามี่เลยรู้มั้ย” “ต้องการอะไรแค่พูดมา จะให้ทุกอย่าง” “อาทิตย์หน้าเราพาลูกๆ ไปเที่ยวเกาะกันดีไหมค
หลายเดือนผ่านไป พลั่ก! ตุบ! ตุบ! เสียงหมัดหนักๆ กระแทกเข้ากับกระสอบทรายอย่างบ้าคลั่ง สายตาเรียบนิ่งของเด็กชายจ้องแน่วแน่ไปที่เป้าหมายไม่มีวอกแวก ก่อนที่จะกระแทกหมัดหนักๆ ตรงไปยังพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ฝึกซ้อม “ลูกชายคนเล็กของเสี่ยหน่วยก้านดีนะ ผมว่าอนาคตได้เป็นดาวรุ่งแน่นอน” บุรินทร์นั่งมองภาพฝึกซ้อมผ่านจอมอนิเตอร์ในห้องทำงาน ฟาคินมีใจรักทางด้านศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ห้ามอีกทั้งยังสนับสนุนหาพี่เลี้ยงระดับมือโปรมาฝึกให้ “เดือนหน้ามีเดิมพันใหญ่ ถ้าเสี่ยตกลงบอกผมได้เลย” “ถ้าชนะแล้วได้อะไร” “เดิมพันด้วยชีวิตและท่าเรือ” “…..” บุรินทร์หลับตาลงพลางใช้ความคิดหลังจากได้ยินข้อเสนอที่แสนยั่วยวน ท่าเรือเดิมพันมีมูลค่ามหาศาล ถ้าได้มันมาคงจะต่อยอดธุรกิจของเขาได้ไม่น้อย “เสี่ยอยากได้ท่าเรือของไอ้ปีเตอร์มานานแล้วไม่ใช่เหรอ ลองเสี่ยงดูสักตั้งจะเป็นอะไรไป” “ข้อเสนอถือว่าไม่เลว” “ยิ้มแบบนี้แปลว่าตกลงใช่ไหม” “ตามนั้น” “แล้วรอบนี้เสี่ยจะส่งใครขึ้นชก ผมจะได้เตรีย
“วันนี้ตัวทำเมนูอะไรมาบ้าง” ฟาโรห์ตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ลุกขึ้นมาทำอาหารเพื่อใส่บาตรในวันนี้ เขาสวมชุดนอนสีชมพูสดใสพร้อมกับที่มาร์คหน้าเห็นเพียงดวงตาและริมฝีปากเหมือนอย่างเคย “วันนี้มีแซนด์วิชแซลมอนรมควันท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์ให้หลวงตาแบบฉ่ำๆ มีอูนินำเข้าเกรดพรีเมี่ยมด้วยนะ และก็มีกุ้งล็อบสเตอร์อบชีส” เรื่องงานบ้านงานเรือนถือได้ว่าไม่เป็นที่สองรองใคร ทำได้หมดทั้งอาหารคาวหวาน ใครที่ได้เป็นผัวมีหวังโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง “น้ำแร่บริสุทธิ์จากเทือกเขาประเทศสวิตส่วนผลไม้ส่งตรงจากออสเตรเลีย” “แค่ใส่บาตร มันต้องขนาดนี้เลยเหรอตัว” “แบบนี้ดีที่สุด ถ้าตายเราจะได้ไปสวรรค์” “…..” “นั่นไงหลวงตามาแล้ว” ฟรานยิ้มกว้างยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม มองไปทางหลวงตาและสามเณรฟาเรนที่เดินตามหลังกันเป็นขบวน อีกทั้งยังมีฟาคินคอยเป็นเด็กวัดสะพายย่ามถือข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ ตั้งแต่น้องชายอาการดีขึ้น ปู่ก็เลยบังคับให้บวชเณรเพื่อต่อชะตาชีวิต ฟาเรนไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมจำนนเข้าพิธีบวชเณ
Comments