โบราณว่า “ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ” ทำไมคนโบราณต้องพูดถูกด้วย! อย่างนี้ต้องหนี แต่เขาจะหนีไปที่ไหนได้ ในเมื่อเขาดันไปเตะตาต้องใจ "นายเอก" เข้าโดยไม่รู้ตัว (แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดในการรับชม)
View Moreถ้าใครสักคนถามอันวาร์ว่า เขาเป็นใคร ตัวอันวาร์เองก็คงจะตอบกลับไปง่าย ๆ เรียบ ๆ ว่า เขาก็เป็นแค่ชายหนุ่มชาวไทยวัยทำงานคนหนึ่งที่ตกงานเพราะพิษเศรษฐกิจ จนมีเวลาว่างมากเกินไป
และถ้ามีคนถามเขาเพิ่มว่า แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เขาก็คงตอบกลับไปว่า “เรื่องนี้คงต้องย้อนความกันสักหน่อยครับ”
ทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่เขาตกงานนี่แหละ
อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าในสังคมโลก ทุกอย่างดำเนินไปบนระบบทุนนิยมและเงินตรา และคำว่า “ทุกอย่าง” ในที่นี้ก็หมายรวมถึงตัวเขาด้วย เพราะอย่างไรเขาเองก็เป็นแค่สมาชิกตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ผู้ต้องหาเงินมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อเอาตัวรอด ฉะนั้น เมื่อเขาตกงาน เขาก็ต้องหางานใหม่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ตกจากงานเก่าปั๊บจะได้งานใหม่ปุ๊บ
ใช่ เขาว่างงาน ว่างจนแทบจะเอาใบปริญญาที่เรียนมาไปพับจรวดเล่น
และเมื่อเขาว่างงาน เขาก็มีเวลาในชีวิตเหลือเฟือ “ว่างจนไม่มีอะไรจะทำ ว่างชนิดที่ไม่รู้จะอ่านอะไร เลยตัดสินใจเล่นอะไรแผลง ๆ อย่างการกดปุ่ม “สุ่ม” อ่านนิยายออนไลน์บนหน้าเว็บชื่อดังเว็บหนึ่ง
มันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากก่อนกดปุ่มนั้น เขาไม่ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ไม่ว่าจะสุ่มได้เรื่องอะไรมาเขาก็จะอ่านมันจนจบให้ได้ เพราะเรื่องที่เขาสุ่มได้มานั้นดันเป็นนิยายวายจีนโบราณจากปลายปากกานักเขียนไทยเรื่องหนึ่ง นาม “ยอดองครักษ์เคียงหทัย”
แค่เห็นชื่อและหน้าปกบนเว็บ อันวาร์ผู้ขึ้นชื่อว่าเลือกหนังสืออ่านและนิยมผลงานวรรณกรรมระดับรางวัลซีไรต์ก็ขนลุกซู่ แต่เพราะเขาดันเกิดมาเป็นคนรักษาคำพูดมากเกินไป เขาจึงกล้ำกลืนฝืนทนยิ่งกว่ากินใบสดฟ้าทะลายโจรอ่านมันจนจบ และอ่านอย่างจริงจังระดับที่เก็บครบทุกบรรทัดจนสามารถจดคำผิดทั้งหมดทั้งมวลส่งไปให้นักเขียนทางอีเมลได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ”
มันเป็นการอ่านที่ทุลักทุเลที่สุดในชีวิตของเขานับตั้งแต่เกิดมา มีหลายฉากที่เขาแทบจะทำโทรศัพท์มือถือหลุดมือ โดยเฉพาะฉากที่มีนายเอก...ซึ่งนั่นมีปริมาณถึง 90% ของเนื้อเรื่อง และทันทีที่อ่านจบ ชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้ทันทีว่า เขาโคตรไม่ชอบเรื่องนี้เลย!
ทั้งบทบรรยายที่เขียนสรรเสริญเยินยอตัวละครหลักโดยเฉพาะพระ-นายเป็นพิเศษ จนคนอ่านรู้สึกทั้งหมั่นไส้และหงุดหงิด ยังไม่นับตัวละครฝ่ายร้ายที่ครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิงที่อิจฉานายเอกและอีกครึ่งเป็นผู้ชายที่ปองรักนายเอก แล้วไหนจะเนื้อเรื่องที่เอะอะฉุด เอะอะฉุด เดี๋ยวตบหน้า เดี๋ยววางยา เดี๋ยวลักพาตัว แล้วนายเอกก็ขัดขืนแค่พอเป็นพิธีไปงั้น ๆ ทั้ง ๆ ที่มีมือมีตีนและมีโอกาสหนีได้สูงมาก
และเหนือสิ่งอื่นใด...นายเอกใช้น้ำตาหยุดสงคราม
บ้าไปแล้ว!
สงครามที่มีต้นกำเนิดและจุดจบที่ไม่ใช่ คือไปชอบเขา เลยจะไปตีเมืองเขาเพื่อเอาเขามาโดยไม่เห็นหัวคนอื่น และคู่พระ-นายที่ใช้ความรักชนะทุกสิ่ง โลกแบน ๆ กับตัวละครแบน ๆ แบนจนเขารู้สึกสมองฝ่อ แม้ในความเป็นจริง “ยอดองครักษ์เคียงหทัย” จะเป็นนิยายที่อ่านเอาสนุกได้ไม่ติดขัด และจุดประสงค์ของนิยายเรื่องนี้ก็เพื่อความบันเทิงเท่านั้น ซ้ำยังได้รับความนิยมจากนักอ่านทั่วไปอยู่ไม่น้อยก็ตาม
ก็อย่างว่า นี่คืออันวาร์ไง นานาจิตตัง
แล้วก็เพราะว่าเขาคืออันวาร์อีกนั่นแหละ เรื่องมันถึงเลยเถิดมาเป็นแบบนี้
อันวาร์เป็นคนจริงจังกับการเสพสื่อ เขาเลยเอาแต่ขบคิดไม่พอใจฉากต่าง ๆ ใน “ยอดองครักษ์เคียงหทัย” จนนอนไม่หลับอยู่สองคืน และสุดท้ายก็หน้ามืดล้มหัวฟาดอ่างอาบน้ำตาย เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ
ราวกับโชคชะตาเกลียดขี้หน้า ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่โบราณได้ว่าไว้ว่า “ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ” อันวาร์ วราหะตื่นขึ้นมาอีกครั้งในนิยาย “ยอดองครักษ์เคียงหทัย” และเหมือนสวรรค์จะยังไม่พอใจความทุกข์ของเขานัก ให้เขามาเกิดใหม่ในนิยายที่เกลียดไม่พอ ยังให้เขามาอยู่ในร่างของ “หยางซิงอี” ตัวร้ายคนสำคัญของเรื่องผู้เป็นต้นชนวนสงคราม เพราะเกลียดชังพระเอกและรักนายเอกอย่างเป็นพิษอีกด้วย
ภัยสังคม! นี่เขามาเกิดใหม่เป็นภัยสังคมเหรอนี่!?
ตั้งแต่แรกรู้ว่าตนเป็นใครก็อยากกรี๊ด แค่มาเกิดใหม่แบบอิเซไกในการ์ตูนก็ว่าเขาโชคร้ายแล้วนะ นี่เขายังต้องมาอยู่ในร่างของภัยสังคมอีกเหรอ
โอ้มายบุดด้า! อันวาร์ลมจะจับ “ทำอย่างกับว่าเขาเป็นตัวเอกนิยายพล็อตตลาดเชย ๆ ไปได้
WARNING:เนื้อหาในตอนมีความรุนแรงทั้งทางกายและทางใจเพราะเป็นสหายรัก...คนใกล้ตัว หลี่ถงฮว่าจึงไม่เคยระแวงไป๋หวังเยี่ยนอีกคนจะมอบของขวัญให้กี่ชิ้นต่อกี่ชิ้นหรืออาหารทั้งคาวหวาน พระนางย่อมยินดีรับไว้ แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมียาพิษก็ไม่คิดตรวจสอบเพียงหลี่ถงฮว่าขึ้นเป็นพระมเหสีของหยางไท่ซาน พระบรมมหาราชวังอันเย็นเยียบก็อบอุ่นขึ้นทันตา และแน่นอนว่า บุคคลแรกที่หลี่ถงฮว่าไปหาคือ ไป๋หวังเยี่ยนในความยินดีที่ดวงใจกลับมาให้เห็นหน้า ความหวงแหนอันน่าสะพรึงกลัวก็มีกำเนิดมา ไป๋หวังเยี่ยนกอดหลี่ถงฮว่าแทบจะไม่อยากปล่อยหญิงสาวไปไหน และแม้จะโกรธแค้นอีกคนที่ไม่รักษาสัญญาแค่ไหน แต่เพียงหนึ่งยิ้มสดใสที่หลี่ถงฮว่าส่งมา พระเนตรวาวโรจน์ของไป๋หวังเยี่ยนก็อ่อนแสงลงทันตา และไม่ว่าพระมเหสีจะขอสิ่งใดจากพระนาง พระนางย่อมยินดีกระทำให้หลี่ถงฮว่าขอให้พระนางเลิกสุรา พระนางก็เลิกทันทีที่สิ้นเสียงหญิงสาวหลี่ถงฮว่าขอให้พระนางดีกับพระโอรสบ้าง พระนางก็ดีด้วยหลี่ถงฮว่าขอให้พระนางไปไหนมาไหนเช่นเก่าก่อน พระนางก็ทำแต่แม้จะได้อยู่ด้วยกันคล้ายเก่าก่อน คำว่า “คล้าย” ก็มิใช่ “เหมือน” เพราะทุกเย็นหยางไท่ซานจะมารับหลี่ถงฮว่าไปจา
WARNING:-เนื้อหาในตอนมีการใช้ความรุนแรงทั้งทางกายและทางใจ-มีการกล่าวถึงการทำร้ายร่างกายเด็ก และการทำแท้ง-มีเนื้อหา GL (Yuri)โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ หยางไท่ซานมิใช่ผู้เดียวที่หลงรักหลี่ถงฮว่า พระสนมไป๋หวังเยี่ยนเองก็รักนางเช่นกันไป๋หวังเยี่ยนทรงหลงรักหลี่ถงฮว่ามาตั้งแต่ครั้งยังทรงเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นไป๋ และยิ่งเวลาผ่านไปความรู้สึกที่ทรงมีให้หลี่ถงฮว่ายิ่งลึกซึ้งจริงอยู่ที่ความรักในแปดแคว้นนั้นไม่มีข้อจำกัดทางเพศ แต่เพราะไป๋หวังเยี่ยนประสูติเป็นราชนิกุล และกล่องพระสกุล [1] ของพระนางมีคุณประโยชน์ต่อบ้านเมือง พระวรกายของพระนางก็มิใช่ของพระนาง แต่เป็นเครื่องมือทางการทูตของแคว้นบ้านเกิดเมืองนอนได้แต่ดำริว่าคงดีกว่านี้หากทรงมิใช่องค์หญิง...คงดีกว่านี้หากทรงมิใช่เชื้อพระวงศ์ และคงดียิ่งกว่านี้ หากทรงเกิดเป็นบุรุษมิใช่สตรีสตรีสูงศักดิ์ยังมีอิสรภาพ แต่สตรีสายเลือดกษัตริย์นั้นไม่มี พวกนางเหมือนเกิดมาเพื่อดำรงสายเลือดและสิ้นชีวีเพื่อแผ่นดิน จะกระทำสิ่งใดตามใจตนไม่ได้โดยเด็ดขาด ไร้ซึ่งอิสรภาพไม่ต่างจากนกน้อยในกรงทองที่ปิดตายบุรุษ...หากเป็นบุรุษ ชีวิตของพระนางคงง่ายดายกว่ามาก ทั้งเรื่องชีวิต
เมื่อครั้งที่พระสนมไป๋หวังเยี่ยนเสด็จข้ามแคว้นมาอภิเษกสมรสกับจักรพรรดิหยางไท่ซาน เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีของแคว้นไป๋และหยางให้แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเคย ทรงมีคนผู้หนึ่งติดตามมาจากแคว้นไป๋ด้วยนางเป็นดรุณีผู้อ่อนหวานนางหนึ่ง ทั้งใบหน้าอมยิ้มสุขุม นัยน์ตากลมโตสุกใส ผมน้ำตาลเข้มจัดทรงสุภาพเรียบร้อยยาวถึงกลางหลัง และอาภรณ์สีเขียวน้ำทะเลปักดิ้นทองทับเสื้อขาวดูสะอาดตานางอาจมิใช่สตรีที่งดงามที่สุดในแปดแคว้น แต่นางคือสตรีผู้งดงามที่สุดในสายพระเนตรขององค์จักรพรรดิหยางไท่ซานนั่นคือ หลี่ถงฮว่า นางข้าหลวงผู้ติดตามพระสนมไป๋มาจากต่างแดนเชื่อว่าทรงไม่อาจรักใครได้อีกตั้งแต่พระมเหสีองค์แรกลาจากโลกไป ไม่ดำริว่าเพียงหนึ่งยิ้มสดใสที่ได้เห็นจากที่ไกลจะทำให้พระหทัยโหดเหี้ยมดุจหินผาสั่นสะท้าน ราวกับสิ้นพระทัยแล้วประสูติใหม่กับหลี่ถงฮว่า หยางไท่ซานราวกับทรงกลับไปเป็นเด็กหนุ่มแรกรักอีกครั้ง เด็กหนุ่มผู้กระทำตนไม่ถูกยามอยู่ใกล้นางในดวงใจ และเพราะเป็นเช่นนั้น ทุกครั้งที่ทรงมีโอกาสได้พบเจอหลี่ถงฮว่า พระองค์จึงทรงเลือกที่จะกระทำตนสุขุมปั้นปึ่งเคร่งขรึมไม่ทักทาย แม้ทุกครั้งที่เสด็จแยกจากนางบนทางเดินจะแอบทอดพระเนตรแผ่นห
เคยไปขอเนื้อคู่ แต่เหมือนเทพเจ้าเข้าใจสารที่ส่งไปผิดรึเปล่ารจนา คือ กรณีตัวอย่างของสถานการณ์นั้น แล้วหล่อนก็มั่นใจว่า ตัวเองน่าจะเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดด้วย เลวร้ายมาก ๆ!รจนา มัลลเวศน์ (มัน-ละ-เวด) เป็นสาวไทยเชื้อสายจีนผู้ไปขอเนื้อคู่กับศาลเจ้าชื่อดังในฮ่องกง แต่ดันพลัดตกทะเล ขณะไปปาร์ตี้งานแต่งเพื่อนบนเรือสำราญ แต่เหมือนคำขอจะเป็นจริง เพราะตื่นมาก็เจอหนุ่มหล่อเบ้าหน้าตามที่ขอเลยอุ๊ยว้าย! รจนาตกใจหน้าขึ้นสี แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมชายหนุ่มตรงหน้าจึงหน้าขึ้นสีด้วยล่ะหล่อนยกมือขึ้นป้องปาก แล้วเขาก็ทำท่าทางตามหล่อน แล้วครู่หนึ่งรจนาก็คล้ายจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ด้วยใบหน้าซีดเผือด หล่อนลองเอื้อมมือออกไปหาเขา และแน่นอนว่า เขาเองก็เอื้อมมือมาหาหล่อนแต่สัมผัสที่ควรเป็นผิวคนกลับกลายเป็นสัมผัสเย็นเฉียบของกระจกเงาเรียบลื่นจากหนังรักกลายเป็นหนังสยองขวัญในทันตา หล่อนคือเขาและเขาคือหล่อน!แล้วบ่ายนั้นในวังหลวงก็มีข่าวใหญ่ว่า องค์จักรพรรดิหยางประชวร ทรงวิงเวียนพระเศียรหมดสติในห้องพระสำอางใช้เวลาเป็นวันกว่ารจนาจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า หล่อนตกทะเลตายแล้วมาตื่นใหม่ในร่างขององค์จักรพรรดิหยางตัวประ
ราชสำนักและยุทธภพอาจแยกกัน แต่ไม่เคยแยกจากกันโดยสิ้นเชิง อันที่จริงออกจะพึ่งพาอาศัยกันเสียด้วยซ้ำ เพราะยามใดที่ประเทศชาติต้องการยอดฝีมือหรือราชสำนักขาดกำลังคน ชาวยุทธ์ก็มักจะเป็นคนกลุ่มแรกที่พวกเขาเรียกหา กลับกัน ชาวยุทธ์เองก็ได้ประโยชน์มากมายจากราชสำนัก ทั้งการสนับสนุนด้านเงินทอง โอกาสทางอาชีพการงาน และชื่อเสียงความน่าเชื่อถือ พวกเขาตั้งตัวได้เพราะมีราชสำนักหยางลู่จื้อค่อนข้างประทับพระทัยในระบบการบริหารผู้คนแบบนี้ ด้วยตำแหน่งของโอรสสวรรค์ ว่ากันตามจริงหากไม่ต้องการยุทธภพแล้วเพียงดำรัสไม่กี่คำทุกสำนักก็สูญสิ้น แต่การยุบยุทธภพให้ผลประโยชน์อะไรแก่ราชสำนัก ในเมื่อทอดพระเนตรอย่างไรมีแต่จะเสียประโยชน์หนึ่ง คือเสียแรงใจของคนหนุ่มสาว ยุทธภพเหมือนแดนฝัน เรื่องราวจากยุทธภพไม่ต่างจากหนังสือที่อ่านสนุกเยียวยาจิตใจผู้คน ซ้ำหากมีแวว มีความสามารถ ยุทธภพก็ให้โอกาสผู้คนได้มีหน้ามีตาในสังคม และหลายคนถึงขั้นได้ชุบตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่เลยก็มีสอง คือเสียกำลังคนคุณภาพที่คอยช่วยเหลือสังคม ยุทธภพคือโรงเรียนชั้นเลิศ คนของยุทธภพแม้ไม่ใช่ยอดฝีมือไปเสียทุกคน แต่แค่เข้าไปได้ก็จัดว่ามีฝีม
ความเปลี่ยนแปลงขององค์ชายเจ็ดเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ อย่างสีฉลองพระองค์ ที่ก่อนเคยมีให้ผู้คนเห็นเพียง 2 สี แต่หลังจากตื่นมาความจำเสื่อมก็กลายเป็น 7 สีที่เปลี่ยนไปทุกวันและใส่วนซ้ำทุก 7 วันจนคนในวังหลวงต่างก็เห็นตรงกันว่า องค์ชายเจ็ดวิปลาสไปเสียแล้วนาย อันวาร์ วราหะ (อายุ 26 ปี) ในชีวิตจริงจังเพียง 2 เรื่อง หนึ่งคือหนังสือที่เขาจะอ่าน และอีกหนึ่งคือ...สีเสื้อตามปกติหากไม่ได้ออกนอกบ้านไปไหน ทั้งตัวเขาก็จะมีเพียงที่คาดผมพลาสติกสีน้ำตาลเรียบ ๆ อันหนึ่งที่แอบหยิบของแม่มาใส่ โทรศัพท์มือถือ เสื้อยืดสีดำสกรีนลายเฟท/สเตย์ ไ*ท์ [1] ขนาดโอเวอร์ไซซ์และกางเกงบ็อกเซอร์ย้วย ๆ ลายดาวตัวหนึ่ง ที่ย้วยมากเสียจนต้องใช้หนังยางมามัดขอบกางเกงไว้เหมือนถุงแกง แต่วันไหนที่เขาต้องก้าวขาออกจากบ้าน วันนั้นเขาจะเลือกสีเสื้อผ้าเป็นพิเศษคล้ายการลองใส่เสื้อยืดตามสีมงคลรายวันไปสอบปลายภาคสมัยอยู่ม.6 แล้วได้คะแนนดีจะทำให้เขาเลื่อมใสศรัทธาในศาสตร์แห่งสีเสื้อนี้ขึ้นมา และหลังเหตุการณ์นั้น เขาก็เปิดโทรศัพท์ดูสีเสื้อมงคลมันทุกเช้า
Comments