ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ท่านประธานหนุ่มรีบถอดสูทออกมาพาดไว้กับพนักเก้าอี้ พร้อมกับรีบเดินไปที่กระจกใสริมห้อง ยืนชมวิวกอดอกด้วยมาดเข้ม ขณะที่หัวใจเจ้ากรรมของเขามันกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อกำลังจะได้เจอกับใบบัวอีกครั้ง ในรอบที่สองของวันนี้
“ท่านประธานค่ะ คิวซีที่นัดเอาไว้ มาขอพบค่ะ” เสียงหวานของเลขาดังขึ้น
“ให้เธอเข้ามาได้” กวินพูดออกไปด้วยเสียงเข้ม
“ค่ะ ท่านประธาน” หลังจากที่เลขาสาวเดินออกไป ใบบุญได้เดินเข้าก้มหน้าเข้ามาภายในห้องของท่าประธานด้วยอาการเกร็งๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะได้รับโทษหนักแค่ไหน เขาจะไล่เธอออกหรือเปล่า นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจของใบบุญ
“สวัสดีค่ะท่านประธาน” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับกล่าวทักทาย บุคคลที่เธอเรียกเขาว่าท่านประธานไปตามมารยาท
“นั่งลงสิ” เสียงทุ้มที่ฟังดูคุ้นหู แต่บุญบุญก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขา ตอนนี้หัวใจของเธอมันเต้นแรง จนแทบกระเด็นออกมาจากอกข้างซ้าย เพราะหญิงสาวรู้สึกตื่นเต้น เมื่อเธอนั้นได้มาพบกับท่านประธานครั้งแรก
“ขอบคุณมากค่ะ” เสียงหวานที่หญิงสาวกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อให้น้ำเสียงฟังดูเป็นปกติที่สุด ทั้งที่เธอนั้นตื่นเต้นจนแทบก้าวขาไม่ออก ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาภายในห้องของท่านประธาน
“คุณรู้ตัวหรือเปล่า งานที่คุณตรวจสอบคุณภาพของสินค้านั้น ถูกตีกลับทั้งหมด ซึ่งข้างกล่องได้ระบุชื่อของผู้ตรวจสอบเอาไว้ด้วย นางสาวใบบุญ ธรรมกิตติรักษา” กวินพูดออกมาด้วยเสียงเข้ม ซึ่งเขาอยากรู้ว่าใบบุญจะแก้ตัวยังไง ในสิ่งที่เธอทำผิดพราดมากกว่าที่พนักงานคนอื่นเคยทำ เพราะนี่เล่นถูกตีกลับทั้งหมดเลย
“ฉันยินดีที่จะทำตามกฎของที่นี่ ตามที่ท่านประธานจะเห็นสมควร เพราะฉันได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว” ใบบุญพยายามข่มความรู้สึกขุ่นมัวเอาไว้ภายในใจ เมื่อเธอคิดว่าคนที่อยู่ที่อยู่เบื้องหลังคืออันดา รีดเดอร์ที่จ้องแต่จะหาโอกาสทำให้เธอเดือดร้อน
“ผมว่าคุณคงทำงานในตำแหน่งคิวซีได้ไม่ดีพอ ดูจากสินค้าที่ถูกตีกลับคุณคงต้องลาออกจากคิวซี” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมน่าเกรงขาม แต่ทว่าแววตาที่เขาแอบมองไปที่บุญบุญเป็นระยะนั้น กลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เมื่อเขาคิดแผนการอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ท่านประธานจะไล่ฉันออกเหรอคะ” หญิงสาวยังคมก้มหน้าก้มตาถามเขาออกไป ด้วยท่าทีที่เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ลึกสุดใจ เมื่อเธอคิดว่าต้องตกงานอีกแล้ว
“ผมคิดว่าคุณไม่เหมาะกับงานคิวซี”
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด สวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งให้ต้องตกงานอยู่ร่ำไป ขอบคุณนะคะท่านประธาน ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปเขียนใบลาออกนะคะ” ใบบุญรีบพูดขึ้น เพราะเธอกลัวจะมีประวัติไม่ดีถ้าหากถูกไล่ออก
“เดี๋ยว! จะรีบไปไหน ผมยังไม่ได้อนุญาต” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วน เฉกเช่นผู้มีอำนาจเหนือกว่า จนใบบุญรู้สึกกลัว เมื่อเขากำลังใช้พลังเสียงพูดข่มเธอ
“เชิญท่านประธานว่ามาเลยค่ะ ฉันฟังอยู่” คราวนี้ใบบุญเริ่มพูดจาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อออกมาอย่างลืมตัว
“ฉันจะให้เธอย้ายมาทำงานที่นี่ ในฐานะผู้ช่วยของฉัน”
“ฮะ! อะไรนะคะ” ใบบุญถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง เธอเงยหน้าขึ้นอย่างไว ทำให้ท่านประธานรีบหันหน้ากลับเกือบไม่ทัน
“เธอฟังไม่ผิดหรอก ในเมื่อเธอทำงานตำแหน่งนั้นไดไม่ดีพอ ก็ควรย้ายมาทำงานที่มันง่ายกว่าการเป็นคิวซี” กวินหาข้ออ้างขึ้นมาแย้งหญิงสาวอย่างข้างๆ คูๆ ซึ่งใบบุญคิดว่าคงไม่มีตำแหน่งอะไรยากไปกว่าการเป็นผู้ช่วยท่านประธาน ซึ่งเธอไม่มีทางทำงานนี้อย่างแน่นอน
“ถ้าจะให้ฉันมาทำงานเป็นผู้ช่วยท่านประธาน ฉันขอลาออกไปหางานใหม่จะง่ายกว่ามั้งค่ะ” ใบบุญพูดเป็นเชิงปฏิเสธออกไป เพราะเธอไม่ได้มีความรู้มากพอ แต่ถึงกระนั้นความแปลกใจในแผ่นหลังของท่านประธาน ทำไมเธอถึงได้รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปทำงานตำแหน่งเดิม แต่ถ้าพลาดอีกครั้ง เธอกล้ารับปากฉันไหมละ ว่าจะมาทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับฉัน” กวินไม่รอช้ารีบเปลี่ยนข้อเสนอให้กับหญิงสาวทันที เมื่อเธอบอกจะลาออกจากโรงงาน ทั้งที่ความจริงแล้วใบบุญคงไม่ลาออกง่ายๆ เพราะเธอมีภาระมากมายที่ต้องแบกรับ
“ฉันจะไม่ให้พลาดอีกค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับโอกาส” คำพูดของหญิงสาวทำให้กวินถึงกับยิ้มร้ายที่มุมปาก แต่ที่เขาแปลกใจทำไมเธอถึงไม่อยากทำงานในออฟฟิศที่แสนจะสบาย กว่าการเป็นคิวซีหลายเท่าแถมยังเป็นถึงผู้ช่วยของท่านประธาน ซึ่งเขาไม่เคยเปิดรับตำแหน่งนี้มาก่อน แน่นนอนท่านประธานหนุ่มมีไว้ให้กับใบบุญเพียงคนเดียวเท่านั้น
“คุณไม่คิดอยากมาเป็นผู้ช่วยผมเลยเหรอ ทำงานที่นี่สบายนะ” กวินยังคงพยายามโน้มน้าวจิตใจหญิงสาวให้ยอมรับข้อเสนอของเขา
“ไม่ดีกว่าค่ะ ความรู้ความสามารถฉันคงมีไม่มากพอ ฉันคงเหมาะกับงานที่โรงงานมากกว่า” ใบบุญพูดออกมาด้วยแววตาเศร้า เมื่อเธอต้องกลับไปตั้งรับกับหัวหน้าอย่างอันดาอีกครั้ง
“ผมคงบังคับคุณไม่ได้ วันไหนเกิดเปลี่ยนใจอยากมาทำงานกับผมเมื่อไหร่ เข้ามาหาผมได้ทุกเมื่อเลยนะ” กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำไมเขาต้องยอมเธอมากขนาดนี้ด้วย ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าข้างกายของหญิงสาวมีใครไปแล้วหรือยัง หัวใจของเธอยังว่างหรือเปล่า
“ท่านประธานเนี่ย ใจดีกับพนักงานแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าคะ” หญิงสาวรวบรวมความกล้าเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังยืนหันหลังให้กับเธอออกไป เพราะใบบุญกำลังคิดว่าเขาเป็นพวกสมภารชอบกินไก่วัด
“ไม่หรอก เฉพาะบางคนเท่านั้น” น้ำเสียงทุ้มแฝงร่องรอยความอัดอั้นเอาไว้ จนทำให้ใบบุญเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างหาสาเหตุมาอธิบายไม่ได้ ในความหมายของประโยคที่ฟังดูคล้ายมีความนัยลึกซึ้ง
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! กวินพูดจบประโยคเสียงคนเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“ท่านประธานค่ะ ได้เวลาประชุมแล้วค่ะ” เลขาสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวาน
“ผมรู้แล้ว” น้ำเสียงของกวินฟังดูแข็งกระด้าง ผิดไปจากเวลาที่เขาพูดกับใบบุญ
“ค่ะท่านประธาน” ไพลินถึงกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนที่เธอจะเดินออกไป เตรียมตัวเข้าห้องประชุมกับท่านประธาน
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ใบบุญได้โอกาสรีบขอตัวทันที เพราะเธอรู้สึกแปลกใจท่านประธานไม่น้อย เขาทำเหมือนกับว่าอยากให้เธอมาทำงานที่นี่ แทนที่จะถูกไล่ออก
“เดี๋ยวก่อน” เสียงทุ้มดังขึ้น ก่อนที่ใบบุญจะเปิดประตูเดินออกไป
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวยังคงก้มหน้า หันมาถามท่านประธานด้วยความสงสัย
“อ้อ... เปล่าไม่มีอะไร”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวนะคะ” ใบบุญพูดจบเธอรีบเปิดประตูออกไปจากห้องของท่านประธานทันที เพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจให้เธอมาทำงานที่ตึกนี้ แล้วยังรับตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยท่านประธาน ความรู้น้อยนิดที่มี เธอคงทำมันออกมาไม่ได้ดี สู้เป็นคิวซีดีกว่า
“ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้คุณกลับมาเป็นของผมอีกครั้ง หวังว่าคุณคงยังไม่มีใคร รอผมหน่อยนะใบบุญ” ท่านประธานหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง ซึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอ
เมื่อใบบุญเข้ามาที่แผนก สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอ เมื่อหญิงสาวถูกท่านประธานเรียกไปพบคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ เพราะปกติแล้วพนักงานจะถูกหัวหน้างานอย่างอันดาและเพชรภูมิ เรียกไปพบตามลำดับของตำแหน่งงาน แต่ใบบุญกลับถูกท่านประธานบริษัทเรียกไปคุย ถ้าไม่ถูกไล่ออก โบนัสปีนี้ก็คงอดรับแน่
“เป็นไงบ้าง ท่านประธานว่ายังไง” ชมพู่เอ่ยถามเพื่อออกมาด้วยความอยากรู้
“เลิกงานเดี๋ยวเล่าให้ฟัง ทำงานไป ฉันไม่อยากมีเรื่องกับหัวหน้าอย่างพี่อันดาอีก” ใบบุญตอบกลับไปเสียงแผ่วเบา เมื่ออันดากำลังจับจ้องมองมาที่เธอ รัศมีของความเกลียดชังถูกตีแผ่ออกมาราวกับว่าใบบุญไปทำอะไรให้หล่อนเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน แต่ดูอันดาจะยิ้มร้ายออกมาด้วยความสะใจไม่น้อยที่หญิงสาวถูกท่านประธานเรียกไปพบ ซึ่งหล่อนคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“ฉันว่าเธอไปหาหมอดีกว่าไหม หน้าซีดเชียว” ชมพู่เอ่ยถามเพื่อออกมาด้วยความห่วงใย ขณะที่อันดาเริ่มอยากหาเรื่องใบบุญขึ้นมาอีกครั้ง “ชมพู่นี่เธอคิดจะอู้งานเหรอ” อันดาเดินตรงมาที่สองสาว ขณะที่ชมพู่พัดวีหายาให้ใบบุญทาและสูดดม “วันนี้ฉันขอลาครึ่งวันนะคะ เพราะใบบุญไม่สบาย ในฐานะเพื่อนร่วมงาน ฉันคงทิ้งให้เพื่อนเป็นลมล้มคว่ำไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกนะคะ” คำพูดของชมพู่ทำให้ใบบุญซึ้งใจไม่น้อย คงมีเพียงแค่อันดาที่กำลังใช้ตำแหน่งงานที่สูงกว่าข่มเพื่อนร่วมงานอย่างไม่มีเหตุผล “เกิดอะไรขึ้นครับ” น้ำเสียงทุ้มของเพชรภูมิดังขึ้น ซึ่งทำให้ใบบุญถึงกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย” ใบบุญรีบพูดออกไปตามความเป็นจริง เพราะเธอเริ่มรู้สึกว่าอันจะเรื่องเยอะขึ้นทุกวัน “คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ผมพาไปหาหมอไหมครับ” เพชรภูมิพูดพร้อมกับเดินเข้าใกล้ใบบุญ จนเธอรีบเขยิบออกแทบไม่ทัน ทั้งที่กำลังรู้สึกวิงเวียน
“ไม่จริงหรอกครับ ตอนนี้ใบโพธิ์คงยุ่ง เขากำลังสร้างตัวก็เพื่อคุณกับลูกนะริสา” กวินพยายามคิดหาถ้อยคำมาปลอบหญิงสาว ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาพูด เพื่อให้ริสาเข้าใจใบโพธิ์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้ “สร้างตัวมันคนละเรื่องกับการสร้างกำลังใจ ถ้าเขาไม่มีใครทำไมไม่มาเจอกันบ้าง ผู้ชายอย่างเขาคงไม่มีหัวใจ แต่มันก็ไม่แปลกอะไร ที่เขาจะไม่แคร์ผู้หญิงอย่างริสา เพราะเรารู้จักกันแค่วันสองวันเอง ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าเลยสักนิด” หญิงสาวจะรู้หรือเปล่าว่า แค่วันสองวันนั้นมีค่ากับใบโพธิ์แค่ไหน เขาจึงรีบตัดสินใจรับข้อเสนอของพี่เขย ยอมติดหนี้สามีของพี่สาวก้อนโต ก็เพราะว่าชายหนุ่มหวังอยากให้บิดาของริสายอมรับในตัวเขาให้เร็วที่สุด “บางทีใบโพธิ์ก็อาจจะคิดถึงคุณจนแทบทนไม่ไหว แต่ที่ยอมหายไป เพราะเขามีเหตุผลบางอย่างก็ได้ อย่าคิดมากเลยนะคุณริสา เอาไว้เดี๋ยวผมจะจัดการคุยกับใบโพธิ์ให้นะครับ” “คงไม่จำเ
“คำพูดคำจาวกมาแต่เรื่องบนเตียง เดี๋ยวก็ไม่บอกข่าวดี ปล่อยให้ง้ออีกสักสี่ห้าเดือน จะได้รู้รสชาติของการถูกเมียงอนเสียบ้าง” “อย่างอนเลยนะครับคุณภรรยา แค่นี้ผมก็ใจจะขาดรอนๆ อยู่แล้ว ขืนคุณงอนต่อไปอีกสี่ห้าเดือน ผมคงต้องตายแน่นอน” กวินพูดออกมาด้วยเสียงอ้อน พร้อมกับตีไฟเลี้ยวเข้าไปในบริษัท ขณะที่ใบบุญยิ้มน้อยๆ ให้กับความน่ารักของท่านประธานหนุ่ม เวลาที่เขาใช้เสียงสองกับเธอดูแล้วไม่ต่างจากลูกแมวดีๆ นี่เอง เมื่อรถยนต์คันหรูจอดสนิท พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเดินตรงมาทันที เพื่อเอารถของท่านประธานไปเก็บในโรงจอดรถของผู้บริหาร แต่ทว่าคราวนี้นอกจากพนักงานรักษาความปลอดภัยจะแสดงสีหน้าสงสัย เมื่อหญิงสาวในชุดฟอร์มโรงงานเดินลงมาจากรถของท่านประธานยังมีพนักงานออฟฟิศหลายคนเริ่มซุบซิบกัน หลังจากที่กวินเดินอ้อมมาเปิดประตูให้กับใบบุญ พร้อมกับส่งปิ่นโตอาหารให้กับเธอ เพราะนั่นหมายถึงหญิงสาวไม่ต่างจากคนสำคัญสำหรับเขา “ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันนะ” “กว่าจะได้กินอาหารก็เย็นหมด เอาไว
นับเวลาจากที่หญิงสาวงอนผู้เป็นสามี นี่ก็ล่วงเลยมาเดือนกว่าๆ แล้ว แต่ทว่าใบบุญก็ยังคงบึ้งตึง จนกวินเริ่มเอะใจ เมื่อภรรยาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ค่อยๆ ห่างเหินจนกลายเป็นความเฉยชา ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามเอาอกเอาใจเธอแค่ไหนกลับไม่เป็นผล ซึ่งใบบุญไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ หญิงสาวเกลียดแม้กระทั่งกลิ่นน้ำหอมที่เขาเคยใช้ เธอบ่นท่านประธานหนุ่มจนหูชาแล้วบอกว่ากลิ่นเหม็นชวนให้คลื่นไส้ ซึ่งทำให้กวินต้องเลิกใช้ไปโดยปริยาย บวกกับระยะเวลาหลายวันมานี้ ริสาดูแปลกๆ หล่อนชอบแอบไปหาท่านประธานหนุ่มที่ห้องทำงานบ่อยๆ จึงทำให้หญิงสาวเริ่มงอนเขาหนักกว่าเดิม คงไม่ต้องบอกว่าใบบุญรู้ได้ยังไง เพราะข่าวคราวการเคลื่อนไหวระหว่างริสากับกวินนั้น มีคนคอยอัปเดตตลอดเวลา เมื่อเหล่าบรรดาสาวโรงงานและพนักงานออฟฟิศต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนทั้งคู่ กำลังจะมีข่าวดีในเร็ววัน แม้เธอจะรู้ว่าริสากับใบโพธิ์มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันมาก่อน แต่ความหึงหวงต่อสามีก็เกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ “ตอนนี้ผมจัดการเรื่องอู่ให้ใบโพธิ์เ
เมื่อได้ระบายความในใจ ชายหนุ่มได้เดินออกมาที่ระเบียง เขามองไปด้านหน้าด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ เขาควรจัดการกับชีวิตนี้ยังไงดี วิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ยิ่งทำให้เขาเกิดความคิดที่หลากหลาย เมื่อสมองกับหัวใจเริ่มตกลงกันไม่ได้ “ถ้าใช่ยังไงก็ใช่ ทำไมโลกใบนี้ถึงได้ลำเอียงกับชีวิตของกูจังวะ” ใบโพธิ์พูดพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ก่อนที่ชายหนุ่มจะกลายร่างเป็นสิงห์อมควันเขาสูบเข้าไปแล้วพ่นออกมาราวกับว่ามันคือสิ่งที่จะทำให้คิดหาทางออกกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ภาพของชายหนุ่มที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงของห้อง ซึ่งมองผ่านประตูกระจกใสบานใหญ่ ทำให้ริสาแอบยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อใบโพธิ์อยู่ในลุคของหนุ่มเซอร์ดูมีเสน่ห์ เขาดูดีแบบไม่ต้องเติมแต่งด้วยชุดราคาแพง ความเรียบง่ายสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนที่ดูแมทช์กันแบบคูลดูสบายๆ แต่ทว่าเขากลับดูน่าค้นหา ซึ่งทำให้หัวใจดวงน้อยของริสาหวั่นไหวจน เธอแอบมองเขาด้วยความปลาบปลื้มใจ จนอดไม่ได้ที่จะลุกเดินออกไปที่ระเบียง
“นายเป็นเป็นช่างเหรอ” “อืม... ผมเป็นช่างซ่อมรถน่ะ” ชายหนุ่มพูดออกไปตามความเป็นจริง เพราะเขาคงไมเหมาะกับเธอ“ขอบคุณนะ ฉันเพิ่งรู้จักกับนาย แล้วทำไมนายถึงดูมีน้ำใจ คอยเอาใจใส่ผู้หญิงอย่างฉันจัง ใครเป็นแฟนนายคงโชคดีมากเลยนะ” “ไม่เป็นไรหรอกครับ บางทีผมอาจจะไม่ได้เป็นผู้ชายที่แสนดีอย่างที่คุณคิดก็ได้ อ้อ... ที่สำคัญผมยังไม่มีแฟน” พูดจบใบโพธิ์ก็เดินเอาชามไปเก็บ ปล่อยให้ริสาหัวใจเต้นแรงจนน่าแปลกใจ เมื่อชายหนุ่มบอกว่าเขายังไม่มีแฟน จากนั้นใบโพธิ์ได้เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำอีกใบและยาลดไข้ให้กับริสา “กินยาก่อนค่อยนอนพัก” “ขอบคุณนะ” ริสายอมกินยาแล้วดื่มน้ำตามอย่างว่าง่าย เมื่อเธอรู้สึกไว้วางใจใบโพธิ์ “ตัวยังรุมๆ อยู่เลย นอนพักก่อนถ้าอาการไม่ดีขึ้น ผมจะพาไปหาหมอ” ใบโพธิ์ไม่พูดเปล่า เขายังรั้งริสาให้นอนลง พร้อมกับห่มผ้าผืนบางให้กับเธอ เนื่องจากบ้านพักตากอากาศริมทะเลมีลมโกรก ชายหนุ่มจึงกลัวว่าเธออาจจะไข้ขึ้น เพราะอากาศที