เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ในวันเกิดปีที่ 25 ของเธอ เธอนัดทานข้าวกับเขา คนรักของเธอที่คบกันมา 7 ปี เมื่อเลิกงานก็รีบกลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเดินขึ้นบ้านที่เงียบและมืดสนิทเพราะพ่อกับแม่เลี้ยงของเธอไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ทันทีที่เดินผ่านห้องของพี่สาวต่างสายเลือด ประตูที่เปิดอ้าเสียกว้างทำให้เธอถึงกับตาเบิกค้าง เมื่อมองเข้าไปภายในห้องที่เปิดไฟสว่างจ้า หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังโยกขย่มกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
อัณณายกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ กำลังจะหันหลังหนีจากภาพอุจาดตาตรงหน้า แต่รอยสักบนแผ่นหลังของชายหนุ่มคนนั้นมันช่างคุ้นตาเหลือเกิน
"พี่ตุลย์"
เสียงร้องด้วยความตกใจของเธอ ทำให้หนุ่มสาวที่กำลังโยกขย่มกันอย่างเมามันตกใจผละออกจากกัน ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ในขณะที่พี่สาวต่างสายเลือดหยิบผ้าห่มขึ้นมาปิดบังร่างกาย ลุกขึ้นนั่งที่กลางเตียงแล้วส่งสายตาเย้ยหยันมาทางเธอ
ชายหนุ่มคนนั้น เมื่อใส่เสื้อผ้าเสร็จก็รีบตรงมาจับแขนทั้งสองข้างของเธอและละล่ำละลักพูดคำแก้ตัว
"อัณณ์ พี่ขอโทษ มันไม่ใช่แบบนั้น ฟังพี่ก่อนนะครับ"
เธอดึงแขนทั้งสองข้างของเธอออกจากมือของเขา ก่อนถอยหลังหนีเขาไปสองก้าว แต่เขาก็ตามมาดึงมือเธอเข้าไปกุมไว้อยู่ดี
"อัณณ์ ฟังพี่ก่อน นะครับ พี่อธิบายได้"
"อธิบายหรอคะ พี่สองคนกำลังทำอะไรกันอยู่ อัณณ์เห็นกับตา พี่ยังต้องอธิบายอะไรอีก มันกี่ครั้งแล้ว พี่ทำแบบนี้ลับหลังอัณณ์มากี่ครั้งแล้ว"
หญิงสาวพยายามสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขา น้ำตาไหลอาบแก้ม เจ็บปวดในหัวใจเหลือเกิน พี่ชายข้างบ้านที่แสนดี ที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วพัฒนาความสัมพันธ์มาเป็นคนรัก เขาไม่เคยนอกใจ ไม่เคยเจ้าชู้ เป็นผู้ใหญ่และให้ความอบอุ่นหัวใจแก่เธอเสมอ แต่ตอนนี้ เขากลับเป็นคนที่ทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น
"อัณณ์ อัณณ์ไม่ใช่นะ พี่แค่พลาด อัณณ์ พี่ขอโอกาส พี่จะไม่ทำให้อัณณ์เสียใจอีก ขอร้อง"
"หึ พลาดหรอ พี่ขึ้นมานอนกับเขาถึงที่ห้อง พี่บอกว่าพี่พลาดหรอ พอกันที พี่อยากได้ผู้ชายของอัณณ์มากใช่ไหม พี่มินนี่ พี่เอาไปเลย อยากได้อะไรของอัณณ์พี่เอาไปให้หมด แต่อย่าให้ถึงทีของอัณณ์บ้างนะ"
เธอสะบัดมือออกจากเขาอย่างแรง แล้ววิ่งกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง เธอขังตัวไว้ในนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืน ไม่ยอมออกมาเจอหน้าใคร สุดท้ายก็ตัดสินใจจะไปจากที่นี่ ที่ที่มีแต่คนเกลียดเธอ
สองวันต่อมา พ่อกับแม่เลี้ยงของเธอก็กลับมาจากท่องเที่ยว เธอเลยจำเป็นต้องออกจากห้องมาร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยความจำใจ เธอไม่อยากเห็นหน้าของพี่สาวต่างสายเลือดของเธอเลยจริงๆ
"มินนี่ ละครเรื่องใหม่จะลงจอเมื่อไหร่ลูก"
มนสิชา มารดาของ มินตรา หรือมินนี่ นางเอกดาวรุ่งพุ่งแรงที่ตอนนี้มีกระแสเป็นคู่จิ้นคนใหม่ของ ปุณณัตถ์ เอ่ยถามลูกสาวสุดที่รัก เธอมักคอยเปรียบเทียบและพยายามข่มอัณณาให้ด้อยกว่าลูกสาวของเธอเสมอในทุกเรื่อง
"เกือบๆ เดือนได้มั้งคะแม่ ตอนนี้ก็เร่งถ่ายกัน ใกล้ปิดกล้องแล้วค่ะ"
"แล้วลูกกับโปรด ตกลงว่าคบกันตามข่าวหรือเปล่า แม่สนับสนุนนะ บ้านเขารวยมาก ทำธุรกิจหมื่นล้าน วันหนึ่งพอไม่ได้ทำงานในวงการก็ต้องไปนั่งแท่นบริหารอยู่ดี โก้จะตาย ทั้งหล่อทั้งรวยมหาศาล"
"มินนี่ก็อยากคบนะคะ แต่พี่โปรดเขาไม่ชอบผูกมัด แล้วตอนนี้ก็กลัวจะเสียคะแนนนิยมด้วยค่ะ คนกำลังรุ่ง เลยไม่อยากมีแฟน"
"ไม่ได้สิ ลูกจะยอมเป็นคู่นอนให้เขาเฉยๆไม่ได้นะ แม่ไม่ยอม"
"คู่นอนอะไรกันคะแม่ เราแค่ยังไม่เปิดตัวเฉยๆ ยังไงพี่โปรดก็หนีมินนี่คนนี้ไม่พ้นหรอกค่ะ เพราะคนอย่างมินนี่ อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้"
ดวงตาที่ตกแต่งมาอย่างดีมองไปที่น้องสาวต่างสายเลือดอย่างเย้ยหยัน ตั้งแต่เล็กจนโต เธอคนนี้ต้องพยายามแย่งทุกอย่างมาจากอัณณา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันมีอะไรดี ถึงได้ทุกอย่างไปอย่างง่ายๆ เธอเองต้องพยายามแทบตายในทุกๆเรื่องกว่าจะได้มา ชีวิตปากกัดตีนถีบจนแม่ได้มาแต่งงานอยู่กินกับพ่อของมัน เธอได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ มีทุกอย่างพร้อม แต่เธอก็ยังแพ้มันในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการเรียน หรือแม้แต่เรื่องผู้ชายที่แสนจะเพอร์เฟคข้างบ้าน ที่เธอแอบรักเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับเธอ ไม่เคยชายตาแลเธอเลย แม้ว่าเธอจะสวยกว่านังนั่นมากมายขนาดไหน
หลายปีมานี่ เธอพยายามแทบตายให้เขาหันมามองที่เธอบ้าง แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้ง จนวันหนึ่งที่คงจะทนความเล่นตัวของนังนั่นไม่ได้อีกต่อไป ถึงตกหลุมพรางและเคลิบเคลิ้มไปกับเธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงเรียกร้องให้เขารับผิดชอบ แต่ตอนนี้ เธอมีผู้ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งร่ำรวย และสุดแสนจะเพอร์เฟคอย่างปุณณัตถ์อยู่แล้ว แม้เขาจะไม่ยอมคบหากับเธอออกหน้าทั้งๆที่ก็แอบลักลอบมีความสัมพันธ์กันมาหลายครั้งแล้วก็ตาม
ที่เธอทำไปทุกอย่างก็แค่เพื่อความสะใจเล็กๆน้อยๆ เพราะหมั่นไส้และอิจฉาชีวิตลูกคุณหนูของนังอัณณา อยากให้มันสูญเสียผู้ชายที่มันรักที่สุด แค่ขำๆ สนุกๆ และมันก็สนุกมากจริงๆที่ได้เห็นน้ำตาของนังเด็กนั่น
อัณณามองสบตากับพี่สาวต่างสายเลือดอยู่นาน มือน้อยกำช้อนในมือแน่น ไม่รู้ว่าเธอคนนี้เกลียดอะไรเธอหนักหนา ถึงได้พยายามแย่งทุกอย่างไปจากเธอตั้งแต่เด็กแล้ว ทุกครั้ง เธอไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจ แต่ครั้งนี้มันเกินไป
อยากนอนกับผู้ชายของเธอมากขนาดนี้เลยหรอ จะเป็นยังไงนะ ถ้าคนอย่างมินนี่รู้ว่าคนที่เธอหมายปอง มานอนกับเธอ น้องสาวที่เกลียดแสนเกลียดคนนี้ จะเป็นยังไงถ้ารู้ว่าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกัน
"พ่อคะ อัณณ์ขอย้ายไปอยู่ที่คอนโดนะคะ อยู่ที่นี่อัณณ์เดินทางไม่สะดวกค่ะ งานหนักขึ้นทุกวัน อัณณ์เหนื่อย"
เธอตัดสินใจเอ่ยขอพ่อของเธอไปอยู่ที่คอนโดกลางเมืองที่เป็นมรดกของแม่ของเธอ เพราะไม่อยากจะอยู่ร่วมบ้านกับแม่ลูกคู่นี่อีกต่อไปแล้ว
"ห้องนั้นฉันให้เพื่อนฉันไปอยู่แล้ว"
มินตราเอ่ยสวนกลับมา เธอเพิ่งจะให้ดาราหนุ่มรุ่นน้องที่เข้าวงการมาไล่เลี่ยกับเธอมาอยู่ และเธอก็แวะไปนอนกลับเขาทุกครั้งที่เธอเหงา
"พี่ถือสิทธิ์อะไรเอาคนของพี่ไปอยู่ห้องอัณณ์"
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอสงบปากสงบคำ แต่เขาก็ไม่เคยจะคิดได้และทำดีกับเธอบ้างเลย ต่อไปนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิม
"ทำไม แม่ฉันก็เป็นเมียคุณลุง มีทะเบียนสมรส ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์ในสมบัติพวกนั้น"
"แต่ห้องนั้นเป็นของอัณณ์ เป็นมรดกของแม่ และมันเป็นชื่อของอัณณ์"
มินตราหันมองหน้ากับมารดาตัวเอง สิ่งที่นั่งนี่พูดมันเป็นเรื่องจริงหรอกหรือ ไหนแม่ว่าห้องนั่นมันเป็นสมบัติของคุณลุงไง
"คุณคะ"
"ห้องนั่นเป็นมรดกของแม่ยัยอัณณ์จริงๆ อัณณ์อยากจะไปอยู่คนเดียวจริงๆหรือลูก"
บิดาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ลูกสาวของเขาจะโตแล้ว แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ แต่ถ้าลูกสาวยังอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็คงมีเรื่องอึดอัดใจเหมือนเดิม
"ค่ะพ่อ"
"งั้นมินนี่ก็ให้เพื่อนย้ายออกเถอะนะ"
"คุณลุง"
"เอาตามนี้แหละ เจ้าของห้องตัวจริงเขาจะไปอยู่นี่นะ"
หลังจากนั้นอีกเป็นอาทิตย์กว่าที่คนของมินตราจะย้ายออก เธอสั่งทำความสะอาดครั้งใหญ่ ตกแต่งภายในเพิ่งอีกเล็กน้อย จึงค่อยๆขนของทยอยเข้าไปอยู่ และวันนี้หลังจากที่ไปทำอะไรสะใจๆแบบไร้สติมา ก็กลับมาเก็บของที่เหลือที่บ้าน ก็ดันได้เจอกับคนที่เธอพยายามหลบหน้ามาตลอดเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
"อัณณ์ จะไปไหน"
ตุลย์เอ่ยถามเธออีกครั้งเมื่อเธอเอาแต่จ้องเขาด้วยแววตาสั่นระริก เขารู้ว่าเธอเสียใจมาก การขาดความยับยั้งชั่งใจของเขาทำให้เธอต้องเจ็บปวด หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามติดต่อเธอทุกวิถีทาง แต่เธอก็ปฏิเสธเขามาตลอด
"ไปอยู่คอนโดค่ะ"
"แล้วที่นี่ล่ะ"
"ว่างๆค่อยกลับมาเยี่ยมพ่อ"
"อัณณ์ พี่ขอโทษ ให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหม"
"มันคงไม่ได้แล้วค่ะ อัณณ์ทำใจให้เชื่อใจพี่ตุลย์อีกไม่ได้"
"เรื่องมันเพิ่งเกิด พี่จะให้เวลาอัณณ์ทำใจ แต่อัณณ์อย่าเพิ่งทิ้งพี่ไปได้ไหมครับ พี่ขอร้อง"
"มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วค่ะ"
"พี่จะรอ นานแค่ไหนก็รอ"
"อย่าเสียเวลาเลยค่ะ อัณณ์รู้ตัวดีว่าเป็นยังไง"
"ความรักความผูกพัน 7 ปีของเราไม่มีความหมายเลยหรอ อัณณ์ถึงให้อภัยพี่ไม่ได้"
"อัณณ์ต้องถามพี่มากกว่า ว่าความรักของเรา 7 ปีไม่มีความหมายเลยหรอ พี่ถึงทำแบบนี้กับอัณณ์ได้"
น้ำตาไหลอาบแก้มนวลอีกครั้ง และก่อนที่เขาจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ รถยนต์คันหรูขอมินตราก็แล่นเข้ามาจอดข้างๆกับคนทั้งคู่ เธอเองก็เพิ่งกลับเข้าบ้านเพราะเมื่อคืนเกิดอารมณ์เปลี่ยวเลยพยายามติดต่อไปหาปุณณัตถ์ เพื่อจะไปนอนกับเขา แม้เขาไม่เคยยอมค้างคืนกับเธอเลยก็ตาม แต่เธอตั้งใจว่าเมื่อคืนจะออดอ้อนใช้เสน่ห์ของเธอให้เขายอมค้างคืนด้วยให้ได้ แต่ไม่ว่าจะติดต่อไปเท่าไหร่ เขาก็ไม่ยอมรับสายเธอเลย ไม่รู้ว่ามัวทำอะไรหรือไปนอนกับนังผู้หญิงหน้าด้านคนไหน ถ้าเธอจับได้ จะไปตามรังควานไม่ให้มันมายุ่งกับผู้ชายของเธออีก ซึ่งเธอก็เคยทำสำเร็จมาแล้ว นางร้ายรุ่นน้องคนสวยนั่น ก็กลัวเธอจนหัวหด ไม่กล้ามาอ่อยเขาอีกเลย ความอารมณ์เสียทำให้เธอเรียกดาราชายคู่ขาคนใหม่ให้มาปรนเปรอเธอถึงคอนโดหรูกลางเมืองของเธอ กว่าจะกลับเข้าบ้านได้ก็ปาเข้าไปบ่ายแล้ว
ร่างเย้ายวนลงจากรถได้ก็เดินตรงดิ่งไปหาคนสองคนที่กำลังพูดคุยกันด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
"พี่ตุลย์ มาหามินนี่หรอคะ คิดถึงจังเลย"
มินตราตรงเข้ากอดแขนของเขา แล้วเตรียมลากเขาเข้าไปในบ้าน ถึงแม้ว่าแม่กับลุงจะอยู่ แต่ก็จะพาเขาขึ้นไปนอนด้วยข้างบนบ้านให้ได้
"มินนี่ ปล่อยก่อน พี่ไม่ได้มาหาเธอ แต่พี่มาหาอัณณา"
"มาหายัยอัณณ์ทำไม พี่เลิกกันแล้วนะ พี่นอนกับมินนี่แล้ว จะมายุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ มินนี่ไม่ยอม"
"พี่ไม่ได้เลิกกับอัณณ์ พี่ไม่เลิก แล้วเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย เราแค่นอนด้วยกันแค่ครั้งเดียว"
"มินนี่ไม่ยอมนะ ยัยอัณณ์ ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะทำไมต้องมาแย่งผู้ชายของฉัน"
"คำถามนี้อัณณ์ควรถามพี่มากกว่า ว่าผู้ชายตั้งเยอะแยะ แต่พี่มานอนกับผู้ชายของอัณณ์ทำไม ในเมื่อพี่อยากได้เขานัก ก็จับเขาให้อยู่หมัดก็แล้วกัน อัณณ์ไม่ยุ่ง แล้วทุกคนก็เลิกยุ่งกับอัณณ์ได้แล้ว"
อัณณาเดินหนีหนุ่มสาวคู่นั้น ขึ้นรถแล้วขับหนีออกไปทันที เมื่อพ้นจากบ้านหลังนั้น เธอก็ยกหลังมือขึ้นปาดหยาดน้ำตา เรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นมันทำให้เธอตัดสินใจทำเรื่องสิ้นคิดไป แม้จะสะใจ แต่ก็แอบรู้สึกปวดหน่วงในใจแปลกๆ
บรรยากาศงานแต่งงานในสวนสวยเป็นไปด้วยความชื่นมื่น สถานที่สวยงามได้รับการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวชนิดต่างๆและสีฟ้าของดอกไฮเดรนเยียทั่วทั้งงาน เจ้าสาวในชุดลูกไม้เนื้อดีสีขาวงาช้าง แหวกอกพอเหมาะโชว์หน้าอกอวบอิ่มและแหวกหลังลึกโชว์ผิวขาวราวน้ำนมของเจ้าสาว ชุดกระโปรงบานฟูฟ่องกำลังงาม บนศีรษะเกล้ามวยต่ำแล้วประดับด้วยผ้าคลุมผมเจ้าสาวผืนบางยาวสวย ที่ด้านข้างมวยผมนั้นก็ประดับด้วยช่อดอกไม้ดอกเล็กๆสีขาวดูอ่อนหวาน เธอยืนเคียงคู่กับเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลสีดำดูหล่อเหลาสมกันราวกิ่งทองใบหยก หลังจากที่บ่าวสาวยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงพิธีมอบแหวนและปฏิญาณรักกันอย่างเรียบง่ายตามที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ เขาสวมแหวนเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามให้กับเธอ แล้วเธอก็สวมแหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่ตรงกลางให้กับเขา “ผมจะรัก ซื่อสัตย์ มีอัณณ์แค่คนเดียวและดูแลอัณณ์กับลูกตลอดชีวิต ผมสัญญา” “อัณณ์ก็จะรัก และซื่อสัตย์กับคุณคนเดียวตลอดชีวิตค่ะ” บ่าวสาวโผเข้าจูบกั
อย่าคิดว่าดาราหนุ่มที่มีสถานะสมรสและเป็นคุณพ่อของลูกสาวในวัยสามเดือนจะหมดความฮอตนะ เปล่าเลย เขากลับยิ่งโด่งดังและครองใจผู้คนหลากหลายช่วงวัยยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากงานละคร งานอีเว้นท์ต่างๆแล้ว งานพรีเซ็นเตอร์สินค้าและโฆษณายังเข้ามาหาเขาอย่างล้นหลาม แน่นอนว่าโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์มีมากมาย ทั้งน้ำหอม ครีมบำรุงผิวผู้ชาย เสื้อผ้า น้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงสมอง เฟอร์นิเจอร์ ขนมขบเคี้ยว สถาบันการเงินต่างๆ และต่างๆอีกมากมาย ชนิดที่ว่าเปิดทีวีมาจะต้องเห็นหน้าเขาแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ โดยเฉพาะยิ่งเขามีลูกสาวที่แสนน่ารักและมีครอบครัวที่อบอุ่น ยิ่งมีงานโฆษณาที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวติดต่อเข้ามาอีกมาย ทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปของลูกน้อย แป้งเด็ก สบู่และยาสระผมเด็ก นมผงเด็ก เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นของเด็กอีกมากมาย และภรรยาที่แสนจะงกของเขาก็รับเอาไว้หมดทุกชิ้น จนกลายเป็นว่า นอกจากเขาที่เป็นดาราที่ดังเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีลูกสาวที่กลายเป็นซุปตาร์ตัวน้อยที่ครองใจประชาชนไปทั่วประเทศแล้ว จนคนเป็
สองสัปดาห์ต่อมา ละครที่เขารับเล่นไว้ก็ได้ฤกษ์เปิดกล้องถ่ายทำวันแรก ปุณณัตถ์ที่หยุดงานไปหลายเดือน แล้วไปใช้ชีวิตพ่อบ้านเสียเต็มที่ วันนี้เป็นวันแรกที่ต้องออกมาทำงานห่างไกลลูกเมียก็รู้สึกไม่ชิน จึงออดอ้อนขอให้เมียและลูกรักมาทำงานกับเขาด้วย ดีหน่อยที่เขามีรถบ้านที่สะดวกสบายและแอร์เย็นฉ่ำ จึงมีที่สำหรับให้ลูกนอนระหว่างวันตอนที่รอเขาทำงาน ระหว่างพักกอง หรือในช่วงที่ไม่มีบทของเขา เขาจะแวะเข้ามาหาลูกเมียเสมอ เขาหอมแก้มลูกสาวเพื่อเป็นกำลังใจ และจูบเมียหวานๆเนิ่นนานจนเมียอ่อนระทวยเพื่อเป็นพลังให้เขากลับไปเข้าฉากอีกครั้ง เมื่อน้องแป้งหอมที่นอนกลางวันจนเต็มอิ่ม ตื่นแล้ว อัณณาจึงใส่หมวกให้ลูกสาวแล้วพาออกไปเดินเล่นรับลมในโลเคชันสวนสาธารณะ “อุ๊ย นั่นภรรยาพี่โปรดนี่นา” บรรดาแฟนคลับของเขาที่มารอให้กำลังใจในงานชิ้นแรกหลังเกิดเรื่องเกิดราว หันมาเห็นอัณณากำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆกองถ่ายพอดี “ใช่จริงๆด้วย ไปขอถ่ายรูปกันไหม”
“อัณณ์ครับ คุณว่าผมรับละครเรื่องนี้ดีไหม ไม่ต้องแคสเลย ผู้ใหญ่ส่งบทมาให้ผมโดยเฉพาะเลย ไม่รู้เพราะปลอบใจในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า” “จะเพราะอะไรก็เป็นโอกาสของเราค่ะ ไหนเรื่องอะไรคะ ขออัณณ์ดูหน่อย” เธอรับบทละครของเขามาดู แค่เห็นชื่อผู้แต่งต้นฉบับและผู้แต่งบทละคร แถมชื่อผู้กำกับและผู้จัด คำตอบที่เขาควรมีคือ รับครับ ไม่ต้องถามอะไรกันอีกแล้ว “โห คุณโปรด เรื่องนี้มันสุดยอดเลยนะคะ ขายดีตั้งแต่เป็นนิยายแล้ว ไหนจะผู้จัดผู้กำกับอีก อัณณ์ว่าคุณควรรับนะคะ นี่มันโอกาสทองเลยล่ะ” “อืม นั่นสินะ โอกาสทองเลย คุณพ่อลูกหนึ่งอย่างผม ยังมีโอกาสดีๆแบบนี้ก็น่าดีใจมากจริงๆ คุณกับลูกคือเครื่องรางนำโชคของผมนะครับ” “ที่คุณได้มาทุกอย่างเพราะความสามารถและความทุ่มเทของคุณต่างหาก” “ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผมนะ เสียดายที่ลูกยังเล็ก ไม่งั้นผมก็อยากให้คุณตามผมไปด้วยทุกที่ จะได้มีกำลังใจจากเมียตลอดเวลา” เขาทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของภรรยาสาวสวย แล้วจับมือเธอมาจูบเห
ปุณณัตถ์กับอัณณากลับเข้าบ้านมาอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว เพราะหลังจากแถลงข่าว ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆที่ช่องก็เรียกพบเขาเพื่อขอโทษที่มีผู้ใหญ่บางคนใช้อำนาจบังคับให้เขาต้องฝืนใจคบกับมินตรา แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดเรื่องราวบานปลายแบบนี้ ปรากฏว่าตอนนี้ ทั้งละคร งานโฆษณา พรีเซ็นเตอร์สินค้า ต่างก็กลับคืนมาหาเขาจนหมด แถมผู้ใหญ่ยังมอบโอกาสเสนอบทละครที่ตั้งใจให้เป็นละครฟอร์มยักษ์แห่งปีมาให้เขาพิจารณาด้วย จากนั้น คุณพ่อที่เพิ่งเปิดตัวลูกเมียหมาดๆ ก็พาเมียกับลูกไปเดินเที่ยวห้างและช้อปปิ้งของให้ลูกรัก แถมยังซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เมียรักอีกหลายใบ ก่อนกลับบ้านก็พาเธอไปทานอาหารร้านโปรดของเธอกับเขา แต่เมื่อก่อนต้องไปอย่างหลบๆซ่อนๆ แต่วันนี้ได้พาเมียพาลูกออกสู่สังคมอย่างเต็มภาคภูมิเสียที เมื่อกลับถึงบ้านก็ต้องตกใจเพราะมีแขกสำคัญมานั่งรอเธอกับเขาที่ห้องนั่งเล่นอยู่นานแล้ว “พ่อ” อัณณาวิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อของเธอทันทีที่เข้ามาในห้อง เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มเพราะความกดดันและอัดอั้นตันใจมาตลอด
“กรี๊ดดดดดดดดด พี่โปรด พี่กล้าทำกับมินนี่ขนาดนี้เลยหรอ กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังลั่นบ้านของมินตรา ทำให้มารดาและพ่อเลี้ยงของเธอ ที่กำลังดูแถลงข่าวอยู่ที่ห้องนอนส่วนตัว รีบวิ่งลงมาดูเธอที่อยู่ในห้องนั่งเล่นทันที “มินนี่ ใจเย็นๆลูก” มารดาเข้ามาปลอบใจโดยไม่ต้องถามว่าลูกเป็นอะไร เพราะทีวีที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่เป็นช่องเดียวกันกับที่เธอและสามีเปิดดูเมื่อสักครู่ “พี่โปรดทำแบบนี้กับมินนี่ได้ยังไง มินนี่ไม่ยอม ทำไมเขาไม่เลิกกับนังอัณณ์แล้วมาแต่งงานกับมินนี่” อานนท์ บิดาของอัณณาที่ยังคงช็อกกับเรื่องของลูกสาวไม่หาย ทั้งๆที่ได้รับรู้เรื่องราวโดยละเอียดจากตุลย์อดีตคนรักของลูกสาวแล้วก็ตาม แต่พอภรรยาเปิดแถลงข่าวของมินตราให้ดูตอนเช้า ก่อนจะฟังการแถลงข่าวของดาราหนุ่มลูกเขยหมาดๆต่อเลยทันที ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าลูกต้องมาเจอกับเรื่องราวอะไรแบบนี้ และเมื่อได้ยินมินตราพูดแบบนี้ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ “ลุงว่ามินนี่ทำเกินไปหน่อยนะ” “เกินไปตรงไหนค