เท่านั้นเอง ปิ่นลดาก็เดินลงน้ำหนักเท้าไปยังอาหารที่จัดรอ แต่เลือกนั่งบนโซฟาเดี่ยวที่คิดว่าไกลและปลอดภัยจากเขา
แต่คิดหรือว่าคนตัวโตจะยอมรัชตะย่างเท้าเอื่อยตรงมา คนตัวเล็กมองตาม เกร็งตัวรับ แม้ไม่อาจคาดเดาว่าเขาจะทำอะไรเธออีก และพอมาถึง ร่างใหญ่ก็โน้มลง สอดลำแขนช้อนร่างกลมกลึงขึ้นอย่างง่ายดายและอ่อนโยน ก่อนจะหมุนกาย เดินมาแค่สองก้าวแล้วโยนเธอโครมลงบนโซฟายาวหนานุ่มอย่างไม่เบามือ“ว้าย!” ปิ่นลดาร้องอุทาน ทั้งตกใจและโมโห กลบความเจ็บเสียจนมิดทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอคนบ้าแบบนี้ด้วย!ร่างสูงยืนค้ำอยู่เหนือศีรษะ เป็นนาทีเขาถึงหย่อนกายลงนั่ง หญิงสาวตั้งตัวไม่ทัน ทำท่าจะขยับหนี แต่อ้อมแขนแข็งแรงรั้งเอวบางไว้แน่น แล้วดึงมาแนบชิดกาย“เธอหนาว นั่งใกล้กันจะได้อุ่น” เหตุผลของเขา พร้อมฝ่ามือใหญ่ลูบไล้สีข้างเนียนนวลอย่างถือสิทธิ์ ทำให้ปิ่นลดาสะกดใจไม่ยกมือขึ้นข่วนใบหน้าคมที่โน้มมาใกล้ให้เลือดซิบแทบไม่ไหว“ฉันไม่หนาว แต่ตอนนี้หิวข้าว ถ้าคุณยังนั่งอยู่อย่างนี้ ฉันกินไม่ลง”หล่อนพยายามว่าเสียงเข้ม แต่ดูจะทำได้ไม่ดี เพรรัชตะกลับเข้าคฤหาสน์ในเวลารุ่งสาง โดยทิ้งหญิงสาวในบ้านสีฟ้าไว้ หลังจากแนบชิดหล่อนอยู่ทั้งคืนชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องนอนที่อยู่ชั้นสองทางปีกขวา รูดผ้าม่านหนาหนักออกมา ทอดสายตามองไกลออกไปที่แห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของพ่อและแม่เขา ที่ดินผืนงามกลางหุบเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์ ด้านหน้ามีลำธารใหญ่ที่น้ำไม่เคยแห้งขอด“ฉันได้ทุกอย่างไว้ในมือ ขณะที่นายเล็กยังต้องดิ้นรนเพราะเงื่อนไขบ้าๆ นั่น...ดังนั้นปิ่นลดา เธอมีหน้าที่ต้องช่วยฉันทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”ดวงตาคมดูมุ่งมั่นและเยียบเย็น เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะได้มาโดยสมบูรณ์และคงอยู่ตลอดไปหากห้วงความคิดขณะนั้นกลับไม่มีภาพของสาวสวยที่เขาเพิ่งผละจากมา แม้จะกอบโกยความสุขจากเรือนกายเธออยู่ทั้งคืนก็ตามชายหนุ่มเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเอง แล้วลงมาชั้นล่างในเครื่องแต่งกายสมาร์ตและภูมิฐาน ด้วยเสื้อเชิ้ตเนื้อดีราคาแพงและกางเกงสแล็กแบรนด์ดัง ยิ่งอยู่บนเรือนกายใหญ่ที่มีส่วนสูงถึงร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร กายแกร่งอุดมด้วยกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทุกอย่างช่างเหมาะเจาะ เสริมส่งให้เขากลายเป็
เนื้อกายร้อนวูบวาบเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เธอพยายามหนีเมื่อเดือนก่อน ผลจากคราวนั้นทำให้เธอถูกผู้ชายป่าเถื่อนบังคับขืนใจอย่างโหดร้ายที่สุดปิ่นลดากลัวและหวาดผวาเจียนบ้าหลังจากค่ำคืนนั้น แม้จะมีศจีคอยปลอบใจและอยู่เป็นเพื่อนในตอนกลางวัน แต่เธอกลับไม่อาจวางใจใครได้อีก เพราะรู้ว่าภายในรอบรั้วกำแพงสูง ล้วนมีแต่คนของเขา...คุณใหญ่ หรือ รัชตะ ราชเกียรติกูรหากหลังจากคืนนั้นรัชตะ ได้เข้ามาแนบชิดเธออีก ท่าทีของเขาเปลี่ยนจากคราวแรกโดยสิ้นเชิง ทำให้ปิ่นลดาคลายความหวาดกลัว ทุกวินาทีที่เขาอยู่ใกล้ ปิ่นลดารู้เพียงว่าทำให้หัวใจเธอเต้นแรงและไม่เคยเป็นจังหวะ ยังไม่นับรวมถึงเมื่อต้องแนบชิด รองรับความต้องการของเขาอยู่เกือบทุกคืนปิ่นลดารู้ว่าระหว่างเขากับเธอ มันดูผิดปกติ ต้องมีเรื่องราวมากกว่าความอยากปลดปล่อยของผู้ชายคนหนึ่ง แต่เธอจะหาความจริงได้จากไหน นอกจากปะติดปะต่อเรื่องราวให้กลายเป็นนิยายหรือหนังตลกร้ายสักเรื่อง ที่เมื่อเรียบเรียงจนจบ เธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่านั่นเป็นความจริงหรือเปล่านอกจากความจริงที่ออกจากปากเขา...แต่หล่อนยังไม่กล้าถามจนค่ำคืนนั้น รัชตะปรากฏตัวใน
รัชตะเออออตามอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะคว้าร่างเธอมากอดเต็มรัก แล้วดึงลงมานอนอยู่บนพื้นเตียง ก่อนปีนป่ายทาบทับทั้งร่าง จนหญิงสาวไม่อาจกระดิกกระเดี้ย“สักวัน เธอจะรู้ว่าแม้แต่คนในไร่ของฉันยังจริงใจกับเธอ มากกว่าคนที่เธอคิดว่าเขาเป็นคนให้ชีวิตและอนาคต”รัชตะพรมจูบใบหน้านวลที่กำลังทอความสงสัยและกังขา เขาจูบปลายจมูกโด่งเล็ก ก่อนปัดไล้ริมฝีปากอิ่มสวยที่ยังเจ่อด้วยพิษจุมพิต“ที่นี่เป็นบ้านของเธอ ตราบเท่าที่ฉันต้องการให้เป็น”ขัดใจคำพูดเขาอยู่หรอก แต่เมื่อถูกประชิดตัว โลมไล้อย่างไม่ผ่อนปรน ปิ่นลดาจึงลืมสิ้นทุกอย่าง หัวใจและอารมณ์คล้อยตามผู้ชายร่างใหญ่ที่กำลังร่ายมนตร์อยู่เหนือกายเธอรัชตะออกไปทำงานแล้ว วันนี้เขาออกไปตั้งแต่ฟ้าสางพร้อมคนติดตาม อย่างที่พวงทิพย์รู้ทันทีว่าเป้าหมายไม่ใช่โรงแรมกลางเมืองเชียงราชจนเมื่อสาย รถเบนซ์คันสีบรอนซ์เงินถึงคลานมาเทียบจอดหน้าคฤหาสน์ เธอเดินออกมารับอย่างจดจำเสียงรถได้“คุณชัญญา เชิญเข้ามาในบ้านก่อนค่ะ”แม่บ้านวัยกลางคนตรงไปต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและกระตือรือร้น ด้วยท่า
“อีกไม่นานค่ะ อีกไม่นานคุณใหญ่จะว่างจากงาน คุณชัญญารอหน่อยนะคะ ดิฉันรับรองอีกแรงว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมในอีกไม่กี่เดือน”“คุณใหญ่ซุ่มทำกิจการใหม่อีกแล้วหรือคะ”คราวนี้ชัญญาเบิกตาโต สีหน้ามีทั้งความตื่นเต้นและชื่นชม แต่อีกคนนั้นหรือ ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะเก็บความกระอักกระอ่วนไว้ข้างในอย่างมิดชิด“ใช่ค่ะ ทุกอย่างที่ทำเพื่ออนาคตของราชเกียรติกูร คุณใหญ่มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ มีคนให้ดูแลมากมาย สงสารและเข้าใจเธอด้วยนะคะ คุณชัญญา”“ค่ะ คุณทิพย์ ชัญญาเข้าใจคุณใหญ่ วันนี้ชัญญากลับก่อน สายมากแล้ว ต้องไปรอรับคุณแม่ที่สนามบิน ท่านกำลังกลับจากเยี่ยมเพื่อนสมัยเรียนที่มาเลเซียค่ะ”“งั้นเชิญค่ะ ว่างๆ แวะมาอีกนะคะ เนินคุ้มหมอกยินดีต้อนรับคุณชัญญาเสมอ”เช่นตอนเข้ามา พวงทิพย์ถือเป็นหน้าที่ตามส่งสาวสวยถึงรถคันหรูที่มีคนขับพร้อม หญิงสาวเข้าไปนั่งตอนหลังอย่างสง่างาม ก่อนรถคันนั้นจะเคลื่อนจากไป โดยคนข้างหลังยังมองตามด้วยสีหน้าและแววตาชื่นชมและคาดหวังแม่บ้านวัยกลางคนกลับเข้าคฤหาสน์ไปแล้ว
ภาพร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนในกระจกสะท้อนเข้ามา เมื่อเปลือกตาบางขยับเปิดปรือ หลังจากเธอหลับตาทบทวนนิ่งนาน แม้คำตอบจะชัดอยู่ในหัวมาสักพักแล้ว แต่เพราะความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เธอจึงเลือกที่จะหลอกตัวเองมากกว่ายอมรับความจริง...ความจริงที่ขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆสายตากวาดทั่วดวงหน้านวลผ่อง ทุกส่วนที่ประกอบเป็นเธอยังเหมือนเดิม หากจะเปลี่ยนก็คงเป็นดวงตาหวานซึ้งที่มีรอยครุ่นคิดมากขึ้น ประกายกล้าทอแสงแห่งชีวิตชีวานั้นจางลงอย่างน่าใจหายสามเดือนที่อยู่ในบ้านสีฟ้า ภายในรอบรั้วกำแพงสูง สามเดือนที่เธอไม่เคยออกไปพบปะผู้คน เป็นสามเดือนที่เธอไม่เคยมีอิสระอย่างแท้จริงหากทุกวันที่ผ่านไป เธออยู่มาได้ด้วยความหวัง แม้จะริบหรี่ แต่เพราะภาพลวงที่ตนเพียรสร้างขึ้นมา กระตุ้นให้จิตใจหลงคล้อยตาม...ภาพลวงตาที่เข้ามาเติมเต็มอยู่ทุกคืนวันถ้าปิ่นลดาจะเปิดดวงตาและหัวใจให้กว้างกว่านี้ เธอคงได้คำตอบสำหรับตัวเองนานแล้ว“เราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงใครได้ ไม่มีทางเขาจะมองเราเป็นคนสำคัญ เพราะไม่อย่างนั้น เราคงไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้มาตั้งสามเดือน”สายตากดต่ำ มองหน้าท้องเนียนนุ่ม สิ่งท
ปิ่นลดาตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยความรู้สึกว่าได้นอนเต็มอิ่ม หล่อนพลิกตัวออกจากเขาเบาๆ ด้วยเกรงคนตัวโตที่อุทิศต้นแขนให้เธอหนุนทั้งคืนจะตื่นขึ้นมาแสงสว่างเพียงนิดที่ส่องจากด้านนอก ทำให้เธอพินิจดวงหน้าคมได้จนอิ่มใจ คิ้วเข้มหนาเหนือกรอบดวงตายามนี้ปิดสนิท ไล่มาเป็นจมูกโด่งตรงรับกับริมฝีปากหยักที่สามารถสร้างความรุ่มร้อนและวาบหวิวให้หล่อนอย่างง่ายดายปิ่นลดาชะงักมือที่เผลอยื่นหา ใกล้จะแตะแก้มสากระคาย มองสันกรามที่มีเคราสั้นๆ ขึ้นหนาจนเขียวเป็นปื้นอย่างชินตาทุกเช้าที่ตื่นมาเห็น ก่อนจะดึงมือกลับ วางประกบหน้าท้องเนียนเธอรู้ว่าอนาคตตัวเองในบ้านหลังนี้ไม่แน่นอนและไม่มั่นคงเอาเสียเลย แต่จะเดินหน้าต่อในเส้นทางที่เลือกแล้ว คนเรามีสิทธิ์เลือกเดินในทางที่หวังไม่ใช่หรือเธอยอมเป็นผู้หญิงใจง่าย ไร้ยางอาย หลงรักผู้ชายที่ไม่เคยยื่นสิ่งดีงามให้เลย หากจะชั่งน้ำหนัก สิ่งที่เขาทำกับเธอ เอนเอียงไปในทางเลวร้ายเสียมากกว่ารักด้วยหัวใจ...คงเป็นอย่างนี้เองดวงหน้านวลแย้มละไม ดวงตาหวานทอดมองแผงอกหนา แววตาเหมือนคนตกอยู่ในโลกของตัวเอง เธอดูอ่อนหวานและสดใส แสนบริสุทธิ์งดงามในยามเ
“ไม่ค่ะ ไม่ท้อง” หล่อนส่ายหน้า ก้มมองมือที่ประสานกันบนตัก เป็นพักถึงเงยหน้าขึ้น “ฉันไม่ท้อง เพราะรอบเดือนมาเมื่อวาน ฉัน...ฉันเลยไม่พร้อมนอนกับคุณ”ปิ่นลดาอยากจะเชื่อว่าตนตาไม่ฝาด สีหน้าเขาเหมือนผิดหวัง หากแค่ชั่ววินาทีแต่แล้วต้องปัดสิ่งนี้ออกจากใจ เพราะมันไม่แน่นอนเลย ไม่มีอะไรที่หล่อนเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวผู้ชายคนนี้อย่าคิดเข้าข้างตัวเองสิ ถ้าไม่อยากเจ็บ...เขายันกายลุกขึ้น คว้าเสื้อคลุมมาสวม ปิ่นลดาเบือนหนี จับฟังเสียงความเคลื่อนไหว จนคิดว่าเขาจัดการตัวเองเสร็จ จึงหันมามอง“คุณใหญ่จะกลับแล้วหรือคะ”“อืม พักผ่อนแล้วกัน อยากได้อะไรบอกศจี ฉันไม่กวนเธอละ” เขาว่าและคงหมายความตามนั้นจริงๆเสียงประตูห้องนอนปิด กระชากหัวใจของปิ่นลดาให้หลุดปลิวตามวันนั้นทั้งวันปิ่นลดาอยู่กับความคิดสับสน พยายามดึงสมาธิมาอยู่กับการถักนิตติงอยู่หลายรอบ แรกๆ หล่อนทำได้ดีอยู่หรอก แต่พอใกล้เย็น ความคาดหวังและรอคอยเริ่มรุนแรงขึ้น จนต้องวางมือศจีที่เดินเข้ามาพร้อมกับตะกร้าในมือสองข้างที่วางบนโต๊ะไม้เนื้อแข็งตร
เช้าตรู่ในคฤหาสน์ราชเกียรติกูรแห่งเนินคุ้มหมอก รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อคันใหญ่แล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาแล้วเทียบจอดด้านหน้าตึกคนร่างใหญ่เปิดประตูรถลงมา แล้วถามหาเจ้าของสถานที่กับเด็กรับใช้คนแรกที่เจอ เมื่อรู้ว่าคนเป้าหมายอยู่ที่ไหน เจ้าตัวก็ตรงไปหาอย่างไม่รีรอเสียงผลักประตูเปิด ทำให้คนข้างในรู้ตัว ก่อนจะมองแล้วทักถามอย่างแปลกใจ“มาตั้งแต่เช้าเชียวนายเล็ก”รัชตะมองน้องชายฝาแฝดที่ปรากฏกายตรงประตูห้องฟิตเนสชั้นล่างของคฤหาสน์ ซึ่งนานๆ ครั้งเขาจะได้ใช้ เพราะติดการออกกำลังกายในที่แจ้งมากกว่า“ถ้ารู้ว่าเมื่อคืนนายอยู่ตึกใหญ่ทั้งคืน ฉันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”เสียงยียวนดังจากคนทอดฝีเท้าเอื่อยมาหา ดวงตาคมมองพี่ชายอย่างล้อเลียนรัชตะวางบาร์เบลลง ไถลตัวออกมา หยิบผ้าขนหนูมาคล้องคอ ยกชายผ้าซับเหงื่อบนใบหน้าที่ไหลซึม“มีอะไรหรือเปล่า”“ออกไปคุยข้างนอก ฉันกำลังหิวติดหมัด จะได้กินไปด้วย”“นายนี่ ตะกละจริงๆ”“ฉันมันคนป่าคนดอย ไม่ได้อยู่อย่างอุดมสมบู
หล่อนหอบกระเส่า เปล่งเสียงเรียก ทิ้งศีรษะกับที่นอนอย่างหมดทางเมื่อเรียวลิ้นสากระคายกดคลึงยอดเกสรสวย ช่องทางรักอุ่นชื้นถูกรุกรานด้วยนิ้วแกร่งที่ทำงานประสานกัน เร่งจังหวะรัวเร็ว จนหล่อนดีดตัวสูง บิดกายเมื่อความเสียวซ่านกำซาบทั่วทุกรูขุมขน หากเขาไม่ปรานี กลับเร่งอารมณ์โถมใส่ กายอิ่มสั่นระริก ส่งเสียงครางกระเส่าเคล้าเสียงสะอื้นไห้อย่างยอมจำนนดวงหน้านวลแดงก่ำด้วยฤทธิ์อารมณ์สะบัดไปมา ดวงตาหวานเปิดปรือเย้ายวนอย่างไม่รู้ตัว มือนุ่มที่ถูกมัดไว้กำแน่นเข้ามากัน ระลอกคลื่นอารมณ์ใหญ่ยักษ์ซัดสาดเข้ามาต่อเนื่อง กระทั่งสิ่งที่อัดแน่นในกายระเบิดโพลง พล่านพร่าเกินจะควบคุม“คุณใหญ่ขา ลดาไม่ไหวแล้ว”ปิ่นลดาครวญอย่างน่าสงสาร ก่อนกรีดร้องอย่างไม่อาจทนไหว ทิ้งกายเปลือยลงระทวยทอดอย่างหมดทาง ปรับลมหายใจและอารมณ์ข้างในที่ปลดปล่อยออกมาร่างหนาใหญ่ขยับนั่งคุกเข่า เขาถอดเสื้อคลุมออก เหลือเพียงกายแกร่งเปลือย โน้มคร่อมเจ้าร่างบาง ปลดเชือกที่พันธนาการข้อมือเธอไว้ แล้วไล้เลื่อนต่ำมาผลักท่อนขาอวบให้เปิดกว้างปิ่นลดาผวาเฮือก แอ่นกายไขว่คว้าสามีหนุ่ม เมื่อเขาดันกายเข้า
บทส่งท้ายปิ่นลดา...ยอดรักยอดปรารถนาหลังจากแต่งงาน ไม่กี่เดือนต่อมาปิ่นลดาก็คลอดลูกชายคนแรกให้กับรัชตะ และว่างเว้นไม่ถึงปีหญิงสาวก็ตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง ตอนนี้ทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลกได้กว่าแปดเดือนแล้วในแต่ละวันหญิงสาวต้องหัวหมุนกับลูกชายหญิง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในความวุ่นวายนั้นช่างเปี่ยมด้วยความสุขอย่างที่เธอนึกไม่ออกว่าชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก...นอกเหนือจากสามีหนุ่มและลูกสองคนอันเป็นแก้วตาดวงใจในวันนี้รัชตะออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าร่วมประชุมหุ้นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักธุรกิจต่างชาติในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศพม่า โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่กลางเมืองเชียงราชของฝั่งไทยเขากลับเข้าบ้านในเวลาสองทุ่ม ทันทีที่ภรรยาสาวซึ่งเพิ่งจัดการกับลูกน้อยสองคนเสร็จเห็นเขาก็ยิ้มกว้างแล้วเดินไปหา“งานเป็นยังไงบ้างคะ เสร็จเรียบร้อยดีไหม”ปิ่นลดากอดท่อนแขนล่ำสันของสามีไว้ แนบแก้มนวลด้วยท่าทางประจบอย่างแสนน่ารัก ทุกท่าทางเป็นไปโดยธรรมชาติ“เรียบร้อยครับ”“คุณใหญ่มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอุ่นให
“พราวพิชชาค่ะ พี่สาวของลดา”“ชื่อยังกะลิเก”เสียงเปรยเข้าหูในระยะประชิด พราวพิชชาต้องกลั้นอารมณ์อีกรอบ แต่เธอไม่ต้องทนนานเมื่อเสียงคุ้นหูดังเข้ามา อย่างที่ต้องรีบหันมอง“คุณแหวว คุณแหววจริงๆ ด้วย ลดาดีใจจังเลย ในที่สุดคุณแหววก็มา”ร่างงามอิ่มในชุดไทยประยุกต์สีครีมที่เห็นชัดว่ากำลังตั้งครรภ์เดินแกมวิ่งมาหา จนต้องปราดไปรับ กลัวว่าเจ้าสาวจะล้มคว่ำเสียก่อน“ลดาคิดว่าคุณแหววจะไม่มาซะอีกค่ะ”“มาสิ พี่ต้องมา ลดาแต่งงานทั้งที”พราวพิชชายิ้ม ยกสองมือประคองแก้มนวลที่ตกแต่งไว้อย่างดี เธอมองทั่วดวงหน้าน้องสาวแล้วดันออกห่าง สังเกตถ้วนทั่วแล้วยิ้มพอใจ“ลดาสวยมากเลยจ้ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น พี่ดีใจจริงๆ ที่เห็นลดาในภาพนี้”เธอหลุดความคิดออกมา พราวพิชชาพอรู้ว่าน้องสาวบุญธรรมต้องเจอกับอะไรก็ต่อเมื่อเรื่องมันเลยมาจนถึงวันนี้แล้ว ถามพ่อกับแม่กลับได้คำตอบว่าปิ่นลดาสบายดี เจ้าตัวเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วเลือกทำงานที่เมืองไทยต่อ โดยปฏิเสธจะไปอยู่ออสเตรเลียด้วยกันหากค
“ไม่เชื่อค่ะ ลดาไม่เชื่อหรอกว่าตลอดชีวิตของคุณจะไม่มีใครอีก นอกจากเด็กมอมแมมอย่างลดาในตอนนั้น”“มันก็ใช่ ความจริงมีคนเต็มใจเยอะเชียวละ แต่ฉันไม่ตกลง” เขาว่าหน้าตาเฉย แต่คนฟังเบ้หน้า “ฉันอยากได้แม่เก่งๆ ให้ลูก แล้วถูกใจฉันด้วย”“คนเต็มใจของคุณใหญ่มีคุณชัญญาด้วยไหมคะ”“ฉันบอกแล้ว คุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่ฉันให้ความสนิทสนม เธอเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ฉันไม่เคยคิดเป็นอื่น”“แต่คุณชัญญาคิด” หล่อนว่าเสียงเข้ม ชายหนุ่มต้องอธิบายด้วยท่าที งอนง้อ“ต่อจากนี้ไม่คิดแล้วละ เชื่อฉัน เรื่องที่คุณชัญญาช่วยเธอหนีกลับกรุงเทพฯ วันนี้ ฉันก็รู้ แต่ไม่อยากพูดถึงอีก ขอให้มันจบได้ไหม เรื่องนี้ฉันขอ เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันในเชียงราช อาจจะตลอดชีวิตของเรา แล้วฉันเชื่อว่าคุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรี เธอจะจบเรื่องของเราลงแค่นี้แน่นอน”“โอเคค่ะ ลดาเชื่อและคิดเหมือนคุณ...แต่ขอบอกไว้นะคะถ้าเมื่อกี้คุณใหญ่ไม่บอกว่ารักลดาก่อน ลดาจะไม่ยอมรับฟังอะไรง่ายๆ ลดาจะทำให้คุณเจ็บตัวด้วย ผู้ชายอะไร พิษสงรอบตัวจริ
หญิงสาวหันมอง อมยิ้มแก้มตุ่ย ไม่บอกเขาหรอกว่าตนกำลังมีความสุขเหลือเกิน ก็ผู้ชายที่รักเต็มหัวใจแถมยังเป็นพ่อของลูกในท้องบอกรักพร้อมกับขอแต่งงาน ต่อให้เหนื่อยอ่อนแค่ไหนก็เรียกพลังคืนได้ในพริบตา“ทานข้าวกันเลยไหมคะ ค่ำแล้ว คุณลดากำลังท้องกำลังไส้ ท้องว่างนานไม่ดี เดี๋ยวคุณหนูจะหิว”พวงทิพย์เดินออกมาบอกเสียงจริงจัง จนปิ่นลดาหน้าเหวอกับท่าทางที่เปลี่ยนไป กระนั้นก็รีบปรับสีหน้ายิ้มรับอย่างจริงใจพร้อมบอกขอบคุณ จนแม่บ้านใหญ่ยิ้มเก้อ รีบกลับเข้าห้องครัวสั่งเด็กตั้งโต๊ะเสียงหัวเราะในลำคอหนาทำให้ปิ่นลดาหันมอง“คุณใหญ่หัวเราะทำไม มีอะไรน่าขำหรือคะ”“ขำเธอกับคุณทิพย์ไง”“คุณใหญ่นี่ นิสัยไม่ดีอีกแล้ว”ปิ่นลดารู้ทันหรอกน่า หยิกท่อนแขนกำยำก่อนฝ่ายนั้นจะโอบพาเข้าห้องทานอาหาร เพราะไม่อยากให้เธอกินข้าวมื้อค่ำผิดเวลานานสองคนใช้เวลาส่วนตัวในห้องทานอาหาร ช่างน่าแปลกว่าวันนี้แม้จะเป็นอาหารรสเลิศ ไม่ต่างจากวันก่อนที่ปิ่นลดาเห็นแล้วอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง จนรัชตะต้องลงมือทำเมนูสารพัดไข่ให้หล่อนแทน
การกลับมาถึงคฤหาสน์ราชเกียรติกูรในช่วงเย็นความรู้สึกต่างจากการออกไปในตอนเช้าโดยสิ้นเชิงปิ่นลดาก้าวลงจากรถ มองรอบตัว สูดลมหายใจเต็มปอด เหมือนกับว่าได้จากไปนานแล้วเพิ่งหวนคืนมา สำนึกอีกส่วนบอกว่าที่นี่คือ ‘บ้าน’ ที่หล่อนจะอยู่ด้วยหัวใจอบอุ่นและมั่นคงรัชตะแตะเอวพาหญิงสาวเข้าไปในบ้าน ศจีที่วิ่งออกมาทำหน้าดีใจก้ำกึ่งจะร้องไห้ ปิ่นลดาจับมือไว้ ถามพลางยิ้มเต็มสีหน้า“เป็นอะไรศจี คิดถึงฉันมากหรือ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง”“ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ฉันใจหายหมดเลยคุณรู้ไหม”หญิงร่างผอมบางบอก น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ จนปิ่นลดาต้องหัวเราะเสียงใสหวังจะสร้างบรรยากาศใหม่“ทำไมจะไม่กลับ ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ศจีอย่าตื่นตูมไปหน่อยเลยน่า”เจ้าหล่อนว่าพลางเดินผ่านจะขึ้นไปชั้นบน ก่อนหยุดฝีเท้าตรงบันไดขั้นแรก แล้วหันมาถามอีกหน“ศจีเก็บลูกหม่อนไว้ให้ฉันไหม”“เก็บค่ะ ฉันเก็บมาเต็มตะกร้าเลย แล้วลงมานะคะ”“จ้ะ”แล้วร่างอิ่มในเดรสสวยเหมาะสำ
“ถ้า...เอ่อ คุณจะทำตามเงื่อนไข ฉันก็เข้าใจค่ะ ไม่เป็นไร”“เพื่อนายเล็ก เธอยอมขนาดนี้เลยหรือ ปิ่นลดา”น้ำเสียงคนตัวใหญ่บอกชัดว่าไม่พอใจและไม่ได้แสร้งทำด้วย ปิ่นลดามองอย่างงุนงง เขาแปรเจตนาเธอถึงไหนกัน“คุณโกรธฉันหรือคะ”“ฉันไม่ชอบให้เธอพูดถึงนายเล็กอย่างนี้”“ไม่ให้ฉันสงสารเขาหรือคะ คุณใหญ่บ้าหรือเปล่า ฉันจะทำได้ยังไง ก็เขาน่าสงสารและน่าเห็นใจจริงๆ แทนที่จะได้อยู่สุขสบาย กลับต้องทนลำบากในป่าเขา ตามศักดิ์เขาเป็นหม่อมราชวงศ์ เป็นคุณชายด้วยนะ เอ่อ...ความจริงก็คุณใหญ่ด้วยแหละ” ท้ายประโยคเสียงเบาลง เห็นชัดว่าเจ้าตัวเริ่มงุนงงและสับสนกับตัวเอง“พอเลย ไม่ต้องดรามา” รัชตะเห็นท่าไม่ดี รีบดักคอ “นายเล็กไม่ใช่ยาจก แต่มันชอบทำตัวซอมซ่อ และมันไม่ได้ตกระกำลำบากในป่า แต่มันเข้าป่าเพราะทำเหมืองทองคำที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลของประเทศพม่า เหมืองอยู่ใกล้เขตแดนที่ตอนนี้เปิดเสรีแล้ว มันรวยพอที่อยู่ได้สบายทั้งชาติ”“อ้าว จริงหรือคะ”คนเพิ่งถึงบางอ้อครางอย่างหม
บ้านเดิมของพ่อที่รัชตะบอกไว้ทำให้ปิ่นลดาถึงกับตะลึง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นวังเก่าที่ปัจจุบันตกอยู่ในมือหลานห่างๆ ครอบครองอยู่ โดยรู้มาว่าทายาทสายตรงนั้นย้ายไปอยู่ต่างประเทศอย่างถาวร หลังจากแต่งงานกับภรรยาฝรั่งและถูกถอดจากความเป็นราชนิกูลด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครรู้และเป็นไปโดยการสมัครใจของทุกฝ่ายแต่ดูเหมือนพวกเขายังมีเงื่อนไขที่ยังติดพันอยู่ สิ่งนี้ทำให้เธอถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้...และมันก็ใช่สิ่งที่ปิ่นลดารู้คร่าวๆ มาก่อนแล้ว“ฉันต้องมั่นใจด้วยว่าเด็กในท้องยายหนูคนนี้เป็นลูกของเธอ เป็นสายเลือดแท้จริงของราชเกียรติกูรถึงจะเซ็นมอบสมบัติส่วนของพ่อเธอให้”“ถ้าจะให้ตรวจ DNA ตอนนี้ ผมไม่อนุญาต ผมไม่ต้องการให้ลูกเมียมาเสี่ยงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง” รัชตะสวนด้วยท่าทีแข็งกร้าว ทำให้ชายร่างผอมสูงผงะอย่างคิดไม่ถึง จนแม้แต่ปิ่นลดายังต้องสะดุ้ง “ผมไม่ได้มาเพื่อขอให้ท่านลุงเชื่อหรือไม่เชื่อว่าลูกในท้องปิ่นลดาเป็นลูกของผม แต่มาเพื่อบอกกล่าวท่านลุง ผมจะแต่งงานกับปิ่นลดา ผมกำลังจะมีลูก เลยอยากทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ผมเ
“ใช่พี่ แม่บอกว่าเขาย้ายไปอยู่ออสเตรเลียแล้ว พี่ลดาไม่รู้หรือ ตอนแรกนัทยังอิจฉาพี่เลยว่าได้ไปอยู่เมืองนอกกัน”“ไม่ พี่ไม่รู้”“งั้นกลับเถอะพี่ อย่าเข้าไปเลย มันไม่ใช่บ้านของพี่ลดาแล้ว”เมื่อเห็นว่าเธอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม และรถบรรทุกข้างในกำลังแล่นออกมา เด็กหนุ่มจึงคว้าข้อมือหญิงสาวจูงให้พ้นรัศมี ก่อนจะปล่อยเธอ“พี่...เอ่อ พี่พักที่ไหน แล้วจะกลับยังไง”หล่อนส่ายหน้า สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก เด็กหนุ่มมอง แล้วพอปะติดปะต่อหลายอย่างได้ก็รู้สึกสงสารจับใจ นั่นคือการแสดงน้ำใจได้เท่าที่ตนสามารถ“ตรงนี้อากาศร้อน ไปที่ร้านก่อนดีกว่า พี่หน้าซีด เดี๋ยวจะเป็นลม”ปิ่นลดารู้สึกตัว กำมือแน่นอย่างเรียกกำลังใจ ถึงอย่างไรเธอต้องเดินต่อ จะหยุดชีวิตไว้ตรงนี้ได้อย่างไรกันพอจะย่างเท้ากลับไปทางต้นซอย รถหรูคันสีดำติดฟิล์มมืดสนิทก็แล่นมาจอดใกล้ ปิ่นลดาหลบทางให้ ตั้งท่าจะเดินต่อ หากต้องชะงัก เท้าหยุดนิ่งทั้งสองข้าง มองคนที่เปิดประตูก้าวออกมาด้วยความรู้สึกช็อก“พี่ลดา เราไปกันเถอะ”