เมื่อหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จและอยู่ในชุดลำลอง แต่ว่าเซ็กซี่ ก็เธอกะจะเซลฟี่กับไอเฟลด้วยเหมือนกัน ดีซะอีกที่ตอนนี้มีคนถ่ายรูปให้ แต่เมื่อมองดูสองหนุ่มกลับพบว่าพวกเขายังรอทานมื้อดึกพร้อมเธอ นี่เราให้เขารอนานไหมเนี่ย แค่มารบกวนที่พักยังมารบกวนให้คนทั้งคู่นั่งหิวรอเธออาบน้ำอีก เธอยิ้มแหยๆ อย่างคนเกรงใจ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“ทำไมพวกนายยังไม่ทานกันอีก อาหารเย็นหมดแล้วมั้งนั่น” คนถามเอาแต่ทำหน้าเหวอ คงเพราะเธอสินะ คงรอเธอสินะ “รอฉันหรอ? ” เธอถามพร้อมชี้นิ้วเรียวเข้าหาตัวเอง บุรุษผมบลอนด์เงินไม่ตอบ ทว่าบุรุษผมดำขลับกลับตอบด้วยการผงกหัวแทน “เอ่อ …. ขอโทษนะที่ให้รอ” ก็เธอบอกพวกเขาแล้วนี่ว่าให้ทานก่อน แต่ด้วยมารยาทสากลจึงทำให้คนทั้งคู่รอ จริงๆ สองหนุ่มก็ยังไม่ได้หิวอะไรเท่าไหร่ “รีบมานั่งเถอะ ผมหิวแล้ว” เอริคพูดชวนทำลายบรรยากาศที่เงียบ เธอเดินไปพร้อมกับมองชายหนุ่มผมสีดำที่กำลังทำการเปิดไวน์สีแดงเข้ม ก่อนจะค่อยๆ รินมันอย่างพิถีพิถัน เขาเลื่อนเก้าอี้ออกให้เธอ แน่นอนว่ามันอยู่ตรงข้ามกับไคลน์ ชายหนุ่มผู้หน้าบึ้งเอาแต่ใจ ส่วนคนหัวโต๊ะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเอริค ‘ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณที่ยังมีนายนะเอริค ถ้าให้ฉันอยู่กับไคลน์แค่สองคน มีหวังฉันบ้าแน่ๆ ’ “เรามา ออนแทร็งเก กันเถอะ” แน่นอนว่าก็เป็นชายหนุ่มผมสีเข้มอีกนั่นแหละที่ชวนทุกคนชนแก้วแบบฝรั่งเศส “เกร๊ง …” ชายหนุ่มผมดำค่อยๆ สเวิร์ลไวน์ไปมา ก่อนจะดมน้อยๆ แล้วยกมันขึ้นจิบ เธอมองดูท่าทางของคนทั้งคู่ แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ชายหนุ่มธรรมดา แต่เธอก็ได้หาสนใจข้อนี้ไม่ “ให้ผมถามหน่อยละกัน ทำไมคุณถึงมาเที่ยวคนเดียวได้ล่ะ? ” คนถามไม่ได้ขออนุญาตก่อน ทว่าสาดคำถามมาโต้งๆ หญิงสาวหลุบตาต่ำ ก่อนจะสเวิร์ลไวน์ไปมาก่อนจะยกขึ้นจิบรวดเดียว เธอเพิ่มความกล้าจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก่อนจะเอ่ยตอบ “ฉันอกหักน่ะ” คำตอบของเธอทำเอาชายหนุ่มต่างอึ้ง ก็เธอทั้งสวย น่ารัก เซ็กซี่ขนาดนี้ เผลอๆ น่าจะเซ็กส์จัดด้วย … “ขอโทษนะที่เสียมารยาท” เอริคเอ่ยกับเธอ เขารู้สึกแย่จริงๆ ถ้ามาเที่ยวทริปนาน 15 วันขนาดนี้ คงพึ่งอกหักมาหมาดๆ แน่ๆ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันทำใจได้แล้วล่ะ” “อกหักตอนไหน อย่าบอกนะว่าเมื่อชาติที่แล้ว ทำไมทำใจได้ไวจัง” นายผมบลอนด์นะนายผมบลอนด์ ถ้าได้พูดนี่ก็กัดเจ็บเชียวนะ เธอรู้แหละ เธอมองเห็นเอริคหันไปเอ็ดกับบุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ “จริงๆ แล้วแผลนี้กำลังสดๆ เลยแหละ” ก่อนที่ชายหนุ่มผมสีบลอนด์จะเอ่ยต่อ “ก็เลยจองทริปแบบปุบปับ และมาแบบไม่มีแพลน?” “ก็เลยมาเป็นส่วนเกินรักของพวกนายนี่ไง” สิ้นเสียงของหญิงสาวก็ทำเอาคนทั้งสามหัวเราะกลั้นขำออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย “งั้นเราถามพวกนายกลับนะ” พูดจบก็รอฟังคำตอบจากพวกเขา และคนตอบกลับเป็นชายหนุ่มหน้าหวานผมสีบลอนด์ “ก็เอาสิ ถามมาได้เลย ถ้าตอบได้ก็จะตอบ” ‘พอเริ่มเมาก็เริ่มพูดมากเชียวนะขี้เก๊ก ‘เธอเพียงแค่คิด แต่สีหน้าและรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ ก็ทำเอาคนคอแข็งผมสีดำถึงกับหันมองใบหน้าสวย “พวกนายคบกันนานยังอ่ะ?” “เดี๋ยวฉันตอบเอง” ไคลน์แย่งเอริคตอบ “ถ้านับปีนี้ก็ 11 ปี” “ห๊ะ!! 11 ปี” คนฟังถึงกับตาลุกวาวอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น “พวกนายคบกันตั้งแต่ช่วงไหนอ่ะ?” “ก็น่าจะปีหนึ่งเกือบๆ ปีสองได้ล่ะมั้ง” “งั้นตอนนี้พวกนายอายุเท่าไหร่ .. เอ่อ คือ.. ฉันจะได้เรียกได้ถูกน่ะว่าต้องแทนตัวเองว่าอะไร” “พวกเรา 31 แล้วล่ะ” เอริคตอบ “งั้นไอรีนเรียกพวกพี่ว่าพี่แล้วกันนะคะ ไอรีน 27 ค่ะ” “อืมมม …” คนหน้าเข้มผมดำเอ่ยตอบ ตอนนี้คนทั้งสามเริ่มจะสนิทกันมากขึ้น คงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์สินะที่ทำให้คนทั้งสามเปิดอกคุยกันอย่างเปิดเผย ถามนั่นตอบนั่น ถามนี่ตอบนี่ เธอต่างรู้สึกสบายใจที่ได้ระบายสิ่งนี้ออกไป ไอรีนเป็นคนไม่มีเพื่อน ซ้ำเธอยังเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว การที่จะคบใครก็ถูกเขาเอาเปรียบมาโดยตลอด ฉะนั้นแล้วเธอจึงเลือกที่จะไม่มีเพื่อนซะยังดีกว่า “เอริค” เสียงเรียกของพ่อหนุ่มผมบลอนด์เอ่ยออกมาบ่งบอกได้ว่าเมา “อืมมม รู้แล้ว ไม่ไหวก็พัก” เอริคบอกกับไคลน์ เพราะรายนี้นะคออ่อน “งั้นฉันไปพักแป๊บนะ เดี๋ยวดีขึ้นจะออกมาใหม่” “ให้ผมไปส่งมั้ย” เอริคเอ่ยถาม ก่อนที่คนเมาจะรีบบอกออกมา “ไม่ต้องๆ อายเพื่อนใหม่แย่ นายก็เทคแคร์เธอดีๆ ล่ะ” คนเมาร่างอ่อนปวกเปียกก็พาตัวเองกลับไปยังเตียงนอนกว้าง ก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างเบาสบาย เธอหันมองตามเขา และเห็นแต่หลังไวๆ “นี่สินะคะ ที่มาของคำว่าอาบน้ำก่อนดื่ม” คนทั้งคู่ก็เอาแต่กลั้วหัวเราะออกมา มันก็คงจะจริงที่อาบน้ำแล้ว พอเมาจะได้นอนเลย “ว่าแต่ทำไมคุณต้องแต่งตัวเซ็กซี่อะไรเบอร์นี้กันล่ะครับ” คนเมากึ่มๆ เอาแต่ถามด้วยความอยากรู้ “แบบนี้คือเรียกว่าเซ็กซี่งั้นหรอคะ? ” เธอเอ่ยถามเขาพร้อมหันลงมองยังสาระรูปของตัวเอง และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็ถ้าเธอสวยเซ็กซี่จริง ก็คงไม่โดนเท ว่าป่ะ “อืม ก็เซ็กซี่ดี ถ้าผมเป็นผู้ชาย นี่ก็คงบอกไม่ถูกเลยเหมือนกันว่าทิ้งคุณเพราะอะไร” คำพูดของเขาทำเอาอีกฝ่ายหน้าจ๋อยไปถนัด ตอนนี้คนทั้งคู่ที่อยู่ดูวิวหอไอเฟลด้วยกัน บรรยากาศมันช่างน่า … ถ้าหากผู้ชายตรงหน้าชอบผู้หญิงก็คงจะดีสินะ บ้าเอ้ย!! นี่เธอคงคิดอะไรบ้าๆ เพราะว่าเมา เธอบ่นอุบให้ตัวเอง บรรยากาศเกิดเดทแอร์อยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มถามบางอย่างออกมาก่อน “พี่เอริค …” “ครับ” “หนูขอถามอะไรสักอย่างหน่อยสิ” คำว่าหนูของคนเมา ทำเอาเขาถึงกับหัวเราะร่า “ครับ ว่า? ” “คืออย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้หนูเลยนะ คือพี่เคยคบผู้หญิงบ้างป่ะ!!” บ้าบอ!! เธอถามเพียงเพราะอยากรู้จริงๆ หรอกนะ “ก็ ….” เขาหยุดคิดไปพักใหญ่ ก่อนจะตอบ “จริงๆ พี่ก็ไม่แน่ใจ ว่าตัวเองชอบผู้หญิงรึเปล่า พี่อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่เพราะพอคบกับไคลน์ มันเลยทำให้พี่ปิดกั้นตัวเองจากผู้หญิงล่ะมั้ง” ต่างคนต่างเมา ต่างกล้าถามกล้าตอบ “งั้นให้หนูทดสอบเอาป่ะ!! แบบว่า ถ้าพี่ไม่ใจเต้นแรง ไม่รู้สึกอะไรกับหนู ก็แสดงว่าพี่น่ะชอบแค่ผู้ชาย” เขานิ่งคิด ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ อยากจะรู้คำตอบของตัวเองเหมือนกัน ’ นั่นนะสินะ ตกลงเราชอบแค่ผู้ชาย หรือผู้หญิงเราก็ชอบกันแน่วะ’ “แล้วหนูจะพิสูจน์มันยังไง” เขาจ้องใบหน้าสวยอย่างรอคำตอบ แต่แล้ว คำตอบที่ได้ฟังก็เอาคนรอฟังถึงกับผิดหวัง “อืมมม ….” หญิงสาวทำท่าครุ่นคิด กลอกตามองบน “ก็ถ้าพี่ชอบผู้หญิง ถ้าพี่ใกล้ชิดกับหนู พี่ก็จะแบบว่า ใจเต้นแรง อะไรทำนองนี้ล่ะมั้งคะ” เธอก็แค่เดาอะนะ “คิดว่างั้นหรอ? ” เขาย้ำถาม “อื้ม … ใช่สิคะ” “งั้น หนูลองมาใกล้พี่ดูสิ แต่พี่ว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดปกตินะ เพราะเพื่อนผู้หญิงพี่เยอะ นอนเตียงเดียวกันก็เคยมาแล้ว” “หาาาาา ….. แล้วจากนั้นล่ะ? ” นี่เธอต้องการคำตอบแบบไหนกันแน่นะ “แล้วจากนั้นอะไร? ” เขาถามย้ำคำ “แบบว่า” เธอกลืนน้ำลายเหนียวๆ เอื้อกใหญ่ลงคออย่างยากเย็น ก่อนว่า “ก็แบบว่า มีอะไรต่อจากนั้นป่ะ? ” หื่อออ … เขาตอบพร้อมรอยยิ้มส่ายหัวไปมา “ว๊า… แย่จัง คนอุตส่าห์ลุ้น” “ทำไม ไม่เชื่อหรอ ถ้าไม่เชื่อ เราจะลองมานั่งตักพี่ดูมั้ยล่ะ? ” มันจะดีมั้ยนะ ก็อีกคนดันหลับอยู่ ถ้าหากพี่เขาจะทำอะไรเธอล่ะ แต่คงไม่มั้ง เขาไม่ชอบผู้หญิง จากประสบการณ์ทั้ง 11 ปี ก็น่าจะเป็นตัวบ่งบอกชี้ชัดได้อย่างชัดเจน ว่าเขาคือเกย์แท้แบบล้านเปอร์เซ็นต์ ทันทีที่คิดจบ เธอก็เอ่ยตกปากรับคำกับเขาอย่างไว “ได้สิ ใครกลัวกัน งั้นขออนุญาตพี่ไคล์นที่หลับอยู่นะค๊าาา” เธอเอ่ยพูดขออนุญาตคนที่กำลังหลับอยู่ไม่ดังเท่าไหร่นัก ก่อนที่คนใจกล้าจะหยิบแก้วไวน์ขึ้นกระดกพรวดรวดเดียวจากนั้นก็กระเด้งตูดของตนเองให้ไปนั่งบนตักของใครอีกคน พลึ่บ!! หญิงสาวลุกไปนั่งบนตักของชายหนุ่มในทันทีหลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
เขาซุกไซร้เรือนกายที่หอมกรุ่น มือหนาจับขาหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่ตอนนี้อ้ากางออกขึ้นพาดสะโพกของเขา ก่อนจะงัดเอานิ้วสากหนาชอนไชหาปุ่มเสียวกระสันของหญิงสาว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบเต้า ส่วนอีกข้างก็กดจุดปุ่มเสียวของหญิงสาวไปมาเขาให้นิ้วเรียวหนาทั้งสองนิ้วเข้าแหย่สำรวจในกลีบดอกไม้ ก่อนจะจับเธอนอนคว่ำหน้า จากนั้นเขาก็ยกก้นของหญิงสาวให้แอ่นเด้งขึ้น เขาไล้เลียตั้งแต่ติ่งหูลามลงมาจนถึงแผ่นหลังนุ่มเนียนของเธอ ชายหนุ่มยังคงละเลงลิ้นอยู่อย่างนั้นตวัดหมุนวนไปมาจนเธอเสียวซ่าน ก่อนไล้ลิ้นร้อนเข้ามาตรงช่องทางสวาทด้านหลัง เขาให้นิ้วอุ่นค่อยๆ จิ้มเข้าไปในรูก้นของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์สั่นๆ บางอย่างขึ้นมา แล้วกดไปที่โหมดเบาสุด ก่อนจะค่อยๆ แหย่มันเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังของเธอหญิงสาวก็เปลี่ยนสลับหันมาหยิบเอาทอยส์กระบองใหญ่ ขนาดมันอาจจะเล็กกว่าของเอริคและคนที่เธอกำลังกระทำกับคนตรงหน้า หญิงสาวเปลี่ยนสลับให้ตนเองเป็นคนคุมเกมรัก และตอนนี้ชายหนุ่มต่างนอนคว่ำหน้าในท่าโค้งตูด เธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นน้อยๆ แหย่เข้าช่องทางรักของเขาจากทางด้านหลัง นวัดลิ้นไปมารัวๆ มืออีกข้างก็จับเจ้างูยักษ์ชักขึ้นชักลงอย่างช้
คนทั้งสามที่มายืนรอส่งใครอีกคนที่สนามบิน ตอนนี้มันเป็นอะไรที่เศร้ามาก เศร้าใจแบบสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องอย่างว่า พวกเขาต่างมีความรักให้กันและกันจริงๆชายหนุ่มผมสีเข้มถึงกับหันมาลูบหัวของเธอกับไคล์น แน่นอนว่าระหว่างเอริคกับไคล์น เอริคจะออกแมนๆ มากกว่า ไคล์นจะนิสัยน่ารักคล้ายผู้หญิง ทว่ากับเธอ พวกเขาก็ต่างเร้าใจไม่แพ้กัน“อย่าเศร้ากันสิ ทำให้คนกำลังจะไปมันใจโหวงหวิว”คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยขึ้นทั้งพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่“พี่ห้ามไปมีใครนะคะ ไม่งั้นหนูกับพี่ไคล์นจะหนีไปจากพี่แบบไม่ให้พี่ตามตัวเจอ”เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ฝืนมันเอาไว้ ตอนนี้มีแคไคล์นกับหญิงสาวเท่านั้นที่ปล่อยโฮครอบครัวของเอริคและไคล์นต่างทำธุรกิจในเครือไดม่อนและในเครือของท่าอากาศยาน มีน้อยคนมากที่จะรู้จักพวกเขา ก็เล่นรวยเงียบ ไม่ชอบออกสื่อ จริงๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรเธอ เพียงแค่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป ส่วนที่บ้านของหญิงสาวก็หาใช่ธรรมดาที่ไหน ส่งออกนำเข้าหยกแท้ทั้งในและต่างประเทศ รวมๆ มูลค่าของทรัพย์สินก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันล้าน เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สืบทอดรุ่นต่อร
หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาในอิตาลีอย่างเต็มที่ บรรยากาศของเยอรมันในวันสุดท้ายของทริปก็มาพร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสุข เศร้า และโหยหาความต่อเนื่อง พรุ่งนี้พวกเขาจะขึ้นไฟลท์เย็นเพื่อกลับไปสู่ชีวิตจริงที่รออยู่ แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ในห้วงเวลาแห่งความทรงจำไกด์สาวอย่างลูกน้ำสังเกตเห็นสายสัมพันธ์พิเศษที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างลูกค้าทั้งสาม แม้จะไม่ได้เอ่ยปากอะไร แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกชัดว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“ไว้เรามาเที่ยวกันเองดีมั้ย ช่วงกุมภาวาเลนไทน์ พี่ว่าเราไปกรีซกันดีมั้ย?”เอริคเสนอขึ้นมาขณะที่พวกเขากำลังนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เมืองมิวนิก“แต่ฉันอยากไปโมนาโก”ไคล์นแย้งขึ้นทันที สีหน้าจริงจัง หญิงสาวที่นั่งฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องแผนการเที่ยวครั้งหน้ากลับลอบยิ้มอย่างขำขัน สองหนุ่มนี่ช่างต่างกันเสียจริง“นี่พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันจนตัวติดกันแทบทุกนาที แต่ไม่มีช่องทางการติดต่อกันเลย รู้ตัวมั้ย? จนวันสุดท้ายแล้วพวกพี่ยังไม่มีไลน์หนูเลย!”เธอยื่นโทรศัพท์ให้ทั้งคู่ พลางหัวเราะน้อย ๆ“นี่ค่ะ พวกพี่แอดมาได้เลย”เมื่อทุกคนเชื่อมต่อกันเรียบร้อย ค