Share

บทที่ 2

Author: Meowmao
last update Last Updated: 2025-09-13 02:35:06

-ดาริน-

2 อาทิตย์ต่อมา

“ริน!!”

เสียงของเพื่อนสนิทของฉันเรียกเมื่อเราเจอกัน หลังจากทร่ฉันหายไปพักรักษาตัวมาได้เกือบสองอาทิตย์ กว่าแผลบนใบหน้าจะหายดี

“เป็นยังไงบ้างอะ แกดีขึ้นแล้วใช่มั้ย”

ฉันพยักหน้าเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ด้วยกลัวเพื่อนจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม

“ดูสิเนี่ย หน้าแกยังมีรอยอยู่เลย! ทำไมแกถึงไม่เอาเรื่องพวกมันล่ะ!”

ยัยนก หรือ ลูกนก ถามฉันด้วยน้ำเสียงขัดใจที่ฉันไม่ยอมเอาเรื่องพวกหมิว จะให้ฉันทำยังไงได้ล่ะ ฉันรู้ว่าถ้าฉันเอาเรื่องยัยพวกนั้นต้องไม่เลิกตอแยฉันแน่ๆ สู้ทนเจ็บให้มันจบ ๆ ไปแค่ครั้งนี้ครั้งดียวน่ะ ดีแล้ว

“ช่างมันเถอะ เรารีบไปเรียนเถอะ อาจารย์นภาด้วยคลาสนี้”

ฉันพูดตัดบทแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะไม่อยากให้เพื่อนสาวของฉันถามมากไปกว่านี้ ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะปิดบังอะไรกับเพื่อนหรอกนะ แต่ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ อย่างน้อยไม่รู้มันยังจะดีกว่า

“จริงด้วย! รีบไปกันเถอะ><”

เป็นไปตามคาดหากฉันเอาชื่ออาจารย์ที่ดุ ๆ มาอ้างเมื่อไหร่ ยัยนกจะลืมเรื่องที่คุยกันอยู่ทันที ฉันกับเพื่อนสนิทจึงรีบเดินไปที่ตึกเรียนทันที

ห้องเรียน

พอเข้ามาในห้องฉันก็ต้องเจอกับสายตาพิฆาตของหลายๆ คน และหนึ่งในสายตาพวกนั้นก็คือหมิว ฉันถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าหนีทันที

“หึ หน้าด้าน!”

และเมื่อฉันกำลังจะเดินผ่านหมิวก็พูดกัดฉันทันที ฉันได้แต่ถอนหานใจเบา ๆ ไม่อยากจะต่อกรกับใครอีกฉันอยากอยู่อย่างสงบ

“มึงว่าใคร!”

แต่เหมือนกับนกไม่ได้คิดเหมือนที่ฉันคิดสักเท่าไหร่ หลังจากหมิวพูดจาแดกดันฉันยังไม่ทันเสร็จดี ยัยนกก็ตอบกลับทันควัน

“อย่าเสือก! ไม่ใช่เรื่องของมึง!”

หมิวลุกขึ้นประจันหน้ากับนกทันที หน้าของทั้งคู่เอาเรื่องมาก ๆ ตอนนี้ สองคนนี้เดิมทีก็เป็นไม้เบื่อำม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่าให้เผลอเป็นต้องหาเรื่องต่อปากต่อคำกัน

“นกพอแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะเดี๋ยวอาจารย์มาแล้วจะงานเข้านะ”

ฉันรีบเข้าไปดึงเเขนเพื่อนไว้ทันที นกน่ะเป็นคนใจร้อน บ่อยครั้งมักจะถูกลงโทษเพราะทะเลาะกับหมิวอยู่บ่อยครั้ง

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!”

นกพูดพลางเดินสบัดหน้าหนีไปทันที ฉันเองก็เดินตามเพื่อนไปไม่ได้คิดจะสนใจหมิวอีก แต่ทว่า

“หึ มีพวกละเก่งขึ้นเหรอมึงอีหน้าด้าน”

หมิวกลับไม่ยอมจบง่าย ๆ พูดกระแทกแล้วมองฉันอย่างอาฆาต สายตาพวกนี้นี่เหมาะกับฉันจริง ๆ เลยนะ ไม่ว่าจะใครก็มักจะมอบมันมาให้ฉันเสมอ

“คราวที่แล้วยังไม่พอใจรึไง”

ฉันพูดด้วยน้ำเสียงปกติ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดว่าฉันตอบโต้ไปมากกว่านี้

“เหอะ จะพอหรือไม่มันก็เรื่องของกู มึงมันแส่หาเรื่องเอง! จะเรียกร้องเหี้ยอะไร”

หมิวพูดแล้วทำท่าจะเดินมาหาฉันด้วยสายตาเอาเรื่อง ทำเอานกที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องเดินกลับมาประจันหน้าหมิวแทนฉัน

“มีอะไรกัน!!”

พอดีกับที่อาจารย์นภาเข้ามาพอดี ฉันเลยรีบดันยัยนกไปที่โต๊ะทันที ด้วยท่าทางเร่งรีบ

“ทีหลังแกอย่าไปยอมมันนะริน ไม่งั้นฉันไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”

พอนั่งปุ๊ป นกก็พูดขึ้นทันที ฉันส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเอือมระอา เพื่อนก็พอเพื่อนฝั่งนั้นก็พอฝั่งนั้น

“เรามาสนใจเรียนกันเถอะนะ”

ฉันบอกยัยนกก่อนจะทำเป็นเตรียมสมุดไว้จดเลคเชอร์ขึ้นมาก่อนจะนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย

พอมานึกดูดี ๆ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับฉัน..มันก็เริ่มตั้งแต่วันนั้น...เมื่อสี่ปีก่อน นานแล้วเหมือนกันนะเนี่ยที่ฉันต้องมารับกรรมที่ฉันไม่ได้ก่อ ฉันคงต้องยอมรับผลกรรมนั้นสินะ...กรรมที่ช่วยผู้หญิงคนนั้นไว้ไม่ได้ หากฉันย้อนกลับไปแล้วช่วยเธอได้ ฉันคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวแบบนี้

4 ปีก่อนหน้า

“พ่อคะ แม่คะ กะ..เกิดอะไรขึ้นคะ!?”

ฉันถามพวกท่านด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นข่าวเรื่องที่บ้านฉันล้มละลาย ข่าวพาดหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับ สำนักข่าวมากมายต่างก็เล่นข่าวบ้านของฉันกันสนุกปาก

“เหมือนเราจะมีปัญหากับพวกรุ่นใหญ่น่ะ...”

คุณพ่อพูดแล้วเอามือกุมขมับ ใจฉันตอนนี้เริ่มเต้นตุบตับมันร้อนรนไปหมด...เขาเริ่มแล้วสินะ พี่วินทัพ... เขาทำมันจริง ๆ ด้วย

“แล้วพ่อกับแม่จะเอายังไงต่อไปคะ เราจะทำยังไงกันดีคะ?”

ฉันถามพวกท่านเสียงสั่น ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน เพราะฉันคนเดียว ทำยังไง ฉันควรจะทำยังไงดี

“พ่อกับแม่ว่าจะไปอยู่อเมริกาก่อนสักพัก พ่อบอกว่าจะไปเริ่มต้นใหม่กับเพื่อนทางนั้นก่อน หนูอยู่ที่นี่ รีบเรียนให้จบแล้วแม่จะส่งเงินมาให้ลูกนะ พอเรียนจบแม่กับพ่อจะมารับทันที...โอเคมั้ยลูก...”

ฉันถึงกับพูดไม่ออก...ฉันเพิ่งอยู่ม.6เองนะ นี่พวกท่านเลือกจะทิ้งฉันไว้สินะ...มันคงเป็นกรรมของฉันเอง..กรรมของฉันที่ช่วยอะไรใครไม่ได้นอกจากจะเป็นภาระ

“แม่จะมารับหนูจริงๆ ใช่มั้ยคะ…”

ฉันถามด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย ทุกอย่างมันทำฉันสับสนไปหมด ฉันควรจะร้องไห้โอดครวญแต่คงเป็นเพราะได้เตรียมใจมาบ้างแล้วว่าจะถูกทิ้งแบบนี้เลยไม่ได้เสียใจมากเท่าที่ควร

“จริงสิจ้ะ แม่จะรีบมารับหนู แม่สัญญา”

แม่พูดแล้วลูบหัวฉันเบา ๆ ซึ่งฉันก็พยักหน้ารับก่อนจะโผล่เข้ากอดแม่ของฉันอย่างไม่อยากให้ท่านไป ถึงจะบอกว่าไม่เสียใจมากเท่าไหร่ แต่ลึก ๆ แล้ว ฉันก็เสียใจไม่น้อยเลยทีเดียว

“แล้ว...แม่กับพ่อจะไปวันไหนคะ?”

ฉันถามต่อเมื่อผละออกจากอกของแม่แล้ว หากไปช้าก็คงจะดีจะได้มีเวลากอดพวกท่านอีกสักหน่อย

“คืนนี้”

คุณพ่อของฉันเป็นคนตอบ... ฉันถึงกับช็อคทันที ไวปานนั้นเชียวหรือ

“ทำไมไวจะล่ะคะ?”

ฉันถามด้วยน้ำเสียงตกใจ มันเร็วเกินไปมากจริง ๆ พวกท่านกะจะไม่ให้ฉันได้เตรียมใจเลยหรอ…

“เราต้องรีบไปให้เร็วที่สุด แม่โอนเงินของแม่ให้หนูไปหมดแล้ว หนูเอาเงินไปซื้อคอนโดอยู่นะลูก บ้านหลังนี้น่ะ มันไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว…”

แม่พูดแล้วน้ำตาไหลลงมา... ไม่นะ มันเป็นความฝันใช่มั้ย... ถ้าเป็นแบบนั้นก็รีบตื่นเสียที! บ้านที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด มันจะไม่ใช่ของครอบครัวฉันอีกแล้วงั้นหรอ... บ้านหลังนี้คุณแม่เคยเล่าให้ฉันฟัง ว่าพ่อของฉันตั้งใจหาเงินมาอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อบ้านหลังนี้..ทุกอย่างมันพังเพราะฉัน!

กลางดึกคืนนั้น

ฉันยืนมองคุณพ่อกับคุณแม่ที่กำลังจะขึ้นรถไปด้วยสายตาที่เจ็บปวด

“ฮึก..แม่คะ...ฮึก...พ่อ...ฮือออ”

ตอนแรกคิดว่าฉันจะไม่ร้องไห้ออกมาแล้ว พอถึงเวลาจริง ๆ ฉันอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะร้องออกมา ฉันไม่อยากให้ท่านทั้งสองไปเลย...ฉันอยากจะอ้อนวอนพวกท่านเหลือเกินว่าอย่าทิ้งฉันไป แต่คงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะพวกท่านอาจจะเป็นกังวลมากกว่าเดิม แค่นี้ฉันก็ทำพวกท่านเดือดร้อนมากไปแล้ว

“เข้มแข็งนะดาริน เข้าใจมั้ยลูก”

คุณพ่อพูดกับฉันก่อนจะดันคุณแม่ขึ้นไปบนรถอย่างเร่งรีบคงจะกลัวว่าคุณแม่จะใจอ่อน คุณพ่อน่ะเป็นคนใจแข็งแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เวลาที่ท่านสอนฉันเหมือนสอนลูกผู้ชายก็ไม่ปาน

“ดาริน ตั้งใจเรียนนะลูก...รอพ่อกับแม่นะ...มีอะไรโทรหาแม่นะลูก”

คุณแม่พูดก่อนที่ประตูรถจะถูดปิดลง...สายตาของท่านแสดงออกถึงความห่วงใยต่อฉัน แม้แต่พ่อของฉันก็ตาเริ่มแดงเช่นกัน

“แม่คะ....ฮือออ พ่อคะ พ่ออ!!!”

เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวฉันรีบเดินตามไปเกาะที่ประตูรถทันทีพลางเดินไปพร้อมกับรถขึ้นเรื่อย ๆ

“พ่อขา.....คุณแม่!! ไม่นะ ฮือออออ!! คุณแม่...”

ฉันร้องไห้หนักขึ้น เมื่อรถของพวกท่านออกตัวเร็วขึ้น ฉันรีบสาวเท้ายาว ๆ จนกลายเป็นวิ่ง ถึงแม้จะหักห้ามใจไม่ให้ทำแบบนี้แต่ฉันกลัว กลัวการอยู่คนเดียว ชีวิตนี้ฉันไม่เคยต้องห่างจากพวกท่านเลย

“พ่อจ๋า..ฮือออ แม่จ๋า!! อย่าไปนะ..ฮือออ แม่!!!!”

ฉันล้มลงกับพื้นตรงใกล้ ๆ ประตูรั้วบ้าน แต่รถก็ไม่ได้หยุดหรือลดความเร็วลงเลย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันยอมแพ้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปดูรถของพวกท่านที่ขับออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ จนลับสายตาไป

“หนูกลัว..แม่จ๋า...พ่อจ๋าหนูกลัว...ฮือ อย่าทิ้งหนูไว้แบบนี้สิคะ…คุณพ่อคุณแม่…”

หากอยู่โดยไม่ต้องกังวลอะไรฉันก็พอจะอยู่ได้ หากการล้มละลายของบ้านฉันเกิดจากธุรกิจขิงพวกท่านมีปัญหาฉันก็คงไม่ต้องกังวลอะไร แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องปรกติที่นักธุกิจต้องเจอ แต่เป็นเพราะเขา พี่วินทัพ…เท่านี้เขาก็ทำฉันกลัวเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้ว่าที่เขาพูดขู่ฉันวันนั้นเขาจะทำมันจริง ๆ มันทำฉันกลัว กลัวเขาคนนั้น....ฉันกลัวการอยู่คนเดียว...ฉันกลัวที่สุด...ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว...ไม่เหลือใครเลย...

คอมเม้นท์ + กดใจ = เป็นกำลังใจนักเขียนนะคั้บ~~

หากต้องการอ่านตอนใหม่ก่อนใครสามารถเพิ่มเข้าชั้นหนังสือเพื่อรับการแจ้งเตือนได้นะคั้บ><
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 109

    เมื่อรสาถูกพาตัวออกไปวินทัพก็หันกลับมาหาดารินทร์แล้วพาเธอเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้ลูกน้องอีกสองคนยืนเฝ้าธามเอาไว้ ธามที่เห็นแบบนั้นก็เค่นหัวเราะออกมา“น่าสนใจดีนี่”เมื่อลากดารินทร์กลับเข้ามาภายในห้อง เขาก็จับข้อมือของเธอขึ้นมาดู ก็พบว่าช้ำจนขึ้นเป็นสีม่วง ๆ รอบข้อมือเลย“เจ็บหรือเปล่า” เขาถามด้วยน้ำเส

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 108

    หลังจากที่ได้นอนพักไปหลายชั่วโมงดารินทร์ก็ตื่นขึ้นมา พบว่าเป็นช่วงเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ภายในห้องนอนของเธอถูกปิดมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกของเมืองเท่านั้นที่ส่องเข้ามาภายในความมืดของห้องที่มีเพียงเธออยู่ร่างบางลุกจากเตียงนอนช้า ๆ ก่อนจะเดินออกไปโซนห้องทำงานด้านนอก ก็พบว่าไร้เงาของเจ้าของห้องทำงาน

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 107

    หลังจากที่ดารินทร์ป้อนข้าวคนดื้ออย่างวินทัพเสร็จเขาก็ยอมกินยาและเดินกลับเข้าไปนอนง่าย ๆ ดารินทร์จึงไปจัดการตัวเองเพื่อเตรียมตัวทำงานต่อ วันนี้เธอยังไม่ได้งีบหลับสักนาทีเลยด้วยซ้ำ“หาว~” ร่างบางหาวออกมาฟอดใหญ่ขณะที่กำลังเคีลยร์เอกสารในส่วนที่สำคัญเพื่อเตรียมให้คนป่วยเซ็นหลังตื่น“คุณดารินทร์…ยังไม่ได

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 106

    หลังจากที่ลูกน้องของวินทัพเอาสิ่งที่ดารินทร์ต้องการมาให้แล้ว ร่างบางก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาและตนเองจนแล้วเสร็จ กว่าจะเรียบร้อยก็ทำเอาร่างบางหอบเหนื่อยไปหลายรอบ เพราะเขาขัดขืนอยู่ตลอด แถมบางครั้งยังลืมตามามองค้อนใส่เธออีกด้วย หลังจากดารินทร์จัดการตัวเองเรียบร้อยก็เดินกลับมาหาเขาที่เตียงนอน ยื

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 105

    เป็นไปตามคาด เขาไม่ได้กินยาจริง ๆ เพราะตั้งแต่ไปพบลูกค้ากลับมา เขาก็เตรียมตัวเข้าประชุมไม่ได้คิดสนใจจะกินยาเลย และผลของการดื้อของเขาก็คืออาการหวัดกินน่ะสิ เพราะเขากำลังนั่งซูดซ้าดน้ำหมูกที่ไหลออกมาเพราะพิษไข้อยู่“ไหวไหมคะ?” ดารินทร์เอ่ยถามหลังจากที่มีคนพูดจบแล้วเขาก็ใช้ทิชชู่แผ่นสุดท้ายของห่อไปแล้ว

  • เธอเป็นของผม   บทที่ 104

    คุณหญิงจิตกมลมองหน้าของดารินทร์ตาเขียวปั๊ด จากที่ไม่ชอบอยู่แล้วยิ่งไม่ชอบไปกันใหญ่“ปากดีให้ได้ตลอดแล้วกัน ออกไปได้แล้วฉันไม่อยากจะเสวนากับคนอย่างหล่อน” คุณหญิงจิตกมลพูดแล้วหันหน้าหนีทันทีดารินทร์เพียงดค้งให้เท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป“ถือดีนัก” คุณหญิงจิตกมลว่าร่างบางลับหลังเบา ๆหนึ่งชั่วโมงต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status