“เธอเป็นผู้หญิงของเขา แล้วเคยเจอเขาหรือเปล่า รู้หรือว่าเขาเป็นคนยังไง” “ทำไมจะไม่รู้ ถึงเขาจะแก่ แต่ฉันชอบเขา คุณใหญ่ใจดี ไม่หยาบคายอย่างนาย จำไว้นะ อย่าบังอาจแตะต้องตัวฉันอีก ไม่งั้นฉันจะฟ้องเขาให้สั่งคนจับนายยิงเป้า” หล่อนประกาศก้อง คนร่างใหญ่ถึงกับยืนจังงัง หากปิ่นลดาตีความไปว่าเขากำลังกลัวโทษที่หล่อนขู่ “อย่าตามมานะ ถ้าไม่อยากตาย” หล่อนถอยอีกสามก้าว ก่อนหันกายวิ่งหนี ร่างน้อยในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่เห็นลางๆ ในคืนเดือนมืดจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง คนข้างหลังมองตาม ดวงตาคมหรี่ลง กระตุกยิ้มอย่างจอมวายร้าย อย่างนี้จะพึ่งเทคโนโลยีผลิตเลือดเนื้อเชื้อไขให้โง่ทำไม ก็หล่อนร่ำร้องอยากเป็นผู้หญิงของนายใหญ่ใจจะขาดแล้ว!
Lihat lebih banyakสายลมหนาวกระโชกแรง เสียดเสียงหวีดหวิวเป็นระยะ ท่ามกลางความเงียบสงัดที่โอบล้อมบ้านปูนชั้นเดียวขนาดหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำและหนึ่งห้องรับแขก ขนาดช่างกะทัดรัดเหมาะเจาะกับการอยู่คนเดียวเสียจริง ปิ่นลดาคงอุ่นใจกว่านี้หากที่พักพิงแห่งใหม่จะมีเพื่อนบ้านในระยะสายตามองเห็น...ไม่ใช่ตั้งอยู่ชิดขอบกำแพงสูงที่ล้อมคฤหาสน์ใหญ่ที่เห็นดำทะมึนอยู่เบื้องหน้า
คฤหาสน์ใหญ่โต หรูหรา ดูมีชีวิตชีวาในตอนกลางวัน หากมืดสนิทในทุกค่ำคืน หญิงสาวเอื้อมปิดหน้าต่าง ปิดกั้นความหนาวเย็นและมืดสนิทของบรรยากาศด้านนอกที่จะแทรกผ่านเข้ามา แล้วมองหนังสือในมือจากแสงนวลของโคมไฟส่อง หนังสือเล่มเดียวที่ติดกระเป๋าเสื้อผ้ามาจากบ้านซึ่งสร้างความเพลิดเพลิน สิ่งเดียวที่ช่วยคลายเหงาและลดทอนความหวาดหวั่นที่มักจู่โจมเข้ามายามความคิดระแวงผุดแทรก และเหมือนมันจะถี่ขึ้นในพักหลังอย่างที่เธอไม่อาจหักห้ามตัวเอง “งานพี่เลี้ยงเด็ก” เธอพึมพำกับตัวเอง ก้มมองร่องรอยการใช้งานอย่างหนักของหนังสือ ไล้มุมกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกพับ ใช้เรียวนิ้วคลี่มันออก แล้วปิดลง หยิบวางตรงโต๊ะหัวเตียง ปีนขึ้นเตียง ทอดกายนอน พยายามหลับตา กว่าชั่วโมงที่เธอจะหลับใหล ไม่ต่างจากสิบกว่าวันก่อนนับจากมาอยู่ในบ้านหลังเล็กสีฟ้านี้กระดาษเก่าคร่ำคร่าถูกวางบนโต๊ะไม้เนื้อดีในห้องทำงานขนาดกว้างขวางทางปีกขวาบนชั้นสองของคฤหาสน์ โดยผนังด้านหนึ่งของห้องมีประตูเชื่อมติดกับห้องนอนใหญ่สุด
“เอาแน่แล้วใช่ไหม” “ทำไมถามอย่างนี้ คิดว่าฉันจะลังเล เปลี่ยนใจปล่อยผู้หญิงคนนั้นกลับไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ” รัชตะพูดพลางวางมือเรียวแข็งแรงจากงาน เงยหน้ามองคนถาม “เห็นนายทิ้งเรื่องนี้ไว้นาน นานจนฉันคิดว่านายใจดีปล่อยเงินก้อนโตให้นายวัฒนะเอาไปกินฟรี แล้วยังใจดีปล่อยสมบัติของพ่อให้คนมาชุบมือเปิบ” ท้ายเสียงมีแววประชดประชัน จนคนนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำหลังโต๊ะปรายตาคมกริบมองคนร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันที่ยืนอิงหน้าต่างห้องทำงานเขา “ฉันไม่ปล่อยให้นายชวดมรดกเพราะเงื่อนไขบ้าๆ นั่นหรอกน่า” “อย่าทำใจดีหน่อยเลย ความจริงนายก็อยากได้มันด้วยใช่ไหม ถึงจะเป็นแค่เสี้ยวเดียวที่นายมีอยู่ แต่นายไม่มีวันตัดใจจากทรัพย์สินของพ่อเราได้หรอก” “นั่นก็ส่วนหนึ่ง” เจ้าของคำพูดหลุบตาลง เขามีเหตุผลที่ไม่อาจบอกใคร...เพราะตนเองก็ยังไม่มั่นใจมันเหมือนกัน “นายรู้เพียงว่าฉันจะเดินหน้าทำเรื่องนี้ต่อ และเราก็จะได้ประโยชน์ร่วมกัน” “ใช่ ฉันจะได้สมบัติของพ่อ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่ขังจมอยู่ ส่วนนายโชคดี ได้จากคุณแม่มาลงทุน สร้างกิจการจนร่ำรวยมหาศาลไปแล้ว” “พูดยังกับว่าถ้าไม่มีมันแล้วนายหมดทางทำกิน” เจ้าของห้องส่งเสียงกลั้วหัวเราะ “ถึงแม้ว่าสุดท้ายเราจะไม่ได้ส่วนของคุณพ่อ นายก็สามารถสร้างมันเองได้ ตอนนี้นายก็ล่ำซำพอตัวแล้ว อีกอย่างฉันไม่มีวันทิ้งนายให้กลายเป็นยาจกข้างถนน สบายใจได้ น้องรัก” “ถ้าจะรักฉันมากกว่านี้ นายก็ไปเร่งทำให้บรรลุเงื่อนไขของตาแก่นั่นเร็วๆ ฉันเบื่อการรอคอย...สำเร็จเมื่อไหร่ เราต่างคนต่างได้ แม้แต่ลูกหนี้ชั้นเลวของนายที่เอาลูกสาวมาแลกก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน เพราะฉันจะเลิกเอาระเบิดไปหย่อนเล่นที่ประตูรั้วบ้านสักที” “พูดเรื่องนี้ก็ดี” คนร่างใหญ่ขยับตัวนั่งตรง น้ำเสียงจริงจังขึ้น “ฉันอยากให้นายเลิกยุ่งกับคนบ้านนั้น เพราะฉันตกลงล้างหนี้ของนายวัฒนะแล้ว ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่” คนถูกสั่งเพียงไหวไหล่ เหมือนว่าตนยังไงก็ได้ เพราะคนที่พูดถึงไม่มีความน่าสนใจและไม่สำคัญพอที่เขาจะติดใจ ในเมื่อพี่ชายฝาแฝดบอกให้จบ คนอย่างรัชภาคย์ก็จบได้เหมือนกัน “ฉันกลับละ จะไปนอนเล่นแก้เบื่อที่เหมืองสักหน่อย” ว่าจบ คนร่างสูงใหญ่ในเสื้อผ้าเนื้อหนาเก่าปอนแต่ดูน่าจะสบายพอตัวก็เดินผ่านไปอย่างง่ายดาย ทิ้งคนข้างหลังให้มองตามด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนเขาจะหมุนเก้าอี้ไปทางด้านข้าง มองออกนอกหน้าต่างที่กรุกระจกนิรภัยซึ่งน้องชายยืนอิงเมื่อครู่ ภาพที่เห็นเป็นบ้านหลังเล็กสีฟ้าที่อีกไม่นานหรอกเขาจะเหยียบกรายไปหาสายลมหนาวพัดเกรียวเข้ามาในเวลาบ่าย ปิ่นลดาห่อกายเมื่อความเย็นแทรกผ่านเสื้อไหมพรมเนื้อหนาที่เตรียมมาพร้อม ก่อนเดินทางหล่อนศึกษาข้อมูลอากาศ รวมทั้งภูมิประเทศของสถานที่ทำงานแห่งแรกในชีวิตนี้ค่อนข้างละเอียด
ระยะนี้ หล่อนรู้จากข่าวในทีวีว่าความกดอากาศสูงในประเทศจีนพัดผ่านเข้าสู่ประเทศไทยทางตอนเหนือ ทำให้อุณหภูมิลดต่ำอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ปิ่นลดาจึงไม่พลาดที่หยิบบรรดาเสื้อหนาวที่นานๆ ครั้งจะได้ใช้ยามอยู่บ้านในกรุงเทพฯ มาพับใส่กระเป๋า ก่อนเดินทางโดยเครื่องบินมาลงที่สนามบินประจำจังหวัด แล้วต่อด้วยรถยนต์ที่ไปรอรับเธอเพื่อมายังที่แห่งนี้ ความจริงแล้วเมืองเชียงราชซึ่งเป็นเมืองชายแดนในภาคเหนือของไทยก็ใหญ่พอ แถมมีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากยิ่งกว่าตัวเมืองของจังหวัด เพราะถูกวางเป็นเป้าหมายในการพัฒนา เป็นประตูเมืองในการเปิดการค้าเสรีในกลุ่มประเทศแถบนี้ จนสามารถมีท่าอากาศยานนานาชาติตั้งอยู่ แต่เนื่องจากสายการบินภายในประเทศมีน้อยและราคาค่อนข้างสูง หล่อนจึงเลือกลงที่สนามบินของจังหวัดแทน แล้วนั่งรถต่อมายังเมืองนี้ แม้ระยะทางจะไกลหน่อย แต่ประหยัดได้หลายพันบาททีเดียว เมื่อสิบกว่าวันก่อน ปิ่นลดายังตื่นตากับบรรยากาศสวยงาม ไร่ผลไม้กว้างสุดลูกหูลูกตาที่ปลูกในพื้นที่ราบระหว่างหุบเขา เมื่อทอดสายตาออกไปไกลๆ หล่อนยังเห็นความอุดมสมบูรณ์ของพรรณไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นงดงามแซมจนทั่ว กระทั่งรถแล่นผ่านสะพานคอนกรีตที่สร้างตัดแม่น้ำสายหนึ่ง แม่น้ำสายเล็กแต่มีน้ำไหลผ่านสมบูรณ์ รถยนต์แล่นตรงมาอีกไม่กี่ร้อยเมตร หญิงสาวก็เห็นคฤหาสน์ใหญ่สีแดงอิฐมาแต่ไกล รูปทรงเมดิเตอร์เรเนียนที่ดูน่าทึ่งถูกปลูกสร้างอย่างโดดเด่น ท่ามกลางความเขียวขจีของทิวเขาที่โอบล้อม ปิ่นลดาตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น และยิ่งพอใจเมื่อรู้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ทำงานของตนหล่อนหอบกระเส่า เปล่งเสียงเรียก ทิ้งศีรษะกับที่นอนอย่างหมดทางเมื่อเรียวลิ้นสากระคายกดคลึงยอดเกสรสวย ช่องทางรักอุ่นชื้นถูกรุกรานด้วยนิ้วแกร่งที่ทำงานประสานกัน เร่งจังหวะรัวเร็ว จนหล่อนดีดตัวสูง บิดกายเมื่อความเสียวซ่านกำซาบทั่วทุกรูขุมขน หากเขาไม่ปรานี กลับเร่งอารมณ์โถมใส่ กายอิ่มสั่นระริก ส่งเสียงครางกระเส่าเคล้าเสียงสะอื้นไห้อย่างยอมจำนนดวงหน้านวลแดงก่ำด้วยฤทธิ์อารมณ์สะบัดไปมา ดวงตาหวานเปิดปรือเย้ายวนอย่างไม่รู้ตัว มือนุ่มที่ถูกมัดไว้กำแน่นเข้ามากัน ระลอกคลื่นอารมณ์ใหญ่ยักษ์ซัดสาดเข้ามาต่อเนื่อง กระทั่งสิ่งที่อัดแน่นในกายระเบิดโพลง พล่านพร่าเกินจะควบคุม“คุณใหญ่ขา ลดาไม่ไหวแล้ว”ปิ่นลดาครวญอย่างน่าสงสาร ก่อนกรีดร้องอย่างไม่อาจทนไหว ทิ้งกายเปลือยลงระทวยทอดอย่างหมดทาง ปรับลมหายใจและอารมณ์ข้างในที่ปลดปล่อยออกมาร่างหนาใหญ่ขยับนั่งคุกเข่า เขาถอดเสื้อคลุมออก เหลือเพียงกายแกร่งเปลือย โน้มคร่อมเจ้าร่างบาง ปลดเชือกที่พันธนาการข้อมือเธอไว้ แล้วไล้เลื่อนต่ำมาผลักท่อนขาอวบให้เปิดกว้างปิ่นลดาผวาเฮือก แอ่นกายไขว่คว้าสามีหนุ่ม เมื่อเขาดันกายเข้า
บทส่งท้ายปิ่นลดา...ยอดรักยอดปรารถนาหลังจากแต่งงาน ไม่กี่เดือนต่อมาปิ่นลดาก็คลอดลูกชายคนแรกให้กับรัชตะ และว่างเว้นไม่ถึงปีหญิงสาวก็ตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง ตอนนี้ทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลกได้กว่าแปดเดือนแล้วในแต่ละวันหญิงสาวต้องหัวหมุนกับลูกชายหญิง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในความวุ่นวายนั้นช่างเปี่ยมด้วยความสุขอย่างที่เธอนึกไม่ออกว่าชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก...นอกเหนือจากสามีหนุ่มและลูกสองคนอันเป็นแก้วตาดวงใจในวันนี้รัชตะออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าร่วมประชุมหุ้นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักธุรกิจต่างชาติในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศพม่า โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่กลางเมืองเชียงราชของฝั่งไทยเขากลับเข้าบ้านในเวลาสองทุ่ม ทันทีที่ภรรยาสาวซึ่งเพิ่งจัดการกับลูกน้อยสองคนเสร็จเห็นเขาก็ยิ้มกว้างแล้วเดินไปหา“งานเป็นยังไงบ้างคะ เสร็จเรียบร้อยดีไหม”ปิ่นลดากอดท่อนแขนล่ำสันของสามีไว้ แนบแก้มนวลด้วยท่าทางประจบอย่างแสนน่ารัก ทุกท่าทางเป็นไปโดยธรรมชาติ“เรียบร้อยครับ”“คุณใหญ่มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอุ่นให
“พราวพิชชาค่ะ พี่สาวของลดา”“ชื่อยังกะลิเก”เสียงเปรยเข้าหูในระยะประชิด พราวพิชชาต้องกลั้นอารมณ์อีกรอบ แต่เธอไม่ต้องทนนานเมื่อเสียงคุ้นหูดังเข้ามา อย่างที่ต้องรีบหันมอง“คุณแหวว คุณแหววจริงๆ ด้วย ลดาดีใจจังเลย ในที่สุดคุณแหววก็มา”ร่างงามอิ่มในชุดไทยประยุกต์สีครีมที่เห็นชัดว่ากำลังตั้งครรภ์เดินแกมวิ่งมาหา จนต้องปราดไปรับ กลัวว่าเจ้าสาวจะล้มคว่ำเสียก่อน“ลดาคิดว่าคุณแหววจะไม่มาซะอีกค่ะ”“มาสิ พี่ต้องมา ลดาแต่งงานทั้งที”พราวพิชชายิ้ม ยกสองมือประคองแก้มนวลที่ตกแต่งไว้อย่างดี เธอมองทั่วดวงหน้าน้องสาวแล้วดันออกห่าง สังเกตถ้วนทั่วแล้วยิ้มพอใจ“ลดาสวยมากเลยจ้ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น พี่ดีใจจริงๆ ที่เห็นลดาในภาพนี้”เธอหลุดความคิดออกมา พราวพิชชาพอรู้ว่าน้องสาวบุญธรรมต้องเจอกับอะไรก็ต่อเมื่อเรื่องมันเลยมาจนถึงวันนี้แล้ว ถามพ่อกับแม่กลับได้คำตอบว่าปิ่นลดาสบายดี เจ้าตัวเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วเลือกทำงานที่เมืองไทยต่อ โดยปฏิเสธจะไปอยู่ออสเตรเลียด้วยกันหากค
“ไม่เชื่อค่ะ ลดาไม่เชื่อหรอกว่าตลอดชีวิตของคุณจะไม่มีใครอีก นอกจากเด็กมอมแมมอย่างลดาในตอนนั้น”“มันก็ใช่ ความจริงมีคนเต็มใจเยอะเชียวละ แต่ฉันไม่ตกลง” เขาว่าหน้าตาเฉย แต่คนฟังเบ้หน้า “ฉันอยากได้แม่เก่งๆ ให้ลูก แล้วถูกใจฉันด้วย”“คนเต็มใจของคุณใหญ่มีคุณชัญญาด้วยไหมคะ”“ฉันบอกแล้ว คุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่ฉันให้ความสนิทสนม เธอเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ฉันไม่เคยคิดเป็นอื่น”“แต่คุณชัญญาคิด” หล่อนว่าเสียงเข้ม ชายหนุ่มต้องอธิบายด้วยท่าที งอนง้อ“ต่อจากนี้ไม่คิดแล้วละ เชื่อฉัน เรื่องที่คุณชัญญาช่วยเธอหนีกลับกรุงเทพฯ วันนี้ ฉันก็รู้ แต่ไม่อยากพูดถึงอีก ขอให้มันจบได้ไหม เรื่องนี้ฉันขอ เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันในเชียงราช อาจจะตลอดชีวิตของเรา แล้วฉันเชื่อว่าคุณชัญญาเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรี เธอจะจบเรื่องของเราลงแค่นี้แน่นอน”“โอเคค่ะ ลดาเชื่อและคิดเหมือนคุณ...แต่ขอบอกไว้นะคะถ้าเมื่อกี้คุณใหญ่ไม่บอกว่ารักลดาก่อน ลดาจะไม่ยอมรับฟังอะไรง่ายๆ ลดาจะทำให้คุณเจ็บตัวด้วย ผู้ชายอะไร พิษสงรอบตัวจริ
หญิงสาวหันมอง อมยิ้มแก้มตุ่ย ไม่บอกเขาหรอกว่าตนกำลังมีความสุขเหลือเกิน ก็ผู้ชายที่รักเต็มหัวใจแถมยังเป็นพ่อของลูกในท้องบอกรักพร้อมกับขอแต่งงาน ต่อให้เหนื่อยอ่อนแค่ไหนก็เรียกพลังคืนได้ในพริบตา“ทานข้าวกันเลยไหมคะ ค่ำแล้ว คุณลดากำลังท้องกำลังไส้ ท้องว่างนานไม่ดี เดี๋ยวคุณหนูจะหิว”พวงทิพย์เดินออกมาบอกเสียงจริงจัง จนปิ่นลดาหน้าเหวอกับท่าทางที่เปลี่ยนไป กระนั้นก็รีบปรับสีหน้ายิ้มรับอย่างจริงใจพร้อมบอกขอบคุณ จนแม่บ้านใหญ่ยิ้มเก้อ รีบกลับเข้าห้องครัวสั่งเด็กตั้งโต๊ะเสียงหัวเราะในลำคอหนาทำให้ปิ่นลดาหันมอง“คุณใหญ่หัวเราะทำไม มีอะไรน่าขำหรือคะ”“ขำเธอกับคุณทิพย์ไง”“คุณใหญ่นี่ นิสัยไม่ดีอีกแล้ว”ปิ่นลดารู้ทันหรอกน่า หยิกท่อนแขนกำยำก่อนฝ่ายนั้นจะโอบพาเข้าห้องทานอาหาร เพราะไม่อยากให้เธอกินข้าวมื้อค่ำผิดเวลานานสองคนใช้เวลาส่วนตัวในห้องทานอาหาร ช่างน่าแปลกว่าวันนี้แม้จะเป็นอาหารรสเลิศ ไม่ต่างจากวันก่อนที่ปิ่นลดาเห็นแล้วอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง จนรัชตะต้องลงมือทำเมนูสารพัดไข่ให้หล่อนแทน
การกลับมาถึงคฤหาสน์ราชเกียรติกูรในช่วงเย็นความรู้สึกต่างจากการออกไปในตอนเช้าโดยสิ้นเชิงปิ่นลดาก้าวลงจากรถ มองรอบตัว สูดลมหายใจเต็มปอด เหมือนกับว่าได้จากไปนานแล้วเพิ่งหวนคืนมา สำนึกอีกส่วนบอกว่าที่นี่คือ ‘บ้าน’ ที่หล่อนจะอยู่ด้วยหัวใจอบอุ่นและมั่นคงรัชตะแตะเอวพาหญิงสาวเข้าไปในบ้าน ศจีที่วิ่งออกมาทำหน้าดีใจก้ำกึ่งจะร้องไห้ ปิ่นลดาจับมือไว้ ถามพลางยิ้มเต็มสีหน้า“เป็นอะไรศจี คิดถึงฉันมากหรือ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง”“ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ฉันใจหายหมดเลยคุณรู้ไหม”หญิงร่างผอมบางบอก น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ จนปิ่นลดาต้องหัวเราะเสียงใสหวังจะสร้างบรรยากาศใหม่“ทำไมจะไม่กลับ ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ศจีอย่าตื่นตูมไปหน่อยเลยน่า”เจ้าหล่อนว่าพลางเดินผ่านจะขึ้นไปชั้นบน ก่อนหยุดฝีเท้าตรงบันไดขั้นแรก แล้วหันมาถามอีกหน“ศจีเก็บลูกหม่อนไว้ให้ฉันไหม”“เก็บค่ะ ฉันเก็บมาเต็มตะกร้าเลย แล้วลงมานะคะ”“จ้ะ”แล้วร่างอิ่มในเดรสสวยเหมาะสำ
“ถ้า...เอ่อ คุณจะทำตามเงื่อนไข ฉันก็เข้าใจค่ะ ไม่เป็นไร”“เพื่อนายเล็ก เธอยอมขนาดนี้เลยหรือ ปิ่นลดา”น้ำเสียงคนตัวใหญ่บอกชัดว่าไม่พอใจและไม่ได้แสร้งทำด้วย ปิ่นลดามองอย่างงุนงง เขาแปรเจตนาเธอถึงไหนกัน“คุณโกรธฉันหรือคะ”“ฉันไม่ชอบให้เธอพูดถึงนายเล็กอย่างนี้”“ไม่ให้ฉันสงสารเขาหรือคะ คุณใหญ่บ้าหรือเปล่า ฉันจะทำได้ยังไง ก็เขาน่าสงสารและน่าเห็นใจจริงๆ แทนที่จะได้อยู่สุขสบาย กลับต้องทนลำบากในป่าเขา ตามศักดิ์เขาเป็นหม่อมราชวงศ์ เป็นคุณชายด้วยนะ เอ่อ...ความจริงก็คุณใหญ่ด้วยแหละ” ท้ายประโยคเสียงเบาลง เห็นชัดว่าเจ้าตัวเริ่มงุนงงและสับสนกับตัวเอง“พอเลย ไม่ต้องดรามา” รัชตะเห็นท่าไม่ดี รีบดักคอ “นายเล็กไม่ใช่ยาจก แต่มันชอบทำตัวซอมซ่อ และมันไม่ได้ตกระกำลำบากในป่า แต่มันเข้าป่าเพราะทำเหมืองทองคำที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลของประเทศพม่า เหมืองอยู่ใกล้เขตแดนที่ตอนนี้เปิดเสรีแล้ว มันรวยพอที่อยู่ได้สบายทั้งชาติ”“อ้าว จริงหรือคะ”คนเพิ่งถึงบางอ้อครางอย่างหม
บ้านเดิมของพ่อที่รัชตะบอกไว้ทำให้ปิ่นลดาถึงกับตะลึง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นวังเก่าที่ปัจจุบันตกอยู่ในมือหลานห่างๆ ครอบครองอยู่ โดยรู้มาว่าทายาทสายตรงนั้นย้ายไปอยู่ต่างประเทศอย่างถาวร หลังจากแต่งงานกับภรรยาฝรั่งและถูกถอดจากความเป็นราชนิกูลด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครรู้และเป็นไปโดยการสมัครใจของทุกฝ่ายแต่ดูเหมือนพวกเขายังมีเงื่อนไขที่ยังติดพันอยู่ สิ่งนี้ทำให้เธอถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้...และมันก็ใช่สิ่งที่ปิ่นลดารู้คร่าวๆ มาก่อนแล้ว“ฉันต้องมั่นใจด้วยว่าเด็กในท้องยายหนูคนนี้เป็นลูกของเธอ เป็นสายเลือดแท้จริงของราชเกียรติกูรถึงจะเซ็นมอบสมบัติส่วนของพ่อเธอให้”“ถ้าจะให้ตรวจ DNA ตอนนี้ ผมไม่อนุญาต ผมไม่ต้องการให้ลูกเมียมาเสี่ยงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง” รัชตะสวนด้วยท่าทีแข็งกร้าว ทำให้ชายร่างผอมสูงผงะอย่างคิดไม่ถึง จนแม้แต่ปิ่นลดายังต้องสะดุ้ง “ผมไม่ได้มาเพื่อขอให้ท่านลุงเชื่อหรือไม่เชื่อว่าลูกในท้องปิ่นลดาเป็นลูกของผม แต่มาเพื่อบอกกล่าวท่านลุง ผมจะแต่งงานกับปิ่นลดา ผมกำลังจะมีลูก เลยอยากทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ผมเ
“ใช่พี่ แม่บอกว่าเขาย้ายไปอยู่ออสเตรเลียแล้ว พี่ลดาไม่รู้หรือ ตอนแรกนัทยังอิจฉาพี่เลยว่าได้ไปอยู่เมืองนอกกัน”“ไม่ พี่ไม่รู้”“งั้นกลับเถอะพี่ อย่าเข้าไปเลย มันไม่ใช่บ้านของพี่ลดาแล้ว”เมื่อเห็นว่าเธอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม และรถบรรทุกข้างในกำลังแล่นออกมา เด็กหนุ่มจึงคว้าข้อมือหญิงสาวจูงให้พ้นรัศมี ก่อนจะปล่อยเธอ“พี่...เอ่อ พี่พักที่ไหน แล้วจะกลับยังไง”หล่อนส่ายหน้า สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก เด็กหนุ่มมอง แล้วพอปะติดปะต่อหลายอย่างได้ก็รู้สึกสงสารจับใจ นั่นคือการแสดงน้ำใจได้เท่าที่ตนสามารถ“ตรงนี้อากาศร้อน ไปที่ร้านก่อนดีกว่า พี่หน้าซีด เดี๋ยวจะเป็นลม”ปิ่นลดารู้สึกตัว กำมือแน่นอย่างเรียกกำลังใจ ถึงอย่างไรเธอต้องเดินต่อ จะหยุดชีวิตไว้ตรงนี้ได้อย่างไรกันพอจะย่างเท้ากลับไปทางต้นซอย รถหรูคันสีดำติดฟิล์มมืดสนิทก็แล่นมาจอดใกล้ ปิ่นลดาหลบทางให้ ตั้งท่าจะเดินต่อ หากต้องชะงัก เท้าหยุดนิ่งทั้งสองข้าง มองคนที่เปิดประตูก้าวออกมาด้วยความรู้สึกช็อก“พี่ลดา เราไปกันเถอะ”
Komen