ไทเกอร์นั่งเอนตัวพิงเก้าอี้หนังแท้ สีดำเข้ากับบุคลิกดุดันของเขา แสงไฟสลัวทำให้รอยสักใต้ปลายแขนเสื้อดูน่ากลัวกว่าปกติ สายตาคมกริบดั่งเหยี่ยวไล่ไถ่ตัวเลขบนกระดาษบัญชี รายได้ของกาสิโนประจำเดือน ไม่มีอะไรหลุดจากสายตาเขาได้
ติ๊ง... ติ๊ง...
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแผ่วเบา หน้าจอส่องแสงวูบวาบ แต่เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองปล่อยให้เสียงนั้นดังไปอย่างน่ารำคาญ
“จะโทรอะไรนักหนา” เขาสบถเบาๆ ในลำคอ ขณะยังจดจ่ออยู่กับตัวเลขตรงหน้า ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดอย่างนอบน้อม ร่างสูงของมือขวาคนสนิทของไทเกอร์ ก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“นายน้อยครับ...” เขาเดินตรงเข้ามาแล้วยื่นโทรศัพท์อีกเครื่องให้ แต่ไทเกอร์ไม่รับปรายตามอง
“บอกนายใหญ่ไปว่าฉันไม่ว่าง!” เจ้าพ่อมาเฟียถอนหายใจหนักๆ ราวกับถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ขัดใจ
“แต่...”
“ไทเกอร์นี่แม่เอง! ไม่ใช่ป๊า” เสียงทรงอำนาจดังขึ้น ผู้หญิงที่เขากลัวที่สุดคือแม่
“ครับคุณแม่ ผมคิดถึงที่สุดเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นอกจากแม่ก็มีน้องสาวที่เขารักมากที่สุด รองลงมาก็เป็นพ่อที่ไม่ค่อยถูกกับเขาเท่าไรนัก
“ไทเกอร์กลับบ้านเดี๋ยวนี้เป็นคำสั่ง”
“ครับผมจะกลับ...” เขายังพูดไม่ทันจบแม่ก็รีบพูดขึ้นมาเสียก่อน
“กลับตอนนี้!!” นี่เป็นคำสั่งสูงสุดที่เขาต้องทำและต้องทำเดี๋ยวนั้น ไม่มีใครขัดใจนายหญิงได้สักคนแม่แต่ไลอ้อนที่แพ้ราบคาบ
“ไม่เกิน 1 ชั่วโมง” เขาปิดแฟ้มเอกสารยืนขึ้นเต็มความสูง ใบหน้ามีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าแม่จะพูดเรื่องอะไร
“ผมเตรียมรถไว้รอแล้วครับ” พายุรู้ใจเจ้านาย
“หึ แค่ผู้หญิงคนเดียวจะอะไรนักหนา” เขาเดินออกไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา
พรพระพายเดินลงบันไดด้วยฝีเท้าแผ่วเบา ดวงตาคู่งามคล้ำลึก ใบหน้าอิดโรยจนแม่บ้านยังแอบมองด้วยความสงสาร เธอแทบไม่ได้นอนเลยตลอดคืนที่ผ่านมา เพราะคำพูดของพ่อกับแม่ยังดังก้องอยู่ในหัว
เธอกำชายเสื้อแน่นหัวใจปวดหนึบ แต่ขากลับก้าวเดินต่ออย่างนิ่งเฉย แม่ของเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลไม่ทันได้เอ่ยถามอะไร
“พายจะแต่งงานค่ะ...” เสียงเธอแผ่วเบาแต่ชัดเจนคนเป็นแม่ถึงกับชะงัก มองหน้าลูกสาวด้วยความตกตะลึง
“พายลูกพูดจริงเหรอ?” พัทธ์ธรรู้สึกอับอายที่ต้องให้ลูกสาวเพียงคนเดียวช่วยแก้ปัญหา
“ถือว่าเป็นการใช้หนี้ และช่วยทุกคนให้พ้นวิกฤต” เพราะถ้าไม่ใช่เธอใครจะทำ ถ้าไม่ใช่ทางนี้ครอบครัวจะอยู่กันอย่างไร
แม้ต้องแลกด้วยอิสระแม้ต้องผูกชีวิตไว้กับชายแปลกหน้าที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยม เธอก็จะยอมแม้จะต้องจมอยู่ในขุมนรกที่ชื่อว่าการแต่งงานตลอดชีวิตก็ตาม
รถซีดานสีดำแล่นเข้ามาจอดในคฤหาสน์แลงคาสเตอร์ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย
“คุณแม่อยู่ไหน” เขาถามเสียงนิ่งกับลูกน้องที่เข้ามาต้อนรับ
“ที่ห้องนั่งเล่นครับ”
ชายหนุ่มเดินตรงไป ไม่แสดงท่าทีลังเลแม้แต่น้อย ประตูไม้สักถูกเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่กลางห้องอย่างสง่างาม
“คิดถึงแม่อัญญาที่สุดเลยครับ” เขาโผล่เข้ากอดแม่ซึ่งเป็นแบบนี้ประจำ จนคนในบ้านเห็นภาพนี้จนชินตา
“คิดถึงแต่ไม่ยอมกลับบ้านเลยนะไปติดสาวที่ไหนมา” อัญญาลูบศีรษะลูกชายด้วยความเอ็นดู แม้ลูกชายจะอายุเข้าเลขสามแล้ว แต่ยังเป็นเด็กในสายตาคนเป็นแม่เสมอ
“คิดถึงแต่เมียป๊า ไม่คิดถึงป๊าเหรอไอ้เสือ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น สายตาจ้องมองลูกชาย
“ได้ยินเสียงป๊าจนผมหลอนขึ้นสมองแล้ว”
“ไอ้นี่นิสัยตั้งแต่เล็กจนโตไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” มันเถียงเขาทุกคำ ตอนเกิดมาก็ไม่ชอบให้เขาอยู่ใกล้
“มีเรื่องอะไร เรียกผมมาถึงนี่” ไทเกอร์เอ่ยเรียบๆ นั่งลงตรงข้ามพ่อโดยไม่ทันปลดกระดุมสูท
ไลอ้อนแต่หยิบซองเอกสารบนโต๊ะขึ้นมา แล้วดึงภาพถ่ายหนึ่งใบยื่นให้ ไทเกอร์รับมาอย่างเสียไม่ได้ สายตาเย็นชากวาดมองเพียงครู่ แล้วคิ้วเข้มก็กระตุกเล็กน้อย
หญิงสาวในภาพดวงตากลมโตผิวขาวซีด ใบหน้าสวยแบบไม่ประดิษฐ์ และเขาจำเธอได้พรพระพายเสียงเข้มของผู้เป็นพ่อดังขึ้นขัดความเงียบ
“น้องคือเจ้าสาวของลูก หนูพายลูกสาวของเพื่อนป๊าเอง น้องน่ารักใช่ไหมลูก”
ห้องทั้งห้องเหมือนเงียบลงชั่วขณะ ก่อนที่ไทเกอร์จะหัวเราะในลำคออย่างไม่เชื่อหู
“ล้อเล่นเหรอครับอยู่จะให้ผมแต่งงานกับใครก็ไม่รู้” น้ำเสียงเขาเย็นยะเยือก ดวงตาจ้องมองภาพถ่ายพร้อมหัวเราะเบาๆ
“นี่ไม่ใช่การขอความเห็นนี่คือคำสั่งไทเกอร์” ไลอ้อนเอนหลังพิงพนัก เก็บมือไขว้ไว้บนหน้าตัก
“ผมไม่เคยอยู่ใต้คำสั่งใครแม้แต่ป๊า” แววตาของไทเกอร์คมขึ้นทันที
“ครั้งนี้ลูกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
ไทเกอร์กัดฟันแน่น มองภาพในมืออีกครั้งพรพระพาย ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยกล้าปฏิเสธเขา และตอนนี้จะกลายมาเป็นภรรยาโดยไม่เต็มใจของเขาเองดวงตาเขามืดดำราวกับพายุที่กำลังตั้งเค้า
“ไทเกอร์ฟังแม่นะตอนนี้หนูพายเขาน่าส่งสาร อีกอย่างเราก็มีสัญญาหมั้นหมายกัน” อัญญาไม่อยากบังคับลูกชายเพราะรู้นิสัยของลูกตัวเองดี
“หมั้นหมาย ใครรับหมั้นก็ไปแต่งงานกับคนนั้นสิครับ ป๊ารับหมั้นใช่มั้ย นั้นแต่งงานแทนผมเลย”
“ไอ้เสือ! น้องอายุเพิ่งจะเข้าเลขสองไม่กี่ปีเองฉันไม่นิยมชอบเด็ก” ไลอ้อนสวนขึ้นทันควัน
“ตอนนั้นแม่ก็เด็กพ่อยังเอาจนท้องเลย”
“แกยอกย้อนฉันเหรอ”
“พอทั้งสองคนเลย!” อัญญาเข้ามาห้ามก่อนที่เรื่องจะบานปลาย สองพ่อลูกเขาไม่ยอมกันอยู่แล้ว
“ไทเกอร์ลูกยังมีเวลาคิดอีก ถ้าเจอน้องจะรู้ว่าน้องสวยมาก”
“ผู้หญิงหากินด้วยการขายร่างกายนั่นเหรอครับ”
“น้องเป็นนางแบบลูก”
“มันต่างกันตรงไหนครับ โชว์เนื้อตัวให้ผู้ชายดูครอบครัวเขาก็คนมีเงินนี่มันการขายลูกกินชัดๆ” เขาพูดออกมาด้วยอารมณ์คุกรุ่น เสียงคำรามต่ำลอดผ่านไรฟันของไทเกอร์ ดวงตาเขาวาวโรจน์ด้วยความโกรธเกรี้ยว และลุกขึ้นเต็มความสูงความเอาแต่ใจปรากฏชัดเจน
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือหนักของไลอ้อนฟาดลงที่ใบหน้าลูกชายอย่างไม่ลังเล ห้องทั้งห้องเงียบลงทันที ร่างสูงของไทเกอร์เซไปนิด ก่อนจะหันกลับมาช้าๆ ดวงตาเย็นจัดแทบจะแช่แข็งคนทั้งห้องได้
“พี่ไลอ้อนทำไมถึงตบลูกแบบนั้น” อัญญารีบเข้าไปห้าม เธอเคยสั่งไม่ให้เขาตีลูกเพราะตอนสมัยที่ไทเกอร์เรียนมัธยมก็เคยมีปากเสียงกับไลอ้อน ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน
“อย่าให้ฉันได้ยินคำนี้จากปากแกอีกไทเกอร์” เสียงของหัวหน้าตระกูลดุดันและเฉียบขาด
“เลี้ยงลูกเอาแต่ใจแบบนี้ไงมันถึงพูดไม่ให้เกียรติคนอื่น” ไลอ้อนชี้หน้าลูกชาย
ไทเกอร์หายใจแรงสีหน้าตึงเครียด มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น พรพระพายทำให้เขาดูแย่ในสายตาคนอื่น
“ผมไม่แต่ง!” เขาตอบกลับเสียงต่ำอย่างหนักแน่น
“ฉันจะสั่งให้คนกำจัดไอ้พยัคฆ์ทิ้งซะ! อย่าคิดจะสู้กับฉัน” เขายื่นคำขาด
“พี่ไลอ้อน” อัญญาเริ่มเสียงแข็งใส่สามี
“นี่เป็นเรื่องของลูกผู้ชายนะเมียจ๋า” เขาพูดเสียงอ่อนโยน
“อย่าทำอะไรไอ้พยัคฆ์นะ”
พยัคฆ์คือสิงโตเพศผู้ที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่มันยังไม่หย่านมแม่เขากับมันผูกพันกันมาก เพราะแม่ไอ้พยัคฆ์โดนกลุ่มคนร้ายไล่ล่าหวังจะเอาลูกสิงโตมาประมูล และเขาเห็นเหตุการณ์จึงช่วยไว้ได้ทัน เขาเสียเงินมหาศาลเพื่อนำมันกลับประเทศไทยด้วย ตอนนี้สามปีแล้วที่อยู่ด้วยกันมา
“สามวันไปตัดสินใจซะ!”
ไลอ้อนลากอัญญาออกมาปล่อยให้ลูกตัดสินใจในสิ่งที่พวกเขาขอ เขามั่นใจว่ายังไงไทเกอร์ต้องรักพรพระพายแน่นอน เขามองคนไม่ผิด
เสียงประตูเซฟเฮาส์เปิดกระแทกอย่างรุนแรง ร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มก้าวเข้ามาด้วยอารมณ์เดือดดาล ดวงตาคมกริบคล้ายสัตว์ป่าที่กำลังขาดสติ
เพล้ง!!
แก้ววิสกี้ในมือถูกเขวี้ยงลงพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง เศษแก้วกระเด็นกระดอนบนพื้นหินเย็น
“พรพระพาย อะไรก็มีแต่ชื่อนี้!” เขากัดฟันแน่นเอ่ยชื่อของผู้หญิงคนนั้นออกมาอย่างเกลียดชัง เสียงต่ำของเขากระชากออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
“อยากเล่นกับไฟใช่ไหม งั้นฉันจะแผดเผาเธอให้ตายทั้งเป็น!”
เสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนดังขึ้นที่ด้านหลัง แจ็คสันมือขวาอีกคนของไทเกอร์เดินเข้ามาโดยไม่พูดมาก เขากดรีโมตเปิดกรงเหล็กหนักด้านในเซฟเฮาส์
เสียงขูดกรงดังขึ้นเบาๆ ก่อนร่างมหึมาจะก้าวออกมาอย่างสง่างาม สิงโตเพศผู้ร่างใหญ่ขนคอสีน้ำตาลทองพองฟู ดวงตาสีอำพันจ้องเขม็งแต่เชื่องเฉพาะกับเจ้าของมันเพียงคนเดียว
ไทเกอร์เดินเข้าไปหาเจ้าสิงโตราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งหยิบเนื้อสดชิ้นใหญ่โยนให้ พยัคฆ์ขบเนื้อในอุ้งเท้าท่ามกลางความเงียบ
ไทเกอร์ทรุดตัวลงนั่งข้างกรงลูบขนหนาหนักของมันเบาๆ ขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“มีแต่แกที่ไม่เคยทรยศฉัน” เขาพึมพำ
เสียงคำรามต่ำของพยัคฆ์ดังขึ้นราวกับเข้าใจ มันมองเจ้านายด้วยแววตาเดียวกับไทเกอร์เขาหลับตาลง แต่ภายในสมองกลับมีแต่ใบหน้าเธอคนนั้น
“เจ้านายของผมอยากทำความรู้จักกับคุณผู้หญิงครับ”
“ไปบอกเขาค่ะว่าฉันมาทำงานไม่ได้รักความสบายถึงต้องขายตัว ครอบครัวก็มีเงินไม่จำเป็นต้องขายร่างกายให้ใคร!”
เขาเปิดเปลือกตาขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ ใครจะไปเชื่อว่าเขาเคยหลอกล่อเด็กอายุสิบแปด แต่เธอไม่เล่นด้วยเขาไม่แน่ใจว่าพรพระพายจะจำเขาได้หรือไม่
ร้านอาหารหรูที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม วันนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองครอบครัวนัดเจอกัน แต่เสียดายที่พรพระพายติดงานถ่ายแบบเลยมาด้วยไม่ได้ ทุกคนกำลังนั่งรอไทเกอร์อย่างใจจดใจจ่อ “เดี๋ยวเอวาโทรตามพี่ไทเกอร์เองค่ะ” เอวารินทร์ลุกไปจากโต๊ะอาหาร รู้ว่าพี่ชายตั้งใจมาช้า ที่ชั้นบนสุดของกาสิโนสุดหรู กลางห้องทำงานที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิดและเอกสารกองพะเนิน ไทเกอร์กำลังนั่งตรวจสัญญาการเงินด้วยสายตาเย็นเฉียบ สองมือถือแฟ้มและปากกาดูตัวเลขอย่างแม่นยำ “ว่ายังไง...” เขายังพูดไม่ทันจบ “พี่ไทเกอร์เมื่อไหร่จะมาคะ ผู้ใหญ่รอนานแล้ว” “รอไม่ไหวก็ให้เขากลับไปยังไงก็ต้องแต่งอยู่ดี” จะอะไรกันนักกันหนาแค่เรื่องแต่งงาน “วันนี้น้องพายสวยมากเลยนะคะถ้าไม่มาเห็นจะไม่มีบุญตาแน่” เอวารินทร์วางสายทันที หมั่นไส้พี่ชายตัวเองทีกับผู้หญิงร้ายๆ กลับเดินเข้าหา “นายหญิงบอกว่าถ้าไม่ไปตอนนี้จะให้นายใหญ่จัดการเจ้าพยัคฆ์ขั้นเด็ดขาด” พายุเข้ามารายงานไทเกอร์เงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาคมดุสบตากับคนพูดนิ่งสนิทเขาไม่ได้พูดอะไร แต่เพียงเสี้ยววินาทีถัดมา เขาก็วางแฟ้มในมือลงบ
ไทเกอร์เดินตามพรพระพายเข้ามาในร้าน สายตาของพนักงานต่างพากันจ้องมองพรพระพาย บางคนก็เดินเข้ามาขอถ่ายรูป สิ่งที่เขากลัวคือจะมีข่าวของเขาหลุดออกไป “หากว่ามีข่าวของผมหลุดออกไปร้านของคุณจะเหลือไว้แต่ชื่อ!” เขาข่มขู่พร้อมลากหญิงสาวเข้าไปในห้องลองชุด ซึ่งเขาไม่คิดจะเลือกชุดด้วยซ้ำ “ชุดนี้หล่อดีนะครับ” พายุบอกเจ้านายที่นั่งทำหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไร “พวกนายเลือกมาสิว่าอันไหนดี” เขาเปิดแท็บเล็ตนั่งอ่านงาน โดยไม่ยอมหันมองชุดที่ลูกเลือก “ผมว่านายน้อยมาลองใส่ดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าเหมาะมั้ย” “มึงว่ากูไม่หล่อเหรอ?” เขาใส่อะไรก็เหมาะทั้งนั้น “เปล่าครับผมไม่ได้หมายถึงแบบนี้” เขาหมายถึงว่าชุดจะเหมาะกับชุดของเจ้าสาวหรือไม่ “เอาสีดำนั่นแหละเลือกๆ มา” เขาไม่สนใจสักพักประตูอีกห้องก็เปิด พร้อมกับร่างคนตัวเล็กกว่าเขาเดินออกมาในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาด พรพระพายก้าวออกมาช้าๆ ด้วยท่าทีสง่างาม ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ แต่กลับทำให้เธอดูโดดเด่นราวกับเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยายดวงตาของไทเกอร์หยุดอยู่ตรงหน้าเธอทันทีแน่นิ่ง ไม่มีแม้แต่การ
คฤหาสน์หลังใหญ่เต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้สดที่ประดับไว้รอบบ้านอย่างประณีต พรพระพายก้าวลงจากรถด้วยหัวใจที่เต้นแรง ไม่ใช่เพราะความร้อนจากแดด แต่เป็นเพราะความรู้สึกประหม่าเมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีจะต้องเผชิญหน้ากับแม่ของว่าที่เจ้าบ่าวหญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกรวบรวมความกล้า ก่อนเดินเข้าไปในห้องรับรองของบ้านหลังนั้นอัญญากำลังนั่งจิบชารออยู่บนโซฟาไม้สัก แววตาเฉียบคมแต่นิ่งสงบพรพระพายเดินเข้าไปหา ก่อนจะยกมือไหว้อย่างสุภาพ“สวัสดีค่ะคุณป้าพายขอโทษด้วยนะคะที่คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้มาด้วย” พรพระพายส่งยิ้มให้แม่ของเขา ซึ่งแววตาของอีกฝ่ายนั้นดูอ่อนโยนมาก ซึ่งแตกต่างกับไทเกอร์อัญญารับไหว้ด้วยรอยยิ้มบางๆ ใบหน้าหญิงสูงวัยดูเคร่งขรึมในตอนแรก แต่แววตาไม่ได้แฝงความรังเกียจแม้แต่น้อย“ไม่เป็นไรลูกเรียกแม่ว่าคุณแม่ก็ได้ ถ้าไม่รังเกียจ”“ค่ะคุณแม่” พรพระพายยิ้มเก้อ ๆ นิดหน่อย แต่ก็พยักหน้าเสียงฝีเท้าเล็กๆ ดังมาจากด้านหลัง ก่อนหญิงสาววัยรุ่นร่างโปร่งจะวิ่งเข้ามาแล้วโผเข้ากอดแม่อัญญาอย่างสนิทสนม“ขอโทษค่ะเอวาไปเปลี่ยนเสื้อช้านิดหน่อย พี่เอวาค่ะยินดีที่ได้รู้จักว่าที่พี่สะใภ้”พรพระพายหันไปมองยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า
สตูดิโอเต็มไปด้วยทีมงานที่วิ่งวุ่นตลอดทั้งเช้า พรพระพายนั่งอยู่หน้ากระจกขนาดใหญ่ เธอสวมเพียงเสื้อคลุมผ้าซาตินบางเบาชุดจริงอยู่ข้างใน ชุดถ่ายโฆษณาโลชั่นที่เผยผิวเนียนเปลือยช่วงไหล่และแผ่นหลังอย่างเย้ายวน“พร้อมนะ” เสียงตากล้องเอ่ยขึ้นเมื่อทุกอย่างพร้อม นางแบบสาวยิ้มบาง ลุกขึ้นจัดเสื้อคลุมให้เผยร่องไหล่พอดีแล้วก้าวเข้าไปกลางฉากสีขาวเธอเริ่มโพสต์ท่าลูบไล้โลชั่นลงบนผิวอย่างอ่อนช้อย นิ้วเรียวยาวแตะเนื้อครีมสีขาวมุกก่อนจะแตะลงบนต้นขาเนียนแน่น แล้วลากขึ้นถึงช่วงสะโพก ตากล้องกดชัตเตอร์รัว ใบหน้าพรพระพายยิ้มบาง ดวงตาออดอ้อนส่งให้กล้องอย่างมืออาชีพ แต่กลับไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ กำลังยืนมองอยู่หลังม่านด้านหลังทีมงานไทเกอร์ยืนกอดอกดวงตาดุดันจ้องไปที่หญิงสาวคนเดียวในฉาก ดวงหน้าเข้มเครียดขณะมองพรพระพายยิ้มหวาน ลูบไล้เนื้อโลชั่นลงบนต้นแขนเนียนนุ่มแล้วหันไปยิ้มให้ตากล้องที่ส่งเสียงชมไม่ขาดปาก“สุดยอดเลยน้องพายสวยมาก เซ็กซี่มาก!”คำพูดนั้นทำให้เขากัดกรามแน่น หัวใจเขาเต้นแรง ไม่ใช่เพราะความงามของเธอ แต่เพราะความรู้สึกอยากเป็นคนเดียวที่ได้เห็นแบบนี้ผู้ชายทั้งหมดในห้องนี้มองเธอเหมื
ไทเกอร์นั่งเอนตัวพิงเก้าอี้หนังแท้ สีดำเข้ากับบุคลิกดุดันของเขา แสงไฟสลัวทำให้รอยสักใต้ปลายแขนเสื้อดูน่ากลัวกว่าปกติ สายตาคมกริบดั่งเหยี่ยวไล่ไถ่ตัวเลขบนกระดาษบัญชี รายได้ของกาสิโนประจำเดือน ไม่มีอะไรหลุดจากสายตาเขาได้ติ๊ง... ติ๊ง...เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแผ่วเบา หน้าจอส่องแสงวูบวาบ แต่เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองปล่อยให้เสียงนั้นดังไปอย่างน่ารำคาญ“จะโทรอะไรนักหนา” เขาสบถเบาๆ ในลำคอ ขณะยังจดจ่ออยู่กับตัวเลขตรงหน้า ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดอย่างนอบน้อม ร่างสูงของมือขวาคนสนิทของไทเกอร์ ก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“นายน้อยครับ...” เขาเดินตรงเข้ามาแล้วยื่นโทรศัพท์อีกเครื่องให้ แต่ไทเกอร์ไม่รับปรายตามอง“บอกนายใหญ่ไปว่าฉันไม่ว่าง!” เจ้าพ่อมาเฟียถอนหายใจหนักๆ ราวกับถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ขัดใจ“แต่...”“ไทเกอร์นี่แม่เอง! ไม่ใช่ป๊า” เสียงทรงอำนาจดังขึ้น ผู้หญิงที่เขากลัวที่สุดคือแม่“ครับคุณแม่ ผมคิดถึงที่สุดเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นอกจากแม่ก็มีน้องสาวที่เขารักมากที่สุด รองลงมาก็เป็นพ่อที่ไม่ค่อยถูกกับเขาเท่าไรนัก“ไทเกอร์กลับบ้านเดี๋ยวนี้เป็นคำสั่ง”“ครับผมจะกลับ...” เขายังพูดไม
ห้องใต้ดินลับในกาสิโนหรูหราใจกลางเมือง ถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัดและแสงสลัวจากหลอดไฟเพียงดวงเดียวที่แกว่งไกวเหนือเพดาน สายโซ่ที่ถูกพันไว้แน่นหนาบนข้อมือเปื้อนเลือดของชายหนุ่มคนหนึ่งส่งเสียงกระทบพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างหวาดกลัว เหงื่อกาฬไหลอาบขมับทั้งที่อากาศเย็นยะเยือกเสียงรองเท้าหนังราคาแพงก้าวลงบันไดอย่างหนักแน่นเป็นจังหวะทีละขั้น ราวกับเสียงของยมทูตที่กำลังจะเดินเข้ามาเอาวิญญาณเงาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทดำสนิทปรากฏขึ้นจากเงามืด ผิวเข้มดุดัน ใบหน้าคมสันไร้รอยยิ้ม ดวงตาคมกริบเปรียบเหมือนเสือที่พร้อมขย้ำทุกอย่างที่ขวางทางเขาคือ ไทเกอร์ หรือที่คนในวงการใต้ดินเรียกเขาว่า เสือดำแห่งกรุง มาเฟียผู้ควบคุมอำนาจเหนือทุกอย่างตั้งแต่กาสิโนสนามแข่งรถ ไปจนถึงตลาดค้าอาวุธระดับโลกแต่สิ่งเดียวที่ไทเกอร์ไม่แตะต้องคือยาเสพติดและการค้ามนุษย์ เพราะเขามีน้องสาวและแม่ที่เขารักที่สุด เขาทำใจไม่ได้หากจะเห็นผู้หญิงถูกย่ำยีแบบไม่เต็มใจ“ขอร้องผมผิดไปแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ!” เสียงชายที่นั่งกองอยู่บนพื้นร้องโหยหวน ร่างกายเขาสั่นสะท้านทั้งจากความหนาวและความหวาดกลัวไทเกอร์หยุดยืนตรงหน้าชายคนน